บทที่ 161 ตั้งใจให้เธอเข้าใจผิด
เจียงสื้อสื้อมองจิ้นเฟิงเฉินสั่งอาหารอย่างหมดคำพูด และก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ยังไงคุณชายใหญ่ก็ไม่ได้ขาดเหลือเงินจำนวนนี้อยู่แล้ว
ระหว่างรออาหารเสิร์ฟ ตั้งแต่เจอหน้าจนถึงตอนนี้จิ้นเฟิงเฉิน ก็เหมือนรู้สึกว่าเจียงสื้อสื้อมีเรื่องอะไรในใจ ดังนั้นจึงเอ่ยปากถามถึงเรื่องงาน
“โครงการราบรื่นดีไหมครับ?”
ก่อนมาจิ้นเฟิงเฉินฟังซูซานบอกว่า เจียงสื้อสื้อมารับงานนี้ชั่วคราว อีกฝ่ายเหมือนกับรับมือได้ยาก และก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว
เจียงสื้อสื้อก็ถอนหายใจออกมาและพูดว่า “อีกฝ่ายตั้งใจกลั่นแกล้งอย่างชัดเจนค่ะ ถึงตอนนี้ยังไม่ได้เจอหน้ากันเลย วันนี้ตอนบ่ายให้ผู้ช่วยนำงานไปเสนอแล้ว และไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะเป็นยังไง”
พูดถึงเรื่องนี้ อารมณ์ของเจียงสื้อสื้อก็เปลี่ยนเป็นหนักอึ้งอย่างช่วยไม่ได้
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย และพูดปลอบว่า “อย่ารีบร้อน มันต้องมีวิธีแน่นอนครับ”
“ค่ะ” เจียงสื้อสื้อพยักหน้ารับ
ตอนนี้ พนักงานก็เอาอาหารมาเสิร์ฟ เจียงสื้อสื้อทานมาแล้ว แต่ก็ยังถูกจิ้นเฟิงเฉินยัดอาหารเข้ามาให้ไม่น้อย เหตุผลคือร้านอาหารร้านนี้รสชาติไม่เลว
จนถึงตอนที่ทานอาหารค่ำเสร็จ เจียงสื้อสื้อทานจนอิ่มแปล้ เธออดไม่ได้ที่จะจ้องจิ้นเฟิงเฉินที่กำลังเช็กบิลอย่างคับแค้นใจ
หลังจากเช็กบิลเสร็จ ทั้งสองคนก็ออกจากร้านอาหารไป จิ้นเฟิงเฉินรู้ว่าเจียงสื้อสื้อทานจนอิ่ม ก็เลยไม่ได้รีบร้อนที่จะกลับ และค่อยๆ เดินช้าๆ กลับโรงแรมเป็นเพื่อนเธอ
ตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว ผู้คนบนท้องถนนน้อยมาก แสงไฟนั้นดึงเงาของทั้งสองคนให้เดินเคียงคู่กัน
ตอนนี้ เจียงสื้อสื้อจู่ๆก็ใจลอย มีบ้างบางวินาที ที่มีความหวังว่าเวลาจะหยุดลง และทั้งคู่ได้เดินคู่เคียงกันไปแบบนี้
จิ้นเฟิงเฉินก็เหมือนกัน หลังจากที่เธอจากไปอารมณ์ก็กลัดกลุ้มไปหลายวัน ครั้งนี้ได้เห็นใบหน้าของสาวน้อยคนนี้ อารมณ์ของเขาก็สบายใจอย่างช่วยไม่ได้ และมุมปากของเขายังคงมีรอยยิ้มจางๆ
……
ตรงกันข้าม ตอนนี้ที่โรงแรม ซูชิงหยิงอยู่ภายในห้อง ใบหน้าไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเศร้าหมองขนาดไหน
ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว จิ้นเฟิงเฉินและเจียงสื้อสื้อยังไม่กลับมา เธอกำมือแน่น เป็นแบบนี้ต่อไป ตัวเธอเองก็คงแพ้โดยสิ้นเชิง
ไม่กี่ปีนี้ คุณหญิงน้อยใหญ่ตระกูลซูของเธอเหมือนกิ่งทองใบหยก ใช้ชีวิตเหมือนเจ้าหญิง แต่ไหนแต่ไรมาอยากได้อะไรก็ได้ และไม่เคยแพ้มาก่อน แต่ตอนนี้กลับจะแพ้ให้เจียงสื้อสื้อ แพ้ให้ผู้หญิงต่ำๆ แบบนั้น ซูชิงหยิงจะยอมได้ยังไงกัน
ยิ่งกว่านั้น นี่คือผู้ชายที่เธอรักมาสิบกว่าปี ไม่ว่ายังไง ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นของเธอ
แววตาของซูชิงหยิงมีประกายของความแน่นิ่ง มาต่างประเทศครั้งนี้ เธอต้องแย่งจิ้นเฟิงเฉินกลับมาให้ได้
ตอนนี้ซูชิงหยิงกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ด้านนอกประตูก็มีเสียงดังขึ้นมา เที่ยงคืนแล้ว มือของซูชิงหยิงที่เปิดประตูห้องแทบจะสั่นอยู่
เธอสงบสติลง เดินออกไปด้านนอก เจียงสื้อสื้ออาศัยอยู่ชั้นเดียวกับพวกเขา ทั้งสองคนกำลังเดินออกจากลิฟต์ ซูชิงหยิงเดินไปด้านหน้าและพูดว่า “ในที่สุดคุณก็กลับมา ฉันรอคุณตั้งนานค่ะ!”
ในน้ำเสียงของเธอมีความคลุมเครือ เจียงสื้อสื้อลดสายตาลง อารมณ์ในตอนนี้สับสนวุ่นวาย
จิ้นเฟิงเฉินเม้มริมฝีปาก และพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณไม่ต้องตั้งใจรอผมหรอก รีบกลับไปพักผ่อนเถอะครับ”
ซูชิงหยิงยิ้มออกมา “จะได้ยังไงละคะ ในเมื่อออกมาพร้อมคุณ ก็ต้องดูแลคุณสิคะ……”
พูดมาถึงครึ่ง ก็ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ ซูชิงหยิงรีบถามขึ้นมาอย่างใส่ใจว่า “คุณดื่มเหล้าเหรอคะ? ดื่มเยอะรึเปล่า?” ระหว่างพูด ซูชิงหยิงยังยื่นมือออกไปสัมผัสหน้าจองจิ้นเฟิงเฉิน แต่ว่าถูกเขาจับข้อมือเอาไว้
ดูเหมือนกับตัวเองจะตื่นเต้นจนเกินไป ซูชิงหยิงเลยพูดว่า “ขอโทษค่ะ ฉันแค่เป็นห่วงคุณ”
เจียงสื้อสื้อยังยืนอยู่ที่เดิม มองภาพนี้ในสายตา ระหว่างพวกเขาดูเหมือนว่าจะสนิทสนมกันเหลือเกิน เหมือนกับเวลาปกติก็คบหากันแบบนี้
ในระหว่างนั้น เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่าทั้งสองคนเหมาะสมกัน แต่เธอเอง เป็นเพียงแค่ส่วนเกินแค่นั้น……
เขาจับมือของซูชิงหยิงออก สิ่งที่จิ้นเฟิงเฉินทำเป็นอันดับแรกคือมองท่าทีของเจียงสื้อสื้อ กลัวว่าเธอจะเข้าใจผิด
เจียงสื้อสื้อลดสายตาลงต่ำและพูดว่า “พวกคุณรีบพักผ่อนเถอะค่ะ ฉันกลับก่อนนะคะ”
หลังจากพูดจบ ก็จากไป จิ้นเฟิงเฉินอยากจะเรียกเธอไว้ แต่ว่าเจียงสื้อสื้อเข้าห้องไปแล้ว
ซูชิงหยิงยังยืนอยู่ที่เดิม แววตาประกายรอยยิ้มของความชั่วร้าย แต่ว่าใบหน้ายังคงเริ่มถามต่อ “คุณเจียงเข้าใจผิดอะไรรึเปล่าคะ?”
“ผมกับคุณมีอะไรต้องเข้าใจผิดเหรอครับ ไม่เป็นไรหรอกรีบไปพักผ่อนเถอะ”
หลังจากพูดจบอย่างเย็นชา จิ้นเฟิงเฉินก็หมุนตัวกลับเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง
ซูชิงหยิงมองเงาของเขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ว่าคิดถึงท่าทางเมื่อกี้ของเจียงสื้อสื้อ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
เธออยากให้เจียงสื้อสื้อรู้ไว้ว่า ฟ้าส่งให้เธอและจิ้นเฟิงเฉินมาคู่กัน
ผู้ชายคนนี้มีแค่หญิงใหญ่หญิงน้อยตระกูลซูของเธอที่เหมาะสมกับเขา
……
หลังจากที่กลับมาถึงห้อง สวีหน้ายังไม่นอน เมื่อกี้ตอนลงจากรถเธอก็รีบวิ่งขึ้นมาแล้ว เพราะแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น
สวีหน้ามองเจียงสื้อสื้อ ใบหน้าของเธอก็ดูคลุมเครือ
“พี่สื้อสื้อ พี่กับรุ่นพี่ลู่แอบทำไปทำอะไรลับหลังฉัน? ทำไมกลับมาดึกขนาดนี้?”
“ห๊า?” เจียงสื้อสื้อมอง สวีหน้าด้วยความสงสัย ในหัวของเธอสับสน และได้ยินไม่ชัดว่าเมื่อกี้เธอพูดอะไร
เจียงสื้อสื้อลดสายตาลง ในหัวยังมีภาพจิ้นเฟิงเฉินและซูชิงหยิงอยู่ด้วยกันลอยขึ้นมา ตอนนี้พวกเขาทำอะไรอยู่? อยู่ในห้องด้วยกันใช่ไหม?
สวีหน้าถอนหายใจออกมาอย่างหมดคำพูด หรือว่า ผู้หญิงที่มีความรักก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้นกันนะ?
สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ ล้มตัวลงเตียงและหลับไป
หลังจากเจียงสื้อสื้อล้างหน้าล้างตา ก็มานอนอยู่ห้องข้างๆ ไม่ว่าในหัวของเธอยังคงสับสนวุ่นวาย พลิกไปพลิกมายังไงก็นอนไม่หลับ ในหัวมีแต่ภาพจิ้นเฟิงเฉินและซูชิงหยิง
เจียงสื้อสื้อคิดไปเรื่อยเปื่อย ถ้าหากหลังจากที่จิ้นเฟิงเฉินกับซูชิงหยิงแต่งงานแล้วเธอจะทำยังไงต่อไป ปัญหาทุกรูปแบบลอยเข้ามาในสมอง เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่าตัวเองต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
เธอพยายามให้ตัวเองสงบสติลง แต่ดวงใจดวงนั้นกลับสงบลงไม่ได้สักที
……
วันต่อมายังคงเป็น สวีหน้าที่มาเรียกเจียงสื้อสื้อให้ตื่น เธอมองเจียงสื้อสื้อและอดไม่ได้ที่จะถามว่า “พี่สื้อสื้อ เมื่อคืนพักผ่อนไม่เต็มที่เหรอคะ? ขอบตาดำหมดแล้ว สีหน้าก็ดูไม่ค่อยดี”
เจียงสื้อสื้อขยี้ตาและส่ายหน้า “ไม่มีอะไร แค่นอนไม่หลับ ไปเถอะ ไปทานอาหารเช้ากัน”
สวีหน้าพยักหน้ารับ และลงตึกมากับเจียงสื้อสื้อ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะเจอซูชิงหยิงและจิ้นเฟิงเฉินอยู่ที่ห้องอาหารของโรงแรมเหมือนกัน
ทั้งสองคนก็กำลังทานอาหารเช้า ซูชิงหยิงสวมกระโปรงสีขาว แต่งหน้าจางๆ ผมม้วนขึ้นสูง ดูสวยงาม ท่าทางระหว่างขยับตัวยิ่งสง่างามยิ่งกว่านั้นทั้งตัวมีกลิ่นอายของความหรูหรา
จิ้นเฟิงเฉินยิ่งไม่ต้องพูดถึง ผู้ชายคนนี้ ไม่ว่ายังไงก็ยังคงหล่อเหลา ไม่ว่ายังไง ในผู้คนมากมายมองเข้ามาก็เห็นเขาก่อนอยู่ดี
ทั้งสองคนนั่งอยู่ด้วยกัน เหมือนฟ้าส่งมาคู่กัน ดูเหมาะสมจนไม่มีอะไรมาเทียบได้