ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 65 ควบคุมตัวเองไม่ได้

บทที่ 65 ควบคุมตัวเองไม่ได้

บทที่ 65 ควบคุมตัวเองไม่ได้

เห็นเขาที่มีท่าทางดูลึกลับ เจียงสื้อสื้อก็เดินตามไปด้วยความสงสัยอย่างช่วยไม่ได้

เสี่ยวเป่าลากเธอมาหยุดตรงหน้าของโมเดลหุ่นยนต์แถวหนึ่ง เด็กน้อยหยิบรีโมทที่ไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหนขึ้นมา หุ่นยนต์นั้นจู่ๆก็ขยับเขยื้อนได้

เจียงสื้อสื้อตกใจไม่น้อย นี่มันไม่ใช่แค่โมเดล แต่เป็นหุ่นยนต์จริงๆ

ในตอนนี้ หุ่นยนต์นั่นจู่ๆก็โค้งตัวลงมา ราวกับบริวารรับใช้ พร้อมกับถามขึ้น“สุภาพสตรีท่านนี้ มีอะไรให้ช่วยไหมครับ?”

พอได้ยินเสียงหุ่นยนต์แบบนี้ เจียงสื้อสื้อก็ตกใจขึ้นไปอีก หุ่นยนต์ตัวนี้พูดได้อย่างนั้นเหรอ!

จิ้นเฟิงเฉินเม้มปาก สีหน้ายิ้มอย่างนิ่งๆ ก่อนจะได้ยินเขาพูดขึ้น“นี่คือผลงานชิ้นโบว์แดงของเสี่ยวเป่าเลยนะ ก่อนหน้านี้เขาไม่ยอมเอาออกมาโชว์ให้ใครดูเลย”

จนถึงตอนนี้เอาออกมาให้เจียงสื้อสื้อดู การกระทำแบบนี้มันบอกได้ว่า เสี่ยวเป่าชอบเธอมากจริงๆ

พอได้ยินว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของเสี่ยวเป่า เจียงสื้อสื้อก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เด็กคนนี้ฉลาดเกินไปแล้ว!

เสี่ยวเป่ายิ้มๆ พร้อมกับพูดขึ้น“น้าสื้อสื้อชอบไหมฮะ?”

เจียงสื้อสื้อพยักหน้า นั่งยองลงลูบแก้มของเขา

“ชอบสิ เจ้าหนูน้อยเจ๋งสุดๆเลย”

ไม่รู้ว่าทำไม เจียงสื้อสื้อรู้สึกภูมิใจแบบบอกไม่ถูก เหมือนกับว่าเสี่ยวเป่าเป็นลูกชายแท้ๆของตระกูลตัวเอง เธอก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนี้มันมาจากไหน คงประมาณว่าอยู่กับเสี่ยวเป่ามานานมากก็เป็นได้!

เสี่ยวเป่าได้ยินแบบนั้น ก็ยิ่งยิ้มกว้างขึ้นไปอีก เขาหยิบรีโมทขึ้นมาบังคับหุ่นยนต์ต่อ

แล้วหลังจากนั้น ทั้งสามก็เดินเข้าไปชมภายในเรือสำราญ

เรือสำราญใหญ่มาก หลังจากเดินชมจนเสร็จ ท้องฟ้าก็มืดแล้ว จิ้นเฟิงเฉินกำชับให้คนไปเตรียมอาหารค่ำ

อาหารค่ำถูกตระเตรียมไว้ได้อย่างหรูหรา เป็นครั้งแรกที่เจียงสื้อสื้อได้มาทานอาหารบนเรือสำราญ เห็นเสี่ยวเป่าที่มีท่าทางดีอกดีใจแบบนี้แล้ว ความรู้สึกอัดอั้นภายในหัวใจของเธอก็ถูกสลัดทิ้งไปจนหมด

หลังจากทานอาหารกันเสร็จ เวลาก็ดึกมากแล้ว ทั้งสามก็ต่างพากันแยกย้ายไปพักในห้องบนเรือสำราญ

เสี่ยวเป่ากับเจียงสื้อสื้อพักห้องเดียวกัน จิ้นเฟิงเฉินอยู่ห้องข้างๆ

บนเตียงใหญ่สไตล์ยุโรป เสี่ยวเป่านอนฟังนิทานที่เจียงสื้อสื้อเล่าอยู่ในอ้อมกอดของเธอ

“น้าสื้อสื้อ อยู่กับเสี่ยวเป่าไปตลอดได้ไหม?”

ได้ฟังแบบนี้แล้ว สายตาของเจียงสื้อสื้อก็หยุดชะงักเล็กน้อย

เธอจะอยู่กับเสี่ยวเป่าไปตลอด? คำถามนี้ ในใจของเจียงสื้อสื้อ คงไม่น่าจะได้……

“เสี่ยวเป่าชอบน้ามาก น้าสื้อสื้อต้องอยู่กับเสี่ยวเป่าห้ามไปไหนนะ”

เจียงสื้อสื้อยิ้มๆ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“จากนี้ไปเสี่ยวเป่าก็จะได้เจอกับคนที่ชอบมากกว่า ถึงตอนนั้นก็ต้องแต่งงานใช้ชีวิตคู่กับภรรยา น้าสื้อสื้อจะอยู่กับเสี่ยวเป่าไปตลอดได้ยังไงล่ะ”

เสี่ยวเป่าสบถ หึ ออกมา“ถ้าอย่างนั้นก็รับน้าสื้อสื้อมาเป็นภรรยา”

ได้ยินแบบนี้ เจียงสื้อสื้อขำออกมาเล็กน้อย

ถ้าเกิดคุณชายจิ้นได้ยินประโยคนี้ล่ะก็ จะต้องกันไม่ให้ลูกชายของตระกูลตัวเองมาติดต่อกับเจียงสื้อสื้ออีกแน่นอน

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไรแล้ว เสี่ยวเป่าจึงค่อยๆหลับไปอย่างช้าๆ

ที่หูมีเสียงหายใจดังเข้ามาอย่างเงียบๆ มองดูใบหน้าของเด็กน้อย จิตใจของเจียงสื้อสื้อก็เปลี่ยนไปอย่างอ่อนโยน

ในเวลานี้ ได้ยินเสียงของเสี่ยวเป่าดังออกมาเบาๆ“น้าสื้อสื้อ”

ดูเหมือนว่าเขากำลังพูดละเมออยู่ แววตาของเจียงสื้อสื้อแอบขำอยู่อย่างช่วยไม่ได้ นี่เขากำลังฝันถึงตัวเองอยู่ใช่ไหม?

“หม่ามี๊……”

ทันใดนั้น เจียงสื้อสื้อสั่นไปทั้งใจ เขากำลังเรียกเธออยู่ใช่ไหม?

อารมณ์ความรู้สึกที่ซับซ้อนผุดขึ้นมาในใจของเจียงสื้อสื้อ ไม่ช้าก็เร็วเธอก็ต้องจากเสี่ยวเป่าไปอยู่ดี ถึงตอนนั้นเด็กน้อยคนนี้จะเจ็บปวดหัวใจไหม……

เจียงสื้อสื้อเอนหัวหนุนลงบนหมอน ไม่มีทีท่าว่าจะหลับเลยสักนิด เธอลุกขึ้นเดินย่องเบาๆออกจากห้องไป กะที่จะไปรับลงข้างนอกสักหน่อย

ข้างนอกแสงไฟส่องสว่างไสว บนโต๊ะมีไวน์แดงวางอยู่หนึ่งขวด จิ้นเฟิงเฉินที่ยืนอยู่บนดาดฟ้า ในมือของเขาถือแก้วไวน์แดงหนึ่งแก้ว

ผู้ชายใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว จุดที่เจียงสื้อสื้อยืนอยู่เผยเห็นใบหน้าด้านข้างที่แสนหล่อเหล่าของเขา

ผ่านไปสักพัก ดูเหมือนว่าจะรู้สึกได้ถึงสายตาของเธอ จิ้นเฟิงเฉินหันกลับมา สบตาเข้ากับเจียงสื้อสื้อเข้าพอดี เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแต่แอบเซ็กซี่“นอนไม่หลับ?”

“อื้อ”เจียงสื้อสื้อพยักหน้า

จิ้นเฟิงเฉินพูดขึ้นต่อ“ดื่มด้วยกันสักแก้วไหม?”

เจียงสื้อสื้อคิดๆ ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

จิ้นเฟิงเฉินรินไวน์ให้เธอหนึ่งแก้ว เธอยืนอยู่บนดาดฟ้า หันหน้าสู่ทะเล เธอรู้สึกสบายใจขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

ทั้งสองยืนกันอยู่แบบนี้เรื่อยๆ จนเริ่มเผลอพูดคุยกันอย่างไม่รู้ตัว

“ช่วงนี้ยุ่งจริงๆเหรอ?”

“อื้อ”เจียงสื้อสื้อพยักหน้า

จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกได้ว่าแววตาของเธอแฝงไปด้วยความรู้สึกผิด จู่ๆเขาก็ยิ้มขึ้นมาทันที ริมฝีปากบางๆของเขาขยับพูดขึ้น“ผมนึกว่าคุณกำลังหลบหน้าผมเสียอีก!”

เจียงสื้อสื้อเริ่มรู้สึกอึดอัด จิ้นเฟิงเฉินเม้มปากแล้วก็พูดขึ้นต่อ“ช่วงนี้ตระกูลเจียงกับตระกูลหลานไม่มาตามรังควานคุณแล้วใช่ไหม?”

“ไม่แล้วล่ะ”

เจียงสื้อสื้อจิบไวน์ไปหนึ่งจิบ ถ้าจิ้นเฟิงเฉินไม่พูดขึ้นมาล่ะก็ เธอก็เกือบจะลืมคนพวกนี้ไปแล้ว

ตั้งแต่ที่แม่ถูกเจียงเจิ้นเข้าไปคุกคาม ตระกูลเจียงก็ไม่มาหาเธออีก ครั้งนี้เจียงสื้อสื้อกลับรู้สึกแปลกๆ พวกเขาวางแผนที่จะทำอะไรกันแน่?

เจียงสื้อสื้อรู้สึกคลุมเครือ ตระกูลเจียงจะต้องไม่ปล่อยไปง่ายๆแบบนี้แน่นอน แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากำลังวางแผนอะไรกันอยู่

เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว เจียงสื้อสื้อที่คอไม่แข็งตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว พอไวน์ลงท้องไปไม่กี่แก้ว ก็เริ่มเมานิดๆ ตอนนี้หัวเริ่มจะมึนขึ้นมาเล็กน้อย

เธอเริ่มขยับร่างกาย ตอนแรกคิดกะจะบอกลาจิ้นเฟิงเฉินแล้วกลับไปพักผ่อน แต่คิดไม่ถึงว่ายังไม่ทันยืนให้ดี ก็ทำท่าจะล้มลงไป จิ้นเฟิงเฉินรีบเอามือเข้ามาประคองเธอไว้

หลังจากนั้นสักพัก เจียงสื้อสื้อถึงพบว่าตัวเธอได้พิงอยู่บนร่างกายของเขาเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองใกล้กันมาก ลมหายใจของเขากระทบลงบนใบหน้าของเธอ

สีหน้าของเจียงสื้อสื้อแดงเล็กน้อย แววตากลมโตเริ่มพร่ามัว เธออ้าปากกะที่จะพูดอะไรออกมา

จิ้นเฟิงเฉินก้มหัว จูบลงบนริมฝีปากของเธออย่างควบคุมตัวเองไม่ได้

ณ ตอนนั้น เจียงสื้อสื้อก็อึ้งตะลึงไป เธอรีบตอบสนองกลับมาคิดที่จะผลักผู้ชายตรงหน้าออกไป แต่จิ้นเฟิงเฉินกลับเร็วกว่า เขากอดเอวเธอเอาไว้ เอาเธอเข้ามาโอบอยู่ในอ้อมของเขาไว้แน่น

ลิ้นของจิ้นเฟิงเฉินบุกเข้าไปละเลงในปากของเธอ ร่างกายของเจียงสื้อสื้อค่อยๆอ่อนระทวยลง……

ลมทะเลที่โบกพัดมา อากาศหนาวเย็น แต่เวลานี้บรรยากาศกลับร้อนระอุดุเดือดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร จิ้นเฟิงเฉินจึงค่อยๆปล่อยเธอออกมา

เจียงสื้อสื้อหน้าหูแดงไปทั่ว ผลักจิ้นเฟิงเฉินออก ในตอนนี้เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี จะให้ด่าทอที่เขามาจูบตัวเองอย่างไม่มีเหตุผลอย่างนั้นเหรอ? ก็เกรงว่ามันจะแปลก

“ดึกมาแล้ว ฉันขอกลับไปพักผ่อนก่อน”

หลังจากพูดจบ เจียงสื้อสื้อก็รีบเดินโซซัดโซเซกลับห้องไป

จิ้นเฟิงเฉินที่ยืนอยู่ข้างหลัง เห็นเธอรีบหนีไปด้วยท่าทีความรีบร้อน มุมปากก็ยกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ แววตาของเขาดูเหมือนยังไม่สาสมอารมณ์หมาย

หลังจากที่เจียงสื้อสื้อกลับมาถึงห้องแล้ว ใจก็ยังคงเต้นเร็วอยู่

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท