บทที่ 97 ไม่ตายดี
ในใจซูชิงหยิงเคยตื่นตระหนกที่ไหน เรื่องนี้คนที่บงการอยู่เบื้องหลังคือซูซินหรุ่ย ถ้าถึงเวลาถูกตรวจสอบขึ้นมา ไม่แน่ว่าตนก็สามารถถูกจิ้นเฟิงเฉินคิดว่าเป็นผู้หญิงใจดำอำมหิต
ตอนนี้เขาเดิมทีก็ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับเธออยู่แล้ว ถ้ายังถูกรังเกียจอีก เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆเป็นไปไม่ได้เลยที่จิ้นเฟิงเฉินจะมาชอบเธอ
“ฉันรู้แล้ว พี่”ซูซินหรุ่ยพูดด้วยเสียงเบาๆ
เวลานี้ ห้องพักถูกเคาะดังขึ้น เสียงของบอดี้การ์ดดังทอดเข้ามา : “คุณซู ไม่ทราบว่าคุณอยู่ไหมครับ?”
ฉับพลันก็ทำให้ใจของซูซินหรุ่ยเต้นแรงขึ้น ทั้งสองคนลุกขึ้นไปเปิดประตู
“คุณซินหรุ่ย คุณจิ้นมีเรื่องจะสอบถามคุณเล็กน้อย รบกวนคุณมากับพวกเราหน่อย”
“ห๊ะ? คุณจิ้นมีเรื่องอะไรจะถามฉัน?” ซูซินหรุ่ยถามออกไปอย่างสงสัย ทำเหมือนว่าไม่รู้อะไรเลยเช่นกัน
“อันนี้พวกเราก็ไม่ทราบ คุณไปก่อนก็แล้วกัน”
เมื่อได้ฟัง ซูซินหรุ่ยก็ออกไปพร้อมกับบอดี้การ์ด ซูชิงหยิงก็ด้วย
ในห้อง หลี่มู่ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น สีหน้าพูดได้ว่าไม่น่าดูเลย เมื่อเห็นซูซินหรุ่ย เขาก็รีบพูดว่า : “คือเธอ คุณจิ้น ที่บงการฉันก็คือเธอ”
สีหน้าซูซินหรุ่ยตื่นตระหนก ทว่าซูชิงหยิงจับมือเธอไว้แน่น ดูเหมือนจะบอกใบ้ให้เธออย่าวิตก
ทั้งสองแกล้งเดินเข้าไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซูชิงหยิงมองสถานการณ์ในห้อง ถามอย่างหาคำตอบไม่ได้ว่า : “เฟิงเฉิน ได้ยินว่าคุณตามหาซินหรุ่ย นี่เกิดอะไรขึ้นหรอ?”
จิ้นเฟิงเฉินไม่พูดอะไร สีหน้ามองดูเยือกเย็นอย่างมาก เขาลดตาต่ำลงไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
พี่น้องตระกูลซูนั่งลงบนโซฟา
จิ้นเฟิงเหรามองไปที่หลี่มู่ พูดถามตรงๆว่า : “ซูซินหรุ่ย คุณใช่ไหมที่บงการให้หลี่มู่ไปก่อกวนคุณเจียง นั่นทำให้คุณเจียงตกลงไปในน้ำ?”
ทั้งหมดอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน จิ้นเฟิงเหราอยู่ในแวดวงก็รู้จักซูซินหรุ่ย ธรรมดาก็ได้ยินมาว่าเธอเป็นคนเอาแต่ใจ ซูชิงหยิงชอบจิ้นเฟิงเฉิน เพื่อเธอซูซินหรุ่ยสามารถทำเรื่องอย่างนี้ได้แน่นอน
“ห๊ะ?”ซูซินหรุ่ยมองอย่างสงสัยไปที่จิ้นเฟิงเหรากับจิ้นเฟิงเฉิน หน้าเธอดูสับสน
“ไม่ใช่ฉันนะ! ฉันกับคุณเจียงไม่ได้บาดหมางกัน จะให้หลี่มู่ไปก่อกวนเธอได้อย่างไร!”
หลี่มู่ได้ยิน ก็โกรธขึ้นมาทันที
“ซูซินหรุ่ย ชัดเจนเลยว่าคุณบอกกับฉันว่าเตรียมผู้หญิงหนึ่งคนไว้ให้ฉันบนดาดฟ้าชั้นสอง เวลานั้นฉันจึงขึ้นไปหาคุณเจียง” อีกทั้งหลี่มู่ยังพยายามอธิบายอย่างสุดชีวิตว่า : “คุณจิ้น ที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริงทั้งหมด เวลานั้นเธอไปหาฉันที่หน้าประตูห้องน้ำ ที่นั่นมีกล้องวงจรปิด พวกคุณสามารถไปตรวจสอบได้ทั้งหมด ผู้หญิงคนนี้ไปหาฉันจริงๆ”
จิ้นเฟิงเฉินกับจิ้นเฟิงเหรามองซูซินหรุ่ย เหมือนกับรอให้เธออธิบาย
ซูซินหรุ่ยรีบอธิบายว่า : “ไม่ใช่นะ พี่เฟิงเฉิน อันที่จริงฉันเคยพบกับหลี่มู่ แต่เวลานั้นคือให้เขาไปหาลูกพี่ลูกน้องฉันคนหนึ่ง ลูกพี่ลูกน้องฉันนั้นชื่นชอบเขามานานแล้ว อีกทั้งฉันพูดว่าดาดฟ้าชั้นหนึ่ง ฉันจะรู้ได้อย่างไร……ว่าเขาจะเข้าใจผิด ไปก่อกวนคุณเจียง ยังทำให้คุณเจียงตกลงไปในน้ำ พี่เฟิงเฉิน จริงๆฉันไม่คิดเลยว่าเรื่องจะกลายเป็นอย่างนี้”
“คุณพูดจาเหลวไหล จริงๆคุณให้ฉันไปดาดฟ้าชั้นสอง เวลานั้นก็มีแค่คุณเจียงอยู่ที่นั่น!”หลี่มู่โกรธจนอยากจะไปทำร้ายซูซินหรุ่ยที่อยู่เบื้องหน้า แต่ทว่าถูกบอดี้การ์ดจับไว้
เขาหน้าเขียว ถึงแม้ว่าตนเองจะดื่มไปไม่น้อย แต่เขาจำได้ชัดเจนว่าซํซินหรุ่ยบอกว่าดาดฟ้าชั้นสอง
หลี่มู่จ้องมองซูซินหรุ่ย หากไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนี้ ตนเองคงไม่พบกับจุดจบแบบนี้
“จะเป็นไปได้อย่างไร หลี่มู่ ตัวคุณเองดื่มจนเมาได้ยินมาผิดแล้วแหละ!” สีหน้าของซูซินหรุ่ยดูเหมือนกล้ำกลืนที่สุด เธอพูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นว่า “พี่เฟิงเฉิน ฉันจะสามารถไปก่อความวุ่นวายกับคุณเจียงได้อย่างไรล่ะ! จริงๆฉันให้หลี่มู่ไปหาลูกพี่ลูกน้องฉันนั้น ฉันยังแปลกๆเลย ลูกพี่ลูกน้องคนนั้นกลับมายังบอกฉันเลยว่าเธออยู่บนดาดฟ้าตั้งนานยังไม่เห็นหลี่มู่เลย……เธอก็อยู่ในห้อง ถ้าคุณไม่เชื่อคำพูดฉันสามารถไปหาเธอเพื่อเป็นพยานได้”
ซูชิงหยิงยืนอยู่ข้างๆ ก็พูดโน้มน้าวว่า : “เฟิงเฉิน เรื่องนี้คาดว่าต้องมีการเข้าใจผิด! ถึงแม้ว่าปกติซินหรุ่ยจะเป็นคนเอาแต่ใจ แต่ว่าไม่สามารถทำเรื่องอย่างนี้ได้อย่างแน่นอน นี่หลี่มู่อาจจะปัดความรับผิดชอบให้กับซินหรุ่ยไป”
จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตามองทั้งสองคน ในท้ายที่สุดก็ไม่ได้บอกว่าเชื่อคำพูดของซูซินหรุ่ย แต่กลับมองไปที่หลี่มู่แล้วพูดว่า : “ดูเหมือนว่า คุณไม่อยากลงมือด้วยตนเอง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็ให้ตระกูลหลี่ทุกคนถูกฝังไปด้วยเถอะ!”
ประโยคสั้นๆ ทำให้หลี่มู่ตกใจกลัวทันที สีหน้าเขาเศร้าหมอง รีบพยักหน้า : “ฉันลงมือเอง คุณจิ้น ฉันลงมือเอง”
คำพูดจบลง ก็หยิบเอาไม้เบสบอลข้างๆมา เขากัดฟัน แล้วตีลงไปบนมือของตนเองอย่างแรง
แขนก็หักอย่างนี้ หลี่มู่สูดลมหายใจเย็นวาบเข้าไป เจ็บจนสีหน้าซีดเซียว แต่ทว่าไม่กล้าตะโกนร้องออกมา
สองพี่น้องตระกูลซูมองฉากนี้อย่างตกตะลึง พวกเธอแทบจะจินตนาการได้ว่าหลี่มู่เจ็บปวดแค่ไหนในเวลานี้ ทั้งสองคนกลัวจนแม้แต่คำหนึ่งก็ไม่กล้าพูดออกมา
จิ้นเฟิงเฉินเห็นสถานการณ์ สีหน้ายังคงสงบ เขาไม่ได้สนใจซูซินหรุ่นกับซูชิงหยิงอีกเลย ลุกขึ้นแล้วตั้งใจจะออกไป จิ้นเฟิงเฉินพูดก่อนออกไปว่า : “การร่วมมือกับตระกูลหลี่ในวันข้างหน้า ทั้งหมดเป็นอันสิ้นสุดลง”
ได้ฟังคำนี้ ใบหน้าของหลี่มู่ก็เหมือนกับขี้เถ้าที่ดับมอดไป เพียงแต่ยังดีที่สามารถรักษาตระกูลหลี่ไว้ได้……
จิ้นเฟิงเหรามองดูคนที่อยู่บนพื้นอย่างไร้ความรู้สึกแล้วสั่งบอดี้การ์ดว่า : “เอาคนมาหามกลับไปที่ห้อง อีกหนึ่งชั่วโมงไปตามหมอมารักษาเขา”
คนอย่างนี้ เขาไม่อยากให้บอดี้การ์ดไปหาหมอมาเลย
หากเพียงแต่ว่ามีคนตายอยู่บนเรือนี้ก็จะซวยได้ คิดแล้ว จิ้นเฟิงเหราก็ออกจากห้องไป
บอดี้การ์ดนำคนมาหามไป เดินมาถึงด้านหน้า หลี่มู่ยังมองไปที่ซูซินหรุ่ยแล้วพูดอย่างโหดเหี้ยมว่า : “ซูซินหรุ่ย คุณไม่ตายดีแน่ ตระกูลหลี่ของฉันไม่ปล่อยคุณไว้แน่!”
ซูซินหรุ่ยไม่ได้สนใจ
หลี่มู่ถูกพาออกไป ในที่สุดสถานที่เกิดเหตุก็เงียบลง เหลือเพียงสองพี่น้องตระกูลซูเท่านั้น สีหน้าคนทั้งสองซีดเผือดลงเล็กน้อย ฉากเมื่อกี้ที่หลี่มู่หักแขนนั้นยังเป็นภาพจำติดอยู่ในสมองอยู่เลย
ซูซินหรุ่ยถอนหายใจ พูดด้วยปากสั่นๆว่า : “พี่ เคราะห์ดีที่คุณให้ฉันพูดอย่างนั้น มิเช่นนั้น……”
มือของเธอก็อาจเป็นอย่างนี้เหมือนกับหลี่มู่หรือไม่……จนถึงตอนนี้ ซูซินหรุ่ยสังเกตุเห็นจริงๆว่า ซูเฟิงเฉินคนนี้น่ากลัว
ซูชิงหยิงปิดปากเธอ ด้วยคำพูดที่รุนแรงว่า : “เรื่องคืนนี้ทั้งหมดเก็บไว้เป็นความลับ หลังจากนี้ไม่จำเป็นต้องพูดถึงอีก”
ซูซินหรุ่ยรีบพยักหน้า “ฉันรู้แล้ว พี่”
ซูชิงหยิงมองตาเธอ ในใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลเล็กน้อย จิ้นเฟิงเฉินเชื่อคำพูดแบบนี้ของซูซินหรุ่ยจริงๆหรอ?
แม้ว่าตอนนี้สิ่งต่างๆจะจบลงแล้ว แต่ว่าจิ้นเฟิงเฉินที่มีความคิดรอบคอบคนนี้ เขาต้องไปตรวจสอบ แน่นอนว่ายังสามารถตรวจสอบหาเงื่อนงำได้
ทั้งสองเดินอย่างช้าๆ ในที่สุดก็กลับมาถึงห้องของตนเอง
……
ทางด้านนี้ หลังจากที่เดินออกมาแล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็พูดกับจิ้นเฟิงเหราว่า : “ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน่อย”