ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1660 ภารกิจ

ตอนที่ 1660 ภารกิจ

ตอนที่ 1660 ภารกิจ
จางหยูยังคาดหวังไว้อย่างมากกับโลกป่ า เขาหวังว่าโลกป่ าจะแข็งแกร่ง
ขึ้นไปเรื่อย ๆ เขาหวังว่าคนที่แข็งแกร่งในโกลาหลจะไปพำนักที่โลก
ป่ า เขาหวังว่าโลกป่ าจะเป็นเหมือนโลกสวรรค์ร้าง แต่การจะไปถึง
ระดับนั้นได้ยังเป็นเส้นทางที่ยาวไกล จางหยูต้องพยายามอย่างมาก
ตอนนี้โลกป่ าเหมือนต้นไม้ที่ลงเมล็ดและจำเป็นต้องดูแลอย่างดี
หากมีคนแข็งแกร่งไปรวมตัวที่นั่นมากเท่าไหร่ก็เท่ากับวิถีที่แตกต่าง
กันได้รวมตัวกันที่นั่นและทำให้โลกเติบโตอย่างก้าวกระโดด
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมจางหยูถึงได้บอกพิกัดของโลกป่ าให้กับจาฮาน,
สือซวนและคนอื่น ๆ
ในหมู่ผู้ควบคุมขั้น 8 ระดับสูงแล้ว เขามีความสามารถที่จะดูแลโลก
ป่ าจากอันตรายใด ๆ เขาไม่ต้องกังวลว่าใครจะกล้าทำอะไรที่โลกป่ า
เพราะแบบนั้นเขาถึงกล้าเผยพิกัดของโลกป่ า

วิหารอวี๋ฮุ่น
ไม่ว่าจะเป็นโลกขั้น 9 ไหนก็จะมีวิหารอวี๋ฮุ่นอยู่เสมอ วิหารอวี๋ฮุ่น
นั้นเป็นสถานที่ที่คึกคัก, มีชีวิตชีวาและเจริญที่สุด
ในใจของทุกคนนั้นวิหารอวี๋ฮุ่นคือสถานที่ศักด์ิสิทธ์ิ ไม่ว่าจะผ่านมา
นานแค่ไหนแต่วิหารแห่งนี้ก็ยังยืนหยัดอยู่ได้
วิหารอวี๋ฮุ่นของโลกสวรรค์ร้างก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
เมืองไท่อันคือเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโลกสวรรค์ร้าง ยอดฝีมือมารวมตัว
กันที่นี่มากที่สุด กองกำลังทุกฝ่ายต่างก็ตั้งรกรากกันที่นี่ ที่นี่มองจาก
ภายนอกแล้วดูสงบสุขแต่จริง ๆ แล้วกลับมีการแข่งขันที่ดุเดือด ใน
ทุกวันจะมีกองกำลังที่อ่อนแอถูกทำลายและมีกองกำลังที่กำเนิดใหม่
ขึ้นทุกวัน แม้แต่กองกำลังที่แข็งแกร่งก็ยังต้องเจอกับสถานการณ์
อันตราย มีแค่วิหารอวี๋ฮุ่นเท่านั้นที่ยังยืนหยัดอยู่ได้ พวกเขาเหนือกว่า
ทุกกองกำลัง พวกเขาราวกับพระเจ้า
วิหารอวี๋ฮุ่นนั้นเป็นที่เดียวที่ไม่เคยเกิดปัญหามาก่อน !
ที่นอกเมืองไทอันนั้นมีหลายร่างปรากฏขึ้นมาบนท้องฟ้า
การมาถึงของคนเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ใครสนใจ แม้ว่าจะมีผู้ควบคุม
ขั้นที่ 6 สามคนก็ตาม ทุกคนชินกับผู้ควบคุมขั้นที่ 6 แล้ว พวกเขา
สนใจเรื่องของตัวเองมากกว่า
อู๋ยงเหมือนกับชินสถานการณ์ของเมืองไท่อันแล้ว เขาไม่ได้แปลกใจ
แม้แต่น้อย
เขาเดินนำหน้าทุกคนก่อนที่สุดท้ายจะมาถึงวิหารแห่งหนึ่ง
มันคือวิหารขนาดใหญ่ มีพื้นที่หลายแสนตารางเมตร มันมีประตูหิน
ขนาดใหญ่ด้านหน้าที่สลักคำว่า วิหารอวี๋ฮุ่น !
ประตูหินนี่คงอยู่มาหลายพันปีแล้ว แม้กาลเวลาที่ผ่านไป ก็ไม่อาจจะ
ทำอะไรมันได้!
วิหารแห่งนี้ยืนหยัดอยู่ได้กว่าพันปี มันเกิดสงครามหลายพันครั้งแต่
มันไม่อาจจะทำให้ที่นี่เสียหายได้เลย
เมื่อเดินผ่านประตูหินนั้นมาก็จะพบประตูอีกบาน ประตูนี่คือทางเข้า
จริง ๆ ของวิหาร
ตอนนั้นคนของวิหารได้เดินเข้าออกที่นั่นตั้งแต่ผู้ควบคุมขั้น 1 จนถึง
6 มันถึงกับมีผู้ควบคุมขั้น 7 ด้วย มันต่างจากความโกลาหลภายนอก
ที่ยากจะพบกับผู้ควบคุมขั้น 6 และ 7 ได้
เมื่อเข้าไปในวิหารก็พบกับผู้สร้างและผู้ควบคุมมากมายที่พยายาม
เดินหลีกพวกเขา แม้ว่าพวกนี้จะเป็นผู้ควบคุมขั้น 6 แต่ก็ไม่ได้
หมายความว่าจะกล้าหาเรื่องผู้ควบคุมขั้น 6 คนอื่น ๆ
จางหยูและพวกได้เข้าไปในวิหาร จางหยูรู้สึกเหมือนกับว่าได้เข้ามา
อยู่ในนิยายวิทยาศาสตร์ บนหัวเขามีม่านแสง ม่านแสงเหล่านี้ได้
แสดงตัวหนังสือต่าง ๆ ออกมา
“นายท่าน นี่คือภารกิจสำหรับนายท่าน” อู๋ยงแนะนำ “มันขึ้นอยู่กับ
ขั้นของแต่ละคน”
ภารกิจจะต่างกันไป แม้ว่าจะอยู่ขั้นเดียวกันแต่ก็ยังมีตัวเลือกที่ต่างกัน
ไปด้วย ยกตัวอย่างเช่นผู้ควบคุมขั้น 1 ภารกิจส่วนมากจะเป็นภารกิจ
รวบรวมของ มันต้องใช้คนจำนวนมากเพื่อทำภารกิจนี้ แน่นอนว่า
ทุกคนมีภารกิจย่อยประจำตัวที่ต้องทำในภารกิจนั้น ๆ แต่พวกที่ผ่าน
ภารกิจย่อยได้นั้นมีไม่มาก
ถึงจะเป็นแค่ขั้น 1 ซึ่งต่อจากผู้สร้าง มันดูเหมือนง่ายแต่ไม่ใช่บท
ทดสอบที่ใคร ๆ จะผ่านได้
ในทางกลับกันแล้วมีไม่ถึง 1 ใน 100 จากผู้เข้าทดสอบที่ผ่านภารกิจ
ไปได้สำเร็จ
“มีภารกิจทำคนเดียวรึไม่ ?” จางหยูถามขึ้นมา
“มี” อู๋ยงตอบกลับ “ภารกิจทำคนเดียวนั้นยากกว่าภารกิจแบบกลุ่ม มี
โอกาสผ่าน 1 ใน 100 แต่ภารกิจคนเดียวนั้นมีโอกาสผ่าน 1 ในพัน
พูดโดยทั่วไปแล้วมีแค่คนที่มั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองจริง ๆ
เท่านั้นที่จะทำภารกิจแบบคนเดียว เอาจริง ๆ แล้วภารกิจแบบคน
เดียวน่ะถูกสร้างขึ้นเพื่อผู้ถูกเลือก !”
การจะผ่านภารกิจแบบคนเดียวได้นั้นต้องเหนือกว่าคนทั่วไป บอก
ได้ว่าเป็นผู้ถูกเลือกจากสวรรค์ !
จางหยูพยักหน้า “งั้นก็เลือกภารกิจแบบคนเดียว”
ด้วยความแข็งแกร่งของเขาแล้วเป็นธรรมดาที่จะเลือกภารกิจแบบ
คนเดียวที่ไม่ต้องกังวลว่าภารกิจนั้นจะล้มเหลว
“วิหารอวี๋ฮุ่นที่รับหน้าที่ดูแลภารกิจอยู่ทางนั้น” อู๋ยงคุ้นกับวิหารอวี๋
ฮุ่นดี “ท่านตรงไปที่นั่นแล้วไปพูดคุยกับพวกเขาได้เลย”
จางหยูมองตามและพบมุมห้องที่ดูไร้ผู้คน ที่นั่นมีชายแก่คนหนึ่งนั่ง
อยู่ หากเทียบกับที่อื่น ๆ ที่ดูคึกครื้นแล้ว ที่ที่ชายแก่นั่งอยู่นั้นดูอ้างว้าง
เปล่าเปลี่ยว
ตอนที่เดินเข้ามาในวิหาร จางหยูก็ยังแทบมองไม่เห็นชายแก่แต่เมื่อ
มองดูดี ๆ ก็พบว่าชายแก่คนนี้เป็นผู้ควบคุมขั้น 8 !
แม้ว่าชายแก่จะปกปิดคลื่นพลังเอาไว้จนคนทั่วไปไม่อาจจะรับรู้ได้
แต่การปกปิดของเขาไม่อาจจะรอดสายตาของจางหยูไปได้ “ผู้ควบคุม
ขั้น 8 แต่แสร้งว่าอยู่ขั้น 4 น่าสนใจจริง ๆ” จางหยูมองไปที่ตราบนอก
ของชายแก่และอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ชายคนนี้คือคนที่ดูแล
วิหารอวี๋ฮุ่นสินะ ? มันเรียกเขาอะไรนะ จ้าววิหารใช่ไหม?”
จางหยูเดินตรงเข้าไปหาชายแก่ทันที
การกระทำนี้ทำให้ผู้คนหันมาสนใจ สายตานับไม่ถ้วนแอบจับจ้อง
ไปที่จางหยู
“เด็กนี่เป็นใครกัน ? เขากล้าจะรับภารกิจแบบคนเดียว เขาโด่งดังรึไง ?”
“ฮาฮา มือใหม่ที่หลงตัวเองสินะ”
ทุกคนต่างก็พากันซุบซิบออกมา
ในเวลาเดียวกันชายแก่ก็เห็นจางหยู เขาวางมือจากหนังสือแล้วหัวเราะ
ออกมา “ไอ้หนุ่ม เจ้าจะเข้าทดสอบภารกิจแบบคนเดียวรึ ?”

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท