ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1655 จงหราน

ตอนที่ 1655 จงหราน

ตอนที่ 1655 จงหราน
จางหยูยังคงแสดงท่าทีเยือกเย็นออกมาตั้งแต่ต้นจนจบทำให้ฮั่วลี่ต้อง
สับสน
ชายคนนี้คิดจะหลอกเขาแม้ว่าความจริงจะถูกเปิดเผยงั้นรึ?
“ผู้ควบคุมขั้น 8 ระดับสูง..” ฮั่วลี่คิดว่าสายตาของตัวเองไม่ผิด เขาไม่
เคยเห็นจางหยูมาก่อน มันจึงทำให้เขาสงสัยในตัวจางหยูอย่างมาก

ที่สันเขาเทียน
หลังจากที่พักฟื้นมาหลายวัน หลินเป่ ยชานก็อาการดีขึ้น จิตผู้สร้าง
ของเขาเริ่มเสถียรขึ้นมา
เขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและมองไปด้านหลังยังจุดที่ภูเขาเคยตั้งอยู่แต่
ตอนนี้มันไม่มีอีกแล้ว
“เด็กนั่นแข็งแกร่งจริง ๆ” หลินเป่ ยชานยังรู้สึกหวั่นในใจ
หลินหลางที่อยู่ข้าง ๆ เหมือนจะมุ่งมั่นกับการบ่มเพาะยิ่งกว่าเก่า
ตอนนั้นเองก็มีร่างหนึ่งบินเข้ามา ทำให้หลินเป่ ยชานต้องหันกลับไป
มอง
“จาฮาน คำนับผู้อาวุโส !” จาฮานมาหยุดตรงหน้าหลินเป่ ยชานและ
ทำความเคารพ
หลินเป่ ยชานคิ้วขมวด “เจ้าไม่ได้ไปกับจางหยูรึ ? เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
จาฮานตอบกลับด้วยความเคารพ “ท่านจางมีปัญหากับกลุ่มอาทิตย์
อุทัยเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้จึงอยากได้รับความช่วยเหลือจากท่าน”
“ปัญหารึ ?” หลินเป่ ยชานอึ้ง ด้วยความแข็งแกร่งของจางหยูแล้ว
โลกสวรรค์ร้างแห่งนี้มีปัญหาอะไรที่จางหยูจะจัดการไม่ได้บ้าง ?
“ท่านจางอยากให้ท่านหลินไปยืนยันตัวเขา…” จาฮานบอกรายละเอียด
ที่เกิดขึ้นให้อีกฝ่ายฟัง
เมื่อเล่าจบ จาฮานก็โค้งตัวให้และพูดขึ้น “รบกวนท่านหลินช่วยเขา
ด้วย “
หลินเป่ยชานเงียบไปชั่วครู่ เอาจริง ๆ แล้วเขาไม่อยากยุ่งกับจางหยู
เขากลัวพบกับจางหยูด้วยซ้ำ แต่เมื่อจางหยูขอให้เขาช่วย เขาก็ไม่มี
ความกล้าพอที่จะปฏิเสธ
“อาการบาดเจ็บของข้าไม่ได้หนักหนาแล้ว เขาเลยคิดให้ข้าไปงั้นรึ?”
หลินเป่ยชานคิดในใจ
เขาอยากจะปฏิเสธแต่เขาก็ไม่ควรทำเช่นนั้นเพราะเขาไม่มั่นใจว่า
หากเขาปฏิเสธไป จางหยูจะมาหาเรื่องเขาถึงที่รึไม่และใช้เรื่องนี้เป็น
ข้ออ้างในการประมืออีกครั้ง
“ท่านพ่อ” หลินหลางได้ตื่นขึ้นและรู้รายละเอียดเรื่องนี้
หลินเป่ยชานโบกมือและมองไปที่จาฮาน “เมื่อจางหยูขอมาด้วย
ตัวเอง งั้นข้าก็ไม่คิดปฏิเสธ ไปกันเถอะ”
เมื่อพูดจบ หลินเป่ ยชานก็ลุกขึ้นแล้วบินออกไปทันที
“ท่านพ่อ !” หลินหลางไล่ตามไปด้วยความกังวล
“ไม่ต้องกังวลไป” หลินเป่ ยชานพูดขึ้น “เจ้าอยู่บ่มเพาะที่นี่ไป ข้าจะ
กลับมาในไม่ช้า”
แม้เขาจะพยายามแสดงท่าทีเยือกเย็นแต่ในใจเขากลับรู้สึกเศร้านิด ๆ
การที่เขาจะกลับมาได้รึไม่นั้นเขาเองก็ยังไม่มั่นใจ

ที่ภูเขาธารใส
จงหรานเหมือนกับหลินเป่ยชานที่ชอบเก็บตัวบ่มเพาะ เขาโด่งดังใน
โลกสวรรค์ร้าง เขาคือหนึ่งในสามผู้ควบคุมขั้นที่ 8 ที่แข็งแกร่งที่สุด
สำหรับว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหนนั้นไม่มีใครรู้ได้ คนอื่น ๆ รู้แค่ว่าเขา
เป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 8
ปกติแล้วไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ที่นี่เพราะทุกคนรู้ว่าจงหรานนั้นรัก
ความสงบ
วันนี้ที่ภูเขาธารใสกลับมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามา
“สือซวนได้รับมอบหมายมาให้พบกับท่านจง รบกวนเจ้าบอกกับ
ท่านจงด้วย” สือซวนพูดออกมาอย่างสุภาพ
ชื่อเสียงของสือซวนไม่ใช่น้อย ๆ ยามที่ประตูนั้นรู้จักสือซวนเป็น
อย่างดี
ยามตอบกลับอย่างสุภาพ “ท่านสือซวนสุภาพเกินไปแล้ว รอที่นี่
สักครู่ ข้าจะรีบไปแจ้งกับนายท่าน”
ไม่นาน สือซวนก็เดินทางเข้าไปในภูเขาเพื่อพบกับจงหราน
ใต้ต้นไม้ใหญ่ จงหรานได้นั่งอยู่บนเก้าอี้หิน เขาถือพัดไว้ในมือข้าง
หนึ่งและมืออีกข้างถือแก้วชา เมื่อเห็นสือซวน จงหรานก็วางแก้วชา
ลง ก่อนจะพูดขึ้น “เจ้าบอกว่าได้รับมอบหมายมา เขาเป็นใครกัน ?”
เขาไม่คิดว่าสือซวนจะมีความกล้าพอมาหลอกเขา
สือซวนตอบกลับทันที “ท่านจางหยูได้ให้ข้ามาหาท่านเพื่อขอความ
ช่วยเหลือจากท่าน”
“จางหยูรึ ? ข้าไม่รู้จักจางหยู ทำไมข้าถึงไม่คุ้นชื่อของเขา ?”
สือซวนจำคำพูดของจางหยูได้และรีบพูดขึ้นมา “ท่านจางหยูบอกว่า
เขาคือสหายของท่านเบเกิล หากท่านว่างก็รบกวนไปช่วยเขาด้วย
หากท่านไม่ต้องการ ท่านจางก็ไม่คิดจะบังคับท่าน”
“เบเกิลรึ ? เจ้ามั่นใจรึว่าเขาเป็นสหายของเบเกิล ?”
สือซวนพยักหน้าตอบรับ
“หากเป็นเช่นนั้นข้าจะไปดูเสียหน่อย” จงหรานเชื่อคำพูดของสือซวน
มีหลายคนที่รู้จักเขาและหลายคนอาจจะรู้จักเบเกิล แต่มีไม่กี่คนที่รู้
ว่าเขากับเบเกิลเป็นสหายกัน
เมื่ออีกฝ่ายพูดถึงเบเกิลและเหมือนจะเป็นสหายกันด้วย แม้ว่าจะ
ไม่ใช่สหายที่ดีนักแต่ความสัมพันธ์คงไม่ได้แย่อะไร
ในเวลาเดียวกันเขาก็สนใจในตัวจางหยู ยังไงซะการที่ได้เป็นสหาย
กับเบเกิลนั้นก็ต้องมีอะไรพิเศษ
ไม่นานจงหรานและสือซวนก็ได้เดินทางออกมาจากภูเขาธารใสเพื่อ
ไปยังที่ตั้งของกลุ่มอาทิตย์อุทัย
ภูเขาธารใสกับกลุ่มอาทิตย์อุทัยนั้นอยู่ใกล้กัน ดังนั้นกลุ่มแรกที่มาถึง
จึงเป็นสือซวนและจงหราน
“ท่านจงหราน” สือซวนได้หยุดอยู่ตรงหน้าจางหยู ก่อนจะแนะนำ
“นี่คือท่านจางหยู”
ทันทีที่ฮั่วลี่เห็นจงหราน เขาก็ยิ้มออกมาและทำตัวสุภาพขึ้นกว่าเดิม
“ข้าฮั่วลี่คำนับผู้อาวุโส การที่ท่านมาที่นี่ถือว่าเป็นเกียรติของเราจริง ๆ”
จงหรานพยักหน้าตอบรับก่อนจะมองไปที่จางหยู “น้องชาย เจ้ารู้จัก
กับเบเกิลรึ ?”
เขาเห็นว่าจางหยูไม่ได้ใส่ตราผู้ควบคุม เขาจึงสับสนและไม่รู้ว่า
จางหยูแข็งแกร่งแค่ไหน
จางหยูปกปิดคลื่นพลังเอาไว้ไม่ให้รั่วไหลออกมาเลยแม้แต่น้อย
ดังนั้นจงหรานจึงไม่อาจจะรับรู้ถึงคลื่นพลังของจางหยูได้ มันทำให้
จางหยูดูธรรมดา
“ข้ารู้จักกับพี่เบเกิลมาสักพักแล้วและได้ตกลงกับเขาว่าจะร่วมทีมกับ
เขาในการสำรวจที่แห่งหนึ่งด้วยกัน พี่จงหรานจะเข้าร่วมด้วยรึไม่ ?”
จงหรานอาจจะรับรู้พลังของจางหยูไม่ได้ แต่จางหยูรับรู้พลังของจง
หรานได้ จากการคาดเดาแล้ว แข็งแกร่งของจงหรานน่าจะอ่อนแอ
กว่าหลินเป่ ยชานเล็กน้อย แต่ช่องว่างนั้นแทบจะมองข้ามได้ เมื่อคน
แบบนี้รู้จักกับเบเกิลก็น่าจะได้รับเชิญ เบเกิลไม่น่าจะมองข้ามคน
แบบนี้
เมื่อได้ยินที่จางหยูพูดมา จงหลานก็สลัดความสงสัยทุกอย่างทิ้งไป
คนที่เข้าร่วมทีมได้ต้องเป็นคนพิเศษ !
“คนกันเองแท้ ๆ” จงหรานอารมณ์ดีขึ้นมา เขาทำตัวสนิทสนมกับ
จางหยูมากขึ้น “น้องชายมีปัญหาอะไร บอกมาได้เลย ข้าจะช่วยเอง
ข้าไม่มีทางปฏิเสธ”
จางหยูไม่มัวอ้อมค้อมและบอกปัญหาออกมาทันที
“เจ้าพูดถึงเกลดันรึ ?” เมื่อรู้เรื่องนี้จงหรานก็ขมวดคิ้ว “เอาจริง ๆ แล้ว
ข้าเคยช่วยเกลดันมาก่อนแต่ก็ล้มเหลว แม้แต่เบเกิลเองก็เคยลองมา
แล้วแต่ก็ไม่ได้ผล น้องชายมั่นใจรึว่าจะช่วยเขาได้ ?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นจางหยูก็แปลกใจ “พี่เบเกิลก็เคยลองแล้วรึ ?”
จงหรานพยักหน้า “ทาสผู้ควบคุมขั้น 8 นั้นใครบ้างจะไม่ต้องการ ?”
เขามองไปที่จางหยูและสงสัยในความแข็งแกร่งของจางหยู แม้แต่เบ
เกิลก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ ชายหนุ่มคนนี้จะแก้ปัญหาได้จริง ๆ รึ ?
ชายคนนี้เหนือกว่าเบเกิลอีกรึ ?
“จะทำได้รึไม่นั้นก็ต้องลองดู” จางหยูยิ้มออกมา แม้ว่าเขาจะไม่ได้
ให้คำตอบแต่สีหน้าของเขาดูมั่นใจอย่างมาก
ด้วยความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้แล้ว เขาไม่มั่นใจว่าจะทำได้แต่
หากเขาเข้าไปในโลกตันเถียนแล้ว งั้นทุกอย่างก็ไม่ใช่ปัญหา
จงหรานมองไปที่จางหยู เขาไม่สงสัยในความแข็งแกร่งของจางหยู
การที่ได้รับเชิญจากเบเกิลนั้นแน่นอนว่าจางหยูต้องไม่อ่อนแอ แต่
มันไม่ได้หมายความว่าจางหยูจะแกร่งเหนือทุกคน การที่จางหยูจะ
ช่วยเกลดันได้รึไม่นั้นมันเป็นคนละเรื่องกัน
“เจ้าช่วยบอกได้รึไม่ว่าเจ้าแข็งแกร่งระดับไหน ?” จงหรานถามขึ้นมา
จางหยูคิดและพูดขึ้น “ผู้ควบคุมขั้น 8 ระดับสูง”
จงหรานเชื่อและบอกกับฮั่วลี่ทันที “เจ้าได้ยินรึไม่ ? น้องข้าเป็นผู้
ควบคุมขั้น 8 ระดับสูง ! เจ้ารีบเรียกเกลดันมาที่นี่เดี๋ยวนี้”
ฮั่วลี่กดดันขึ้นมา “นายท่าน ข้าไม่ได้คิดขัดขวางอะไร ท่านจางหยูไม่
มีตราผู้ควบคุมขั้น 8 มันไม่มีข้อมูลของเขา แม้ว่าท่านจะยืนยันให้กับ
เขาแต่มันก็ยากที่ท่านเกลดันจะเชื่อได้”
“บันทึกรึ ? งั้นก็ง่าย ๆ” จงหรานพูดขึ้น “เจ้าบอกเขาว่าข้าได้สู้กับเขา
มาแล้วและเสมอกัน แค่นี้เพียงพอรึไม่ ?” จงหรานเชื่อว่าในฐานะ
หัวหน้าสาขาแล้ว ฮั่วลี่ต้องรู้ความแข็งแกร่งของเขา การที่สู้กับเขาได้
ต้องเป็นผู้ควบคุมขั้น 8 ระดับสูง
มุมปากของฮั่วลี่กระตุกและคิดในใจ “เขาโกหกต่อหน้าข้าและคิดให้
ข้าโกหกคนอื่นต่อ…”

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท