ตอนที่ 680 ชีวิตนี้ เจ้าและข้าต้องถูกกำหนดให้อยู่ด้วยกันตั้งแต่แรก ไปชั่วชีวิต
บาดแผลของเซียวเหยี่ยนเปื่อยเน่าจนเป็นหนองตั้งแต่แรก ซึ่งเป็นที่น่าหวาดกลัวยิ่งนัก เพียงแค่มองดูก็ให้รู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก
หมอต้องขูดเอาเนื้อบริเวณที่เป็นหนองทั้งหมดออก หลิวอวี้จื้อสงสารจนแทบทนไม่ไหวนางอยากที่จะอยู่ข้างกายเขา ทว่าเซียวเหยี่ยนกลับยืนยันเสียงแข็งที่จะให้นางออกไปก่อน
รอจนกระทั่งหลิงอวี้จื้อกลับเข้ามาอีกครั้ง บาดแผลของเซียวเหยี่ยนก็ถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว เขานั่งเอนหลังพิงหัวเตียง ที่หน้าผากยังยังมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ เกาะพราวอยู่ เห็นได้ชัดว่าเขาเพิ่งจะผ่านพ้นความเจ็บปวดแสนสาหัสมาหมาดๆ
หลิงอวี้จื้อนั่งลงที่ข้างเตียง นางเอื้อมมือไปจับมือของเซียวเหยี่ยนเอาไว้ ส่วนอีกมือก็ถือผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้กับเขา ซึ่งนางก็ค่อยๆ ซับอย่างระมัดระวัง แววตาเจือไว้ด้วยความสงสารอย่างไม่มีปิดบัง
ทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายเซียวเหยี่ยนมักจะกำบังนางเอาไว้ นางจึงมักจะปลอดภัย แต่เซียวเหยี่ยนกลับมักจะบาดเจ็บอยู่ร่ำไป ทุกครั้งเขาจะต้องโอบกอดนางไว้ในอ้อมอกไม่ยอมให้นางได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย ทั้งๆ ที่หนทางเต็มไปด้วยอันตรายรอบด้านมากมายแต่เซียวเหยี่ยนก็กำบังอันตรายเหล่านั้นเอาไว้แทนนาง
หลิวอวี้จื้อทั้งซาบซึ้งแลรู้สึกผิดในเวลาเดียวกัน ทุกครั้งที่นางเห็นบาดแผลของเขาก็ทำให้นางรู้สึกเจ็บปวดหัวใจเหลือเกิน
“เพราะเหตุใดถึงไม่ให้ข้าอยู่ด้วย”
“บาดแผลมีอะไรน่าดูกัน ข้าเกรงว่าเจ้าจะตกใจ”
“มีอะไรที่ข้ายังไม่เคยเห็นอีก แขนขาขาดข้าก็เห็นมามากแล้ว จะหวาดกลัวบาดแผลได้อย่างไร?”
เซียวเหยี่ยนยกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าหลินอวี้จื้อ แท้ที่จริงแล้วเขามิได้กลัวว่าบาดแผลจะทำให้หลิงอวี้จื้อตกใจแต่อย่างใด แต่กำลังเกรงว่าเมื่อหลิงอวี้จื้อเห็นบาดแผลแล้วจะเป็นทุกข์ใจต่างหาก
“เจ้าเหนื่อยหรือไม่? อวี้จื้อ หากเจ้าเหนื่อยละก็นอนพักสักประเดี๋ยวเถอะ”
“ข้าจะกลับไปนอนที่ห้อง”
“นี่คือห้องของเจ้า เจ้ายังจะกลับห้องไหนกันอีก? ขึ้นมานอน”
หลินอวี้จื้อขึ้นไปนอนข้างกายเซียวเหยี่ยนอย่างระมัดระวัง นางนอนลงโดยวางศีรษะหนุนท่อนแขนด้านขวาของเซียวเหยี่ยน หรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วเอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า
“อาเหยี่ยน เจ้าต้องรีบรักษาบาดแผลให้หายดี”
“เจ้าคิดจะทำอะไร?”
ได้ยินประโยคนี้พาลทำให้หลิงอวี้จื้อนึกถึงค่ำคืนนั้นขึ้นมาในทันใด พลันใบหน้าของนางก็แดงระเรื่อ นางถลึงตาโตใส่เซียวเหยี่ยน
“ไม่ได้คิดจะทำอะไรสักหน่อย”
เซียวเหยี่ยนลูบไล้เส้นผมดำขลับของหลิงอวี้จื้อเบาๆ
“อวี้จื้อ อีกไม่นานข้าจะต้องไปจากเมืองอวิ๋นสักระยะ เจ้าคอยข้าอยู่ที่เมืองอวิ๋นรอข้ากลับมา”
“ท่านจะลงมือแล้ว?”
หลิงอวี้จื้อย่อมรู้ดีว่าเซียวเหยี่ยนกำลังจะทำอะไร เขาเตรียมการมาห้าปี คงถึงเวลาที่ต้องลงมือแล้วจริงๆ มู่หรงกวานเย่ว์ถึงได้ส่งมือสังหารจำนวนมากเพียงนั้นมาเอาชีวิตเขา
เซียวเหยี่ยนเองก็ไม่ได้ปิดบังหลิงอวี้จื้อ เขาพยักหน้ารับ
“เวลาที่เหมาะสมมาถึงแล้ว ถึงตอนนั้นข้าจะนำทัพด้วยตัวเอง อวี้จื้อ เจ้าอยู่ที่นี่รอข้ากลับมาก็พอ เจ้าปลอดภัย ข้าถึงจะวางใจ”
หลิงอวี้จื้อไม่รู้เรื่องการทำศึก และศึกสงครามมิใช่เรื่องเด็กเล่น ต่อให้นางไปด้วยก็ช่วยอะไรเซียวเหยี่ยนไม่ได้ หลิงอวี้จื้อึงพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ได้ รีบกลับมาละ ข้าจะรอท่านอยู่ที่บ้านนี้”
เซียวเหยี่ยนเอียงหน้าลงมาจุมพิตที่หน้าผากของหลิงอวี้จื้อแผ่วเบา
“ข้าจะต้องปลอดภัยกลับมา”
เซียวเหยี่ยนกล่าวขึ้นด้วยท่าทางขึงขังเด็ดขาด เขามันใจว่าตนเองก็จะต้องกลายเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุด
ซึ่งจุดนี้หลิงอวี้จื้อเองก็มั่นใจ หากจะมองในบางมุม นางเองก็เป็นตัวถ่วงของเขา นางคือจุดอ่อนของเซียวเหยี่ยน หากไม่มีนาง เซียวเหยี่ยนแทบจะไม่มีจุดอ่อนให้มู่หรงกวานเย่ว์สามารถโจมตีได้เลย
หลิงอวี้จื้ออิงซบลงบนแผ่นอกของเซียวเหยี่ยน ก่อนจะเอ่ยปากแผ่วเบา
“อาเหยี่ยน ขอโทษด้วย”
“กล่าวขอโทษทำไมกัน”
“หากไม่มีข้า ท่านคงจะไม่บาดเจ็บมากมายถึงเพียงนี้ ท่านคงจะไม่ต้องต้องพลอยลำบากต้องพะว้าพะวงทำอะไรไม่ได้อย่างเต็มที่ในบางเวลาอีกด้วย”
“หากเพื่อเจ้า ข้ายินดี”
เซียวเหยี่ยนโอบกอดหลินอวี้จื้อเอาไว้แน่น
“คนที่ต้องขอโทษควรจะเป็นข้า เป็นเพราะข้าเจ้าถึงต้องเสี่ยงอันตราย ข้าจึงมีหน้าที่ๆ จะต้องปกป้องคุ้มครองเจ้า ต่อไปห้ามพูดจาอะไรโง่ๆ เช่นนี้อีก เจ้าและข้าถูกกำหนดให้ต้องอยู่ด้วยกันตั้งแต่แรก ไปชั่วชีวิต”
ตอนที่ 681 อยู่ด้วยกันทุกชาติภพ
หลิงอวี้จื้อยิ้ม ใช่ พวกเขาเป็นเหมือนคน ๆ เดียวกัน ขอเพียงต่างคนต่างไม่เสียใจ คนอื่นจะสำคัญอะไร
ไม่ว่าต่อไปเซียวเหยี่ยนจะอยู่ในสถานะเช่นใด เธอก็จะคอยอยู่เคียงข้างเซียวเหยี่ยนตลอด
ชีวิตนี้เธอเคยเป็นคนธรรมดา และเคยเฉิดฉาย คุณสมบัติพิเศษที่สุดของนักแสดงคือความสามารถในการปรับตัว ไม่ว่าจะใช้ชีวิตในลักษณะใด เธอก็จะมีชีวิตที่ดีได้ ขอเพียงคนที่อยู่ข้างกันนั้นดีพอ
“พักผ่อนสักครู่เถิด”
เสียงของเซียวเหยี่ยนแหบพร่า เขารู้ว่าหลิงอวี้จื้อเหนื่อยแล้ว หลิงอวี้จื้อพยักหน้า หลับตาลงอย่างสงบ เหนื่อยจัง นานแล้วที่ไม่ได้นอนหลับดี ๆ ในที่สุดก็สามารถนอนหลับได้อย่างสงบแล้ว
ไม่นานเสียงหายใจอย่างสม่ำเสมอก็แว่วอยู่ข้างหูเซียวเหยี่ยน หลิงอวี้จื้อหลับแล้ว แต่เซียวเหยี่ยนยังนอนไม่หลับ เขาลืมตา ยื่นมือออกไปตบหลังหลิงอวี้จื้อเบา ๆ ราวกับเธอเป็นลูกของเขา
ถึงแม้หลิงอวี้จื้อจะนำอันตรายที่ไม่รู้จักมาให้เขามากมาย กลายเป็นจุดอ่อนที่รั้งเขาไว้ กระทั่งทำให้เขาได้รับผลกระทบใหญ่หลวง
แต่เขาก็ไม่เคยเสียใจเลยที่รักหลิงอวี้จื้อ เธอทำให้รู้จักความรู้สึกใจเต้น ทำให้เขารู้ว่าตนเองนนั้นเป็นคนมีความรู้สึกสุขทุกข์เศร้ายินดี ทำให้เขามีความสุขเสมอ
ตั้งแต่จวนซีหนานอ๋องเปลี่ยนเป็นจวนซีหนานอ๋องของเขาผู้เดียว เขาก็ไม่เคยมีความสุขอีกเลย
เวลาผ่านไปนานแล้ว ตัวเขาเองก็ลืมแล้ว ถึงแม้ว่าตอนเยาว์วัยจะเคยรักมู่หรงกวานเย่ว์ แต่นั่นก็เป็นเพียงความรักที่ยับยั้งชั่งใจอยู่ ประกอบกับอายุยังน้อย จึงไม่ได้ปล่อยให้ความรู้สึกครั้งนั้นพัฒนาไปสู่ระดับที่ไม่สามารถควบคุมได้
แต่หลิงอวี้จื้อเข้ามาทำให้จิตใจเขาปั่นป่วนอย่างแท้จริง ทำให้เขาหึงหวง ทำให้เขาหวังว่าเธอจะเป็นของเขาคนเดียวตลอดไป ทำให้เขาคล้อยตามไปกับอารมณ์สุขทุกข์เศร้ายินดีของเธอ สิ่งเหล่านี้ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมี เขาเป็นคนที่ระวังตัวกับคนอื่นมาก หลิงอวี้จื้อกลับเดินลึกเข้าไปภายในจิตใจเขาด้วยวิธีการที่เรียบง่ายที่สุด
เขาหวังว่าจะได้อยู่กับผู้หญิงคนนี้ไปทุกชาติภพ
ณ วังฉางเล่อกง
จื่ออีคุกเข่าทุบขาให้มู่หรงกวานเย่ว์ ตอนนี้คิ้วของมู่หรงกวานเย่ว์ขมวดแน่น เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ไม่ค่อยดี หลายวันนี้เนื่องจากกังวลเกินไป ผมข้างขมับของนางจึงมีผมหงอกเพิ่มสองสามเส้น
หากเป็นเมื่อก่อนนางจะต้องกังวลแล้ว มีผู้หญิงที่ไหนไม่รักสวยรักงาม ตอนนี้นางไม่มีเวลาจะกังวลเรื่องพวกนี้ เซี่ยวเหยี่ยนกลับไปเมืองอวิ๋นเฉิงอย่างปลอดภัย นั่นก็แปลว่าราชวงศ์เว่ยตกวันตกมาถึงจุดชี้เป็นชี้ตายแล้ว
บ้านเมืองกำลังจะล่มสลาย เรื่องอื่นก็ไม่สำคัญอีกต่อไป
จื่ออีเห็นว่าว่าช่วงนี้มู่หรงกวานเย่ว์กินนอนอย่างลำบาก ก็อดไม่ได้ที่จะพูดปลอบ
“ไทเฮา ผ่อนคลายหน่อยเถิดเพคะ สุขภาพสำคัญนะเพคะ”
“จื่ออี เซียวเหยี่ยนกลับเมืองอวิ๋นเฉิงไปแล้ว มั่วฉือช่างเหลวไหลจริง ๆ”
มู่หรงกวานเย่ว์รู้สึกว่าลูกไม่ได้ดั่งใจ แต่รู้สึกเหนื่อยล้ามากกว่า
หลายปีมานี้นางทุ่มแรงทั้งหมดคิดหาวิธีที่จะปกป้องบัลลังก์ของลูกชาย ใครจะไปรู้ว่ามั่วฉือกลับไม่เข้าใจถึงความยากลำบากของนางเลย ฟังคำเตือนของนาง แต่กลับทำตรงกันข้ามกับนาง นี่ทำให้นางทั้งเจ็บใจทั้งวิตก นางรู้ดีว่า หากราชวงศ์เว่ยตะวันตกล่มสลาย วันสุดท้ายของนางและเฉินมั่วฉือก็จะมาถึง
“แม้เซียวเหยี่ยนจะกลับเมืองอวิ๋นเฉิงไปแล้ว สุดท้ายอำนาจจะตกไปอยู่ในมือใครก็ยังไม่แน่นะเพคะ”
“เจ้าคิดว่าเฉินมั่วจะเป็นคู่ต่อสู้ของเซียวเหยี่ยนได้หรือ หากมีหลิงอวี้จื้ออยู่ในมือ เราก็พอจะมั่นใจ ตอนนี้หลิงอวี้จื้ออยู่กับเซียวเหยี่ยน ตอนนี้เราไม่มั่นใจเลยแม้แต่นิดเดียว”
“เรื่องนี้…”
จื่ออีก็ไม่รู้จะปลอบอย่างไรแล้ว นางก็รู้ว่าตอนนี้มองสถานการณ์ในแง่ดีได้ยากมาก นางเพียงแต่หวังว่ามู่หรงกวานเย่ว์จะเปิดใจยอมรับได้บ้าง
“หากไทเฮาทรงเหนื่อยแล้ว ก็วางมือเถิดเพคะ ปล่อยให้ฝ่าบาทจัดการเรื่องนี้ด้วยพระองค์เอง ตอนนี้ฝ่าบาทโตแล้วนะเพคะ”
“เหตุใดเราจะไม่อยากวางมือกัน มั่วฉือมัวแต่คิดถึงหลิงอวี้จื้อ ตอนนี้เราจะวางใจได้อย่างไร
จื่ออี ไม่ว่าอย่างไร เขาก็เป็นลูกชายของเรา ขอเพียงเรายังมีลมหายใจอยู่ ก็ไม่สามารถไม่สนใจความเป็นความตายของเขา ถึงแม้ว่าจะเสียแคว้นเว่ยตะวันตกไป เราก็ต้องรักษาชีวิตของเขาเอาไว้ให้ได้”