บทที่ 83 เศร้าใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“โทษทีนะ ฉันต่อไปจะเป็นยังไงไม่รบกวนคุณมาเป็นห่วงหรอก”
พูดจบ เจียงสื้อสื้อก็หันหลังเดินจากไป
เธอต้องรู้แล้วว่าถ้าทำให้ตระกูลเจียงกับตระกูลหลานโมโห ในตอนนี้และอนาคตพวกเขาไม่มีทางที่จะปล่อยเธอไปแน่ แต่ไม่ว่ายังไง เธอไม่มีทางไปกล่อมจิ้นเฟิงเฉินหรอก
ถ้าเกิดเธอยอมถอยให้ก้าวหนึ่ง ก็มีแต่ทำให้ตระกูลเจียงกับตระกูลหลานนั้นแข็งข้อกว่าเดิม
หลานซือเฉินได้ยืนมองแผ่นหลังเจียงสื้อสื้ออยู่ที่เดิม นัยน์ตาของเขาได้มีความนิ่งขรึมเล็กหน่อย
……
ไปดูบ้านยังเจอกับหลานซือเฉินได้ เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่าตัวเองดวงซวยมากๆ เธอไม่ได้ไปติดต่อคนกลางในการปล่อยเช่าบ้านคนอื่นต่อ ตัดสินใจที่จะกลับบ้าน
ตอนที่เดินผ่านประตูห้างสรรพสินค้านั้น หางตาของเจียงสื้อสื้อก็ได้ไปสะดุดกับร่างที่คุ้นเคยเข้า
เธออึ้งไปสักพัก นั้นจิ้นเฟิงเฉิน
เขาใส่เสื้อสูทสีดำ เวลานี้ในมือของเขายังถือถุงไม่กี่อัน เห็นแบบนั้นแล้วเหมือนพึ่งออกมาจากห้าง
คนที่มากับจิ้นเฟิงเฉินนั้นมีเสี่ยวเป่า ซูชิงหยิง และหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง
เจียงสื้อสื้อยืนอึ้งมองพวกเขาอยู่ตรงนั้น
หน้าประตูห้าง ซูชิงหยิงใส่เสื้อเดรสสีขาว ดูอ่อนโยนและสง่า เธอมองจิ้นเฟิงเฉินยิ้มแล้วพูดว่า “โทษทีนะเฟิงเฉิน คุณยุ่งอยู่ที่บริษัทแท้ๆ ยังรบกวนคุณมาอีก”
วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ซูชิงหยิงไม่ต้องไปทำงาน เพราะงั้นเลยไปที่บ้านจิ้นไปเยี่ยมคุณหญิงจิ้น ทั้งสองเลยชวนกันไปเดินห้าง เสี่ยวเป่าไม่มีเรียน คุณหญิงจิ้นเลยพาเขาออกมาด้วย
แต่ว่าทั้งบ่าย เสี่ยวเป่านั้นไม่ยิ้มไม่หัวเราะเลย
พอเดินเหนื่อย ก็เลยเรียกจิ้นเฟิงเฉินมารับพวกเขา
ได้ยินที่ซูชิงหยิงพูด คุณหญิงจิ้นที่อยู่ข้างๆ ก็ยิ้มแล้วพูดว่า “นี่มีอะไรให้น่าขอโทษ ของที่ซื้อก็เป็นของของเขาทั้งนั้น”
พูดถึงเรื่องนี้ ซูชิงหยิงก็ได้ยื่นถุงใบหนึ่งให้ เธอได้ใส่น้ำเสียงที่อ่อนหวานพูดออกมาว่า “ซื้อเนกไทกับกระดุมข้อมือให้นาย เมื่อกี้ตอนที่เห็นรู้สึกว่ามาเหมาะกับนายดี เปิดดูสิ ถ้าเกิดไม่ชอบละก็ตอนนี้เอาไปคืนก็ยังทัน”
สายตาที่ซูชิงหยิงมองจิ้นเฟิงเฉินนั้นเต็มด้วยการรอคอย
แต่จิ้นเฟิงเฉินก็ยังมีใบหน้าที่ไร้อารมณ์เหมือนเดิม พูดออกไปเรียบๆ ว่า “ขอบคุณ กลับไปค่อยดู”
พูดจบ ซูชิงหยิงนั้นก็ทำตัวไม่ถูกนิดหน่อย นัยน์ตาของเธอได้มีความผิดหวังเล็กน้อย
คุณหญิงจิ้นที่ยื่นอยู่ข้างๆ ก็ได้ปลอบว่า “ชิงหยิง เธออย่าไปสนใจเลย ไอ่หมอนี่มันไม่รู้ว่าอะไรดีไม่ดี”
เสี่ยวเป่าที่อยู่ข้างๆ ได้เบะปาก เริ่มอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา
น่าเบื่อจริง รู้แบบนี้น่าจะให้แด๊ดดี้พาเขาไปหาน้าสื้อสื้อ
เสี่ยวเป่าถอนหายใจ สายตาของเขาก็ได้มองไปอีกฝั่ง แล้วก็เห็นเจียงสื้อสื้อที่อยู่ไม่ไกลนักพอดี
เจียงสื้อสื้อคิดไม่ถึงว่าจะถูกเสี่ยวเป่าเห็นเข้า เธอตกใจ แล้วก็รีบซ่อนตัวทันที
ทางเสี่ยวเป่านั้น ก็ตะโกนออกมาด้วยความดีใจ “น้าสื้อสื้อ! ”
สามคนที่เหลือได้ยิน ก็มองไปทางเสี่ยวเป่า
เสี่ยวเป่าเดินเข้าไป จับแขนของจิ้นเฟิงเฉินแล้วพูดว่า “แด๊ดดี้ เมื่อกี้ผมเห็นน้าสื้อสื้อด้วย”
แววตาของเสี่ยวเป่านั้นเป็นประกาย เห็นท่าทางแบบนั้นทั้งเซอร์ไพรส์และดีใจ
จิ้นเฟิงเฉินเลยมองไปตามที่ที่เขามอง ฝั่งตรงข้ามมีคนเดินไปเดินมา แต่ว่าไม่เห็นมีเจียงสื้อสื้อเลย
“เสี่ยวเป่าเราดูผิดไปหรือเปล่าคะ!” ซูชิงหยิงหัวเราะแล้วพูด
ในใจเธออิจฉาอย่าห้ามไม่ได้ ตลอดทั้งบ่ายนี้ เสี่ยวเป่าดูแล้วไม่มีความสุขเลยสักนิด ไม่ให้เธอกอดและพูดกับเธอแม้แต่คำเดียว ตอนนี้พูดถึงเจียงสื้อสื้อ กลับตื่นเต้นดีใจขึ้นมา
แววตาของซูชิงหยิงนิ่งลง เธอไม่เข้าใจเลยว่า เจียงสื้อสื้อนั้นดีตรงไหน จิ้นเฟิงเฉินเป็นห่วงเธอ เสี่ยวเป่าก็ชอบเธอถึงขนาดนี้
คุณหญิงจิ้นลูบหัวเสี่ยวเป่าแล้วยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “เด็กคนนี้ นี่คิดถึงผู้หญิงคนนั้นอยู่ตลอดเลยนะ!”
พูดอยู่ข้างหูเธออยู่ตลอดก็แล้วไป ตอนนี้สิยังตาลายเห็นได้อีก คุณหญิงจิ้นล่ะสงสัยจริงๆ ต้องเป็นผู้หญิงแบบไหนกัน ที่ทำให้ลูกชายและหลานชายของเธอคิดถึงได้ขนาดนี้
จิ้นเฟิงเฉินได้มองไปทางที่เสี่ยวเป่าชี้อีกครั้ง เขารู้ว่าเสี่ยวเป่านั้นไม่ได้จำคนผิด เจียงสื้อสื้ออาจจะหลบไป
เขาก็ไม่เดินเข้าไปดูว่าเป็นยังไง อุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นแล้วพูดว่า “น้าสื้อสื้อจะอยู่ตรงนั้นได้ยังไง ผมน่าจะตาฝาดไปแล้ว”
“ไม่ใช่นะ” สีหน้าของเสี่ยวเป่าได้งอลงมา ตัวเองจะจำผิดคนได้ยังไง คนนั้นก็คือน้าสื้อสื้อ แต่ว่าแป๊บเดียวเองทำไมไม่เห็นแล้ว เธอก็เห็นเขาแล้วแท้ๆ
หรือว่าน้าสื้อสื้อไม่อยากเจอเขาแล้วไปซ่อนตัว?
เสี่ยวเป่าอยากจะไปหาเจียงสื้อสื้อ แต่กลับถูกจิ้นเฟิงเฉินอุ้มขึ้นรถไป
นั่งบนรถ เสี่ยวเป่าอารมณ์ไม่ดีและไม่ได้สนใจพ่อของตัวเองอีก
คุณหญิงจิ้นกับซูชิงหยิงก็ขึ้นรถตาม
พอรถได้ขับออกไปแล้ว เจียงสื้อสื้อถึงได้เดินออกมา เธอก็ไม่รู้ทำไมเมื่อกี้ตัวเองต้องหลบด้วย
อาจเป็นเพราะแม่ของจิ้นเฟิงเฉินก็ได้! เธอดูแล้วเหมือนจะชอบซูชิงหยิงมากๆ
เจียงสื้อสื้อก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร แต่พอนึกถึงภาพเหตุการณ์เมื่อกี้ ในใจก็รู้สึกเศร้าใจขึ้นมา
……
ทางนั้น พอไปถึงบ้านตระกูลจิ้นแล้ว คุณหญิงจิ้นก็เปิดปากพูดว่า “ชิงหยิง เธอก็ไม่ต้องกลับแล้ว อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกัน เดียวฉันทำอาหารให้ทาน ทำของอร่อยให้”
“ได้ค่ะ คุณน้า”
ซูชิงหยิงยิ้ม ในใจคิดจิ้นเฟิงเฉินต้องอยู่ทานข้าวด้วยแน่ ไม่แน่ตอนทานข้าวเสร็จยังจะให้เขาส่งเธอกลับบ้าน เธอจะปล่อยโอกาสดีๆ แบบนี้ไปได้ยังไงล่ะ
จิ้นเฟิงเฉินได้เอาของลงจากรถลงไปวางบนโต๊ะ เห็นเขาเม้มปากแล้วก็พูดออกไปว่า “แม่ครับ ผมยังมีธุระต่อ เดียวพาเสี่ยวเป่าไปก่อน”
ได้ยินแบบนั้น หน้าของซูชิงหยิงได้เสียทันที
คุณหญิงจิ้นก็อารมณ์ไม่ดีขึ้นมานิดหน่อย “เธอมีธุระก็มีธุระ ยังจะพาเสี่ยวเป่าไปอีกทำไม”
พูดจบ เธอก็มองดูคนบนโซฟาที่ตั้งแต่ขึ้นรถ ก็อารมณ์ไม่ดีอย่างเสี่ยวเป่า คุณหญิงจิ้นก็เข้าใจเลยทันที เด็กคนนี้อาจจะยังคิดถึงเจียงสื้อสื้ออยู่
“ก็ได้ ก็ได้ ไปเถอะ พรุ่งนี้วันเกิดเสี่ยวเป่า อย่าลืมพาเธอมาทำความรู้จักด้วย”
คุณหญิงจิ้นไม่รั้งไว้ต่อ ยังไงซะตอนนี้ใจของลูกชายกับหลานชายได้ลอยไปอยู่ที่เจียงสื้อสื้อแล้ว
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า แล้วพาเสี่ยวเป่าออกไป
ซูชิงหยิงเห็นทั้งสองจากไปแล้วอยากจะพูดอะไรต่อ แต่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
รถนั้นก็ได้ขับออกจะคฤหาสน์ไปแล้ว และกระดุมแขนเสื้อกับเนกไทที่เธอซื้อมายังอยู่ที่นี่ เปิดก็ยังไม่ได้เปิด
ซูชิงหยิงกำหมัดไว้แน่น อารมณ์หลากหลายได้อัดอยู่ในใจเธอ
เธอจะไม่รู้ได้ยังไงว่า จิ้นเฟิงเฉินนั้นพาเสี่ยวเป่าไปหาเจียงสื้อสื้อ
ความอิจฉาริษยาได้เต็มอยู่ในหัวของซูชิงหยิง เธอนั้นอยากให้เจียงสื้อสื้อออกไปจากชีวิตของจิ้นเฟิงเฉิน
……
ตอนนี้เจียงสื้อสื้อได้กลับไปถึงบ้านแล้ว อาจเป็นเพราะเจอกับหลานซือเฉิน หรืออาจเป็นเพราะเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้าห้าง อารมณ์ของเธอเลยไม่ดีนัก
ตอนนี้จิ้นเฟิงเฉินอยู่บ้านแล้วใช่ไหม อยู่กับแม่เขาแล้วยังมีซูชิงหยิงนั่งกินข้าวด้วยกัน ในหัวของเจียงสื้อสื้อนั้นได้จินตนาการภาพเหตุการณ์ที่มีความสุขออกมา
คืนนี้เขาคงไม่มาหาเธอแล้วใช่ไหม
เจียงสื้อสื้อก็ขี้เกียจที่จะทำกับข้าว เลยเอาน้ำมาลวกมาม่าคัพ ก่ะจะกินอันนี้เป็นมื้อเย็น
เป็นเวลาเดียวกัน ที่กริ่งประตูดังขึ้น