บทที่ 277 ผมจะไปหาหม่ามี๊ !
“สนับสนุน ฉันสนับสนุนเธอแน่นอน”
พูดอันนี้เสร็จ แม่จิ้นรีบพูดต่อว่า :“ชิงหยิง เธอนั่งลงก่อน ฉันไปเทน้ำชาให้เธอ”
อย่างน้อยอายุของเธอก็วางอยู่ที่นั้น ทำไมจะดูไม่ออกว่าซูชิงหยิงที่จริงแล้วมาถามความผิด ?
เมื่อก่อนยังรู้สึกเธอดีนักดีหนา ตอนนี้แค่รู้สึกทำไมถึงไม่รู้เรื่องขนาดนี้?
แม่จิ้นแอบถอนหายใจ เดินก้าวใหญ่ไปที่ห้องครัว
ซูชิงหยิงเห็นแม่จิ้นเดินเข้าห้องครัว ทันใดนั้นก็เก็บรอยยิ้มบนใบหน้าทันที สีหน้าเปลี่ยนมืดมน
แม่จิ้นคนนี้ปากบอกสนับสนุน ที่ในใจจริงๆเลือกคนอื่นไปตั้งนานแล้ว
ซูชิงหยิงหรี่ตา คิดว่าเจียงสื้อสื้อไปแล้ว ตัวเองก็จะมีโอกาส แต่ตอนนี้ดูแล้วมันไม่แน่
เธอต้องทำอะไรสักอย่างถึงจะได้
ตอนกำลังคิดแบบนี้ เสียงหัวเราะร่าเริงดังมาจากทางสวนหลังบ้าน
เป็นเสียงของเสี่ยวเป่า
ตาของซูชิงหยิงสว่างทันที เจียงสื้อสื้อกระหรี่นั้นสามารถเข้าสายตาของเฟิงเฉินได้ ก็เป็นเพราะความชอบของเสี่ยวเป่าไม่ใช่เหรอ?
ถ้าเธอได้ใจของเสี่ยวเป่า งั้นเฟิงเฉินก็จะเธอใช่ไหม?
แม่ประเสริฐเพราะลูกรวยเหตุผลนี่ไม่ใช่เหรอ?
พอคิดแบบนี้ ทันใดนั้นซูชิงหยิงมีความคิด เธอลุกขึ้นเดินไปที่สวนหลังบ้าน
หลังบ้าน เสี่ยวเป่ากำลังตีแบดมินตันกับพ่อบ้านอยู่ แม้ว่าเขาจะตัวเล็ก แต่ก็ตีได้เป็นท่าเป็นทาง
ซูชิงหยิงเดินไป ยิ้มแล้วถาม:“เสี่ยวเป่า น้าขอเล่นด้วยได้ไหม?”
เสี่ยวเป่าไม่ได้ตอบและไม่ได้ปฏิเสธ แต่ถามว่า :“น้าตีเป็นเหรอ?”
“เป็นสิ อีกอย่างยังเก่งมากด้วยนะ”
“จริงเหรอ?” เสี่ยวเป่าไม่เชื่อ
ซูชิงหยิงยิ้ม“ ตีกับน้าก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ”
เสี่ยวเป่าให้พ่อบ้านเอาไม้แบดให้ซูชิงหยิง จากนั้นตีกับเธอขึ้นมา
หลังจากตีไม่กี่ครั้ง เสี่ยวเป่าพูดด้วยความฝืนว่า:“น้าเก่งจริงๆ แต่……”
เสี่ยวเป่าหยุด“ ไม่เก่งเท่าหม่ามี๊ของผม”
พอได้ยิน“หม่ามี๊”สองคำนี่ รอยยิ้มบนใบหน้าของซูชิงหยิงก็เกรงแข็งทันที แต่เร็วมากก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ยิ้มแล้วถามว่า:“เสี่ยวเป่า ลูกรู้ไหมว่าน้าสื้อสื้อของลูกไปไหนแล้ว?น้าไม่เห็นเธอตั้งนาน”
“หม่ามี๊ไปทำงานนอกสถานที่”
“ไปทำงานนอกสถานที่?”ซูชิงหยิงตั้งใจยักคิ้วด้วยความตกใจ “ทำไมน้าได้ยินว่าเธอไปจากเมืองจิ่นแล้วละ?”
ถึงแม้เสี่ยวเป่ายังเด็ก แต่ไม่ได้แสดงว่าไม่รู้เรื่อง หน้าที่เล็กของเขาขมวด ไล่ถามว่า :“น้าพูดอะไรนะ ?”
ใต้ตาของซูชิงหยิงมีความร้ายฉายผ่าน สีหน้าเสแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไร พูดว่า:“น้าได้ยินว่า น้าสื้อสื้อของลูกแยกทางกับพ่อของลูกแล้ว คนก็ออกจากเมืองจิ่นแล้ว”
“เป็นไปไม่ได้!”เสี่ยวเป่าตะโกนเสียงดัง“เป็นไปไม่ได้ที่หม่ามี๊จะเลิกลากับแดดดี๊ น้าโกหกผม”
ซูชิงหยิงก็ไม่โกรธ ยิ้มแล้วพูดว่า:“ถ้าลูกไม่เชื่อสามารถโทรถามพ่อหรือลุงก็ได้นะ อ่อ ไม่ใช่สิ พวกเขาต้องพูดว่าออกไปทำงานนอกสถานที่แน่ๆเลย”
เสี่ยวเป่าจ้องมองเธอด้วยความโกรธ “ ผมไม่เชื่อน้าหรอก น้าเป็นคนร้าย!”
“ผมไม่ตีกับน้าละ”
เสี่ยวเป่าโยนไม้แบดทิ้ง หันไปวิ่งเข้าบ้าน
“คุณชายน้อย”พ่อบ้านเหลือบตามองซูชิงหยิงด้วยความไม่พอใจ จากนั้นวิ่งไล่ตามไป
ซูชิงหยิงเดินไปเก็บไม้แบดขึ้นมา มุมปากค่อยๆยิ้มด้วยความได้ใจ
คราวนี้ เจียงสื้อสื้อก็จะหายไปจากตำแหน่งในใจของเสี่ยวเป่าแล้วสิ
……
แม่จิ้นถือชาออกมาจากห้องครัว เห็นซูชิงหยิงไม่อยู่ห้องรับแขก กำลังสงสัย ก็เห็นเสี่ยวเป่าวิ่งออกมา
“เสี่ยวเป่า……”
เธอเรียกคำหนึ่ง แต่เสี่ยวเป่าก็เหมือนไม่ได้ยิน ก้มหัววิ่งขึ้นไปชั้นบน
นี่เกิดอะไรขี้น?
แม่จิ้นขมวดคิ้ว ในเวลานี้พ่อบ้านเข้ามา เธอรีบถามว่า:“เสี่ยวเป่าเป็นอะไร?”
พ่อบ้านเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้อย่างละเอียดให้แม่จิ้นฟัง
แม้จิ้นได้ยิน สีหน้าดูแย่เล็กน้อย ซูชิงหยิงคนนี้ทั้งๆที่รู้ว่าเจียงสื้อสื้อมีความสำคัญต่อหัวใจของเสี่ยวเป่ามากแค่ไหน ยังจงใจพูดคำพวกนั้นกระตุ้นเสี่ยวเป่า แยกแยะไม่ออกจริงๆ!
“คุณน้า”
ซูชิงหยิงเดินเข้ามา
“ชิงหยิง เธอไปพูดคำพวกนั้นกับเสี่ยวเป่าได้ยังไง?”แม่จิ้นจ้องมองเธอด้วยความไม่พอใจ
ซูชิงหยิงเหลือบตามองพ่อบ้าน คนข้างหลังรีบก้มหน้าลง
ดวงตากระพริบ เธอย้อนถามด้วยสีหน้าบริสุทธิ์ว่า:“คุณน้า หนูพูดอะไรผิดเหรอคะ?”
“ก็บอกเรื่องเจียงสื้อสื้อให้เสี่ยวเป่าไง”
“นั่นเป็นความจริงไม่ใช่เหรอคะ?”
แม่จิ้นสำลัก
ซูชิงหยิงยิ้มเบาๆ“ คุณน้า พอเป็นแบบนี้ เสี่ยวเป่าก็จะเข้าใจเองว่าเจียงสื้อสื้อไม่เอาเขา เขาก็จะค่อยๆลืมไป ถึงเวลานั้นก็จะยอมรับคนอื่น”
ได้ยินเธอพูดแบบนี้ ก็เหมือนว่าไม่ผิด
สีหน้าของแม่จิ้นก็ค่อยๆผ่อนคลายลง แต่ก็ยังพูดว่า :“ต่อไปอย่าพูดเรื่องพวกนั้นกับเด็ก”
ซูชิงหยิงยิ้ม“ หนูรู้แล้ว คุณน้า”
ยังไงสิ่งที่ควรพูดก็พูดแล้ว ไม่มีต่อไปอีก
……
พอเสี่ยวเป่าวิ่งเข้าห้องไป ก็รีบโทรหาจิ้นเฟิงเหรา
“เสี่ยวเป่า มีเรื่องอะไร?”
“ลุงเฟิงเหรา หม่ามี๊ของผมละ?”
พอจิ้นเฟิงเหราได้ยินเขาถามถึงเจียงสื้อสื้อ รีบยืดตัวตรง ตอบกลับมา :“ ลุงบอกลูกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าหม่ามี๊ของลูกไปทำงานนอกสถานที่?”
พวกเขาจะต้องบอกว่าไปทำงานนอกสถานที่
คำพูดของซูชิงหยิงดังขึ้นข้างหู เสี่ยวเป่าส่ายหัว ถามว่า :“ลุงเฟิงเหรา ลุงไม่ได้โกหกผมใช่ไหม?”
“แน่นอนสิไม่ได้โกหก”จิ้นเฟิงเหรายังไม่สังเกตว่าเขาผิดปกติ กล่อมอย่างอดทนว่า :“แค่ลูกเชื่อฟังเป็นเด็กดี กินข้าวดีดี หม่ามี๊ของลูกก็จะกลับมาเร็วมาก”
เสี่ยวเป่าเงียบสักพัก แล้วค่อยถามว่า:“ลุงเฟิงเหรา หม่ามี๊ของผมไม่เอาผมกับแดดดี๊แล้วใช่ไหม?”
“ไม่ใช่ เธอจะไม่เอาพวกนายได้ยังไง?”
“งั้นทำไมเธอนานขนาดนี้แล้วยังไม่กลับมา?”
“งานของเธอเยอะ ยังจัดการไม่เสร็จ จะกลับมาได้ยังไง?”
เสี่ยวเป่าได้ยิน แล้วนึกถึงคำพูดของซูชิงหยิง อารมณ์ก็ขึ้นมาทันที ตะโกนพุ่งใส่จิ้นเฟิงเหราทางโทรศัพท์:“ลุงเฟิงเหรา ลุงโกหกผมใช่ไหม? หม่ามี๊ของผมไม่ใช่ไปทำงาน คือไม่เอาพวกเราแล้วใช่ไหม?”
คราวนี้จิ้นเฟิงเหรารู้สึกผิดปกติ รีบกล่อมว่า:“ เสี่ยวเป่า เด็กดี ลุงเฟิงเหราไม่ได้โกหกลูก หม่ามี๊ของลูกไปทำงานนอกสถานที่จริงๆ”
“ผมจะไปหาหม่ามี๊!”
พอคำนี้ออกมา โทรศัพท์ก็โดนตัดสาย
“เสี่ยวเป่า เสี่ยวเป่า……”
จิ้นเฟิงเหรามองไปที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ดับลง มีความรู้สึกไม่ดีในใจ
เขารีบหยิบเสื้อคลุม รีบออกไปจากบริษัท
ตอนเขากลับมาถึงบ้าน รีบไปชั้นบนหาเสี่ยวเป่า กลับพบว่าเสี่ยวเป่าไม่อยู่ในห้อง
แย่แล้ว !ไม่ใช่ว่าวิ่งออกไปหาพี่สะใภ้นะ?
จิ้นเฟิงเหราวิ่งลงไปชั้นล่างอย่างรีบร้อน หาแม่“ แม่ เสี่ยวเป่าละ?”
สีหน้าของแม่จิ้นมึนงง“ อยู่ชั้นบนไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่อยู่นิ”
เห็นสีหน้าของเขาผิดปกติ แม่จิ้นรีบถามว่า:“ นี่เกิดอะไรขึ้น?”
“เสี่ยวเป่าโทรหาผม บอกว่าจะไปหาพี่สะใภ้”
แม่จิ้นขมวดคิ้ว“ เจียงสื้อสื้อ?”
จิ้นเฟิงเหราพยักหน้า“ ใช่”
ตรงหน้าแม่จิ้นมืด ตัวเสไปเสมา ถ้าไม่จิ้นเฟิงเหราจับเธอไว้ทัน คนล้มลงไปตั้งนานแล้ว
เธอเห็นจิ้นเฟิงเหรายังยืนอยู่ รีบพูดว่า:“ ยังไม่รีบไปหาเสี่ยวเป่าอีก!”
จิ้นเฟิงเหราค่อยมีปฏิกิริยามา เรียกพ่อบ้านดูแลแม่ดีดี จากนั้นวิ่งออกจากบ้านไปหาเสี่ยวเป่า