ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่125 จิ้นเฟิงเฉินเผด็จการ

บทที่125 จิ้นเฟิงเฉินเผด็จการ

บทที่125 จิ้นเฟิงเฉินเผด็จการ

กินอิ่มดื่มเสร็จกันแล้ว ในตาเจียงสื้อสื้อมึนเล็กน้อย

ถึงจะพูดว่าดื่มนิดเดียว แต่ระหว่างกินข้าว คนทั้งโต๊ะก็คุยแต่เรื่องธุรกิจ เธอก็คุยอะไรไม่ได้ ในหัวก็คิดแต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ เจียงสื้อสื้อรู้สึกอึดอัดใจ จึงได้แต่ดื่มเหล้าไปหลายแก้ว ตอนนี้เจียงสื้อสื้อรู้สึกหน้าร้อนตัวมึนไปหมด

จิ้นเฟิงเฉินเริ่มดูออก เขาขมวดคิ้ว เปิดปากถาม “เป็นอะไรไหม?”

เจียงสื้อสื้อส่ายหัว สายตามึนงง รู้อย่างนี้ก็ไม่ดื่มแล้ว เธอจะลุกขึ้นไปห้องน้ำล้างหน้า

เธอเดินเซไปเซมา ตอนเดินถึงหน้าประตูเกือบล้ม ลู่เจิงเห็นแล้วเป็นห่วง จึงลุกเดินตามไป

คนในห้องอาหารต่างมองไปที่จิ้นเฟิงเฉิน เพราะต่างดูความสัมพันธ์ของทั้งสองออกว่าไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้ลู่เจิงเดินตามเจียงสื้อสื้อไป……

สายตาซูชิงหยิงก็หดหู่ลง ข้าวมื้อนี้ จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้พูดกับเธอสักคำ แต่กลับกัน เป็นห่วงเป็นใยแต่เจียงสื้อสื้อ ตัวเองนั่งอยู่ตรงนี้ก็เหมือนอากาศไม่มีใครเห็น ไม่ต้องพูดถึงว่าซูชิงหยิงจะโกรธขนาดไหน

เมื่อเห็นลู่เจิงเดินไป ซูชิงหยิงจึงพูดขึ้น “รุ่นพี่ลู่ดูเหมือนจะเป็นห่วงเจียงสื้อสื้อมาก”

จิ้นเฟิงเฉินสีหน้าไม่แสดงอารมณ์ ไม่ได้พูดอะไรเลย

……

ถึงห้องน้ำแล้ว เจียงสื้อสื้อก็ล้างหน้า จึงรู้สึกสดชื่นขึ้นบ้าง รออาการดีขึ้น เธอจึงเดินออกจากห้องน้ำ

เมื่อเดินถึงข้างนอก เจียงสื้อสื้อก็หยิบมือถือจะส่งข้อความให้ลู่เจิงบอกว่าเธอขอกลับก่อน

เพราะจิ้นเฟิงเฉินยังอยู่ เจียงสื้อสื้อไม่อยากเดินเข้าไปอีก และไม่อยากไปเห็นสายตาผู้คนที่มองเธออย่างสงสัย

เพิ่งหยิบมือถือออกมา เธอก็เห็นลู่เจิงยืนอยู่ตรงประตู เขาถามขึ้นอย่างห่วงใย “เป็นไงบ้าง ไม่เป็นไรใช่ไหม? ไม่สบายตรงไหนไหม?”

ลู่เจิงรู้ว่าเจียงสื้อสื้อดื่มเหล้าไม่เก่ง สมัยเรียน เธอไม่ดื่มเลยด้วยซ้ำ

เจียงสื้อสื้อรู้สึกอึดอัดใจ เม้มปากพูด “ไม่เป็นไรค่ะ รุ่นพี่วางใจได้ค่ะ”

เห็นหน้าเธอแดงเล็กน้อย มีกลิ่นเหล้าจางๆ ลู่เจิงก็ทำอะไรไม่ถูก เมื่อครู่เขามัวแต่คุยกับคนอื่น ไม่ได้สังเกตเจียงสื้อสื้อ ไม่รู้ว่าเธอดื่มไปเยอะขนาดนี้

“รู้แต่แรกก็ไม่พามาด้วยละ”

เจียงสื้อสื้อยิ้ม “ไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะรุ่นพี่ ยังไหวค่ะ”

เธอพูดไปเดินไป ไม่รู้เป็นอะไร ขาสะดุด เจียงสื้อสื้อเกือบล้มลงไป ลู่เจิงยื่นมือไปประคองเธอไว้

“เป็นอะไรไหม?”

สองคนชิดกันขนาดนี้ ท่าทางดูแล้วคลุมเครือ

เวลาเดียวกัน จิ้นเฟิงเฉินกำลังเดินมา ดูเหมือนจะมาเข้าห้องน้ำ เห็นสองคนนี้อยู่ข้างหน้า จิ้นเฟิงเฉินแววตาส่อแววอันตราย

เมื่อเห็นว่าเขากำลังเดินมา สบตากัน เจียงสื้อสื้อรีบยืนตรง ออกห่างจากลู่เจิง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เธอเหมือนมีความรู้สึกผิด

จิ้นเฟิงเฉินไม่มีปฏิกิริยาอะไร เดินเข้าห้องน้ำใบหน้าไร้อารมณ์

เห็นเขาเดินจากไป เจียงสื้อสื้อดึงสติกลับมา ก็คิดในใจว่าทำไมถึงไม่เอาไหนเลย จะรู้สึกผิดทำไม ตัวเองกับจิ้นเฟิงเฉินก็ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย

เจียงสื้อสื้อรู้สึกอายและพูดขึ้น “รุ่นพี่ลู่ ฉันไม่เป็นไรค่ะ แค่เวียนหัวเล็กน้อย ขอโทษนะคะ ขอกลับก่อนได้ไหมคะ?”

ลู่เจิงพยักหน้า ไม่ได้ปฏิเสธ

“อืม ไปรอผมที่ประตูก่อน ผมเข้าไปบอกลาก่อน เดี๋ยวผมไปส่ง”

“ไม่เป็นไรค่ะ พี่เข้าไปคุยกับพวกผู้อำนวยการต่อเลยค่ะ ฉันกลับเองได้ค่ะ”

เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่า กลับก่อนเวลาไม่ค่อยดี แต่ลู่เจิงก็ยืนยันพูดต่อ “ผมเป็นคนชวนคุณมาร่วมงาน จะให้คุณกลับไปคนเดียวได้อย่างไร งานเลี้ยงก็ใกล้จบแล้ว ลงไปรอผมข้างล่างเลย ผมจะรีบมา”

เจียงสื้อสื้อ อยากพูดอะไรต่อ แต่ลู่เจิงเดินจากไปแล้ว

ทำอะไรไม่ได้ เธอก็เดินไปรอลู่เจิงที่ประตู

เจียงสื้อสื้อขยี้ตา ยังรู้สึกเวียนหัวอยู่ เธอมองที่ประตูร้านอาหาร คิดในใจ วันนี้เป็นต้นไป จะไม่ไปมาหาสู่กับจิ้นเฟิงเฉินอีก

เจียงสื้อสื้อ หลับตาถอนหายใจ เวลาเดียวกัน มีรถคันหนึ่งมาจอดตรงหน้าเธอ เธอยังไม่ทันตั้งตัว ก็ถูกคนในรถดึงเข้าไป

เจียงสื้อสื้อรู้สึกงง และตกใจอยู่ พอตั้งสติได้ก็เห็นว่าคนที่ดึงเธอขึ้นรถคือจิ้นเฟิงเฉิน เวลานี้เขากำลังนั่งอยู่ข้างเธอ เสียงเคร่งขรึมพูดกับคนขับรถว่า “ออกรถ”

เจียงสื้อสื้อ “???”

นี้มันอะไรกัน

ไม่ได้ถามอะไรเธอเลย รถก็ขับออกไปแล้ว

……

ทางนี้ ซูชิงหยิงนั่งอยู่ในห้องอาหาร สีหน้าไม่ค่อยดี

ตอนแรกคิดว่างานมหาลัยวันนี้จะได้อยู่กับจิ้นเฟิงเฉิน อยากจะมีอะไรดี ๆ เกิดขึ้น แต่คาดไม่ถึงว่า เจียงสื้อสื้อก็มาร่วมงาน

ใจจิ้นเฟิงเฉินอยู่ในตัวเธอหมด วันนี้ทั้งวันแทบไม่ได้ใส่ใจตัวเองเลย ทุกคนในห้องอาหาร ดูตัวเองเป็นเหมือนตัวตลก

ซูชิงหยิงรู้สึกว่า ตัวเองเหมือนตัวตลกแสดงกายกรรม

ดูเวลาแล้ว จิ้นเฟิงเฉินออกไปนานแล้ว เจียงสื้อสื้อก็ออกไปนานมาก ซูชิงหยิงขมวดคิ้ว หยิบกระเป๋าทักทายทุกคนแล้วเดินออกจากห้องอาหาร

ซูชิงหยิงไปหาที่ห้องน้ำ แต่ก็ไม่เจอแม้แต่เงาของจิ้นเฟิงเฉิน ตอนนี้เธอมีลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดี

พอถึงลานจอดรถ ถึงรู้ว่าจิ้นเฟิงเฉินขับรถออกไปแล้ว

สีหน้าซูชิงหยิงเปลี่ยนไป จิ้นเฟิงเฉินทิ้งเธอไว้แล้วจากไปก่อน และอาจจะจากไปพร้อมกับเจียงสื้อสื้อก็ได้

กำมือไว้แน่น ซูชิงหยิงกัดฟันโกรธมาก ตอนนี้ในใจเกลียดเจียงสื้อสื้อจนอยากหั่นเป็นพันท่อน

สุดท้ายก็เดินออกจากลานจอดรถไป ซูชิงหยิงมาถึงทางออกร้านอาหาร เจอลู่เจิงพอดี

ไม่เห็นเจียงสื้อสื้อแล้ว ลู่เจิงก็ขมวดคิ้ว กำลังจะโทรหาเจียงสื้อสื้อ ก็เจอซูชิงหยิงพอดี

“ประธานลู่ กำลังหาคุณเจียงเหรอคะ? เธอน่าจะไปแล้วค่ะ”

เห็นซูชิงหยิงอยู่คนเดียว ลู่เจิงก็พอจะเข้าใจแล้ว เจียงสื้อสื้อน่าจะถูกจิ้นเฟิงเฉินพาออกไปแล้ว ทันใดนั้น สีหน้าเปลี่ยนไปทันที

ซูชิงหยิงเดินไปข้างหน้า ยิ้มแล้วพูด “ผู้หญิงที่คุณพูดถึงในงานวันนี้น่าจะหมายถึงคุณเจียงใช่ไหมคะ? คุณชอบเธอมาตลอดหลายปีนี้เหรอคะ?”

ลู่เจิงไม่ได้ตอบคำถามของซูชิงหยิง แต่ถามขึ้น “คุณซูมีอะไรอีกไหมครับ? ถ้าไม่มี ผมขอตัวก่อนนะครับ”

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน