ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1694 : ความพ่ายแพ้ของเจียงหยุน

ตอนที่ 1694 : ความพ่ายแพ้ของเจียงหยุน

มีดเงาบนท้องฟ้าสราวกับดอกบัวที่บานสะพรั่ง มันแฝงไปด้วยพลังสร้างอันน่าตกใจแต่ตอ่มามีดเงานั้นกลับพังลงด้วยมีดแสงก่อนที่ท้องฟ้าจะถูกตัดออกเป็นสองส่วน
สีหน้าของเจียงหยุนไม่ได้เปลี่ยนไป ดาบเงานับไม่ถวนฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะพุ่งเข้าปะทะกับมีดแสง
ตูม ตูม ตูม…
มิติรอบข้างพังลงอย่างรวดเร็วเผยให้เห็นจักรวาลภายนอก ท้องฟ้าเต็มไปด้วยรูราวกับนี่คือจุดจบของโลก
แค่การปะมือกันทั่วไปก็ทำให้เกิดความเสียหายแบบนี้แล้ว ความแข็งแกร่งของผู้นำนั้นถูกแสดงออกมาอย่างเต็มที่
“ ฮ่าฮ่า…” เจียงหยุนหัวเราะออกมา “ ผู้นำในตำนานมีดีแค่นี้รึ ”
วอซ่งยังแสดงสีหน้าเฉยเมยราวกับว่าสิ่งที่เจียงหยุนพูดมานั้นไม่ได้ทำให้เขาหวั่นไหว
เขาเคยสู้กับผู้นำมาแล้วหลายครั้ง ในจักรวาลนี้เขาถือว่าอยู่ระดับแนวหน้า
วอซ่งฟันดาบออกไปสร้างมีแดสงสนับพันๆเล่ม แต่ละเล่มนั้นมีพลังสร้างไม่ต่างกันเลย มีดแต่ละเล่มนั้มีพลังระดับจำกัดของขั้น 8
มีดแสงราวกับสายลมที่พุ่งตัดท้องฟ้า
เจียงหยุนแสดงสีหน้าหนักใจออกมา พลังระดับจำกัดขั้น 8 นี้เพียงพอที่จะเป็นภัยต่อเขา นี่ไม่ต้องนับการโจมตีที่มีนับพันอันเลย
“ ผู้นำในตำนานนี่แกร่งดีจริงๆ !” ในใจเจียงหยุนเต็มไปด้วยความตะลึง
การโจมตีแบบนี้เขาก็ใช้ออกมาได้แต่ใช้ออกมาได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น การโจมตีแต่ละอันนั้นอยู่ระดับจำกัดของขั้น 8 หากให้ใช้การโจมตีแบบนี้ออกมาอย่างต่อเนื่องแล้ว เขาที่เป็นผู้นำระดับแนวหน้าไม่อาจจะทำได้ งั้นผู้นำคนอื่นๆก็ไม่อาจจะทำได้เช่นกัน  มีแค่ผู้ตำนานทีคงอยู่มาหลายพันปีเท่านั้นที่จะใช้การโจมตีแบบนี้ออกมาได้
ทำไมพวกเขาถึงได้เป็นแค่ผู้นำ ส่วนวอซ่งนั้นถึงถูกเรียกว่าผู้นำในตำนาน ?
มันเพราะวอซ่งสามารถทำสิ่งที่ผู้นำทั่วไปไม่อาจจะทำได้ !
ต่อหน้าการโจมตีของวอซ่ง เจียงหยุนไม่อาจจะหนีได้ เขาได้แต่เลือกต้องเผชิญหน้ากับมันและต้านทานมันไว้
เขาไม่อาจจะทำการโจมตีนับพันครั้งออกมา มันไม่อาจจะรับรองได้ว่าการโจมตีทุกครั้งจะมีพลังระดับจำกัดขั้น 8 มันมีแต่จะทำให้จิตผู้สร้างของเขาใช้งานมากขึ้นไปเรื่อยๆ
แต่มันมีสิ่งที่เรียกว่าถึงคุณภาพไม่เพียงพอแต่ก็ใช้ปริมาณทดแทนได้
เจียงหยุนฟันดาบตัวเองออกไป ไม่นานมีดเงานับไม่ถ้วนก็ก่อตัวขึ้นมามันก่อตัวขึ้นเป็นพายุมีดเงาที่ดูทรงพลังกว่าการโจมตีของวอซ่งเสียอีก  ตูม ตูม ตูม ตูม..
มีดแสงและมีเงาเข้าปะทะกันและระเบิดออกมาราวกับพลุ เกิดการผันผวนของมิติในจุดที่ทั้งสองปะทะกันและระเบิดพลังออกมาทุกทิศทาง มิติเริ่มแตกออกขึ้นมาเรื่อยๆ โลกนี้เริ่มสั่นไหวราวกับว่าจะพังลงตอนไหนก็ได้
หลินเป่ยชาน ,เกลดัน และฉิงหยาง ที่อยู่ด้านล่างนั้นต่างก็พากันขนลุก
จางหยูมองการต่อสู้ของทั้งสองด้วยความสนใจเขาเหมือนจะอยากสู้เอง
เสี่ยวซีพึมพำออกมา “ พวกนี้แกร่งจริงๆ !”
มันรับรู้ถึงพลังของวอซ่ง ที่มันแทบไม่อาจจะป้องกันได้ หาก วอซ่ง พัฒนาขึ้นอีก งั้นมันคงไม่อาจจะต้านทานการโจมตีของ วอซ่ง ได้
“ เทียบกับพวกนี้แล้ว เราไม่ต่างอะไรจากเด็กน้อยเลย” หลินเป่ยชาน ยิ้มออกมาอย่างขมขื่นและส่ายหน้า “ เราไม่อาจจะดิ้นรนได้ด้วยซ้ำ…” แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะใกล้เคียงกับผู้นำแต่หากต้องสู้กันจริงๆแล้ว ผู้นำก็สามารถบดขยี้พวกเขาได้อย่างง่ายดาย
ความยิ่งใหญ่ของผู้นำไม่ใช่จิตผู้สร้างแต่มันอยูที่การใช้การสร้างของพวกเขาที่ขึ้นไปถึงจุดสูงสุด มันคือขีดจำกัดของขั้น 8 มันคือเพดานการใช้พลังสร้างของผู้ควบคุมขั้น 8
นี่คือกำแพงสำหรับพวกเขา
วอซ่งและเจียงหยุน ยังไร้รอยขีดข่วนแต่วอซ่งนั้นดูผ่อนคลายกว่า เขายังยืนอยู่ใจกลางจักรวาลอย่างใจเย็นราวกับไม่ได้ผ่านการต่อสู้มาก่อนเจียงหยุน นั้นแม้ว่าจะไม่บาดเจ็บแต่สีหน้าเขามหม่นลง สายตานั้นแสดงความอึดอัดออกมา
“ มาอีกครั้ง !” เจียงหยุนหรี่ตาลง เขาสูดหายใจเข้าลึกๆพร้อมกับยกดาบขึ้นมา ตอนนั้นได้มีดาบเงานับไม่ถ้วนก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง ดาบแต่ละเล่มมีพลังอันน่ากลัว มันทำให้หลินเป่ยชานและคนอ่นๆถึงกับตัวสั่น
ดาบหลายแสนเล่มนี้ไม่รู้เลยว่าจะน่ากลัวแค่ไหน… Aileen-novel
วอซ่งส่ายหน้า “ ดอกไม้ปลิดปลิว”
เขาฟันดาบออกไปเบาๆ มันราวกับการฟันที่นุ่มนวลแต่เจียงหยุนเห็นได้ชัดว่าในตอนนั้นมีดแสงเหล่านั้นสั่นไหวอยู่ ตอนที่การสั่นไหวหยุดลง มีดแสงนับไม่ถ้วนก็รายล้อมตัว วอซ่ว เอาไว้ก่อนที่สุดท้ายจะโจมตีออกมา
สีหน้าของ เจียงหยุน เปลี่ยนไปเล็กน้อยและรีบใช้มีดเงาของเขาต้านทานเอาไว้
ภายใต้การะปทะกันนี้มันทำให้ เจียงหยุน ถอยกลับไปทีละก้าวๆ สุดท้ายเขาก็ถอยกลับไปกว่าหลายพันก้าว เขากระเด็นหลุดออกจากโลกนภาใต้แต่เพราะจักรวาลไม่อาจจะทนรับพลังทำลายนี้ได้จึงทำให้มันเกิดความว่างเปล่าขึ้นมา
“ แกร๊ก” เกราะของเจียงหยุนพังลงทันทีพร้อมกับกระอักเลือดอกอมา
ตอนนั้นทุกคนต่างก็พากันเงียบไป
เจียงหยุนได้ใช้จิตผู้สร้างในการซ่อมแซมร่างากยของตนรวมถึงชดุเของเขาด้วยก่อนจะมองไปที่วอซ่ง “ ข้าแพ้แล้ว…”
แม้ว่าอาการบาดเจ็บพวกนี้จะไม่ได้หนักหนาสำหรับเขา แม้ว่าจะโดนโจมตีแบบนี้เป็นร้อยๆครั้งรึพันครั้งแต่ก็ไม่ได้เป็นภัยต่อชีวิต ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่อาจจะเปลี่ยนความจริงที่ว่าเขาพ่ายแพ้ได้
ในการต่อสู้กับวอซ่งเขากลับบาดเจ็บ วอซ่งนั้นตั้งแต่ต้นตจนจบยังไร้รอยขีดข่วนอยู่ ความแข็งแกร่งของทั้งสองนั้นต่างกัน ช่องว่างนี้ไม่ใช่ความต่างเรื่องความแข็งแกร่งของพลังแต่เป็นความต่างในการใช้พลังสร้างออกมา วอซ่งสามารถปลดปล่อย พลังออกมาจนถึงขีดสุดได้ การโจมตีแต่ละครั้งอยู่ระดับจำกัด ส่วนเจียงหยุนนั้นสามารถแสดงพลังระดับจำกัดได้บ้างครั้งเขาไม่อาจจะรักษาพลังระดับนี้ไว้ในทุกการโจมตี
หากเป็นการทัดเทียมพลังกันแล้วทั้งสองคนคงทัดเทียมกัน
แต่การต่อสู้นั้นไม่ได้วัดกันที่พลังเท่านั้น !   ผู้นำที่โด่งดังอย่างเจียงหยุนพ่ายแพ้ “ การใช้พลังสร้างของเจ้าเข้าใกล้ระดับสมบูรณ์ ข้าคิดว่าคงมีแค่ผู้ควบคุมขั้น 9 เท่านั้นที่เหนือกว่าเจ้าได้การแพ้ให้กับเจ้านั้นข้าไม่ได้แปลกใจเลย”
“ บอกข้ามาว่าวังดอกไม้แดงอยู่ที่ไหน” วอซ่งพูดขึ้นมา
ถึงชนะเจียงหยุนได้แต่วอซ่งก็ไม่ได้ดีใจแม้แต่น้อย เขาชนะผู้นำมาแล้วหลายคนเจียงหยุนแค่เป็นหนึ่งในนั้น เจียงหยุน ไม่ใช้คนที่แข็งแกร่งทมี่สุดในหมู่ผู้นำที่เขาสู้มา หลายพันปีก่อนมันมีผู้นำที่สู้ได้ทัดเทียมกับเขา ผู้นำคนนั้นสามารถใช้พลังสร้าง
ออกมาได้ในระดับสูงสุด ทุกการโจมตีนั้นดึงพลังสร้างออกมาถึงขีดสุด สุดท้ายแล้วผู้นำคนนั้นก็เกือบจะเอาชนะเขาได้
ท้ายที่สุดท้ายอีกฝ่ายตายไปในสุสานขั้น 9
“ อันที่จริงแล้ววังดอกไม้แดงอยู่ในโลกนภาใต้ ” เจียงหยุน พูดขึ้นมา “ ทางใต้ของโลกนี้มันมีบึงอยู่ ภายในบึงนั้นมีที่ที่มีดอกไม้ลึกลับ มันคือที่ตั้งของวังดอกไม้แดง ”
จากนั้นน้ำเสียงของ เจียงหยุน ก็เปลี่ยนไป “ แต่วังดอกไม้แดงนั้นไม่ชอบให้คนนอกเข้าไปรบกวน คนนอกที่เข้าไปที่นั่นจะถูก มองว่าเป็นศัตรู…” เขากับคนของวังดอกไม้แดงน่ะรู้จักกันก็จริงแต่เมื่อเขาล่วงเกินอีกฝ่าย อีกฝ่ายจะไว้หน้าเขาทำไม ?
เขาเห็นว่าจางหยู, หลินเป่ยชาน และเกลดันมาจากเขตตะวันออกตอนบน เขาไม่ได้รู้สึกดีกับพวกที่มาจากเขตนั้น
จางหยูหัวเราะออกมา “ ไม่เป็นไร เรามีเรื่องจะบอกกับหงซี เมื่อคนของวังดอกไม้แดงรู้เป้าหมายของเราก็น่าจะเข้าใจ”
เจียงหยุนคิ้วขมวดและสบถออกมา “ ข้าพูดกับวอซ่งผู้ควบคุมขั้น 7 อย่างเจ้ากล้าดียังไงมาสอด ?”

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท