บทที่ 242 มีชีวิตอยู่จนเบื่อแล้ว
หลังจากที่Kevinวางสายลง ในสมองนั้นก็มีฉากของตนในเมื่อก่อนโดยห้ามไม่ได้
เมื่อก่อนนั้น เขาเคยโดนคนอื่นใส่ร้ายว่าลอกเลียนแบบ
ในตอนนั้นของเขา ไม่ได้โชคดีอย่างเจียงสื้อสื้อนี้ และไม่มีวิธีที่จะแก้ให้ตนเองด้วยซ้ำ
ทำงานในทางของพวกเขานี้ ใครๆก็รู้ว่า ถ้ามีจุดสกปรกของการลอกเลียนแบบแล้ว ทั้งชีวิตนี้ก็อย่าคิดที่จะกลับมาดีได้
เขายิ้มแห้ง เขาคิด ถ้าไม่ใช่ว่าเขามีความสามารถจริงๆ ได้เจอกับคนที่ดี ได้รับความช่วยเหลือ
อาจเป็นไปได้ว่า ตอนนี้เขายังอยู่ในมุมที่มืดมนนั้น อยู่แบบไม่เป็นสุขมากๆ
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น สุดท้ายผ่านอุปสรรคมา เขากว่าจะอยู่จนดีขึ้นมาได้ เอาคำที่ใส่ร้ายว่าลอกเลียนแบบออกไปนั้น ในใจของเขานั้นก็มีบาดแผลอยู่แล้ว
คนคนหนึ่งถ้าเคยบาดเจ็บ พอมีเงินขึ้นมา ก็คิดแต่จะไปมีความสุข เพื่อที่จะเติมเต็มบาดแผลในใจของตนนั้น
เขาดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ และแตกต่างจากตนเองที่เหมือนกับกระดาษขาวนั้น ยิ่งอยู่ยิ่งไกล
แต่นี้ก็ไม่ได้แปลว่า เขาจะไม่มีเส้นตายแล้ว
ซูชิงหยิง เธอไม่ควรพันรอบไม่ควรหมื่นรอบ ก็คือไปลอกเลียนแบบคนอื่น ซ้ำยังใส่ร้ายเขาอีก
ในงานเลี้ยงยามเย็น
เจียงสื้อสื้อและซูซาน เดินเข้ามาในงานพร้อมกัน ทั้งสองคนนั้นกลายเป็นเป้าสายตาแทบจะทันที
ไม่ยอมรับไม่ได้ว่า หน้าตาของเจียงสื้อสื้อนั้น สวยมากๆจริง
ความสง่าเรียบร้อยบนร่างกายของเธอที่มีมาแต่เกิดนั้น คือสิ่งที่คนอื่นเรียนไม่ได้
พอKevinเห็น ตานั้นก็สว่างขึ้น แล้วผลิออกจากคนข้างๆ ได้ทำการเชื้อเชิญเธอ “ไม่รู้ว่าคุณเจียงจะยอมมั้ย นำการเต้นเพลงแรกของคืนนี้ มอบให้กับผม”
เจียงสื้ออสื้อเพียงแค่หยุดนิ่งไป ยังไงKevinก็เป็นคนรับผิดชอบงานร่วมมือนี้ กำลังจะตกลง ก็โดนลู่เจิงที่กำลังเข้ามาห้าม
“Kevin สื้อสื้อนั้นเป็นดอกไม้ที่มีเจ้าของแล้วนะ ไม่ใช่ว่าคุณจะทำอะไรง่ายๆนะ”ลู่เจิงชอบเจียงสื้อสื้ออยู่แล้ว Kevinเห็นว่าสายตาของเขานั้น ไม่ได้มีเพียงความเชิดชู แต่ยังมีความหวงด้วย
Kevinชักมือกลับ รู้สึกเสียดายนิดๆ แล้วคิดว่าเจียงสื้อสื้อกับลู่เจิงเป็นคู่กัน “หรือว่าคุณเจียงจะเป็นแฟนสาวคุณหรอ?ถ้าเป็นของคุณจริง ผมก็คงต้องแย่งกับคุณดีๆแล้ว”
เจียงสื้อสื้อได้ยินเช่นนี้ ก็เริ่มรู้สึกไม่ดี จึงยิ้มแล้วแทรกว่า:“Kevin คุณนี้หยอกเก่งจริงๆเลยนะ”
Kevinยักไหล่ แล้วกระพริบตาใส่เธอ “ยังไงละ คุณเจียง คุณจะให้ผมมาจีบได้หรือเปล่าครับ?”
“คุณหยอกเล่นหน่า คนที่ทั้งเก่งทั้งมีเงินอย่างคุณนั้น กลัวว่าคนที่อยากเป็นผู้หญิงของคุณนั้น อาจเยอะจนนับไม่ถ้วนแล้ว แล้วจะมาถึงฉันได้ยังไงกันละ”คำพูดของเจียงสื้อสื้อ ก็มีน้ำเสียงหยอกเล่นเช่นกัน
Kevinเห็นเธอไม่ปฏิเสธแบบอ้อมค้อมเช่นนี้ จึงไม่ได้ขออีก แล้วพูดแบบโล่งอกว่า:“คุณพูดได้ถูก ผมรอให้คนอื่นมาจีบยังดีกว่าเยอะเลย”
พวกเขานั้น คุยไปคุยมา ก็คุยเข้าเรื่องงาน
เพราะว่านิสัยที่ตั้งใจทำงานมากเช่นกัน จึงทำให้พวกเขาคุยกันได้ดีมาก
ส่วนKevinก็เก็บความรู้สึกที่กระทำกับเจียงสื้อสื้อตอนแรก
ตลอดงานเลี้ยงยามเย็นที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่ล้ำเส้นกับเธออีก ซ้ำยังปกป้องเธอได้ดีมาก ช่วยเธอกันเรื่องยุ่งไปได้ไม่น้อย
เขาคนนี้เป็นคนง่ายๆตรงไปตรงมา ชอบยกย่องเด็กผู้หญิงที่ตั้งใจทำงาน และไม่ได้มีการดูถูกเธอเลยแม้แต่นิด
และอีกอย่าง……ข้างตัวของเธอยังมีคนที่ค่อยปกป้องแบบใกล้ชิดอีกด้วย
แล้วKevinก็มองลู่เจิงไปแวบหนึ่งแบบทำอะไรไม่ได้
หลังจากที่จบงานเลี้ยงยามเย็น เจียงสื้อสื้อก็ออกมาพร้อมกับซูซาน ลู่เจิงออกรถมาแต่เช้า จอดอยู่ตรงหน้าของพวกเธอ
“สื้อสื้อ ผมส่งพวกคุณกลับไปนะ”ลู่เจิงลงรถมา
เจียงสื้อสื้อมองดูซูซานแวบหนึ่ง แล้วคิดได้ว่ามีเรื่องจะคุยระหว่างทางด้วย แล้วจึงปฏิเสธไปตรงๆว่า:“รุ่นพี่คะ ไม่เป็นไร พวกเราขับรถมาเอง”
“ถ้าเป็นเช่นนี้……”ลู่เจิงรู้สึกผิดหวัง แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมาก “งั้นพวกคุณก็ระวังตัวดีๆนะ”
ซูซานไปเอารถมา แล้วส่งเจียงสื้อสื้อกลับไปยังปลอดภัย ระหว่างทางก็อดที่จะชมเธอไม่ได้
“สื้อสื้อ ยินดีกับคุณด้วยนะ คุณเป็นฮีโร่ของพวกเราบริษัทจิ่นเส้อเลยนะ วันนี้คุณทำภารกิจอันใหญ่เสร็จอีกแล้วนะ”
หลังจากที่เจียงสื้อสื้อได้ยิน ก็พูดแบบโล่งใจว่า:“นี้คือหน้าของฉัน ดีที่วันนี้แค่ตกใจที่ไม่จริงเอง ความพยายามของพวกเราไม่ได้เสียไปฟรีๆ”พริบตาเดียว ก็มาถึงใต้ตึกที่อยู่แล้ว เธอลงรถแล้วเดินขึ้นไป ซูซานก็โทรหาจิ้นเฟิงเหราแล้วรายงานเรื่องของวันนี้ให้
พอจิ้นเฟิงเหราได้ยิน ก็ด่าออกมาทันทีว่า:“ไอ้ซูชิงหยิงนั้น ไม่เอาหน้าเลยจริงๆ กล้าลอกเลียนแบบแม้กระทั่งงานของพี่สะใภ้ผม มันคงมีวิตอยู่จนเบื่อแล้วมั้ง!”
แล้วเขาก็ถามด้วยความเป็นห่วงอีกว่า:“พี่สะใภ้ผมเป็นยังไงบ้าง?เธอคงทั้งโกรธทั้งเสียใจ”
ซูซานจะไปกล้าบอกว่าก่อนหน้านี้เจียงสื้อสื้อกังวลจนสั่นไปทั้งตัวนั้นได้ยังไงกันละ เธอจึงไม่ได้บอกแล้วก็เปลี่ยนประเด็น
“สุดท้ายแล้วดีที่Kevinก็ยังเชื่อถือพวกเราอยู่ แล้วสื้อสื้อก็เชิดแสงบนงานเลี้ยงยามเย็นด้วย Kevinพึงพอใจกับพวกฉันมาก ถึงขั้นว่าตั้งใจจะเชิญสื้อสื้อเต้นด้วยกัน”
ถ้าซูซานไม่พูดเรื่องเชิญเต้น ก็ไม่มีอะไรแล้ว พอจิ้นเฟิงเหราได้ยิน ก็รีบถามแบบตกตะลึงว่า:“งั้นได้เต้นด้วยกันหรือไม่?”
นี้คือพี่สะใภ้ในอนาคตของเขาเลยนะ จะให้ผู้ชายคนอื่นมาทำเช่นนี้ง่ายๆไม่ได้
ซูซานอึ้ง แล้วก็รีบพูดว่า:“ไม่มีนะ คือประธานลู่ช่วยกะนไว้แล้วนะ”
“ทำไมตรงไหนก็มีลู่เจิงออกมาเป็นคนค่อยปกป้องวะ?”จิ้นเฟิงเหราบ่นไปประโยคหนึ่ง จากนั้นก็วางสายทันที
ทันได้นั้นเขาก็รีบนำข้อมูลที่ได้มา รายงานให้กับจิ้นเฟิงเฉินทั้งหมดเลย
ส่วนจิ้นเฟิงเฉินนั้นหลังจากที่ได้ยิน ก็ทำหน้าบึง และไม่ได้พูดอะไรมาก ก็ได้ยินเจียงสื้อสื้อผลักประตูเข้ามา
เขารีบวางสายลง ยังไม่ทันได้ยินประโยคต่อไปของจิ้นเฟิงเหรา
ถึงแม้ว่าเขาจะรู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่เขาก็ไม่ได้เป็นคนที่เริ่มพูดถึงเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจนี้
จิ้นเฟิงเฉินแค่ถามเธอว่า:“วันนี้ทั้งวันของคุณเป็นไปได้ดีมั้ย?”
เจียงสื้อสื้อตอบแบบไม่ทันคิดว่า:“ตอนแรกก็ไม่ได้ไปได้ดีอะไรหรอก แต่ว่า สุดท้ายก็จัดการได้เรียบร้อย ผลสุดท้ายก็ยังพอใจอยู่”
เขาเห็นสีหน้าของเธอเหนื่อยล้ามาก จึงรู้สึกเจ็บใจขึ้น แล้วพาเข้าห้องรับแขกด้วยความเป็นห่วง
“เหลือมื้อกลางคืนให้คุณเป็นพิเศษเลยนะ หิวมั้ย จะกินสักนิดมั้ย?”
เจียงสื้อสื้อไม่ได้พูดอะไรมาก แต่ก็นั่งลงมา ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณเป็นคนลงมือทำเอง ฉันก็ต้องกินแน่นอนสิ”
เธอกินไปไม่กี่คำ ก็เพิ่งจะสังเกตว่าเธอหิวแล้วจริงๆ ใช่เวลาเพียงแป๊บเดียว เธอก็กินมื้อกลางคืนจนหมดเกลี้ยง
เธอเห็นว่าหน้านั้นไม่เหลืออะไรแล้ว จึงยิ้มแบบขอโทษ “ขอโทษด้วยนะ ฉันหิวแล้ว คุณยังไม่ได้กินเลย หรือว่าจะ……”
เจียงสื้อสื้อยังไม่ทันพูดจบ ตัวเธอนั้นก็โดนกอดเข้าไปในอ้อมกอดของจิ้นเฟิงเฉินแล้ว “ผมกินคุณก็พอแล้ว”
พูดจบ ภายใต้สายตาของเธอ เขาก้มหัวลง แล้วอมริมฝีปากที่ยังชื้นนุ่มของเธอไว้
เขาแกะฟันสวยของเธอออกช้าๆ ส่วนลิ้นก็ไหลเข้าไปแบบไหลลื่น
จูบที่พัวพันกันนั้น จิ้นเฟิงเฉินปล่อยเธอออกแบบไม่ค่อยยอม
เจียงสื้อสื้อเขินจนแดงไปทั้งหน้า ถึงแม้ว่าจะจูบกันแล้วหลายรอบ แต่เธอก็ยังรู้สึกเขินอายอยู่ดี
เธอมองดูนาฬิกาที่อยู่บนกำแพงนั้น ในใจคิดว่าเวลานี้ยังเช้าอยู่ ทำไมไม่เห็นเสี่ยวเป่าละ
เหมือนกับว่าจะเดาได้ว่าเธอกำลังงงอะไรอยู่ จิ้นเฟิงเฉินจึงพูดแบบพอดีว่า:“เสี่ยวเป่าโดนปู่ย่าของเขารับไปแล้ว”