บทที่ 99 จิ้นเฟิงเฉินต้องเป็นของเธอเท่านั้น
ไม่นานเสี่ยวเป่าก็หลับไป คืนนี้ จิ้นเฟิงเฉินแทบจะไม่ได้นอน เวลารุ่งสาง อาการไข้ของเจียงสื้อสื้อลดลงแล้ว เขาก็ทนไม่ไหว จึงหลับตาลงแล้วหลับไป
หลายชั่วโมงหลังจากนั้น เจียงสื้อสื้อก็ตื่นขึ้นมา ลืมตาขึ้นมาก็งง
ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ตรงหน้า ทำให้สมองเธอแทบจะลัดวงจร เจียงสื้อสื้อขยี้ตา ชั่วพริบตาแบบนี้ยังคิดว่าตนเองฝันไป
นี่……เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น??? ทำไมจิ้นเฟิงเฉินมาอยู่ที่นี่
เจียงสื้อสื้อออกมาจากอ้อมกอดของเขาเบาๆ จิ้นเฟิงเฉินหลับลึกมาก หลับตาไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับใดๆ แต่ว่าเสี่ยวเป่าที่อยู่ข้างๆก็ตื่นแล้ว เขาพูดอย่างดีใจว่า : “น้าสื้อสื้อ คุณตื่นแล้ว คุณเป็นอย่างไรบ้าง? ยังมีตรงไหนที่ไม่สบายอยู่ไหม?”
เจียงสื้อสื้อหน้าแดงเล็กน้อย เธอพยักหน้า เพียงแค่รู้สึกนิดๆว่าแขนขาไม่มีแรง มึนๆหัว
“นี่ฉันเป็นอะไรไป?”
“เมื่อคืนคุณไม่สบาย เรียกก็ไม่ตื่น พวกเราเป็นห่วง แด๊ดดี้ดูแลทั้งคืนเลยนะ!” เสี่ยวเป่าพูดตอบกลับ
นี่เจียงสื้อสื้อแค่เพียงจำได้รางๆ ที่จริงเป็นเช่นนี้
ฉะนั้นจิ้นเฟิงเฉินก็ไม่ได้นอนทั้งคืนเลยหรอ? มิน่าล่ะนี่เขาถึงได้นอนหลับลึกขนาดนั้น ในใจของเจียงสื้อสื้อรู้สึกเสียใจเล็กน้อย ที่ตนเองทำให้เขาตกอยู่ในความลำบากแบบนั้น แน่นอนในใจเธอยิ่งรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก
สักพักหนึ่ง เธอก็พูดเสียงเบาๆกับเสี่ยวเป่าว่า : “ฉันดีขึ้นมากแล้ว เราเบาเสียงนิดหนึ่ง อย่าเสียงดังรบกวนแด๊ดดี้คุณที่นอนหลับอยู่”
เสี่ยวเป่าพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
พูดจบ เจียงสื้อสื้อก็เตรียมอุ้มเขาลงจากเตียง
แต่ว่าการนอนหลับของจิ้นเฟิงเฉินค่อนข้างตื้น เจียงสื้อสื้อท้อเพิ่งจะลุกขึ้น เขาก็ตื่นแล้ว
เจียงสื้อสื้อก็หยุดทันที แค่ได้ยินเสียงเข้มๆของเขาเอ่ยปากถาม : “ดีขึ้นแล้วหรอ?”
เพราะว่าทั้งสามคนยังนั่งอยู่บนเตียง ทำไมเจียงสื้อสื้อจึงรู้สึกแปลกๆ เธอพยักหน้าอย่างเก้อเขิน : “ฉันไม่เป็นไรแล้ว ได้ยินเสี่ยวเป่าบอกว่าคุณดูแลฉันทั้งคืนเลย ขอบคุณนะ”
ถึงแม้ว่าเจียงสื้อสื้อบอกว่าตนเองไม่เป็นไรแล้ว แต่จิ้นเฟิงเฉินยังไม่วางใจ เขายื่นมือไปแตะที่หน้าผากของเธอ ฝ่ามือใหญ่คลุมอยู่บนหน้าผาก อบอุ่นมากๆ อดไม่ได้ที่เจียงสื้อสื้อจะนึกถึงเมื่อตอนตื่นขึ้นมาทั้งสองคนกอดกันอยู่ ฉับพลันใบหน้าก็แดง……
อุณหภูมิบนหน้าผากปกติแล้ว อันนี้จิ้นเฟิงเฉินจึงวางใจได้
หัวใจที่เต้นอยู่ของเจียงสื้อสื้อทว่ายิ่งเพิ่มความสุขมากขึ้น เวลานี้ ด้านนอกประตูมีเสียงดังขึ้น เจียงสื้อสื้อจึงรีบพูดว่า : “ฉันจะไปเปิดประตู”
พูดจบเธอก็อุ้มเสี่ยวเป่าลงจากเตียง เหมือนกับวิ่งหนี
อาจเป็นเพราะว่าเพิ่งตื่นนอน หรือสับสนเพราะพิษไข้ เจียงสื้อสื้อไม่อยากจะคิดมากขนาดนั้น เปิดประตูก็เห็นพ่อจิ้นแม่จิ้น ซูชิงหยิง ยังมีจิ้นเฟิงเหรายืนอยู่ด้านนอกประตู
เห็นหลายๆคน เจียงสื้อสื้อก็ตะลึง นี่รู้ตัวว่าเพิ่งตื่น อะไรก็ยังจัดไม่เป็นระเบียบ ยุ่งเหยิงไปหมด เสี่ยวเป่าในอ้อมแขนก็เช่นเดียวกัน ยังมีคนที่ตามหลังมาอีก……จิ้นเฟิงเฉิน
ชุดนอนที่ละหลวมของเขา ดูท่าทางของทั้งสามคนก็คือเพิ่งลุกขึ้นมาจากเตียง ภาพภาพนี้ ดูอย่างไรก็แปลกๆ
เจียงสื้อสื้อรู้สึกเขินอายทันที
เสี่ยวเป่าในอ้อมแขนยังยิ้มแล้วพูดทักทายว่า : “อรุณสวัสดิ์คุณตาคุณยาย”
“อรุณสวัสดิ์เด็กน้อย!” แม่จิ้นพูดตอบกลับ
สีหน้าพวกเขาประหลาดใจเล็กน้อย เดิมทีพวกเขามาเพื่อหาเสี่ยวเป่า ไม่คิดว่าจะมาเห็นฉากนี้……
สีหน้าของซูชิงหยิงซีดเล็กน้อย มือที่อยู่บนกระโปรงของเธอก็อดไม่ได้ที่จะกำแน่นขึ้น
คิดไม่ถึงว่าจิ้นเฟิงเฉินจะอยู่ห้องเจียงสื้อสื้อ?เมื่อคืนพวกเขานอนอยู่ด้วยกันหรอ? ซูชิงหยิงกัดฟัน คิดอิจฉาอยากจะฉีกเจียงสื้อสื้อตรงหน้าให้เป็นชิ้นๆ
เธอสงบสติอารมณ์ ยืนอยู่ข้างๆไม่พูดจาอะไร
ตรงกันข้ามกับสีหน้าประหลาดของทั้งสามคนนั้น หน้าของจิ้นเฟิงเหรามีเลศนัย เอ่ยปากถามแบบไม่รู้ไม่ชี้ว่า : “คุณเจียง ได้ยินว่าเมื่อคืนคุณเป็นไข้ ดีขึ้นแล้วหรือยัง?”
แม่จิ้นสติกลับมา ก็พูดตามว่า : “ใช่ๆ คุณเจียง เรื่องเมื่อคืนพวกเราก็รู้แล้ว ไม่อยากจะคิดว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี่ขึ้น ขอโทษจริงๆ ร่างกายคุณไม่มีอะไรผิดปกติมากใช่ไหม?
แม่จิ้นสีหน้าสับสนเล็กน้อย เธอไม่เคยคิดเลยว่างานวันเกิดจะมีเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้
เจียงสื้อสื้อรีบพูดว่า : “คุณน้า คุณชายรอง ฉันไม่เป็นไรแล้ว คนที่ควรจะขอโทษคือฉัน เป็นฉันที่สร้างความลำบากให้ ขอโทษจริงๆ”
“นี่จะโทษคุณได้อย่างไรล่ะ? ทั้งหมดเป็นเพราะตระกูลจิ้นเราไม่ดีเอง ทำให้คุณเกือบเสียชีวิต”
หลังจากเกรงใจกันไปมาแล้ว จิ้นเฟิงเหราจึงพูดตัดบทว่า : “เอาล่ะ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เรือเข้าเทียบท่าแล้ว พี่ พวกคุณจัดเก็บของแล้วไปได้แล้ว”
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า มองเจียงสื้อสื้อแล้วพูดว่า : “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ รอสักครู่ก็จะส่งคุณกลับ”
“อืม” เจียงสื้อสื้อตอบรับ แล้วอุ้มเสี่ยวเป่ากลับไปที่ห้อง
จิ้นเฟิงเฉินก็กลับไปที่ห้องข้างๆ
พ่อจิ้นแม่จิ้นมองไปที่ตามหลังของจิเนเฟิงเฉินและลังเลที่จะพูด ในที่สุดก็เอ่ยปากถามจิ้นเฟิงเหรา : “เมื่อวานพี่ชายคุณอยู่ในห้องนั้นทั้งคืนเลยหรอ?”
เขากับเจียงสื้อสื้อมีความสัมพันธ์กันแล้วหรอ? ความรักระหว่างทั้งสองไม่สามารถควบคุมได้จริงๆหรอ?
จิ้นเฟิงเหรากล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า : “เรื่องไม่ช้าก็เร็ว นี่จะมีอะไรล่ะ!”
แม่จิ้นยื่นมือไปตีเขา : “เรียกว่าเรื่องไม่ช้าก็เร็วอะไร นี่ดวงยังไม่ได้เขียนเลยนะ!”
จิ้นเฟิงเหราเบะปาก : “รีบเลยรีบเลย”
พัฒนาแบบนี้ ไม่ช้าก็เร็วพี่ชายเขากับพี่สะใภ้ต้องอยู่ด้วยกัน จิ้นเฟิงเหราจับมือแม่ของตนแล้วพูดว่า : “แม่ พวกคุณอย่ากังวลขนาดนั้นเลย รอให้พี่ชายแต่งงานไม่ใช่หรอ?”
แม่จิ้นถอนหายใจ พวกเขาจะไม่สนใจได้อย่างไร เบื้องหลังของเจียงสื้อสื้อซับซ้อนขนาดนั้น ยังเกี่ยวข้องถึงตระกูลหลานกับตระกูลเจียงด้วย พวกเขาจะวางใจกับคนคนนี้ได้อย่างไร อยู่ข้างกายจิ้นเฟิงเฉินกับเสี่ยวเป่า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าแต่งงานเข้าตระกูลจิ้นเลย
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าการพัฒนาก็ไม่ใช่การควบคุมของพวกเขาแล้ว
……
หลังจากเตรียมพร้อมแล้ว ทุกคนก็ลงจากเรือ
จิ้นเฟิงเฉินเปิดประตูรถ ส่งเจียงสื้อสื้อกลับบ้าน ไม่ได้สนใจซูชิงหยิงที่อยู่ข้างๆ
ซูชิงหยิงยืนอยู่ที่เดิม มองดูรถที่ขับห่างออกไป เธอกำมือแน่น สายตาเต็มไปด้วยความไม่ยอม
แท้ที่จริงเจียงสื้อสื้อผู้หญิงคนนี้มีอะไรดี ทำให้จิ้นเฟิงเฉินถึงปฏิบัติต่อเธอขนาดนี้ ทำให้ซูซินหรุ่ยที่ยืนข้างๆโกรธมากขึ้นพูดว่า : “พี่ คุณดูผู้หญิงคนนั้นสิ เธอมีคุณสมบัติอะไรถึงได้นั่งที่นั่งคู่กับพี่เฟิงเฉิน! ยังทำให้พี่เฟิงเฉินส่งเธอกลับบ้าน ช่างสารเลวซะจริงๆ!”
เรื่องเมื่อคืนก็ผ่านไปแล้ว ซูซินหรุ่ยก็ลืมความอัปยศอดสูไปแล้ว พูดด้วยความเดือดดาลจบก็เอ่ยว่า : “พี่ คุณรอฉันไปตรวจสอบก่อนว่าผู้หญิงคนนั้นทำงานที่ไหน ฉันต้องสั่งสอนเธออย่างแน่นอน”
เธอไม่เชื่อหรอก ว่าจะเป็นลูกสาวคนโตที่ถูกทอดทิ้ง ตนเองยังไม่มีวิธีทำให้เธอจดจำได้
“พอแล้ว เมื่อคืนคุณยังไม่วุ่นวายพอใช่ไหม? ยังคิดจะให้ฉันจัดการเรื่องยุ่งๆของคุณอีกหรอ?” ซูชิงหยิงดุด่าด้วยเสียงเยือกเย็น
“ฉัน……พี่ นี่ไม่ใช่ฉันมองไม่ออกหรือไง? เป็นอย่างนี้ต่อไป ผู้ชายของคุณจะถูกผู้หญิงคนนั้นฉกไปไม่ช้าก็เร็ว” ซูซินหรุ่ยพูดเสียงเล็กเสียงน้อย
“เป็นไปไม่ได้”
ความทุกข์เกิดขึ้นในสายตาของซูชิงหยิงเล็กน้อย จิ้นเฟิงเฉินต้องเป็นของเธอเท่านั้น