ตอนที่ 684 คำเตือนของมั่วชิง
หลิงอวี้จื้อเดินเล่นในจวนเซียวอ๋อง สุดท้ายก็ให้มั่วชิงพาไปห้องใต้ดิน เธออยากเห็นร่างกายแต่ก่อนของตนเอง
ยืนอยู่ข้าง ๆ โลงโปร่งใส หลิงอวี้จื้อมองร่างของตนเองเมื่อก่อน ฉากนี้เหตุใดถึงประหลาดเช่นนี้
ข้างในนี้ใส่อะไรไปบ้าง วิทยาการป้องกันการเน่าผุดีเหลือเกิน คนที่นอนอยู่ดูเหมือนหลับไป นอกจากใบหน้าที่ดูขาวอมเทาแล้ว นอกนั้นก็ไม่ต่างจากปกติ
แต่เมื่อคิดได้ว่านี่เป็นคนตาย เธอก็รู้สึกสยองเล็กน้อย โดยเฉพาะเซียวเหยี่ยนที่มักจะมาอยู่ที่นี่ หากเปลี่ยนเป็นเธอ เธอคงรู้สึกว่าน่ากลัวไปหน่อย
“ฝังร่างนี้เถิด”
มองอยู่เนิ่นนาน หลิงอวี้จื้อก็เก็บสายตากลับมา ในเมื่อเธอฟื้นคืนชีพกลับมาแล้ว เก็บร่างนี้ไว้ก็รู้สึกแปลก ๆ ถึงแม้ในมิติเวลานี้เธอจะเห็นคนตายมาไม่น้อย ผีดิบก็เคยเห็นมาแล้ว แต่เมื่อคน ๆ นี้กลายเป็นตนเอง ก็รู้สึกน่าตกใจอยู่เสมอ
“เรื่องนี้ต้องถามท่านอ๋องด้วยเพคะ ข้าน้อยไม่กล้าเผาโดยไม่ได้รับอนุญาต”
มั่วชิงยืนอยู่ข้างหลังหลิงอวี้จื้อ ถึงแม้ว่าหลิงอวี้จื้อตัวจริงจะกลับมาแล้ว เซียวเหยี่ยนไม่เอ่ยปาก นางก็ไม่กล้าทำเรื่องนี้ หากเซียวเหยี่ยนถามถึงขึ้นมา นางก็ไม่รู้จะรับมืออย่างไร
“ร่างกายของข้า ข้าเป็นคนตัดสินใจ มั่วชิง นึกไม่ถึงว่าตอนนี้เจ้าจะไม่ฟังคำข้าแล้ว หรูเยียนก็เช่นกัน ทำตัวแปลกหน้ากับข้าอย่างเห็นได้ชัด”
เห็นมั่วชิงไม่รับปาก หลิงอวี้จื้อก็คิดเชื่อมโยงไปถึงท่าทีของหรูเยียน จึงบ่นไปยกหนึ่ง
คำพูดนี้กลับเตือนสติมั่วชิง เดิมทีนางอยากคุยเรื่องนี้กับหลิงอวี้จื้อ ก่อนหน้านี้มีอันตรายตลอดทาง นางจึงไม่มีจังหวะพูดถึงเรื่องเหล่านี้ ตอนนี้ในที่สุดเหตุการณ์ก็สงบแล้ว พวกนางกลับจวนเซียวอ๋องอย่างปลอดภัย และนี่เป็นเวลาที่นางควรบอกเรื่องนี้กับหลิงอวี้จื้อ
“พระชายาเพคะ ข้าน้อยมีเรื่องหนึ่งอยากเตือนพระชายา”
“พูดมาเถอะ!”
หลิงอวี้จื้อเดินพลางพูดพลาง ห้องใต้ดินนี้มืดมนจริง ๆ หากกลางคืนเธอพักที่นี่ จะต้องฝันร้ายแน่นอน
“พระชายาต้อง…”
ดูเหมือนมั่วชิงจะลังเลเล็กน้อย ในเมื่อนางไม่มีหลักฐาน แต่สุดท้ายก็ยังบอกหลิงอวี้จื้อ ให้หลิงอวี้จื้อจับตาดูเอาไว้สักหน่อย
“พระชายาต้องระวังหรูเยียนนะเพคะ”
“หา…เจ้าให้ข้าระวังใครนะ”
หลิงอวี้จื้อนึกว่าตัวเองฟังผิด หยุดเดิน มองมั่วชิงด้วยอารามตกใจ รอนางพูดอธิบายต่อ
“ห้าปีก่อนเรื่องในจวนเซียวอ๋องทั้งหมดเป็นหน้าที่ของหรูเยียนดูแลจัดการ หรูเยียนมีความสามารถมาก จัดการดูแลจวนเป็นอย่างดี ท่านอ๋องก็ชื่นชมนางมาก จนกระทั่งวันหนึ่งข้าน้อยไปหาท่านอ๋อง ก็ไปค้นพบเรื่องหนึ่งโดยบังเอิญ”
สีหน้าของหลิงอวี้จื้อเริ่มจริงจังขึ้นมา ถามว่า
“เจ้าค้นพบอะไร”
“ครั้งนั้นท่านอ๋องได้รับบาดเจ็บสลบไป หรูเยียนดูแลท่านอ๋อง ตอนที่ข้าน้อยเตรียมจะผลักประตูเข้าไป ตาก็เห็นว่าหรูเยียนนั่งอยู่ข้างเตียงท่านอ๋อง ยื่นมือออกไปลูบหน้าท่านอ๋อง การกระทำเช่นนี้ออกนอกลู่นอกทางมาก ตอนนั้นข้าน้อยตกใจอย่างยิ่ง
ข้าน้อยรู้สึกว่าหรูเยียนดูเหมือนจะหลงรักท่านอ๋อง จากนั้นข้าน้อยก็ไม่พบเจอเรื่องทำนองนี้อีก แต่เรื่องนี้ข้าน้อยจำเอาไว้ตลอด ตอนนี้พระชายากลับมาแล้ว ต้องระวังสักหน่อย ข้าน้อยมิได้มีเจตนาจะยุแยงตะแคงรั่ว เพียงแค่รู้สึกว่าหรูเยียนไม่ใช่หรูเยียนคนเดิมแล้วเพคะ”
หลิงอวี้จื้อไม่พูดอะไร เดินฉับ ๆ ไปข้างหน้าอย่างเร็ว เรื่องนี้เหนือความคาดหมายของเธอโดยสิ้นเชิง เธอพึ่งพาหรูเยียนอย่างมากมาโดยตลอด ธุระทุกอย่างมอบให้หรูเยียนเป็นคนจัดการ นางมีความสามารถจริง ๆ นางกับมั่วชิงสองคน คนหนึ่งดูเรื่องภายใน คนหนึ่งดูเรื่องภายนอก มั่วชิงไม่ถนัดเรื่องงานบ้านงานเรือน
หรูเยียนเองทำอะไรรู้จักกาลเทศะ เธอไม่ระแคะระคายเรื่องความภักดีของหรูเยียน นึกไม่ถึงเลยว่ากลับมาคราวนี้หรูเยียนเปลี่ยนไปหมดแล้ว จู่ ๆ เธอก็นึกถึงจูจิ่น คนเราเปลี่ยนไปตามสิ่งแวดล้อมได้จริง ๆ
ตอนที่ 685 เจ้ากำลังทำอะไร
“เรื่องเหล่านี้เจ้าเคยบอกท่านอ๋องหรือไม่”
ออกจากคุกใต้ดิน เดินมาได้ระยะหนึ่ง หลิงอวี้จื้อก็เอ่ยปากถาม
มั่วชิงส่ายหน้า
“ไม่เคยเพคะ ข้าน้อยไม่รู้ว่าควรจะบอกอย่างไร จึงไม่เคยบอกเรื่องนี้กับท่านอ๋อง ข้าน้อยรู้ว่าท่านอ๋องมิได้คิดเช่นนั้นกับหรูเยียน ตรงจุดนี้หรูเยียนเองก็รู้ ตอนนี้พระชายากลับมาแล้ว ข้าน้อยเกรงว่าหรูเยียนคิดจะทำเรื่องอะไรโง่ ๆ เพคะ”
“ข้ารู้แล้ว เรื่องนี้ไม่ต้องบอกใคร”
หลิงอวี้จื้อรู้สึกรำคาญใจ เธอไปที่เรือนด้านหลัง นั่งในศาลาตามลำพัง ใช้มือเท้าคางมองดูปลาคราฟในทะเลสาป อารมณ์ดำดิ่ง
หากหรูเยียนชอบเซียวเหยี่ยนจริง ถึงแม้ว่านางจะไม่ทำอะไร ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับหรูเยียนก็จะเปลี่ยนไป มิน่าหรูเยียนพบนางครั้งนี้ถึงได้เย็นชานัก ไม่รู้สึกถึงความยินดีจากตัวนางแม้แต่น้อย ที่แท้เพราะนางไม่อยากให้เธอกลับมาด้วยซ้ำ
เธอไม่ได้อยากจัดการหรูเยียนเลย ในมิติเวลานี้ คนที่ใกล้ชิดกับเธอก็เหลือเพียงแค่นี้แล้ว คนที่ตายก็ตาย คนที่อยู่ไกลก็ไกล ดังนั้นเธอจึงเห็นคุณค่าของคนที่ยังเหลืออยู่มาก
คิดถึงเรื่องเหล่านี้ ใจเธอก็รู้สึกเจ็บปวด หวังเพียงแต่ว่าหรูเยียนยังจำสถานะของตนได้ มิเช่นนั้นเธอก็จะไม่ทนหรูเยียนเช่นกัน
มั่วชิงอยู่เป็นเพื่อนหลิงอวี้จื้อ และไม่พูดอะไร
นางรู้ว่าเมื่อหลิงอวี้จื้อรู้เรื่องนี้แล้วต้องไม่สบายใจแน่นอน แต่ยิ่งให้เธอรู้เร็วก็ยิ่งดี เผื่อว่าหรูเยียนจะลงมือทำอะไรแปลก ๆ ขึ้นมา ถึงเวลานั้นหลิงอวี้จื้อจะได้รับอันตราย
มั่วชิงไม่เคยชอบผู้ชายคนใด ด้วยเหตุนี้นางไม่รู้ว่าการชอบคน ๆ หนึ่งเป็นอย่างไร และไม่รู้ว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง เพียงแต่เห็นชายหญิงที่ไม่สมหวังเรื่องความรักมามากมาย ยังมีชิวจวี๋ที่เคยไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ด้วยเหตุนี้นางจึงยังรับประกันไม่ได้ว่าหรูเยียนจะยังรักษาจิตสำนึกของตนเองเอาไว้ได้หรือไม่
“มั่วชิง กลับมาคราวนี้ นอกจากอาเหยี่ยนกับเจ้า คนอื่นที่รู้จัก ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปหมดแล้ว”
หลิงอวี้จื้อถอนหายใจเบา ๆ
เห็นหลิงอวี้จื้อที่ร่าเริงแจ่มใสมาตลอดถอนใจเช่นนี้ มั่วชิงก็ตอบกลับอย่างหนักแน่น
“พระชายา ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ผ่านไปสักกี่ปี ข้าน้อยก็จะคอยอยู่ข้างพระชายากับท่านอ๋อง หากไม่มีพวกท่าน ข้าน้อยก็คงตายไปนานแล้ว ขอพูดอะไรไม่ให้เกียรติสักหน่อยเถิด ข้าน้อยปฏิบัติกับพระชายาเสมือนเป็นญาติของตนเองมาตลอดเพคะ”
“ข้าก็ถือว่าเจ้าเป็นญาตินานแล้ว”
ในที่สุดหลิงอวี้จื้อก็ยิ้มได้ มั่วชิงไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยจริง ๆ เพียงเห็นนางก็รู้สึกคุ้นเคยอย่างยิ่ง คนที่ไม่เจอกันนานแล้วรู้สึกแปลกหน้าต่อกันก็เพราะว่าพวกเขาเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ
เห็นหลิงอวี้จื้อยิ้มแล้ว ใบหน้าของมั่วชิงก็ปรากฏรอยยิ้ม
“พวกเรากลับกันเถิด ท่านอ๋องคงจะตื่นแล้ว”
“เพคะ”
มั่วชิงตอบรับ ตามหลิงอวี้จื้อไปทางห้องของเซียวเหยี่ยน ตอนที่เดินไปถึงนอกประตูห้อง มั่วชิงก็เตือนเสียงเบา
“พระชายา ในห้องมีคนเพคะ”
หลิงอวี้จื้อขมวดคิ้ว ตอนที่ออกมาเธอก็กำชับเอาไว้เป็นพิเศษแล้ว ห้ามรบกวนเซียวเหยี่ยน ตามหลักแล้วตอนนี้ไม่ควรมีคนมาถึงจะถูก เธอค่อย ๆ แง้มประตูออกเป็นช่อง อยากดูว่าใครอยู่ข้างใน
หรูเยียนนั่งอยู่ข้างเตียง เซียวเหยี่ยนดื่มยาเข้าไปแล้ว เพราะสาเหตุจากฤทธิ์ยา จึงนอนหลับลึกมาก เซียวเหยี่ยนที่นอนหลับไม่เหมือนเซียวเหยี่ยนผู้สูงส่งคนนั้น แต่กลับสงบเหมือนเด็ก
“นางกลับมาแล้ว ข้าควรทำอย่างไร”
เหมือนจะถามเซียวเหยี่ยนและเหมือนถามตนเอง หรูเยียนมองเซียวเหยี่ยนด้วยความอาลัยอาวรณ์ ลังเลอยู่นาน ก็โน้มตัวลงกำลังจะจูบแก้มเซียวเหยี่ยน
“หรูเยียน เจ้ากำลังทำอะไร”
หลิงอวี้จื้อผลักประตูเปิดออก เดินเข้าไป แววตามีความผิดหวังอยู่ลึก ๆ ไม่มีรอยยิ้มเหมือนเดิมอีกต่อไป