บทที่ 171 ปีที่หายตัวไป
หลังจากถึงบ้านแล้ว สาวใช้รับกระเป๋าจากซูชิงหยิงไป เธอลากร่างที่เหน็ดเหนื่อยเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น แม่ซู ยิ้มหวานแล้วเดินเข้าไปถาม: “ชิงหยิง เป็นอะไรไป? เดินทางไปต่างประเทศกับเฟิงเฉินครั้งนี้มีอะไรคืบหน้าบ้าง? แล้วเฟิงเฉินล่ะ? เขาไม่ได้มาส่งลูกเหรอ?”
ซูชิงหยิงอ่อนล้าเพราะโดยสารเครื่องบินมาเป็นเวลานาน บวกกับเรื่องที่จิ้นเฟิงเฉินออกไปพร้อมกับเจียงสื้อสื้ออีก คำพูดของ แม่ซู แต่ละคำเป็นเหมือนชนวนให้ซูชิงหยิงระเบิดอารมณ์ที่ค้างคา
ซูชิงหยิงโกรธเสียจนทุบทุกอย่างบนโต๊ะ
เธออดทนมามากพอแล้ว จิ้นเฟิงเฉินทิ้งตัวเองไปเพื่อเจียงสื้อสื้อครั้งแล้วครั้งเล่า เธอต้องการให้เจียงสื้อสื้อหายไป ต้องหายไป! ซูชิงหยิงกำลังตะโกนอย่างบ้าคลั่งในใจ
แม่ซู ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น พ่อซูขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วตำหนิ “ลูกเป็นกุลสตรี ทำแบบนี้มันเหมาะสมรึไง!”
ซูชิงหยิงรู้ตัวว่าตนเองนั้นหุนหันพลันแล่นเกินไป เธอจึงนั่งลงบนโซฟาด้วยสีหน้าบึ้งตึง
แม่ซู กุมมือเธอแล้วเอ่ยถาม: “มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ลูก? อยู่ดี ๆ ทำไมถึงได้โมโหขึ้นมา? ทะเลาะกับเฟิงเฉินมารึเปล่า?”
แม่ซู เข้าใจนิสัยของลูกสาวตัวเองดี หากไม่ใช่เรื่องใหญ่คงไม่มีทางโมโหได้ถึงขนาดนี้แน่
ซูชิงหยิงลูบคิ้วของเธอแล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างที่เดินทางไปต่างประเทศให้พ่อและแม่ฟัง
“พ่อคะ แม่คะ พ่อกับแม่ไม่รู้อะไร เฟิงเฉินทิ้งหนูไปเพราะเจียงสื้อสื้อไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง คืนก่อนหนูถูกทิ้งไว้คนเดียวในงานเลี้ยงยังไม่พอ วันนี้ยังให้หนูบินกลับมาคนเดียวอีก”
ซูชิงหยิงเข้าใจว่าเดินทางครั้งนี้ตัวเองจะแย่งจิ้นเฟิงเฉินกลับมาได้อย่างหมดจด โดยอาศัยช่วงที่เจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉินไม่ชัดเจน แล้วลู่เจิงต้องการจะแยกพวกเขาออกจากกัน
เดิมทีทุกอย่างดูเป็นไปตามแผนของเธอแต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นนั้น จิ้นเฟิงเฉินกับเจียงสื้อสื้อไม่เพียงแต่ไม่ทะเลาะกัน แต่ทั้งสองกลับยิ่งดูรักใคร่กันมากกว่าเดิม
“แม่ หนูไม่เคยเห็นเฟิงเฉินเป็นแบบนี้เลย ในตอนที่เขาตกตะลึงจนล้มเมื่อเจอเจียงสื้อสื้อที่งานเลี้ยง ไม่ต้องพูดว่าตื่นเต้นแค่ไหน เขายังออกจากงานแล้วไปดูแลยัยนี่ที่โรงพยาบาลทั้งคืน แถมตอนนี้พากันไปไหนแล้วก็ไม่รู้”
เมื่อได้ฟัง แม่ซู และพ่อซูต่างมีแววตาที่เป็นกังวล
“ยัยสารเลวนั้นยังมีมารยาอีกเยอะค่ะ!”
“แม่ ตอนนี้ในใจของเฟิงเฉินมีแต่แม่นั่น ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป…”
ตัวเองกำลังคิดว่าอาจจะแย่งเฟิงเฉินกลับมาไม่ได้แล้ว ซูชิงหยิงคิดจะยอมแพ้แต่ในใจกลับไม่ยอม
เพื่อให้ได้แต่งงานกับจิ้นเฟิงเฉินแล้วเธอใช้ความพยายามอยู่หลายปีจะยอมตัดใจง่าย ๆ ได้ยังไง
แม่ซู ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูด: “หลายวันก่อนแม่ก็เจอน้าจิ้น เธอบอกว่าเฟิงเฉินเลือกผู้หญิงคนนี้แล้ว เธอเป็นแม่ก็เข้าไปยุ่งเรื่องนี้มากไม่ได้”
ถึงแม้แม่จิ้นจะไม่ชอบเจียงสื้อสื้อ แต่เธอก็รู้จักนิสัยของลูกชายตัวเองดี ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถจะทะเลาะกับเฟิงเฉินด้วยเรื่องนี้ได้
คนตระกูลซูจะยอมมองว่าที่ลูกเขยที่หมั้นหมายมาหลายปีถูกแย่งไปอย่างไร ยิ่งกว่านั้นยังมีเจียงสื้อสื้อที่เป็นผู้หญิงแบบนี้ ผู้หญิงอย่างเจียงสื้อสื้อไม่มีอะไรที่เทียบกับชิงหยิงของพวกเขาได้เลย
แต่ว่าในตอนนี้ แม่จิ้นก็ยังไม่มีวิธี พวกเขาจะทำอะไรได้?
เมื่อคิดพ่อซูก็เอ่ยขึ้น: “ลูกไม่ได้ติดต่อคนจากตระกูลเจียงแล้วเหรอ? เข้าไปเลียบ ๆ เคียง ๆ เรื่องปีที่เจียงสื้อสื้อหายตัวไปนั้นเกิดอะไรขึ้นแน่?
“จริงด้วย! คนจากตระกูลเจียงจะต้องรู้แน่ว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้หญิงคนหนึ่งหายไปตั้งปียังลึกลับขนาดนี้ จะต้องมีเรื่องบางอย่างที่เปิดเผยให้คนอื่นรู้ไม่ได้ ไม่แน่ว่า…”
ซูชิงหยิงนิ่งไป: “ไม่แน่ว่าอะไรคะ?”
“หนึ่งปีที่หายไป เจียงสื้อสื้ออาจจะท้องลูกของคนอื่นก็ไม่แน่”
ซูชิงหยิงตกตะลึง: “จะเป็นได้ยังไง เป็นไปไม่ได้มั้งคะ?”
“เด็กโง่ มีเรื่องอะไรที่เป็นไปไม่ได้บ้าง ยิ่งกว่านั้นต่อให้มันไม่จริง…” แววตาของ แม่ซู เป็นประกายแล้วพูดต่อ “พวกเราก็สร้างเรื่องสิ ถ้าหากว่าคนตระกูลจิ้นรู้ว่าเจียงสื้อสื้อมีลูกกับคนอื่น ยังจะเอาเธออีกเหรอ”
ใช่แล้ว เดิมทีชื่อเสียงของเจียงสื้อสื้อก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ถ้าหากว่ามีลูกขึ้นมา…ไม่เพียงแต่ตระกูลจิ้นจะไม่ยอมรับ แม้แต่จิ้นเฟิงเฉินก็คงต้องทิ้งเธอแน่
ซูชิงหยิงสดชื่นขึ้น เมื่อคิดถึงเรื่องการสอบประวัติของเจียงสื้อสื้อก่อนหน้านี้
ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงโดนไล่จากตระกูลซู ยิ่งกว่านั้นในงานเลี้ยงครั้งที่แล้ว คนจากตระกูลตระกูลหลานบอกว่าเจียงนวลนวลทำเรื่องที่เปิดเผยไม่ได้
ยิ่งซูชิงหยิงคิดก็รู้สึกว่าเจียงสื้อสื้อหายไปปีนั้นคงจะไปทำเรื่องที่น่าอับอายเข้า
“แม่พูดถูกจริงด้วยค่ะ ไม่ว่ายังไง หนูจะไม่มีทางให้ใครมาแย่งเฟิงเฉินไป”
ซูชิงหยิงจุดประกายความมั่นใจ ในเวลานี้เองโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นเป็นสายของหลานซือเฉิน
ซูชิงหยิงกระตุกมุมปากของเธอในทันใด คิดอะไรก็ได้อย่างนั้นจริง ๆ!
เมื่อเธอรับสายเสียงของหลานซือเฉินก็ดังขึ้น
“คุณซู ผมหลานซือเฉิน ไม่ทราบว่าคุณจะพอมีเวลาหรือเปล่า โครงการมีปัญหานิดหน่อย ผมอยากจะคุยกับคุณ”
ซูชิงหยิงยิ้มแล้วพูด “มีสิคะ! วันนี้ฉันเพิ่งกลับจากต่างประเทศ พรุ่งนี้ดีกว่า!”
หลานซือเฉินพูดด้วยน้ำเสียงยินดี “ได้ครับ”
“อ้อ ใช่แล้ว ประธานหลานช่วยพาคุณเจียงมาด้วยได้ไหมคะ? ก่อนหน้านี้ฉันคุยถูกคอกับเธอ ฉันอยากจะนัดเธอไปทำสวยด้วยกันหลังจากคุยเรื่องรายการได้ไหมคะ?”
ซูชิงหยิงดูว่าหลานซือเฉินเป็นคนที่ลุ่มลึกหากจะหลอกถามอะไรเขาคงยากมาก ยิ่งกว่านั้นนี่คือนักธุรกิจทุกเรื่องเกี่ยวกับผลประโยชน์เป็นสำคัญ หากต้องสืบข่าวจากหลานซือเฉินคงจะต้องใช้ต้นทุนสูง ยิ่งกว่านั้นเขารู้จักเจียงสื้อสื้อมานานหลายปี ไม่รู้ว่าลึก ๆ ในใจของเขาจะปกป้องเธออยู่หรือไม่
แต่กับเจียงนวลนวลนั้นไม่เหมือนกัน ซูชิงหยิงรู้ดี เธอเกลียดเจียงสื้อสื้อมากกว่าใคร นอกจากนั้นเธอยังเป็นหญิงท้องหน้าโง่ หากสืบจากเธอคงจะง่ายกว่ามาก
อีกฝ่ายคือหลานซือเฉินจะต้องรับปากอยู่แล้ว
หลังจากวางสายไป ซูชิงหยิงกำโทรศัพท์ไว้ในมือและยกมุมปาก มันเหมือนกับที่ แม่ซู บอก ไม่ว่าปีที่เจียงสื้อสื้อหายไปจะเกิดอะไรขึ้น ตระกูลซูของพวกเธอก็จะหาทางสร้างเรื่องขึ้นมาจนได้
จิ้นเฟิงเฉินจะต้องเป็นของเธอเท่านั้น
… …
อีกฟากหนึ่ง เจียงนวลนวลหลังจากได้ยินว่าซูชิงหยิงต้องการจะนัดตัวเองก็ดีใจเสียยิ่งกว่าอะไร
“จริงรึเปล่า? คุณซูบอกว่าคุยกับฉันถูกคอเหรอ?”
หลานซือเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นโดยง่าย ซูชิงหยิงเป็นคนหนูตระกูลซู ข้างกายเธอจะไม่มีเพื่อนเลยเหรอ! ทำไมถึงต้องนัดเจียงนวลนวล? นี่จะต้องมีอะไรแน่
“คุณอย่าลืมล่ะว่าอะไรควรพูดอะไรไม่ควรพูด อย่าทำให้คนอื่นไม่พอใจล่ะ”
“รู้แล้ว” เจียงนวลนวลเบะปากแต่ลึก ๆ ในใจแล้วเธอยังแอบคิดจะช่วยซูชิงหยิงแย่งจิ้นเฟิงเฉิน เธอไม่มีวันยอมให้ผู้หญิงอย่างเจียงสื้อสื้อได้อยู่กับจิ้นเฟิงเฉิน