ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด – ตอนที่ 610 พบซ่งเฉิงอีกครั้ง / ตอนที่ 611 กลับสู่ยุคปัจจุบัน​​​​​​​

ตอนที่ 610 พบซ่งเฉิงอีกครั้ง / ตอนที่ 611 กลับสู่ยุคปัจจุบัน​​​​​​​

ตอนที่ 610 พบซ่งเฉิงอีกครั้ง

 

 

“ฟื้นก็ดีแล้ว”

 

 

ถึงแม้ว่าซ่งเฉิงจะยิ้มให้หลิงอวี้จื้อ แต่มีน้ำตารื้น เธอสลบไปเกือบปีแล้ว หมอต่างบอกว่าต้องพึ่งปาฏิหาริย์เท่านั้น เธอจึงจะฟื้นกลับมาได้ แต่ละวันที่เฝ้ารอ เขาเริ่มหมดหวังจริง ๆ นึกไม่ถึงว่าปาฏิหาริย์เกิดขึ้นแล้ว ยังดีที่เขาไม่ยอมแพ้

 

 

“ซ่งเฉิงคะ ฉันอยากอยู่คนเดียวสักครู่”

 

 

ซ่งเฉิงรู้สึกว่าหลิงอวี้จื้อผิดปกติมาก ๆ พูดปลอบเบา ๆ ว่า

 

 

“ผมจะไปเรียกหมอ”

 

 

นี่เป็นห้องผู้ป่วยที่หรูหรามาก มีห้องนอนและห้องนั่งเล่นภายใน หากไม่มีอุปกรณ์ของโรงพยาบาลอยู่ ก็แทบไม่ต่างอะไรกับอพาร์ทเมนต์ที่ตกแต่งสวยงาม

 

 

ซ่งเฉิงไปแล้ว หลิงอวี้จื้อก็เหม่อลอยต่อ เมื่อก่อนเวลาฝันเธอจะอยากกลับมาทุกครั้ง ต่อมาถึงมีความคิดว่าอยากจะอยู่แคว้นเว่ยตะวันตกต่อไป แต่เทวดาก็ให้เธอกลับมาตอนนี้ สวรรค์ช่างไม่เป็นใจจริง ๆ เธอทิ้งหัวใจไว้ที่แคว้นเว่ยตะวันตกนานแล้ว กลับมาตอนนี้มีประโยชน์อะไร เธอถึงขั้นรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนยุคโบราณไปแล้ว

 

 

ตอนนี้เอง ซ่งเฉิงกับหมอวัยรุ่นสวมชุดกาวน์สีขาวเดินเข้ามาพร้อมกัน หมอตรวจร่างกายให้หลิงอวี้จื้ออย่างละเอียด ยิ้มพูดว่า

 

 

“คุณซ่ง สุขภาพร่างกายของคุณหลิงไม่มีปัญหาใหญ่อะไรแล้ว คอยสังเกตการณ์อีกสักระยะหนึ่งก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ปาฏิหาริย์มีจริง”

 

 

“รบกวนคุณหมอหลี่ด้วยนะครับ”

 

 

ได้ยินอย่างนี้ ซ่งเฉิงก็โล่งอก ในที่สุดเธอก็ไม่เป็นอะไรแล้ว

 

 

เมื่อเดินไปส่งคุณหมอเสร็จแล้ว หลิงอวี้จื้อก็เหม่อลอยต่อ ซ่งเฉิงนั่งอยู่ข้างเธอ เห็นหลิงอวี้จื้อเหมือนมีเรื่องในใจ

 

 

“อวี้จื้อ เป็นอะไรไป ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า วันนั้นคุณยังพูดอยู่เลยว่ามีเรื่องจะบอกผม ตอนนี้พูดได้แล้วนะ”

 

 

ตอนนี้พูดได้แล้ว แต่ไม่มีความจำเป็นต้องพูดแล้ว

 

 

เธอยิ้มเรียบ ๆ

 

 

“ฉันลืมแล้วล่ะ”

 

 

“งั้นรอคุณคิดออกแล้วค่อยบอกก็ได้”

 

 

“คุณอยู่โรงพยาบาลตลอด ช่วงนี้ไม่ต้องถ่ายละครเหรอ”

 

 

“ปีนี้ผมถ่ายแค่เรื่องเดียว ก็เรื่องที่คุณอยากให้ผมถ่ายนั่นแหละ อีกสักพักก็จะออกอากาศแล้ว ถึงตอนนั้นคุณก็คอยดูแล้วกัน”

 

 

หลิงอวี้จื้อนึกไม่ถึงว่าซ่งเฉิงจะหยุดงานมาดูแลเธอ แบบนี้ไม่มีเหตุผลเลย เห็นใบหน้านี้ เธอก็นึกถึงเฉินเสี้ยวหรูขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ทันใดนั้นสมองก็เริ่มสับสน

 

 

“คุณเพิ่งฟื้น พักผ่อนดี ๆ สักหน่อย ตอนเย็นผมยังมีงานแถลงข่าวอีกงานหนึ่ง พรุ่งนี้จะมาเยี่ยมคุณใหม่ ผมให้อาเหมยมาดูแลคุณนะ”

 

 

อาเหมยเป็นนายหน้าของหลิงอวี้จื้อ ตอนนี้เธอไม่รู้จะพูดอะไรกับซ่งเฉิง ได้แต่รู้สึกมึนงง พยักหน้า ซ่งเฉิงกำชับสองสามประโยคแล้วก็ออกไป

 

 

ซ่งเฉิงไปได้สักครู่ อาเหมยก็มาแล้ว เอาของกินมาให้หลิงอวี้จื้อนิดหน่อยด้วย เห็นหลิงอวี้จื้อทำหน้าเหม่อ ๆ เธอก็กางโต๊ะกินข้าวบนเตียง เอาของกินวางบนโต๊ะกินข้าว ประคองหลิงอวี้จื้อลุกขึ้นนั่ง

 

 

“ของที่เธอชอบกินทั้งนั้น”

 

 

หลิงอวี้จื้อไม่มีความอยากอาหารเลย แต่เธออยากรีบออกไปจากโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ต้องทำแบบนี้ถึงจะหาวิธีกลับไปแคว้นเว่ยตกวันตกได้ ดังนั้นจึงบังคับให้ตัวเองกินอะไรนิดหน่อย

 

 

ตอนที่เธอกินอาหารอยู่ อาเหมยก็นั่งลงข้าง ๆ พูดพล่ามไปเรื่อย

 

 

“เมื่อก่อนฉันยังนึกว่าซ่งเฉิงเป็นคนไม่มีความรู้สึก เธอดูสิ มีข่าวซุบซิบเรื่องเขาตั้งมากมาย เขาไม่เคยยอมรับเลยนะ พูดแต่ว่าพวกเราเป็นเพื่อนกันครับ ไม่ยอมอธิบายต่ออีกสักประโยคเดียว

 

 

พอเธอสลบไปแล้ว เขาก็รีบตามมาที่โรงพยาบาลเป็นอันดับแรก คอยเฝ้าอยู่ที่โรงพยาบาลตลอด พอถูกนักข่าวถ่ายภาพไว้ได้ นึกไม่ถึงว่าเขาจะจัดงานแถลงข่าวเป็นครั้งแรก ยอมรับจากปากตัวเองเลยว่าเขาชอบเธอมานานแล้ว อยากจะดูแลเธอไปตลอดชีวิต

 

 

ปีนี้เขาคอยดูแลอยู่ข้าง ๆ เธอมาตลอด ปฏิเสธงานไปมากมาย นอกจากสัญญาที่เซ็นเอาไว้แต่เดิมแล้ว เขาก็ปฏิเสธหมด ตั้งใจอยู่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนเธอเท่านั้น”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 611 กลับสู่ยุคปัจจุบัน​​​​​​​

 

 

“ฉันหมดหวังเรื่องที่เธอจะฟื้นกลับมาแล้ว มีแต่เขาที่เชื่อมั่นว่าเธอจะต้องฟื้น ตอนที่เขาเริ่มทำแบบนี้ก็เสียแฟนคลับไปเยอะมากเหมือนกัน วันที่แถลงข่าวนี่เวยป๋อเป็นอัมพาตไปเลย ตอนนี้แฟนคลับของเขายอมรับเธอกันหมดแล้วนะ บนอินเทอร์เน็ตทุกที่ต่างก็ภาวนาให้เธอ หวังว่าเธอจะรีบฟื้นขึ้นมา”

 

 

หลิงอวี้จื้อฟังอาเหมยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในปีนี้ ความรู้สึกทุกรสชาติผสมปนเปกันไปหมด เธอไม่ได้รักซ่งเฉิงแล้ว หากเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้น เธอฟื้นขึ้นมาก็จะเป็นเรื่องที่น่ายินดี และสามารถเป็นคู่รักที่น่าอิจฉากับซ่งเฉิงได้

 

 

แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว เธอคงได้แต่ทำให้ซ่งเฉิงผิดหวัง ระหว่างพวกเขามีบุญได้พบกัน แต่ไร้วาสนาจะอยู่เคียงคู่

 

 

“ฟื้นมาก็ดีแล้ว อวี้จื้อ เธอเป็นคนมีบุญจริง ๆ ซ่งเฉิงทำเพื่อเธอแบบนี้ ต่อไปจะต้องมีความสุขแน่นอน”

 

 

อาเหมยดีใจแทนหลิงอวี้จื้อจากใจจริง ตำแหน่งของซ่งเฉิงในวงการบันเทิง หลิงอวี้จื้อเทียบไม่ติดเลย คนแบบนี้ปฏิบัติกับหลิงอวี้จื้อแบบนี้ได้ ก็เพราะว่าหลิงอวี้จื้อมีบุญวาสนา

 

 

หลิงอวี้จื้อไม่ได้มีปฏิกิริยาโต้ตอบมากนัก อาเหมยได้แต่รู้สึกแปลก เธอรู้ความในใจของหลิงอวี้จื้อมาโดยตลอด ทำไมหลิงอวี้จื้อได้ยินข้อมูลนี้แล้วไม่ตื่นเต้นเลยสักนิด นี่ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีหรอกเหรอ

 

 

ทำไมหลิงอวี้จื้อได้ยินเรื่องนี้แล้วไม่ตื่นเต้นเลย กลับมีทีท่ามึนงงเล็กน้อย นี่มันไม่เหมือนสไตล์ปกติของเธอเลยจริง ๆ หรือว่าเพราะว่าเพิ่งฟื้นขึ้นมา สมองจึงยังช้าอยู่

 

 

“อาเหมย ฉันอยากอยู่คนเดียวสักพัก”

 

 

“เอาล่ะ เธอนอนหลับสักหน่อย ฉันจะอยู่ห้องนั่งเล่นข้างนอก มีอะไรเรียกฉันนะ”

 

 

หลิงอวี้จื้อพยักหน้า ตอนนี้เธอไม่มีเรี่ยวแรงต้อนรับอาเหมยเลยจริง ๆ ในหัวมีแต่เซียวเหยี่ยน เธอรู้ว่าเรื่องเหล่านี้ แม้ว่าพูดออกไปแล้วก็ไม่มีใครเชื่อ มันแฟนตาซีเกินไปจริง ๆ ทุกคนต้องคิดว่าเธอบ้าไปแล้วแน่ ๆ หากไม่ใช่เพราะประสบกับตัวเอง เธอก็รู้สึกว่าตัวเองบ้าไปแล้วเหมือนกัน

 

 

สลบไปหนึ่งปี วิญญาณไปยังอีกโลกหนึ่ง นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในนิยายชัด ๆ

 

 

อาเหมยไปแล้ว หลิงอวี้จื้อก็ลูบสร้อยข้อมือที่อยู่บนมือ ยังดีที่สร้อยข้อมือนี้ยังอยู่ ขอเพียงสิ่งนี้ยังอยู่บนมือ อย่างนั้นเธอก็มีหวังได้กลับไปแคว้นเว่ยตะวันตก

 

 

ในเมื่อเธอตายไปแล้วยังกลับมาได้ เธอก็ตายอีกครั้งได้

 

 

คิดถึงตรงนี้ หลิงอวี้จื้อก็แอบตัดสินใจแน่วแน่ในใจ ไม่ว่าอย่างไร เธอก็ต้องกลับไปแคว้นเว่ยตะวันตกให้ได้ กลับไปอยู่เคียงข้างเซียวเหยี่ยน ไม่ใช่เซียวเหยี่ยนไปจากเธอไม่ได้ แต่เป็นเธอที่ไปจากเซียวเหยี่ยนไม่ได้ รักฝังลึกแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ยอมรับผลลัพธ์แบบนี้ไม่ได้

 

 

ต่อมาหลิงอวี้จื้อให้ความร่วมมือกับหมออย่างดี ซ่งเฉิงมาเยี่ยมเธอทุกวัน

 

 

รู้สึกได้ชัดเจนว่าหลิงอวี้จื้อเงียบลง หลิงอวี้จื้อที่เมื่อก่อนพูดมากมีชีวิตชีวาแทบไม่เห็นแล้ว ห่างเหินกับเขามาก แม้แต่แววตาที่มองเขาก็เปลี่ยนไป

 

 

เมื่อก่อนเวลาหลิงอวี้จื้อเห็นเขา แววตาก็จะเป็นประกาย ตอนนี้เวลาเห็นเขา แววตากลับไม่มีคลื่นความเปลี่ยนแปลงอะไร เขาไม่รู้ว่าหลิงอวี้จื้อเป็นอะไรไป รู้สึกแต่ว่าหลิงอวี้จื้อคนนี้แปลกหน้าไปเยอะมาก แต่เขาก็ยังคงคอยดูแลหลิงอวี้จื้ออย่างอ่อนโยนเช่นเดิม

 

 

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป หลิงอวี้จื้อก็ออกจากโรงพยาบาล ก่อนหน้านี้ซ่งเฉิงคอยกันไว้ให้ตลอด ด้วยเหตุนี้หลิงอวี้จื้อจึงสามารถรักษาอาการป่วยอยู่ในโรงพยาบาลได้อย่างสบายใจ ตอนนี้เธอออกจากโรงพยาบาลแล้ว นี่เป็นข่าวพาดหัววงการบันเทิงแน่ ผู้สื่อข่าวจำนวนมากแห่แหนกันเข้ามา ล้อมประตูใหญ่ของโรงพยาบาลไว้แน่นหนาจนแม้แต่น้ำหยดเดียวก็ซึมผ่านเข้าไปไม่ได้

 

 

หลิงอวี้จื้ออำลาแสงสปอตไลท์มาหนึ่งปีแล้ว ยังคงไม่ชินในทันทีทันใด ซ่งเฉิงกันเธอขึ้นรถอย่างระมัดระวัง หลิงอวี้จื้อเดาะลิ้น นาน ๆ ทีจะพูดล้อเล้นขึ้นมาสักครั้ง

 

 

“ทำไมคนมาเยอะจัง ซ่งเฉิง เพราะออร่าของคุณแท้ ๆ”

 

 

“ในวงการบันเทิงตอนนี้คุณก็โด่งดังไม่เบานะ”

 

 

“เทียบกับคุณไม่ได้หรอก”

 

 

หลิงอวี้จื้อพิงเก้าอี้หนังแท้ อยู่แคว้นเว่ยตะวันตกมาหนึ่งปี เธอเกือบลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นดาราคนหนึ่ง ทำไมเธอถึงค้นพบว่าตัวเองเหมาะกับการเป็นคนยุคโบราณนะ สัปดาห์หนึ่งแล้ว เธอก็ยังไม่ชินกับชีวิตยุคปัจจุบันเลย

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

Status: Ongoing

ชีวิตในชาติก่อนต้องจบลงอย่างน่าอนาถเพียงเพราะตกบันไดก็โชคร้ายมากพอแล้ว วิญญาณดาราสาวพราวเสน่ห์อย่างเธอยังต้องมาติดอยู่ในร่างหลิงอวี้จื้อ คุณหนูใหญ่จวนเสนาบดีผู้ใสซื่อทว่าโง่เขลาที่พ่อไม่แลแม่ไม่รัก ถูกวางยาพิษร้ายเตรียมนับถอยหลังรอวันตาย มิหนำซ้ำยังมีคู่หมั้นที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาพ่วงมาให้เป็นพันธะอีก แต่นับว่าสวรรค์ยังเมตตา บันดาลให้เธอได้พบกับท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรูปงามนามเซียวเหยี่ยน ที่กล่าวกันว่าเป็นผู้กุมอำนาจตัวจริงเหนือฮ่องเต้น้อยแห่งแคว้นเว่ยตะวันออก เธอจึงต้องงัดลูกไม้สารพัดมาใช้ หวังจะให้เขาเป็นสะพานทำให้ตนกลับสู่ฐานะ ‘คนปกติ’ ทว่าเรื่องราวไหนเลยจะง่ายดายปานนั้น เพราะข่าวลือที่ว่าเหตุที่เขาครองตัวโสดเพราะนิยมไม้ป่าเดียวกันนี่สิ! เช่นนั้นแล้วแผนหว่านเสน่ห์ของเธอจะสั่นคลอนหัวใจเขาได้บ้างหรือไม่หนอ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท