บทที่ 54 อย่าคิดจะหนีฉันอีก
เจียงสื้อสื้อนั่งที่โต๊ะอาหาร สักพักเสี่ยวเป่าก็เดินลงมาจากห้อง
“น้าสื้อสื้อครับ ยังไม่ไปหรอครับ? เสี่ยวเป่าคิดว่าน้าหนีกลับไปตอนผมหลับแล้วซะอีก”
“จะเป็นไปได้ไงล่ะคะ?” เจียงสื้อสื้อยิ้มพร้อมตอบ
หลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จ เขาสามคนก็ออกจากบ้านไป
จิ้นเฟิงเฉินส่งเสี่ยวเป่าไปที่โรงเรียนก่อน แล้วค่อยส่งเจียงสื้อสื้อไปที่บริษัท
เสี่ยวเป่า นั่งข้างๆ เจียงสื้อสื้อ เขาดูมีความสุขมาก
“น้าสื้อสื้อกับแดดดี้ส่งผมไปโรงเรียนด้วยกัน ผมมีความสุขมากนะครับ”
เจียงสื้อสื้อเห็นรอยยิ้มบนหน้าเขา เธอก็แอบยิ้มตามเขาไปด้วย
“เสี่ยวเป่าอยู่ที่โรงเรียนเป็นไงบ้าง?” เธอเอ่ยปากถาม
“ผมเป็นเด็กดีมากเลยนะครับ คุณครูชมผมบ่อยด้วย” เหมือนเสี่ยวเป่านึกอะไรบางอย่างออก แล้วเขาก็หันไปถามจิ้นเฟิงเฉินที่กำลังขับรถอยู่ว่า “แดดี๊ครับ อีกสองสามวันที่โรงเรียนเขาจัดกิจกรรมให้เข้าร่วม คุณครูบอกว่าให้พาคุณพ่อกับคุณแม่มาด้วยน่ะครับ….”
ปกติจิ้นเฟิงเฉินยุ่งมาก พอเจองานแบบนี้ทีไร พ่อแม่เขาเป็นคนเข้าร่วมตลอด แต่ครั้งนี้พอเขาได้ยินเช่นนี้ เขาก็เงียบไปสักพัก เหมือนว่าเขาเองยังไม่เคยมาร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนจัดให้เลย เขาหันไปมองเจียงสื้อสื้อสักพัก
เจียงสื้อสื้อเกร็งมาก อย่าบอกนะว่าจะชวนฉันไปร่วมกิจกรรมกับเขาน่ะ?
แต่เธอไม่ใช่แม่ของเสี่ยวเป่านะ ถ้าเธอไปมันจะอึดอัดไหม?
จิ้นเฟิงเฉินดูออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ก็เลยเอ่ยปากว่า “บอกเวลาให้พ่อหน่อย เดี๋ยวพ่อจะหาเวลาไปเข้าร่วมนะ”
เสี่ยวเป่าดีใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน มีแค่แดดดี๊ที่ไปกับเขาหรอ?
“เพื่อนคนอื่นๆ เขามีพ่อกับแม่มาร่วมกิจกรรมหมดเลย”
พอเห็นหน้าตาที่เศร้าหงอยของเสี่ยวเป่า เจียงสื้อสื้ออดเห็นใจไม่ไหว แต่ก็ไม่รู้ควรพูดอะไรดี
เสี่ยวเป่าเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสารว่า “น้าสื้อสื้อ น้าช่วย……….” ไปเป็นเพื่อนเสี่ยวเป่า ยังพูดไม่ทันจบก็พ่อโดนขัดว่า
“จิ้นเป่ยเฉิน!”
จิ้นเฟิงเฉินเรียนชื่อเต็มของเสี่ยวเป่าเพื่อเป็นการเตือน
เสี่ยวเป่าตกใจจนไม่กล้าพูดอะไรต่อ เขาก้มหน้าไว้ดูน่าสงสารมาก
เขาก็อยากมีแม่เหมือนกัน……………
ขอบตาของเจ้าเด็กน้อยแดงไปหมด เจียงสื้อสื้อรู้สึกเสียงใจเล็กน้อย เธอเริ่มรู้สึกผิดต่อเสี่ยวเป่า ความรู้สึกแปลกๆ นี้มาจากไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน
มันทำให้เธอคิดถึงลูกของตัวเอง ตอนนี้เขาสบายดีไหมนะ กิจกรรมที่โรงเรียนจัดเขามีแม่ไปเข้าร่วมด้วยรึเปล่า?
ผ่านไปสักพัก เจียงสื้อสื้อทนไม่ไหวแล้ว ก็เลยพูดขึ้นมาว่า “ได้นะคะ ถ้า เสี่ยวเป่าไม่รังเกียจน้า เดี๋ยวน้าไปร่วมงานเป็นเพื่อนดีไหม?”
พอได้ยินเช่นนี้ สายตาที่เศร้าหงอยของเสี่ยวเป่าก็กลับมามีความสุขอีกที
“จริงหรอครับ? น้าสื้อสื้อยอมไปกับเสี่ยวเป่าใช่ไหมครับ?”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้าตอบกลับ แต่เธอไม่กล้าที่จะสบตากับจิ้นเฟิงเฉิน
เสี่ยวเป่าอมยิ้วเล็กน้อย เขาดูมีความสุขมาก
จิ้นเฟิงเฉินก็มองสองคนนั้นจากกระจก สายตาของเขาอบอุ่นมาก
สักพักพวกเขาก็มาถึงที่โรงเรียน เสี่ยวเป่าแยกกับสองคนนั้นด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข
“สวัสดีครับแดดดี๊ สวัสดีครับน้าสื้อสื้อ
พอพูดจบ เสี่ยวเป่าก็เข้าโรงเรียนกับคุณครูไป
……………………….
พวกเขากลับไปที่รถ จิ้นเฟิงเฉินส่งเจียงสื้อสื้อไปที่บริษัท เขาบอกกับเธอว่า “ขอบคุณที่ยอมเข้าร่วมกิจกรรมกับเสี่ยวเป่านะ นานแล้วที่เขาไม่ได้มีความสุขแบบนี้”
ก็จริงที่หลังจากที่เจอเจียงสื้อสื้อ เสี่ยวเป่าก็ดูเปลี่ยนไปมาก
พอได้ยินเช่นนี้ เจียงสื้อสื้อก็ยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ แม่ของเสี่ยวเป่าล่ะ? หรือว่าเธอไม่ได้อยู่กับเสี่ยวเป่าตั้งแต่เขาเกิดมาแล้ว?
ถึงแม้ว่าเธอสงสัยมาก แต่เจียงสื้อสื้อก็ไม่ได้ถามออกมา แต่กลับยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เสี่ยวเป่ามีความสุขก็ดีแล้ว”
“อื้ม” จิ้นเฟิงเฉินตอบ
ทั้งคู่เงียบไปสักพัก บรรยากาศในรถก็แปลกๆ
เจียงสื้อสื้อเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี ไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆ ภาพที่ลานจอดรถเมื่อวานก็โผล่ขึ้นมาในหัวเธอ
ถ้าเมื่อวานเธอไม่ได้ผลักจิ้นเฟิงเฉินออก มันจะเกิดอะไรขึ้น?
เจียงสื้อสื้อคิดไปไกลมาก
หูเธอเริ่มแดงขึ้นมา สายตาเธอมองไปทางหน้าต่างไม่อยู่กับเนื้อกับตัว นี่ฉันคิดอะไรกันเนี่ย เจียงสื้อสื้อรีบเรียกสติตัวเองกลับมา พยายามทำให้ตัวเองไม่คิดไปไกล
แต่ว่า….มันไม่ได้ผล
เจียงสื้อสื้อรู้สึกตัวเองเหมือนโดนของ ในหัวเธอมีแต่จิ้นเฟิงเฉินเต็มไปหมด ทำไมยังไม่ถึงบริษัทสักทีเนี่ย?
จิ้นเฟิงเฉินเห็นสีหน้าท่าทางเธอแล้วก็อมยิ้มเล็กน้อย เธอกำลังคิกอะไรอยู่นะ?
สุดท้ายก็มาถึงที่บริษัทจิ่นซื่อ เจียงสื้อสื้อรีบลงจากรถเหมือนถูกปลดปล่อย จิ้นเฟิงเฉินเองก็ตามลงมาด้วย
“คุณจิ้น ขอบคุณที่ส่งฉันมานะคะ ฉันไปก่อนนะ คุณขับรถระวังด้วยนะคะ”
พอพูดจบเจียงสื้อสื้อ เตรียมเดินไป แต่จิ้นเฟิงเฉินคว้ามือเธอไว้
เจียงสื้อสื้อตกใจเล็กน้อย เธอมองหน้าเขาแล้วถามต่อว่า “มี…..มีอะไรหรอคะ?”
เขาอยากทำอะไรอยากพูดอะไรอีก?
จิ้นเฟิงเฉินค่อยๆ พูดต่อว่า “ยังจะหลบหน้าฉันอีกหรอ?”
เธอไม่ได้หลบหน้าเขานะ!
เจียงสื้อสื้อทำอะไรไม่ถูก เธอไม่ได้พูดอะไร เสียงของผู้ชายคนนั้นดังขึ้นอีกรอบว่า
“ทั้งๆ ที่เธอจากเสี่ยวเป่าไปไม่ได้ และทิ้งฉันไปไม่ได้ ถ้าเธออยากจะตัดขาดจริงๆ เมื่อวานก็ไม่น่าส่งฉันกลับบ้าน”
ห้ะ? เจียงสื้อสื้อมองหน้าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าแบบอึ้งๆ นี่ไปส่งเขาถึงบ้านก็ผิดหรอ?
“ไหนๆ ก็ส่งฉันกลับบ้านแล้วก็อย่าคิดจะหนีฉันอีกเลย”
จิ้นเฟิงเฉินพูดเน้นทีละคำ แล้วก็จ้องไปที่เธอ
พอพูดจบเจียงสื้อสื้อยังไม่ทันรู้ตัว ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าก็กอดเธอไว้
หัวเธอพิงไปที่อกของเขา เจียงสื้อสื้องงขึ้นมาทันที
“เจียงสื้อสื้อ เราอย่าตัดขากันเลยนะ ได้ไหม?”
เสียงของเขาดังมาที่ข้างๆ หูเธอ เจียงสื้อสื้อไม่รู้สึกอะไรเลย แต่เธอแค่รู้สึกว่าเธอลืมหายใจ
ผ่านไปสักพักเธอถึงรู้สึกตัว เธอไม่กล้าเงยหน้ามองจิ้นเฟิงเฉิน แต่พูดอย่างติดๆ ขัดๆ ว่า “จะสายแล้วนะ ฉัน…..ฉันของเข้าไปทำงานก่อน”
พอพูดจบ เจียงสื้อสื้อก็เดินจากไป
จิ้นเฟิงเฉินยืนอยู่ที่เดิม เห็นเธอที่หนีไปแบบนี้เขายิ้มออกมา ขี้กลัวจริงๆ เลย
พอเธอหายไปจากสายตา จิ้นเฟิงเฉินถึงจะขึ้นรถแล้วออกไป
เจียงสื้อสื้อไม่รู้ว่าตัวเองเดินเข้าที่บริษัทได้ยังไง ใจเธอเต้นเร็วมาก แถมหน้ายังร้อนอย่าควบคุมไม่ได้ เธอน่าจะกำลังเป็นบ้า
แต่ว่าเสียงของจิ้นเฟิงเฉินกับสายตาที่ทำให้ไม่สามารถปฏิเสธได้นั้น….. เธอกลัวจริงๆ ว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เธอจะห้ามใจไม่ได้
ทันใดนั้นซูซานก็เดินเข้ามา เธอมองดูเจียงสื้อสื้อ