ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 73 ผมมาช้าไปหน่อย

บทที่ 73 ผมมาช้าไปหน่อย

บทที่ 73 ผมมาช้าไปหน่อย

ในตอนนี้ชุดของเจียงสื้อสื้อถูกฉีกขาดแล้ว และรู้สึกสิ้นหวังมากด้วย

เธอจ้องมองประตูห้อง ขณะเดียวกันในหัวสมองตอนนี้ก็ปรากฏเพียงชื่อของจิ้นเฟิงเฉิน

เขาต้องหาเธอพบ เขาต้องหาเธอพบแน่ๆ

ผู้ชายเผยสายตามีความสุข ช่างดีเหลือเกิน ผู้หญิงที่สวยที่สุดในงานเลี้ยงคืนนี้จะตกเป็นของเขาแล้ว

บนใบหน้าของเจียงสื้อสื้อมีน้ำตาไหลออกมาหยดหนึ่ง โดยที่ในใจรู้สึกสิ้นหวังมาก จิ้นเฟิงเฉิน ถ้าหากคุณยังไม่มาอีกฉันคงแย่แน่ๆ…..

ขณะที่ชุดของเจียงสื้อสื้อเกือบจะถูกฉีกขาดหมดแล้วนั้น ทันใดนั้นนอกประตูก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

“ไม่ทราบว่ามีคนอยู่ไหมครับ?” เป็นเสียงของจิ้นเฟิงเหรา

เจียงสื้อสื้อที่เดิมทีรู้สึกสิ้นหวังแล้ว เมื่อได้ยินเสียงนี้ ในดวงตาของเธอก็ประกายสายตาความหวังขึ้น

เจียงสื้อสื้อรีบเอ่ยปากร้องขอความช่วยเหลือ แต่ผู้ชายกลับเร็วกว่าเธอหนึ่งขั้น

“อืม….”

เจียงสื้อสื้อถูกมือคู่หนึ่งปิดปากไว้อย่างแน่นเพื่อไม่ให้เธอส่งเสียงร้อง ขณะเดียวกันเธอก็พยายามขัดขืน แต่กลับไม่สามารถต้านทานได้

ผู้ชายจ้องมองข้างนอกด้วยสายตากระวนกระวาย เพราะกลัวพวกเขาจะบุกเข้ามา

จากนั้นเสียงจากนอกประตูก็ค่อยๆเบาลง ก็ไม่รู้ว่าคนที่อยู่ข้างนอกไปแล้วหรือยัง

เจียงสื้อสื้อพยายามร้องอย่างสุดเสียง ขณะเดียวกันสายตาที่แฝงความหวังอันริบหรี่ก็ถูกมอดดับไป

เธอรู้สึกปวดหัวมาก และรู้สึกเลอะเลือนด้วย เธอพยายามรักษาสติของตัวเองให้นิ่งสงบ จากนั้นเธอก็คิดแผนออกนั้นคือ เก็บเรี่ยวแรงสุดท้ายเอาหัวกระแทกกับกำแพงอย่างแรง แบบนี้ผู้ชายคนนี้จะได้ไม่มีอารมณ์กับศพ….

ไม่นานผู้ชายคนนี้ก็เผยสีหน้าท่าทางเหมือนเดิมขึ้น

ขณะที่เจียงสื้อสื้อรู้สึกหนักใจ และรู้สึกหมดความหวังนั้น จู่ๆประตูก็ถูกเปิดออกมา

วินาทีนั้น เธอนึกว่าตัวเองเห็นภาพหลอน จิ้นเฟิงเฉินหรอ? เขามาแล้ว…..

ผู้ชายคนนี้จ้องมองพวกเขาด้วยสีหน้าตกใจ พร้อมปล่อยเจียงสื้อสื้ออย่างลุกลี้ลุกลน

บนริมขอบเตียงมีเจียงสื้อสื้อนอนพิงอยู่ โดยที่ผมของเธอยุ่งเหยิงมาก ชุดก็ถูกฉีกขาดเหมือนกัน ขณะเดียวกันใบหน้าที่แดงก่ำ ในตอนนี้ขาวซีดมาก และเห็นรอยฝ่ามืออย่างชัดเจนด้วย

ทั้งตัวของจิ้นเฟิงเฉินแผ่รัศมีอาฆาตออกมา ในตอนนี้เขาเหมือนยมบานที่เดินออกมาจากนรกที่มาพร้อมกับสายตาทำลายล้างทุกสิ่ง

เขาก้าวเท้ายาวๆเดินมาข้างหน้าถีบผู้ชายที่อยู่บนพื้น

จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อคลุมวางบนตัวของเจียงสื้อสื้อ แล้วโอบกอดเธออย่างสั่นเทา

ในตอนนี้เจียงสื้อสื้อมีสติเลอะเลือน เธอซบในอ้อมกอดของผู้ชายอย่างหมดเรี่ยวแรง ขณะเดียวกันก็รู้สึกตัวใกล้ใจจะขาดแล้ว

กลิ่นอันคุ้นเคยที่แผ่ออกมา ทำให้เจียงสื้อสื้อรู้สึกสบายใจมาก

“จิ้นเฟิงเฉิน” เจียงสื้อสื้อเอ่ยปากเรียกอย่างหมดเรี่ยวแรง โดยที่น้ำเสียงแฝงความเหนื่อยและแหบ

“ผมอยู่ตรงนี้ ผมขอโทษที่มาช้าไปหน่อย”

น้ำเสียงที่คมเข้มนั้นทำให้เจียงสื้อสื้อรับรู้ได้ว่า เขามาแล้วจริงๆ และเธอไม่ได้กำลังฝันอยู่

การรู้ตัวและมีสติสุดท้ายของเธอได้สิ้นสุดลง จากนั้นเธอก็สลบไป

จิ้นเฟิงเหรายืนมองเหตุการณ์นี้อย่างนิ่งอึ้ง หลังจากเห็นเจียงสื้อสื้อสลบหมดสติ เขาก็รีบเอ่ยปากพูดว่า : “พี่ชาย พี่รีบพาเธอไปส่งที่โรงพยาบาลเถอะ!”

เมื่อจิ้นเฟิงเฉินได้ยินแบบนี้ก็อุ้มเจียงสื้อสื้อขึ้นอย่างระมัดระวัง

เขาจ้องมองผู้ชายที่อยู่บนพื้น พร้อมกับแผ่รัศมีอาฆาต แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเข้มว่า : “ดูเขาให้ดี”

เพียงประโยคเดียว เหมือนกับตัดสินประหารคนนั้น

จิ้นเฟิงเหราพยักหน้าเล็กน้อย “ได้ครับ พี่ชาย พี่วางใจเถอะ!”

ผู้ชายคนนั้นนั่งตกใจจนตัวสั่นอยู่บนพื้น เขารู้ว่าคนที่มาคือคุณชายรองจิ้นของตระกูลจิ้น

แย่แล้ว แย่แล้ว…..

ไม่ใช่ว่าผู้หญิงคนนั้นบอกเขาแล้วหรอกหรอว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่มีฐานะ และคนคอยหนุนหลัง? ทำไมถึงมีความสัมพันธ์กับคุณชายรองจิ้นล่ะ

หลังจากดึงสติกลับมา ผู้ชายคนนั้นก็รีบกล่าวขอโทษ : “คุณชายจิ้น คุณชายรองจิ้นครับ ขอโทษครับ ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นคนของคุณ ผมผิดไปแล้ว ปล่อยผมไปเถอะนะครับ!”

จิ้นเฟิงเฉินไม่สนใจเขาเลย แต่เดินอุ้มเจียงสื้อสื้อจากไป

ผู้ชายคนนี้เลยทำได้เพียงคุกเข่าและโคกหัวบนพื้นต่อหน้าจิ้นเฟิงเหราเพื่อขอโทษ

“คุณชายรองจิ้น ให้อภัยผมด้วยนะครับ! ผมยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลย ขอโทษครับ ผมสำนึกผิดแล้ว ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะครับ!”

จิ้นเฟิงเหรายิ้มอย่างเย็นชา “ให้อภัยแกหรอ? ฮึม ต่อให้แกตายหนึ่งร้อยครั้งก็ไม่เพียงพอ”

เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จิ้นเฟิงเหรารู้สึกว่าตัวเองเกือบตายทั้งเป็นแล้ว เพราะตั้งแต่เป็นน้องชายมา เขายังไม่เคยเห็นพี่ชายเคืองโกรธมากขนาดนี้เลย

เมื่อนึกถึงสภาพของพี่สะใภ้เมื่อกี้ เขาก็รู้สึกน่าเวทนา

ไม่ว่ายังไงผู้ชายคนนี้ก็คงซวยแน่ จิ้นเฟิงเหราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปที่สถานีตำรวจ

“ได้โปรด คุณชายรองจิ้น ปล่อยผมไปเถอะ!”

ผู้ชายคนนี้นั่งคุกเข่าและจับขาของจิ้นเฟิงเหราอย่างบ้าคลั่งเพื่อขอร้อง ไม่ เขาไม่สามารถเข้าคุกได้ ไม่เช่นนั้นทุกอย่างคงพัง

จิ้นเฟิงเหราถีบเขาออกอย่างแรง เดิมที่บนหัวผู้ชายของผู้ชายคนนี้บาดเจ็บจากการถูกเจียงสื้อสื้อเอาแจกันดอกไม้ฟาดบนหัวแล้ว เมื่อถูกจิ้นเฟิงเหราถีบแบบนี้อีก เขาก็สลบหมดสติทันที

……

ซูซิงหยิงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม โดยไม่มีใครสนใจ

พูดตามความจริง ตอนเปิดประตูเห็นฉากเมื่อกี้เธอเองก็ตกใจเหมือนกัน

ขณะเดียวกันก็ได้เห็นว่า จิ้นเฟิงเฉินมีท่าทางกังวลแบบนี้ครั้งแรก

ทั้งตัวของเขาแผ่รัศมีอาฆาตออกมา วินาทีนั้น ซูซิงหยิงนึกว่าจิ้นเฟิงเฉินจะฆ่าผู้ชายคนนั้นจริงๆแล้ว

เธอจ้องมองผู้ชายที่ตัวเองรักถอดเสื้อคลุมเพื่อคลุมบนตัวของเจียงสื้อสื้อ แล้วยังอุ้มเธอจากไปอย่างระมัดระวัง โดยไม่ได้พูดกับเธอ แม้แต่มองเธอเพียงแวบหนึ่งก็ไม่มี

ซูซิงหยิงรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวมาก

เป็นดั่งที่คาดคิด ความรู้สึกเมื่อก่อนของตัวเองไม่เคยคิด

เจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเหราไม่มีความสัมพันธ์อะไรกัน แต่คนที่มีความสัมพันธ์กับเธอคือจิ้นเฟิงเฉิน

ซูซิงหยิงไม่เคยเห็นเขามีท่าทางเป็นกังวลแบบนี้มาก่อนเลย เธอรู้สึกอิจฉาตาร้อนมาก

วินาทีนั้น ซูซิงหยิงหวังอยากไม่ให้ตัวเองซักถามพนักงานว่าเจียงสื้อสื้ออยู่ที่ไหน แบบนี้พวกเขาจะไม่ได้ไม่พบตัวเจียงสื้อสื้อเร็วอย่างนี้….

ถ้าหากเจียงสื้อสื้อถูกข่มขืน จิ้นเฟิงเฉินก็คงไม่ต้องการเธอ

ซูซิงหยิงเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงมีความคิดน่ากลัวแบบนี้ จากนั้นเธอก็เดินจากห้องนี้ไปอย่างไร้วิญญาณ

……

เจียงสื้อสื้อถูกส่งโรงพยาบาล

คนที่ขับรถคือคนขับรถ ระหว่างทาง เจียงสื้อสื้อจับแขนเสื้อของจิ้นเฟิงเฉินอย่างแน่นไม่ปล่อยมือ

เมื่อมองสีหน้าขาวซีดของหญิงสาว จิ้นเฟิงเฉินก็รู้สึกเอ็นดู เขาไม่กล้าจินตนาการว่า หากเขามาช้า ีอีกก้าว วินาทีต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง……

“ขับรถให้เร็วกว่านี้หน่อย” จิ้นเฟิงเฉินกำชับคนขับรถ

เมื่อคนขับรถได้ยินแบบนี้ก็เร่งความเร็ว

ณ โรงพยาบาล หลังจากที่คุณหมอตรวจร่างกายของเจียงสื้อสื้อเสร็จก็พูดว่า : “คุณชายจิ้นครับ นอกจากได้รับบาดเจ็บภายนอกแล้ว ผู้หญิงคนนี้ยังอาการระบบหายใจขัดข้องเล็กน้อย แต่ไม่อันตรายมาก พักผ่อนอีกสักหน่อยก็คงฟื้น”

เมื่อได้ยินแบบนี้ จิ้นเฟิงเฉินก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก โชคดีที่เธอไม่เป็นอะไรมาก

หลังจากคุณหมอจากไป ภายในห้องผู้ป่วยก็เงียบเชียบ เจียงสื้อสื้อนอนพิงอยู่บนเตียง ส่วนจิ้นเฟิงเฉินนั่งเฝ้าอยู่ด้านข้าง

เธอยังคงมีสีหน้าขาวซีด เธอมีอาการเหมือนกำลังฝัน เพราะปากเอาแต่ขยับพูดว่า : “อย่าเตะต้องฉัน อย่าทำอะไรฉัน….”

“เจียงสื้อสื้อ ผมอยู่นี้”

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท