ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่31

บทที่31

บทที่31 คุณรังเกียจฉันหรือ

?

เจียงสื่อสื่อตกใจจนสำลักน้ำลายตัวเอง เธอไอแรงมาก เธอเริ่ม สงสัยว่าเธอหูฝาดไปรึเปล่า เธอพูดอย่างไม่กล้าเชื่อหูตัวเองว่า “นาย…นาย…นี่นายพูดอะไรเนี่ย?”

จิ้นเฟิงเฉิน นั่งนิ่งๆ เขาพูดอีกรอบโดยไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร ออกมาว่า “ฉันบอกว่า แต่งงานกับฉันนะ”

เจียงสื้อสื่อรู้สึกตกใจเล็กน้อย เธอคิดในใจว่า ทำไมอยู่ดีๆ ถึงมา พูดอะไรน่าตกใจแบบนี้ล่ะ?

อีกอย่างๆ อยู่ดีๆ มาขอแต่งงาน นี่บ้าไปแล้วหรือ?

“คุณจิ้นคะ ..อย่าล้อกันเล่นเลยนะคะ ไม่ค่อยตลกเลยฮ่าๆ”

เจียงสื่อสื่อยิ้มแห้งๆ แล้วพูดกับเขา เธอจ้องไปที่เขา หวังว่าเขา จะแสดงสีหน้าที่ล้อเธอเล่นออกมา แต่ว่ามันไม่มีเลย!

“ฉันจริงจังมาก” จิ้นเฟิงเฉินพูดอย่างจริงจัง

เจียงสื่อสื่อรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย เธอคิดในใจว่า : อยู่ดีๆ นาย มาจริงจังอะไรกัน เราเพิ่งรู้จักกันไม่กี่วันเอง นายก็คิดไปถึงขั้น แต่งงานแล้วหรือ!

เธอบังคับตัวเองให้ใจเย็นลง เธอถามจิ้นเฟิงเฉินว่า “คือว่า…..คุณ จิ้นคะ ทำไมอยู่ดีๆ คุณถึงคิดตัดสินใจแบบนี้ล่ะคะ?”

เรื่องแต่งงานนี่มันเรื่องใหญ่นะ แต่ทำไมเขาถึงพูดออกมาง่ายๆ แบบนี้?

จิ้นเฟิงเฉินไม่รู้จะตอบยังไง

ตอนนี้เขาพูดเรื่องนั้นออกมา เขาไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆ มันเป็น ความวู่วามของเขา

แต่ตอนนี้มีเวลาคิดแล้ว แต่เขาก็ยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงมีความคิดแบบนั้นขึ้นมา

อีกอย่างเขาไม่เคยขอใครแต่งงานมาก่อน ตอนนี้เขาเริ่มรู้แล้วว่า มันไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ที่เขาพูดออกไปพรำๆ แบบนี้

บรรยากาศเงียบลงทันทีทันใด

เจียงสื่อสื่อกลับไม่ตื่นเต้นขนาดนั้นแล้ว เธอนั่งรอคำตอบของ จิ้นเฟิงเฉินอย่าเงียบๆ ตั้งนานก็ไม่เห็นเขาตอบอะไรเธอมา เธอมองหน้าเขาด้วยความ

สงสัย “ฉันว่าคุณจิ้นคงไม่ได้ขอฉันแต่งงานเพราะเสี่ยวเป่าใช่ไหม

คะ?”

จิ้นเฟิงเฉินอึ้งไปสักพักแล้วตอบ “คง… เพราะแบบนั้นแหละ”

เมื่อกี้เห็นเธออุ้มเสี่ยวเป่าไว้ มันช่างดูอบอุ่นเหลือเกินเลยทำให้ เขาอดใจไม่ไหว

พอเจียงซื้อสื่อรู้เข้า เธอก็หัวเราะออกมาพร้อมพูด “คุณจี้น ไม่ ต้องขนาดนั้นก็ได้ค่ะ ที่ฉันคอยดูแลเสี่ยวเป่าเพราะว่าฉันชอบเสี่ยวเป่า จริงๆ ฉันไม่ยากเห็นเขาเสียใจ ไม่อยากให้เขาโดนทำร้ายฉันก็เลยทำ แบบนี้ ฉันไม่เคยหวังว่าจะได้อะไรมาตอบแทน ละก็ไม่ได้อยากจะขอ ให้คุณ….มารับผิดชอบด้วยค่ะ”

พอจิ้นเฟิงเฉินได้ยินเช่นนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไป “นี่เธอรังเกียจฉัน หรอ?”

เจียงสื้อสื่อรีบตอบกลับไปอย่างตกใจว่า “ไม่ใช่ค่ะไม่ใช่…. ฉันจะรังเกียจคุณได้ไง? คนมีระดับอย่างคุณ แค่ทั้งเมืองจิ๋นก็มีผู้หญิง ที่อยากแต่งงานกับคุณจนนับไม่ถ้วนแล้ว ฉันมีสิทธิ์อะไรไปรังเกียจ คุณล่ะคะ?”

“แล้วทำไมเธอถึงปฏิเสธฉัน?”
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าเขาไม่ค่อยดีใจเท่าไหร่

เจียงซื้อสื่อเองก็แอบตกใจ เธอค่อยๆ ตอบอย่างระวัง “นี่ …นี่ยัง ต้องถามกันอีกหรอคะ? ก็เพราะว่ามันดูเป็นไปไม่ได้นะสิ อย่างอื่นเรา ยังไม่ว่ากัน เอาแค่เรื่องแต่งงานละกันนะ แต่งงานเป็นเรื่องใหญ่เกี่ยว พันไปกับเรื่องหลายๆ อย่าง มันไม่ได้ง่ายที่คุณพูดนะ”

จิ้นเฟิงเฉินยิ่งขมวดคิ้วเข้าไปใหญ่ “เช่น ?”

“เช่น เจ้าสาวกับเจ้าบ่าวก็ต้องรู้จักอีกฝ่ายก่อน แล้วค่อยๆ คบกัน ให้มั่นคง สุดท้ายค่อยดูครอบครัวทั้งสองฝ่ายว่าโอเคกันไหม แล้วถึง จะเข้าเรื่องแต่งงานได้ ฉันว่าคุณคงไม่ทราบว่าสังคมสมัยนี้ มีคู่รักที่ กำลังจะแต่งงานแต่ดันมาเจอการขัดขวางของครอบครัวไปแล้วกี่คู่ สุดท้ายก็ต้องแยกจากกันเพราะพ่อแม่ไม่เห็นด้วย ยิ่งครอบครัวที่เป็น ตระกูลใหญ่ๆ อย่างตระกูลจิ้น เรื่องที่เขาแคร์ที่สุดก็เรื่องของการ เหมาะสมกันทั้งทางฐานะและด้านอื่นๆ ของทั้งสองครอบครัว เพราะ ฉะนั้น….ฉันรู้สึกว่า เรา .เราสองคนเหมือนจะเป็นไปไม่ได้”
เจียงสื่อสื่อพูดอย่างมีเหตุผล สุดท้ายเสียงเธอก็ค่อยๆ เบาลง เรื่อยๆ จนแทบไม่ได้ยิน ไม่ใช่เพราะเธอกลัวหรืออะไร แต่เพราะว่า สีหน้าของจีนเฟิงเฉินตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เหมือนวันที่มีฝนฟ้าคึก คะนอง ทำให้คนที่เห็นรู้สึกกลัวไปด้วย

แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้

ก็เธอพูดไปแล้วนี่ จะให้เอาคืนมาก็ทำไม่ได้

ขณะที่เธอกำลังคิดมากอยู่นั้น ผู้ชายคนนั้นก็พูดขึ้นมา “เรื่องที่ พ่อแม่มาขัดขวาง ฉันไม่มีวันให้มันเกิดขึ้นแน่นอน คนที่ฉันซอบก็ต้อง เป็นของฉัน ไม่ว่าใครมาขัดขวางก็ห้ามฉันไม่ได้”

เจียงสื่อสื่อตกใจกับสิ่งที่เขาพูด คิดในใจมาก ใช่สิ นายเก่ง นาย

สุดยอด

“แต่ว่า…มีเหตุผลอื่นอีก” เธอตอบไปด้วยเสียงเบาๆ

จิ้นเฟิงเฉินพูดต่อว่า “สำหรับฉันแล้ว ไม่ว่าเหตุผลอะไรไม่ใช่ เหตุผลทั้งนั้น มีแค่เธอยอมหรือไม่ยอม” เจียงสื่อสื่อจะเป็นบ้า ทำไมพูดไปพูดมามันวนกลับมาที่เดิมอีก

แล้วเนี่ย
ที่จริงแล้ว เธอไม่ใช่คนที่ความคิดตายตัวขนาดนั้น ถ้าเจอคนที่ ชอบ อย่างว่าแต่ความเหมาะสมเลย ถึงแม้ว่าต้องสู้ตายไปกับอีกฝ่าย เธอก็ยอม

แต่ว่า …หลังจากเรื่องที่เกิดเมื่อ5ปีก่อน เธอก็เริ่มไม่กล้าที่จะ หวังเกี่ยวกับเรื่องความรักแล้ว ขนาดหลานซือเฉินที่โตมาด้วยกันตั้ง แต่เด็กๆ ยังรังเกียจเธอเลย ผู้ชายคนอื่นจะกล้าคบเธอได้ยังไง

แล้วคนแบบจิ้นเฟิงเฉินยิ่งไม่ต้องคิดเลย ถ้าอนาคตเขามารู้เข้า ก็ คงรับไม่ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเธอไม่มีทางตอบตกลงแน่นอน แต่ว่าตอนนี้เธอไม่กล้าพูดปฏิเสธเขาอีก เพราะสีหน้าเขาดูไม่ดี

เลย

เธอก็เลยเปลี่ยนเรื่องคุยแทน “คือว่า คุณจิ้นคะ เสี่ยวเป่าหลับไป แล้ว ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ คุณก็พักผ่อนเยอะๆ นะคะ”
พอพูดจบเธอก็รีบลุกขึ้น เตรียมวางเสี่ยวเป่าลงที่เดียง

จั้นเฟิงเฉินยื่นมือไปห้ามเธอได้ แล้วพูดว่า “อุ้มไปไว้ที่อีกห้องละ กัน ห้องนี้รกเกินไป เดี่ยวฉันให้คนมาเก็บกวาดก่อน”

เจียงซื้อสื่อตกใจแล้วรีบดึงมือกลับพร้อมพูดว่า “ค่ะ งั้น..ไป กันเถอะ”

พอพูดจบเธอก็หันกลับไป ไม่กล้าหันมามองเขาอีก จิ้นเฟิงเฉินมองเธออย่าเงียบๆ สีของดวงตาเขาเป็นเหมือนหมึกสี

ดำที่อยู่รวมกัน ครั้งแรกในชีวิตที่ขอแต่งงาน แต่ดันจบด้วยการโดนปฏิเสธ ถ้า คนอื่นรู้เข้าต้องอายแน่เลย

แต่ว่าจิ้นเฟิงเฉิน

ไม่ได้รู้สึกโกรธ

แน่นอนว่าผู้หญิงที่เขาชอบต้องไม่เหมือนใคร อีกอย่างคืนนี้เขา รีบเกินไปจริงๆ เพราะฉะนั้นก็สมน้ำหน้าที่โดนปฏิเสธ

เขาหายใจเข้าลึกๆ จัดการกับความไม่สบายใจของตัวเอง แล้ว ค่อยเดินตามเธอไปที่อีกห้องหนึ่ง
ที่นี่เป็นห้องของเขาก็เลยกว้างกว่าห้องอื่นๆ หน่อย โทนสีห้องนี้

ส่วนใหญ่เป็นสีมืด แต่ว่ามาจัดห้องนั้นมีสไตล์ ในห้องมีบาร์เล็กๆ ตู้เก็บ เหล้า โซฟา เครื่องชงชา กับเตียงที่ใหญ่และห้องเสื้อผ้า ห้องอาบน้ำ เป็นห้องที่เป็นส่วนตัวมากๆ นี่มันห้องแบบวีไอพีของโรงแรมที่ไว้ สำหรับระดับประธานชัดๆ เลย ดู

เจียงสื้อสื่อแอบคิดในใจ รวยจริงๆ เลย เธอวางเสี่ยวเป่าลงบน เตียงพร้อมห่มผ้าให้ พอทุกอย่างเสร็จเธอก็ได้บริหารร่างกายนิด หน่อยๆ บิดขี้เกียจแล้วพูดต่อว่า “โอเค รอบนี้น่าจะได้หลับสบายแล้ว แหละ”

“คืนนี้ขอบคุณมากเลยนะครับ เหนื่อยแย่เลยใช่ไหม”

จิ้นเฟิงเฉิน มองเธอแล้วพูด

เจียงซื้อสื่อส่ายหน้าพร้อมยิ้ม “ไม่เหนื่อยค่ะ เรื่องเล็กนิดเดียว เอง งั้น….ถ้า….ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”
จิ้นเฟิงเฉินดูออกว่าเธออยากหนี ก็เลยไม่อยากให้เธอไป เขาก็ เลยบอกว่า “ตอนนี้ดึกแล้ว เธอนอนนี่แหละ เธอนอนห้องนี้กับเสี่ยวเป่า เดี๋ยวฉันไปนอนห้องรับแขก วันนี้เขาโดนน้ำเย็นมาแล้วก็อยู่ในห้อง แอร์ตอนดึกเขาอาจจะเป็นไข้ ฉันกลัวว่าเขาตื่นมาแล้วจะร้องหาเธอ” แต่นี่มันห้องนายนะ

แล้วเตียงนั้น…..เขาอาจจะนอนมาแล้ว แบบนี้ไม่ค่อยดีมั้ง

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท