ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด – ตอนที่ 648 ไทเฮารู้ความจริงแล้ว / ตอนที่ 649 ข้ารับปากเจ้าทุกอย่าง

ตอนที่ 648 ไทเฮารู้ความจริงแล้ว / ตอนที่ 649 ข้ารับปากเจ้าทุกอย่าง

ตอนที่ 648 ไทเฮารู้ความจริงแล้ว

หลังจากที่จูจิ่นไปแล้ว หลิงอวี้จื้อก็รู้สึกสับสนยิ่ง จึงยืนอยู่คนเดียวที่ริมสระในศาลาฟังฝน

ในอดีตจูจินเป็นซื่อจื่อ แต่ตอนนี้นางเป็นมู่หรงฮูหยิน ฐานะเปลี่ยนก็ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาเปลี่ยนไปด้วย ก่อนหน้านี้หลิงอวี้จื้อยังไม่ทันได้คิดอะไรในเรื่องนี้ แต่สำหรับทุกคน เรื่องราวมันก็ผ่านมาห้าปีแล้ว มีเพียงเธอ สำหรับเธอเรื่องมันเพิ่งผ่านมาแค่สองเดือนเท่านั้น เวลาสั้นๆ นี้เกิดเรื่องมากมายขึ้นมา จึงยังรู้สึกรับไม่ได้อยู่บ้าง

ไม่ใช่เพราะเธอรับไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลง ในยุคปัจจุบันเธอก็เคยเจอเรื่องเช่นนี้ เพื่อนในวัยเด็กต่างแยกย้ายกันไปมีชีวิตของตัวเองเมื่อโตขึ้น สุดท้ายกลายเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่ทักทายแค่ไม่กี่คำเมื่อเจอกัน ไม่มีทางกลับไปสนิทกันเหมือนตอนเด็กๆ อีกแล้ว

แต่เธอคิดมาตลอดว่าจูจิ่นจะเป็นกับเธอไปจนแก่ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นแค่คนผ่านทางเช่นกัน เพื่อนข้างเหลืออยู่เพียงไม่กี่คน จากเป็นก็มี จากตายก็มี ตอนนี้เธอเหลือแค่เซียวเหยี่ยนแล้ว

ในเมื่อมู่หรงกวานเย่ว์รู้ฐานะของเธอแล้ว นางคงต้องคอยจับตาดูเธอไม่ให้คลายสายตาแน่ หากคิดจะไปจากวังหลวงคงยากเหลือเกินแล้ว

เธอเฝ้ารอที่จะได้พบเซียวเหยี่ยน แต่ขณะเดียวกันก็กลัวที่จะได้พบเขาในเมืองหลวงด้วย

หากเขาบุกมาหาเธอโดยไม่สนสิ่งใด เช่นนั้นคงอันตรายมากแน่

เธอไม่อยากทำร้ายเซียวเหยี่ยน ดังนั้นจึงไม่กล้าเปิดเผยฐานะตัวเอง ได้แต่คิดจะติดต่อกับเซียวเหยี่ยนลับๆ และลอบออกจากเมืองหลวงเงียบๆ เพราะเธอรู้ดีว่าถ้ามู่หรงกวานเย่ว์รู้ฐานะที่แท้จริงของเธอ จะต้องใช้เธอมาข่มขู่เซียวเหยี่ยนแน่

ตอนนี้เธอได้แต่เอาความหวังฝากไว้ที่เฉินม่อฉือแล้ว เธอคงต้องวางยาแรงให้เฉินม่อฉือเสียแล้ว ถ้าชักช้า ผลลัพธ์คงย่ำแย่จนยากคาดเดา

ตำหนักฉังเล่อ

มู่หรงกวานเย่ว์กึ่งนั่งกึ่งนอนพิงเก้าอี้ตัวยาวอยู่ จื่ออีคุกเข่าลงบนพื้นคอยนวดให้มู่หรงกวานเย่ว์ พร้อมเอ่ยรายงานว่า “ไท่เฮา ฮูหยินแจ้งข่าวมาว่า หยวนเฟยคือพระชายาของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์จริงๆ เพคะ”

มู่หรงกวานเย่ว์ที่กำลังปิดตาพักผ่อนได้ยินวาจานี้ก็ลืมตาขึ้นมาทันที แววตาดูเ**้ยมโหดนัก “เป็นนางจริงๆ หลิงอวี้จื้อช่างตายยากตายเย็นนัก ถึงกับกลับกลับมาทำลายบุตรชายข้าอีกครั้ง ม่อฉือเองก็เลอะเลือนยิ่ง ถึงได้ปิดบังข้า มิน่าเล่าเขาถึงหลงหยวนเฟยนัก ที่แท้นางก็คือหลิงอวี้จื้อ”

“ไทเฮา คนที่ตายไปแล้วจะฟื้นกลับมาได้อย่างไรเพคะ”

จื่ออีคิดดูแล้วรู้สึกว่ามันพิสดารยิ่ง

“เรื่องนี้คงเป็นฝีมือของสำนักอู๋จี๋แน่ ก่อนหน้านี้ม่อฉือดึงดันตามหาศิลาวิญญาณกับไข่มุกเมฆาสวรรค์มาตลอด คดิไม่ถึงว่าศิลาวิญญาณจะทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาได้จริงๆ แต่เหตุใดถึงกลายไปเป็นเจียงอวี้ได้เล่า เรื่องนี้ไม่เข้าใจจริงๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็จะไม่ยอมให้นางมาทำลายบุตรชายข้าได้แน่ ในเมื่อเซียวเหยี่ยนคิดถึงนางไม่เสื่อมคลาย ข้าก็จะใช้นางมากำจัดเซียวเหยี่ยนเสีย มีนางอยู่ในมือ ข้าไม่เชื่อว่าเซียวเหยี่ยนจะไม่เชื่อฟังข้า”

เมื่อได้หมากที่จะใช้ควบคุมเซียวเหยี่ยนมาอยู่ในกำมือ ด้านหนึ่งมู่หรงกวานเย่ว์ก็ดีใจมาก แต่อีกด้านก็กังวลมากเช่นกัน เฉินม่อฉือลุ่มหลงในตัวหลิงอวี้จื้อยิ่ง นางกลัวว่าเรื่องนี้จะทำลายความสัมพันธ์แม่ลูก ตอนนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาเปราะบางมาก หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก คงได้แต่หักกันไปจริงๆ แน่ เขาเป็นบุตรชายคนเดียวของนาง แต่ไม่นานมู่หรงกวานเย่ว์ก็ตัดสินใจได้แล้ว ต่อให้เฉินม่อฉือจะไม่ให้อภัยนางไปตลอดชีวิต นาก็จะทำเช่นเดิม นางจะไม่ยอมมองเฉินม่อฉือเดินไปในทางที่ผิดโดยไม่ทำอะไรแน่

เห็นชัดว่าหลิงอวี้จื้อเป็นมหันตภัยร้าย นางแย่งคนที่ตนรักไปแล้ว คราวนี้จะไม่ยอมให้นางมาทำร้ายบุตรชายตนอีกแน่

“จื่ออี เรื่องนี้อย่างให้ม่อฉือรู้เด็ดขาด”

“หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ จะไม่พูดมากเด็ดขาด แล้วฮูหยิน…”

“ตอนนี้จูจิ่นคงรู้ฐานะของตัวเองดีแล้ว นางไม่พูดอันใดมากหรอก”

จื่ออีกคิดดูแล้วก็เห็นตามนั้น จึงไม่พูดอะไรอีก

ตอนที่ 649 ข้ารับปากเจ้าทุกอย่าง

ไม่นานมู่หรงกวานเย่ว์ก็ปล่อยข่าวนี้ออกไปให้เซียวเหยี่ยน ม่อชิงเพิ่งจะถึงเมืองหลวง เซียวเหยี่ยนจึงให้ม่อชิงลอบเข้าไปสืบความจริงในวัง

ศพของหลิงอวี้จื้อยังอยู่ที่จวนเซียวอ๋อง เขาไม่ทางเชื่อแน่ว่าหลิงอวี้จื้อจะไปฟื้นที่อื่นได้ แต่ขอเพียงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับหลิงอวี้จื้อ เขาย่อมไม่ปล่อยผ่านแน่

ตอนนี้ให้ม่อชิงไปสืบก่อน รอให้เขาจัดการงานตนเสร็จก่อน เขาจะไปเมืองหลวงด้วยตนเอง มีเพียงทำเช่นนี้เท่านั้น เขาถึงจจะสบายใจ ต่อให้ต้องเสี่ยงอันตราย เขาก็ต้องไปสักครั้ง

ค่ำวันนั้นเจียงสือก็ลอบเข้าวังมาอีก หลิงอวี้จื้อไม่ได้ไปกับเจียงสือแต่ให้เจียงสือเอาของสิ่งหนึ่งให้นาง เจียงสือรู้ว่าตนไม่อาจพานางหนีไปได้ จึงยอมทำตามแผนการของหลิงอวี้จื้อ

วันรุ่งขึ้น เฉินม่อฉือก็มาหาหลิงอวี้จื้อที่ศาลาฟังฝน เธอรอเฉินม่อฉืออยู่นานแล้ว เธอรู้ว่าเขาจะต้องมา ตอนนี้ริมฝีปากของหลิงอวี้จื้อหายบวมแล้ว

ริมฝีปากของเฉินม่อฉือเป็นแผลจึงยังคงบวมอยู่ แต่ไม่ได้เห็นชัดเท่าก่อนหน้านี้ เมื่อคนทั้งสองพบหน้ากัน บรรยากาศจึงดูอึดอัดอยู่เล็กน้อย หลิงอวี้จื้อไม่ได้เป็นคนพูดกับเฉินม่อฉือก่อน เธอรักษาระยะห่างจากเขา ท่าทีก็ดูเย็นชายิ่ง

“อวี้จื้อ ปากของเจ้า…”

“หม่อมฉันไม่เป็นอะไร ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงห่วงใย”

หลิงอวี้จื้อนั่งอยู่ข้างโต๊ะแล้วเอ่ยตอบด้วยท่าทีไม่ไยดี

“ขออภัยด้วย อวี้จื้อที่วันนั้นเราวู่วามเกินไป ต่อไปจะไม่มีอีกแล้ว” เฉินม่อฉือเอ่ยขอโทษด้วยความประหม่า ปกติเขาไม่เคยเอ่ยคำขอโทษใครเลย เมื่อเอ่ยคำขอโทษจึงรู้สึกแปลกพิกล รู้สึกมันช่างติดขัดไปหมด

ผ่านไปครู่ใหญ่หลิงอวี้จื้อจึงเอ่ยปากด้วยสีหน้าอ่อนเพลียเหลือเกินว่า “หม่อมฉันรับคำขออภัยของพระองค์ไว้ไม่ได้หรอกเพคะ ฝ่าบาท หม่อมฉันเหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยจริงๆ ”

“มีเรื่องหนึ่งที่ฝ่าบาทอาจจะยังไม่รู้ ไทเฮาทรงทราบฐานะของหม่อมฉันแล้ว คาดว่าเฉินปี้คงจะทูลพระองค์ไปแล้วก่อนหน้านี้ ในเมื่อไทเฮาทราบฐานะหม่อมฉันแล้ว ฝ่าบาทก็คงทราบดีว่าไท่เฮาจะทำอันใดต่อไป หม่อมฉันไม่อาจทำให้อาเหยี่ยนต้องลำบากไปด้วย หม่อมฉันรู้ว่าฝ่าบาทไม่มีทางปล่อยหม่อมฉันไป หากต้องเป็นหมากตัวหนึ่งของไทเฮา หม่อมฉันไม่สู้ตายไปเสียตอนนี้จะดีกว่า”

หลิงอวี้จื้อพูดจบก็คุกเข่าลงบนพื้นด้วยท่าทางจริงจังพร้อมที่จะตายแล้วจริงๆ

เฉินม่อฉือตกใจยิ่ง เหตุใดเฉินปี้ถึงกล้าเพียงนั้น เขาใช้ชีวิตนางมาขู่ คนรักตัวกลัวตายเช่นนางคงต้องไม่กล้าขัดคำสั่งได้อย่างไร

เมื่อเห็นว่าเฉินม่อฉือไม่เชื่อคำพูดตัวเอง หลิงอวี้จื้อก็ยิ้มขมขื่นออกมา “ฝ่าบาทประเมินความแค้นที่นางมีต่อหม่อมฉันต่ำไปแล้ว นางรักตัวกลัวตายก็จริง แต่หากทำให้หม่อมฉันตายได้ นางคงยอมแลกด้วยชีวิต นางแค้นหม่อมฉันมาก มิเช่นนั้นหม่อมฉันคงไม่อยากจะฆ่านางหรอกเพคะ ฝ่าบาท ความรักของพระองค์หม่อมฉันคงไม่มีโอกาสได้รับแล้ว ไทเฮาต้องการชีวิตหม่อมฉัน หม่อมฉันจะไม่ยอมให้นางทำสำเร็จแน่” หลิงอวี้จื้อกำลังพูดอยู่แต่จู่ๆ ก็กระอักเลือดออกมา เมื่อเห็นว่าหลิงอวี้จื้อกระอักเลือด เฉินม่อฉือก็ร้อนใจยิ่ง เขารีบเข้าไปดึงหลิงอวี้จื้อเข้ามาซบในอก “อวี้จื้อ เจ้าเป็นอะไรไป”

“หม่อมฉันดื่มยาพิษเพคะ หม่อมฉันเคยบอกแล้วว่าหากต้องเป็นหมากตัวหนึ่งของไทเฮา ไม่สู้ตายเสียดีกว่า หม่อมฉันจะไม่ยอมให้อาเหยี่ยนเดือดร้อนเด็ดขาด ฝ่าบาท พระองค์เป็นคนดียิ่ง แต่น่าเสียดายที่เราพบกันช้าไป สิ่งที่พระองค์ต้องการ หม่อมฉันให้ไม่ได้จริงๆ”

หลิงอวี้จื้ออิงแอบอยู่ในอกของเฉินม่อฉือ น้ำเสียงที่เอ่ยแผ่วเบายิ่ง

เฉินม่อฉือร้อนใจจนทนแทบไม่ไหว เขาให้เสี่ยวเตี๋ยไปตามหมอหลวง แล้วกอดหลิงอวี้จื้อไว้แน่น และพูดคำเดิมๆ ซ้ำๆ ว่า “เจ้าต้องไม่เป็นอะไร อวี้จื้อ เราอยู่นี่แล้ว เจ้าต้องไม่เป็นอะไร ขอแค่เจ้ารอด เราจะรับปากเจ้าทุกอย่าง รับปากทุกอย่างเลย”

หลิงอวี้จื้อต้องการคำนี้แหละ ขออภัยจริงๆ ฝ่าบาท ข้าไม่ได้อยากจะหลอกพระองค์เลย แต่มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะไปจากวังหลวงได้

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

Status: Ongoing

ชีวิตในชาติก่อนต้องจบลงอย่างน่าอนาถเพียงเพราะตกบันไดก็โชคร้ายมากพอแล้ว วิญญาณดาราสาวพราวเสน่ห์อย่างเธอยังต้องมาติดอยู่ในร่างหลิงอวี้จื้อ คุณหนูใหญ่จวนเสนาบดีผู้ใสซื่อทว่าโง่เขลาที่พ่อไม่แลแม่ไม่รัก ถูกวางยาพิษร้ายเตรียมนับถอยหลังรอวันตาย มิหนำซ้ำยังมีคู่หมั้นที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาพ่วงมาให้เป็นพันธะอีก แต่นับว่าสวรรค์ยังเมตตา บันดาลให้เธอได้พบกับท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรูปงามนามเซียวเหยี่ยน ที่กล่าวกันว่าเป็นผู้กุมอำนาจตัวจริงเหนือฮ่องเต้น้อยแห่งแคว้นเว่ยตะวันออก เธอจึงต้องงัดลูกไม้สารพัดมาใช้ หวังจะให้เขาเป็นสะพานทำให้ตนกลับสู่ฐานะ ‘คนปกติ’ ทว่าเรื่องราวไหนเลยจะง่ายดายปานนั้น เพราะข่าวลือที่ว่าเหตุที่เขาครองตัวโสดเพราะนิยมไม้ป่าเดียวกันนี่สิ! เช่นนั้นแล้วแผนหว่านเสน่ห์ของเธอจะสั่นคลอนหัวใจเขาได้บ้างหรือไม่หนอ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท