ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1652 กลุ่มอาทิตย์อุทัย

ตอนที่ 1652 กลุ่มอาทิตย์อุทัย

ตอนที่ 1652 กลุ่มอาทิตย์อุทัย
จาฮานและสือซวนไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำขอของจางหยู
ตอนนั้นจาฮานได้พูดขึ้นมา “มันมีตลาดทาสอยู่ 3 แห่งแต่สองแห่ง
เป็นตลาดระดับต่ำ โดยทั่วไปแล้วมีแค่ทาสที่เป็นผู้ย้อนกลับ นาน ๆ
ครั้งถึงจะมียอดฝีมือที่หายากโผล่มาบ้าง ส่วนตลาดทาสอีกแห่งนั้น
ต่างกันออกไป ทาสที่อ่อนที่สุดคือผู้ควบคุมขั้น 1 แต่ราคาเองก็สูง
เช่นกัน เพราะทาสผู้ควบคุมนั้นมาจากพื้นที่อื่น พรสวรรค์ก็ดีเช่นกัน
ข้าสงสัยว่าท่านอยากไปที่นั่นรึไม่ ?”
“เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับตลาดทาสมากขนาดนี้เลยรึ ?” จางหยูแปลกใจ
นิด ๆ
จาฮานเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพูดขึ้น “เพราะข้าเคยเป็นทาสมาก่อน ข้า
ได้ใช้เวลาในตลาดทาสนั้นอยู่นาน”
คำพูดนี้ไม่ใช่แค่จางหยูที่แปลกใจ แม้แต่สือซวน, ซางอี๋ว์และอู๋ยงที่
อยู่ข้าง ๆ ก็มองไปที่จาฮานด้วยสีหน้าตะลึง
ประสบการณ์เช่นนี้ จาฮานไม่เคยบอกใครมาก่อนแต่มันคือความ
จริง แม้ว่าจะไม่เคยพูดแต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่เคยเกิดขึ้น
บางทีมันอาจจะเป็นประสบการณ์อันเลวร้ายของเขาที่ทำให้เขา
แข็งแกร่งขึ้นมาจนประสบความสำเร็จจนถึงวันนี้
“อันที่จริงชื่อเดิมของข้าไม่ใช่จาฮาน แต่เป็นเหอเซิ่งว่าน ข้าหนีมา
จากทางเหนือ โลกขั้น 9 ของเราตกอยู่ในสงครามและสุดท้ายก็พ่าย
แพ้ไป โลกของเราได้ตกเป็นทาส พรสวรรค์ข้าไม่ได้แย่ ดังนั้นพวก
เราจึงถูกใช้เป็นทาสขายให้กับกลุ่มอาทิตย์อุทัย สุดท้ายกลุ่มอาทิตย์
อุทัยก็ได้มายังโลกสวรรค์ร้าง…” จาฮานสูดหายใจเข้าลึก ๆ และนึก
ถึงอดีต “หลังจากนั้นพ่อบุญธรรมก็ซื้อตัวข้าไป ไม่ใช่แค่สอนข้าบ่ม
เพาะแต่ยังยอมรับข้าเป็นลูกบุญธรรม ดังนั้นข้าจึงออกจากนรกนั่น
มาได้และประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้”
“พ่อบุญธรรมของเจ้า?” สือซวนสงสัย “หลู่ชื่องั้นรึ ?”
สือซวนเหมือนจะเคยได้ยินเรื่องพ่อบุญธรรมของจาฮานมาก่อน
จาฮานพยักหน้าและพูดขึ้น “พ่อบุญธรรมนั้นดีต่อข้ามาก หากไม่มี
เขา ข้าคงเป็นทาสอยู่อย่างเดิม บางทีอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ
เหมือนทุกวันนี้”
สือซวนกระจ่างทันที “ไม่แปลกเลยที่ข้าได้ยินว่ามีคนทำร้ายหลู่ชื่อ
แล้วเจ้าก็จับเขามาทรมานเขาเป็นหมื่น ๆ ปี สุดท้ายเจ้าก็มอบจุดจบ
ให้กับเขา” เพราะแบบนั้นสือซวนจึงรู้ว่าจาฮานนั้นมีพ่อบุญธรรม
เขารู้จักอีกฝ่าย
เรื่องนี้โด่งดังไปทั่วโลกเพราะคนที่โดนจาฮานฆ่านั้นเป็นผู้ควบคุม
ขั้น 7
ตั้งแต่นั้นมาทุกคนก็จดจำหลู่ชื่อและรู้ว่าหลู่ชื่อนั้นเป็นพ่อบุญธรรม
ของจาฮาน ทุกคนต่างก็รู้ว่าหลู่ชื่อสำคัญต่อจาฮาน แค่ไหน
“ความเมตตาของพ่อบุญธรรมนั้น ทั้งชีวิตข้าก็ชดใช้ไม่หมด สิ่งเดียว
ที่ข้าทำได้คือคอยดูแลเขาจากภัยทุกอย่างและทำให้เขาน่าเคารพกว่า
เดิม” จาฮานแสดงท่าทีเยือกเย็นออกมา เขาไม่คิดว่าเขาทำอะไรผิด
อันที่จริงตั้งแต่เกิดเรื่องนั้นมา ฐานะของหลู่ชื่อก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
แม้ว่าหลู่ชื่อจะเป็นแค่ผู้ควบคุมขั้นที่ 5 และมีคนมากมายที่แข็งแกร่ง
กว่าเขา นี่ไม่ต้องพูดถึงผู้ควบคุมขั้นที่ 7 เลย แม้แต่ผู้ควบคุมขั้นที่ 6 ก็
มีอยู่จำนวนมาก แต่นับตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครกล้าดูถูกเขา แม้แต่ผู้
ควบคุมขั้นที่ 7 รวมถึงสือซวนก็ยังต้องให้เกียตริอีกฝ่าย
“ข้าเคยเป็นทาสมา เพราะพ่อบุญธรรมจึงทำให้ข้าสูงส่งขึ้นมาได้ น้อย
คนนักที่จะรู้เรื่องนี้ มีแค่กลุ่มอาทิตย์อุทัยเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ จากนั้นข้า
ก็แข็งแกร่งขึ้นจนสามารถจัดการกับกลุ่มอาทิตย์อุทัยได้ เมื่อข้าแข็ง
แกร่งก็ไม่มีใครกล้าพูดถึงเรื่องนี้อีก ตั้งแต่นั้นมาก็มีคนไม่มากที่รู้ว่า
ข้าเคยเป็นทาสมาก่อน”
จางหยูมองไปที่จาฮานด้วยความชื่นชม “ประสบการณ์ของเจ้าค่อนข้าง
น่าชื่นชม”
จาฮานหวั่นไหวไปตาม “ขอบคุณ”
ประสบการณ์ของเขานั้นน่าชื่นชมจริง ๆ แต่เขาไม่มีสิทธ์ิภูมิใจต่อ
หน้าผู้ควบคุมขั้นที่ 8 !
ยิ่งกว่านั้นจางหยูก็ไม่ใช่ผู้ควบคุมขั้นที่ 8 ธรรมดาแต่แม้แต่ราชาดาบ
ก็ยังเอาชนะเขาไม่ได้ !
“เอาล่ะ ในเมื่อตลาดทาสของกลุ่มอาทิตย์อุทัยดี งั้นก็ไปที่นั่นกัน”
จางหยูมีหินแห่งการสร้างกว่า 100 ล้านก้อน แม้ว่าไม่อาจจะซื้อทาส
ที่ดีที่สุดได้ แต่นี้ก็ใช่ว่าจะเป็นเงินจำนวนน้อย ๆ
แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนยิ่งใหญ่อะไร เขาไม่ได้เป็นเหมือนพ่อของ
จาฮานที่ดูแลทาสเหมือนกับลูก แต่หากทาสเหล่านี้มีพรสวรรค์และ
ทำตัวดี เขาก็ไม่รังเกียจที่จะยกเลิกฐานะทาสและให้พวกนี้เป็นอิสระ
มันแค่ต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ !
จาฮานสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดขึ้น “งั้นก็เชิญมากับข้า”
เมื่อพูดจบจาฮานก็บินไปยังเมืองหนึ่งโดยมีจางหยู, สือซวน,ซางอี๋ว์
และอู๋ยงตามมาติด ๆ
โลกสวรรค์ร้างนี้ใหญ่โต พวกเขาบินกันอยู่นานก่อนจะมาถึงที่หมาย
มันคือเมืองที่เจริญ แม้แต่รอบเมืองก็ยังมีผู้บ่มเพาะมากกว่าที่อื่น ๆ
เมืองนี้มีผู้ควบคุมขั้น 4 อยู่เต็มท้องถนน พวกที่สูงกว่านั้นมีอยู่ทั่วทุก
ที่ แม้แต่ผู้ควบคุมขั้นที่ 7 ก็ยังมีอยู่หลายคน
ตอนที่พวกเขาเพิ่งจะมาถึงเมืองนั้น ทหารดูแลประตูก็จำจาฮานและ
สือซวนได้ทันที พวกเขาพากันคุกเข่าลงไป “ท่านจาฮาน ท่านสือ
ซวน !”
การกระทำแบบนี้ทำให้คนรอบข้างหันมาสนใจ ทุกสายตาจับจ้องไป
ที่จาฮานและสือซวนด้วยความตื่นเต้นและเคารพ!
จาฮานพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ตลาดค้าทาสอาทิตย์อุทัย
ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็มาถึงตลาดทาสอาทิตย์อุทัยซึ่งเป็นหนึ่ง
ในสามตลาดของกลุ่มอาทิตย์อุทัย
เมื่อเข้ามาในตลาด ฉากภายในก็ต่างจากที่จางหยูคิดเอาไว้ ด้านใน
นั้นเป็นฉากที่งดงามราวกับคฤหาสน์ มันมีศาลาอยู่จำนวนมาก ศาลา
แต่ละแห่งมีทาสอาศัยอยู่ การดูแลทาสเหล่านี้ไม่ได้แย่นัก มันราวกับ
การดูแลแขก
ทาสทุกคนต่างก็มีคนคอยดูแลเรื่องอาหารและเสื้อผ้าด้วยความเคารพ
หากคนไม่รู้อาจจะไม่คิดว่าที่นี่เป็นตลาดทาส
“กลุ่มอาทิตย์อุทัยนี่ไม่ธรรมดาเลย !” จางหยูแอบคิด การที่ดูแลตลาด
ทาสได้ดีแบบนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ “ไม่แปลกเลยที่หลังจากจาฮาน
ประสบความสำเร็จ แต่กลับไม่ได้แค้นเคืองกลุ่มอาทิตย์อุทัยเลย…”
“ตลาดทาสอื่น ๆ เป็นเหมือนกันรึไม่ ?” จางหยูถามขึ้นมา
จาฮานส่ายหน้า “มีแค่ที่นี่เท่านั้น ตลาดที่อื่น ๆ นั้นพวกทาสมักถูกใช้
เป็นเครื่องระบายอารมณ์…”
เขาดีใจที่ถูกขายให้กับกลุ่มอาทิตย์อุทัยไม่ใช่ที่อื่น ไม่งั้นแล้วเขาคิด
ภาพไม่ออกเลยว่าหากได้อยู่ในตลาดแห่งอื่นแล้วเขาจะเจอกับ
ประสบการณ์เลวร้ายแบบไหนกัน
แน่นอนว่ามันเกี่ยวข้องกับพรสวรรค์ของเขาด้วย แม้ว่าเขาจะถูกขาย
ให้กับตลาดทาสแห่งอื่นแต่เขาก็ไม่ได้รับการดูแลที่แย่อย่างแน่นอน
มันคือความจริงที่โหดร้าย
เมื่อเดินมาได้ไม่นาน จางหยูก็สังเกตสถานการณ์ในศาลาแต่ละแห่ง
ที่ตรงหน้าศาลานั้นมีจารึกหินที่เขียนอธิบายเกี่ยวกับตัวทาสเอาไว้
ทั้งตัวตน,ฐานะ, ระดับการบ่มเพาะและอื่น ๆ
มองได้ไม่นาน จางหยูก็อดไม่ได้ที่จะผิดหวัง ทาสเหล่านี้มีพรสวรรค์
ที่ดีแต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการเพราะสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่พรสวรรค์
แต่เป็นกำลังรบที่ใช้งานได้ทันที
ทาสที่ต่ำกว่าผู้ควบคุมขั้น 4 นั้นตัดออกไปได้เลย
“ท่านไม่พอใจงั้นรึ ?” จาฮานถามขึ้นมา
“คนเหล่านี้มีพรสวรรค์ที่ดีแต่ระดับการบ่มเพาะยังต่ำเกินไป” จางหยู
ไม่ปิดบังความคิดตัวเอง
ปากของจาฮานกระตุก เกณฑ์ของจางหยูสูงจริง ๆ !
แต่เมื่อคิดจากการที่จางหยูเป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 8 แล้ว เกณฑ์ที่สูงแบบ
นี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ
“หากท่านไม่พอใจ งั้นเราเดินหน้ากันต่อ หากเดินข้ามสะพานนี้ไป
แล้วมันจะเป็นเขตหลักของตลาด ที่นั่นมีทาสที่มีพรสวรรค์ที่สุด
รวมถึงพวกที่มีระดับการบ่มเพาะสูงด้วย” ระหว่างที่พูดนั้น จาฮานก็
มองไปที่สะพานไม้ด้านหน้าด้วยสายตาเหม่อลอย
ตอนที่จางหยูและคนอื่น ๆ กำลังจะเดินข้ามสะพานนั้น ที่ท้องฟ้าก็มี
คนบินเข้ามาอย่างรวดเร็ว เสียงตัดสายลมดังขึ้นพร้อมกับน้ำที่เกิด
การกระเพื่อม
“ท่านจาฮาน ท่านสือซวน ข้าไม่อาจจะมาต้อนรับได้ทัน ยกโทษให้
ข้าด้วย” ชายวัยกลางคนที่นำหน้ามาเป็นผู้ควบคุมขั้น 7 ด้านหลังของ
เขาเป็นผู้ควบคุมขั้น 6 สองคน แม้ว่าจะเทียบกับพวกจางหยูไม่ได้
แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอ

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท