ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1662 เพิ่งเข้าก็ออกมาซะแล้ว ?

ตอนที่ 1662 เพิ่งเข้าก็ออกมาซะแล้ว ?

ตอนที่ 1662 เพิ่งเข้าก็ออกมาซะแล้ว ?
เมื่อซางอี๋ว์ได้ยินที่ทุกคนพูด นางก็ได้แต่ยิ้มเยาะออกมาเท่านั้น
“คนพวกนี้ต่างหากที่โง่เง่า !” อู๋ยงส่ายหน้า “พวกเขาควรจะดีใจที่
ท่านจางไม่ใส่ใจ ไม่งั้นแล้วพวกนี้คงไม่รอดแน่ …”
ภารกิจขั้น 1 มันมีอะไรพิเศษ ?
ภารกิจนี้ง่ายไม่ต่างอะไรจากการดื่มน้ำสำหรับจางหยู
ภารกิจในโลกสวรรค์ร้างนั้นไม่มีภารกิจไหนที่จะสามารถหยุดจางหยู
ได้เลย
ถึงจะเป็นภารกิจขั้น 1 รึ 7 ก็ไม่ต่างกันสำหรับจางหยู !
สำหรับภารกิจขั้น 8 แล้ว วิหารอวี๋ฮุ่นนั้นไม่มีสิทธ์ิที่จะทดสอบผู้
ควบคุมขั้น 8 หากต้องการรับภารกิจทดสอบขั้น 8 แล้วก็ต้องไปยัง
โลกที่แข็งแกร่งกว่านี้
ชายแก่มองไปยังแผ่นหลังของจางหยูด้วยความสนใจ “ข้าไม่ได้เจอ
คนน่าสนใจแบบนี้มานานมากแล้ว”
เขามองไปที่ซางอี๋ว์, อู๋ยงและคนอื่น ๆ ก่อนจะครุ่นคิด “ผู้ควบคุมขั้น
6 สามคนและขั้น 4 อีกหนึ่งคน คนพวกนี้ดูแข็งแกร่ง ดูเหมือนว่า
หัวหน้าของพวกเขาเองก็คงไม่อ่อนแอ !”
แต่ไม่ว่าหัวหน้าจะแข็งแกร่งแค่ไหนแต่เมื่ออยู่ในวิหารแห่งนี้แล้ว
ไม่ว่าจะเป็นมังกรก็ไม่ต่างอะไรจากหนอน
“เด็กนี่…” ชายแก่ส่ายหน้า “ราวกับลูกเสือที่ไม่กลัวอะไร !”
ในตอนที่ทุกคนพูดคุยกันนั้น จางหยูก็ได้เดินไปที่ประตูหลังพร้อม
กับภาพตรงหน้าที่เปลี่ยนไป
มันกลายเป็นลานขนาดใหญ่ที่คนหลายร้อยคนยืนอยู่ ตอนนั้นมีบาง
คนเดินไปมา ส่วนมากแล้วมักมีท่าทีที่สลดและผิดหวัง
“นี่คือทางเข้าของโลกวิหารรึ ?” จางหยูมองไปยังช่องทางที่ยื่นไป
ตรงหน้า
มันมีผู้สร้างอยู่จำนวนมาก ส่วนใหญ่แล้วล้วนแต่เข้าร่วมภารกิจแบบ
กลุ่ม และคนแบบจางหยูนั้นมีไม่มาก
ตอนนั้นทุกคนตัดสินได้ว่าจางหยูเพิ่งจะเข้าร่วมเป็นครั้งแรก !
ที่อกของจางหยูนั้นไม่มีตราอยู่ ดังนั้นทุกคนก็คิดได้ว่าจางหยูมา
ทดสอบภารกิจขั้น 1 !
“ไม่มีใครผ่านภารกิจคนเดียวมาหลายปีแล้ว ข้าสงสัยว่าเขาจะทำ
สำเร็จรึไม่ ?”
“มีใครรู้จักเขารึไม่? คนที่กล้ารับภารกิจคนเดียวแบบนี้ เขาไม่น่าจะ
ใช่คนธรรมดา…”
ทุกคนพากันมองหน้า แต่ก็ไม่มีใครรู้จักจางหยูเลยแม้แต่คนเดียว
“ข้าเองก็เคยรับภารกิจมาทำคนเดียวเหมือนกัน แต่…” ชายหนุ่มคน
หนึ่งยิ้มออกมาอย่างขมขื่นก่อนจะส่ายหน้า “ตอนนั้นมีหลายคน
หัวเราะเยาะข้า ความยากของภารกิจที่ต้องทำคนเดียวน่ะยากจนไม่
อาจจะเอาภารกิจแบบกลุ่มมาเทียบได้ ข้าถึงกับได้ยินว่าหลายคนที่
เข้าทดสอบภารกิจด้วยตัวคนเดียวแบบนี้ต่างก็ล้มเหลว ข้าไม่รู้เลยว่า
เขาเอาความกล้ามาจากไหนถึงรับภารกิจนี้”
เขาคือหนึ่งในไม่กี่คนที่ผ่านการทดสอบไปได้
ตอนนั้นจางหยูได้เดินไปยังช่องทางตรงหน้า ตอนที่กำลังจะเดินเข้า
ไปในช่องทางนั้นอยู่ ๆ เขาก็หยุดเพราะมีคนมาขวางทางเขาไว้
นี่คือชายหนุ่มที่มีท่าทีเยือกเย็น สายตาเขาดูมั่นใจในตัวเองอย่างมาก
ชายหนุ่มคนนั้นมองไปที่จางหยู ก่อนจะถามขึ้นมา “เจ้าจะเข้าร่วม
การทดสอบด้วยตัวคนเดียวจริงรึ ?”
เขาเองก็เคยเข้าร่วมภารกิจแบบเดียวกันนี้มาก่อน
บัตรหยกในมือเขาพิสูจน์ได้ว่าเขาไม่ได้ทำลายบัตรหยกเพื่อเดินทาง
ออกมาจากโลกวิหาร เขาผ่านการทดสอบแล้วค่อยถูกส่งออกมา !
“นั่นเขา ! ฉินเฟย !” คนในลานจำชายหนุ่มคนนั้นได้และตะโกน
ออกมา “เขาผ่านการทดสอบ !”
“เขาโดนขังอยู่หลายแสนปีไม่ใช่รึ? ข้านึกว่าเขาตายไปแล้ว…คิดไม่
ถึงจริง ๆ ว่าสุดท้ายก็ออกมาจนได้ !”
“โลกสวรรค์ร้างมียอดฝีมือเพิ่มขึ้นมาแล้ว !”
“ฉินเฟย จำชื่อนี้ไว้ให้ดี แม้ว่าเขาจะเพิ่งเป็นผู้ควบคุมขั้น 1 แต่ใน
อนาคตชื่อเสียงของเขาต้องโด่งดังเป็นแน่ หวังว่าเขาจะเป็นตำนาน
ได้แบบท่านหลินหลาง, ท่านจาฮานและท่านสือซวนได้!”
ในสายตาของทุกคน หลินหลาง, จาฮานและสือซวนคือตำนาน !
ทุกสายตาพากันจับจ้องไปที่ฉินเฟยราวกับว่านี่คือดาวรุ่งพุ่งแรงคน
ใหม่ !
ฉินเฟยมองไปที่จางหยูแล้วถามขึ้นมาด้วยความสงสัย “เจ้าเข้าร่วม
ภารกิจไหน ?”
“ภารกิจระดับ 3” จางหยูยิ้มออกมา เขาไม่ได้ดูถูกระดับการบ่มเพาะ
ที่ต่ำของฉินเฟย “เจ้าล่ะ ?”
“ระดับ 3 รึ ?” ฉินเฟยชะงัก แม้เขาจะคิดว่าจางหยูนั้นคล้ายคลึงกับ
เขาแต่เขาก็ไม่คิดว่าจางหยูจะเลือกรับภารกิจระดับ 3 มา “ความยาก
ของภารกิจระดับ 3 นั้นสูงอย่างมาก แม้แต่ข้าก็ยังไม่มั่นใจว่าจะผ่าน
ได้ ไม่สิ ควรจะบอกว่าหากข้าเข้าทดสอบ ข้าต้องล้มเหลวอย่าง
แน่นอน !” เขามองไปที่จางหยูแล้วพูดขึ้น “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเอาความ
กล้าและความมั่นใจมาจากไหน แต่ข้าแนะนำว่าเจ้าควรเลือกภารกิจ
ระดับอื่นที่ต่ำกว่านี้นะ”
“ไม่เป็นไร” จางหยูหัวเราะออกมา “ข้าพอแข็งแกร่งอยู่ มันไม่น่าจะ
เป็นปัญหาอะไรมาก”
ฉินเฟยมองไปที่จางหยูแล้วพูดขึ้น “ข้าคิดว่าข้ามั่นใจในตัวเองแล้ว
ไม่คิดเลยว่าจะมีคนที่มั่นใจมากกว่าข้าได้ ขอให้เจ้าโชคดีก็แล้วกัน”
“ฮ่าฮ่า ขอบคุณ” จางหยูยิ้มออกมา จากนั้นเขาก็หันกลับและเดิน
ออกไปทันที
ฉินเฟยมองไปที่ทางเข้า ความดีใจกับการผ่านภารกิจมาได้ของเขา
นั้นหายไปฉับพลัน เมื่ออีกฝ่ายเลือกรับภารกิจระดับ 3 เขาที่ผ่าน
ภารกิจระดับ 1 มาควรจะดีใจรึไง ?
คนรอบข้างไม่คิดแบบนั้น พวกเขาคิดว่าจางหยูนะแสร้งทำเป็น
แข็งแกร่ง ภารกิจระดับ 3 ถือว่าเป็นภารกิจที่ยากที่สุด มีแค่คนเดียวที่
ผ่านภารกิจระดับ 3 มาได้ คนนั้นคือราชาดาบในตำนาน หลินเป่ ย
ชาน แม้แต่หลินเป่ ยชานในตอนที่เข้าร่วมภารกิจขั้น 1 ระดับ 3 ครั้ง
แรกก็ยังล้มเหลว เขาผ่านในครั้งที่สองอย่างยากลำบาก จากนั้นเขาก็
ผ่านภารกิจขั้น 2, 3 …จนถึงขั้น 7 ในระดับ 3 ทั้งหมด
นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่หลินเป่ ยชานได้กลายเป็นตำนาน !
“เขาจะผ่านรึไม่ ?” ฉินเฟยมองไปที่ทางเข้า เขามองอยู่สองวินาที
ก่อนจะยิ้มออกมา “ข้าคิดบ้าอะไรอยู่ ! ภารกิจระดับ 3 น่ะมันผ่าน
ง่าย ๆ รึไง ?”
เขาส่ายหน้าและคิดจะเดินกลับออกไป แต่เขายังไม่ทันได้ละสายตา
จากช่องทางนั้นก็พบว่าจางหยูได้กลับมาแล้ว ใบหน้าของจางหยู
ยังคงมีรอยยิ้มอยู่เช่นเดิม
ฉินเฟยแปลกใจ “เจ้ากลับมาแล้วรึ ? เจ้าไม่เข้ารับการทดสอบแล้วรึ ?”
คนโดยรอบพากันมองไปที่จางหยูด้วยความสับสน พวกเขาไม่เข้าใจ
ว่าเกิดอะไรขึ้น จางหยูเข้าไปในโลกวิหารแล้วรู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจ
แบบนี้ก็เลยออกมางั้นรึ?
ทุกคนยังไม่ทันได้สติและคิดว่าจางหยูเปลี่ยนใจไม่เข้ารับการทดสอบ
“การทดสอบจบแล้ว ข้าจะอยู่ที่นั่นต่อทำไม ? “จางหยูส่ายหน้า “ข้า
ไม่อยากเสียเวลาในนั้นมากนัก…”
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นฉินเฟยก็ต้องตะลึง คนโดยรอบเองก็เช่นกัน
ฉินเฟยมองไปที่จางหยูด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ “นี่มันเรื่องอะไร ! เจ้าไป
ที่นั่นนานเท่าไหร่ ? 2 วินาทีรึ 3 วินาทีกัน ?”
แค่ไม่กี่วินาที จางหยูก็ผ่านภารกิจระดับ 3 ได้แล้วรึ ?
“ข้าบอกแล้วไม่ใช่รึไงว่าข้าเองก็แข็งแกร่งอยู่ ภารกิจนี้ไม่น่าจะเป็น
ปัญหา” จางหยูเผยรอยยิ้มใสซื่อออกมา “แต่ต้องขอบคุณความง่าย
ของมัน เมื่อเข้าไปไม่กี่วินาทีก็พบกับผู้ควบคุมทั้ง 3 คนทันที ไม่งั้น
แล้วข้าคงไม่ผ่านการทดสอบเร็วแบบนี้”
เมื่อได้ยินแบบนั้นฉินเฟยและคนรอบข้างก็แทบกระอักเลือดออกมา
ภารกิจระดับ 3 มันง่ายรึไง ?
เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนก็พูดอะไรไม่ออก

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท