บทที่ 302 ให้ชื่อเสียงของเธอเหม็นฉาวโฉ่ในเมืองจิ่น
เจียงสื้อสื้อกลับมาถึงห้องอ่านหนังสือ ใจยังไม่สามารถสงบลงมาได้
เด็กเสียไปแล้วจริงด้วย
เธอหลับตาขึ้นมา สีหน้าปรากฏความเศร้าโศกออกมา
ถ้านับตามเวลา อีกไม่กี่เดือนเด็กก็จะคลอดออกมาแล้ว แต่ตอนนี้กลับเสียไปเช่นนี้
ภาพพจน์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นยังคงปรากฏอยู่ในสมองของเธอ ถ้าหากตอนนั้นเธอเอื้อมมือออกไปเร็วหน่อย เจียงนวลนวลก็จะไม่ล้ม เด็กก็จะไม่เสียไปเปล่าๆแบบนี้
ทันใดนั้นในใจของเธอก็เต็มไปด้วยความละอายใจและโทษตัวเอง
พอเสี่ยวเป่ากลับมาจากอนุบาลก็รีบวิ่งขึ้นตึกไปหาเจียงสื้อสื้อ
ปู่พ่อบ้านบอกว่า หม่ามี๊อยู่ที่ห้องอ่านหนังสือ
เสี่ยวเป่ามาถึงหน้าประตูห้องอ่านหนังสือ เขย่งปลายเท้าเพื่อเปิดประตู
แต่กลับพบว่าประตูถูกล็อก
ดังนั้น เขาเลยเคาะประตู”หม่ามี๊ ผมคือเสี่ยวเป่าครับ คุณเปิดประตูหน่อยสิ”
แต่รอไปสักครู่หนึ่ง ข้างในยังไม่มีการเคลื่อนไหวแม้แต่นิด
“ทำไมหม่ามี๊ยังไม่มาเปิดประตูล่ะ?”
เสี่ยวเป่าขมวดคิ้วอย่างมึนงง เขาเคาะประตูอีกที แต่ยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
เขาเลยต้องลงตึกไปหาพ่อบ้าน
“คุณปู่พ่อบ้านครับ หม่ามี๊ไม่ได้อยู่ในห้องอ่านหนังสือหรือเปล่าครับ?”
พ่อบ้านรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย”อยู่สิ จะไม่อยู่ได้ยังไงเล่า?”
“แล้วทำไมหม่ามี๊ไม่เปิดประตู?”เสี่ยวเป่ารู้สึกเสียใจเล็กน้อย
“ฉันขึ้นไปดูกับคุณละกัน”
พ่อบ้านจับมือเขาไว้และขึ้นตึกด้วยกัน มาถึงหน้าห้องอ่านหนังสือ และเอื้อมมือไปเปิดประตู
“ทำไมถูกล็อกไว้ล่ะ?”
พ่อบ้านก็รู้สึกแปลกใจ ปกติคุณหญิงอ่านหนังสืออยู่ข้างในจะไม่ล็อกประตูนะ
เขาเคาะประตู”คุณหญิงครับ คุณอยู่ข้างในหรือเปล่าครับ?”
ไม่มีการตอบรับใดๆ
พ่อบ้านขมวดคิ้ว หันไปพูดกับเสี่ยวเป่าว่า”คุณชายน้อยคุณรออยู่ที่นี่นะ ฉันไปหยิบกุญแจมาให้คุณ”
“โอเค”เสี่ยวเป่าพยักหน้า
ไม่นาน พ่อบ้านก็หยิบกุญแจมา
พอเปิดประตูแล้วเสี่ยวเป่าก็วิ่งเข้าไปก่อน พอเขาได้เห็นคนที่นอนอยู่บนเก้าอี้ผ้าใบ ก็วิ่งเข้าไปหาพร้อมเรียก”หม่ามี๊”
แต่เจียงสื้อสื้อไม่มีการตอบสนองแม้แต่นิด
“คุณปู่พ่อบ้านครับ หม่ามี๊เป็นไรหรอครับ?”
เสี่ยวเป่าหันไปถามพ่อบ้านที่เดินตามมา
พ่อบ้านเห็นว่าเจียงสื้อสื้อนอนอยู่แบบนั้นและไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ จึงหน้าซีดทันที แล้วรีบขึ้นไปเรียกเธอ”คุณหญิงครับ คุณหญิง……”
ท่ามกลางแห่งความมืดมน เหมือนได้ยินมีคนเรียกเธออยู่
“หม่ามี๊ หม่ามี๊……”
เจียงสื้อสื้อค่อยๆลืมตาขึ้นมา เมื่อเห็นว่าเป็นพ่อบ้านเลยหงายมุมปากขึ้นมา”ลุงจาง เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
“หม่ามี้!”
เสี่ยวเป่าเห็นเธอตื่นมาเลยขึ้นไปกอดเธอ
เจียงสื้อสื้อรีบกอดเขาไว้”เสี่ยวเป่า คุณกลับมาเมื่อไหร่?”
เสี่ยวเป่าเงยหน้าขึ้นมาจากอ้อมอกของเธอ ดวงตาคู่ที่ใหญ่จ้องมองเธอไว้”หม่ามี๊ เมื่อกี้ผมเคาะประตูอยู่ข้างนอก แต่คุณไม่ได้เปิดประตู ดังนั้นคุณปู่พ่อบ้านถึงไปเอากุญแจมาเปิดครับ”
“ขอโทษนะ ฉันหลับจนสนิท”
เจียงสื้อสื้ออุ้มเขานั่งตัวตรงขึ้นมา เงยหน้ามองไปที่พ่อบ้าน ยิ้มอย่างละอายใจ”ลุงจาง ขอโทษที่ทำให้คุณเป็นห่วงนะคะ”
พ่อบ้านส่ายหน้า”ไม่เป็นไรหรอก ถ้าคุณง่วงนอนก็กลับไปนอนที่ห้อง ถ้านอนที่นี่จะเป็นหวัดง่ายนะ”
“ครั้งต่อไปจะไม่เป็นแบบนี้อีกแล้วค่ะ”
เธอแค่คิดเรื่องของเจียงนวลนวลอยู่ คิดไปคิดมาก็เผลอหลับไป
“หม่ามี๊ เราลงไปกินขนมว่างกัน”เสี่ยวเป่ากระโดดลงมาจากอ้อมอกของเธอ
เธอยิ้มเบาๆ”โอเค”
“ไชโย ไปกินขนมกันแล้ว”
เมื่อเห็นสีหน้าที่มีความสุขของเสี่ยวเป่า เจียงสื้อสื้อถึงรู้สึกว่าสบายใจขึ้นมาหน่อย ไม่นั้นก็เหมือนถูกกดทับด้วยภูเขาลูกใหญ่ลูกหนึ่ง กดทับจนรู้สึกอึดอัดใจมาก
พ่อค้ามองไปที่เธอด้วยสีหน้าที่เหมือนคิดอะไรอยู่ สายตาเต็มไปด้วยความห่วงใย
……
“นวลนวล คุณไม่ทราบหรอกว่าไอ้กระหรี่คนนั้นโหดเหี้ยมขนาดไหน!เธอกล้ามาตบหน้าฉันด้วย คุณดูสิ ตบจนหน้าของฉันบวมแดงไปหมด”
เสิ่นซูหลันชูหน้าตัวเองให้เจียงนวลนวลดู
แก้มทั้งสองข้างล้วนบวมแดงขึ้นมาหมด แถมบนนั้นยังมีรอยนิ้วมือที่เห็นได้ชัดด้วย
“เจียงสื้อสื้อ!”พอเจียงนวลนวลได้เห็นเช่นนี้ ก็โกรธจนสีหน้าบิดเบี้ยวไปหมด กัดฟันและบีบคำสามคำนี้ออกจากฟันอย่างโกรธขรึมสุดๆ
เสิ่นซูหลันพูดอย่างโหดเหี้ยม”ถ้าครั้งต่อไปฉันได้พบกับไอ้กระหรี่คนนั้นนะ ฉันจะสั่งสอนมันให้จำไว้ใส่สมองแน่ๆ”
จากนั้นตบหลังมือของเจียงนวลนวลอย่างเบาๆ”นวลนวล คุณไม่ต้องห่วงนะ แม่จะชิงความเป็นธรรมให้คุณแน่นอน สิ่งที่เจียงสื้อสื้อติดค้างคุณอยู่นั้น ฉันจะให้เธอคืนคุณมาเป็นหลายๆเท่าแน่ๆ คุณดูแลร่างกายของตัวเองให้ดีนะ”
“ขอบคุณค่ะแม่”
เจียงนวลนวลหันหน้ามองไปที่นอกหน้าต่าง สายตาเต็มไปด้วยความมืดมน
ตอนกลางคืน ภายในวอร์ดของเจียงนวลนวลมีแขกที่เกินความคาดหมายมาถึง
“แกมาทำอะไร?”เจียงนวลนวลจ้องไปที่คนมา
“ฉันมาเยี่ยมแกไง”ซูชิงหยิงนำดอกไม้ที่นำมาเสียดเข้าไปในแจกันดอกไม้ จากนั้นหันกลับมามองเธอ ส่ายหน้าพูดว่า”สีหน้าของแกนี่ช่างแย่หรือเกินนะ”
เจียงนวลนวลยกมือขึ้นมาจับหน้าไว้
สายตาของซูชิงหยิงเปล่งประกายออกมา พูดต่อว่า”ลูกของแกเสียไปแล้ว แกมาเสียใจเศร้าโศกที่นี่ แต่มีคนเพิ่งกลับมาจากชายฝั่งอย่างมีความสุข แกว่าทำไมเป็นคนเหมือนกัน แต่ชีวิตแตกต่างกันขนาดนี้ล่ะ?”
แม้ว่าเธอไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่าเป็นใคร แต่เจียงนวลนวลก็รู้ว่าเป็นใคร
“แกมาหาฉัน คงไม่เพียงแต่มาเยี่ยมฉันเฉยๆหรอกใช่ไหม?”เจียงนวลนวลถาม
“ฉันอยากจะร่วมมือกับแก”
“ร่วมมือ?”เจียงนวลนวลขมวดคิ้ว”แกคิดจะร่วมมือยังไง?”
ซูชิงหยิงนั่งลงไปในเก้าอี้ข้างเตียง เงยหน้ามองไปที่เธอ”แกอยากจะให้ชื่อเสียงของเจียงสื้อสื้อเหม็นฉาวโฉ่หรือเปล่า?”
“อยาก แน่นอนอยู่แล้ว”
เจียงนวลนวลกัดฟันไว้อย่างเกลียดชัง”ฉันเกลียดเธอจนเข้ากระดูกดำ”
แม้ว่าลูกไม่ได้ถูกฆ่าด้วยเจียงสื้อสื้อโดยตรง แต่เธอก็มีความผิดด้วย
มาหาเธอนี่ไม่ได้ผิดหวังจริงๆเลย
สายตาของซูชิงหยิงปรากฏความดีใจขึ้นมา”นั้นแกก็ต้องร่วมมือกับฉัน”
“จะให้ฉันทำอะไร?”เจียงนวลนวลถาม
ซูชิงหยิงลุกขึ้นมา เข้าใกล้หูของเธอ จากนั้นกระซิบแผนของตัวเองให้เธอฟัง
พอเจียงนวลนวลฟังเสร็จรู้สึกตื่นเต้นมาก”แกว่าจะทำได้สำเร็จเหรอ?”
“แน่นอนสิ”ซูชิงหยิงหงายมุมปากขึ้นมาอย่างมั่นใจ”ครั้งนี้ฉันจะให้ชื่อเสียงของเธอเหม็นฉาวโฉ่ และออกไปให้พ้นจากเมืองจิ่น ทั้งชีวิตนี้ล้วนกลับมาไม่ได้อีก”
เจียงนวลนวลยิ้ม”โอเค ฉันจะร่วมมือกับแก”
“ยินดีที่จะได้ร่วมมือกัน”
ซูชิงหยิงเอื้อมมือออกมา
“ฉันจะตั้งตารอคอย”เจียงนวลนวลจับมือของเธอไว้ ทั้งสองคนมองเข้าหากันและยิ้มออกมาพร้อมกัน
……
พอจิ้นเฟิงเฉินเลิกงานกลับมาถึงบ้าน พ่อบ้านก็เดินขึ้นไปหาเขาทันที
“คุณชายครับ ผมมีเรื่องจะพูดกับคุณครับ”
“เรื่องอะไร?”จิ้นเฟิงเฉินถอดเสื้อโค้ทสูทออกมา และถาม
พ่อบ้านรับเสื้อโค้ทสูทในมือของเขามา”เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคุณหญิงครับ”
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว”สื้อสื้อเป็นไรหรือ?”
“วันนี้คุณพ่อของคุณหญิงมาที่บ้าน คุณหญิงเจียงก็ได้มาด้วย……”
พ่อบ้านเล่าเรื่องของวันนี้ให้จิ้นเฟิงเฉินฟังอย่างละเอียด
จิ้นเฟิงเฉินฟังเสร็จ สีหน้ามืดมนมาก เจียงเจิ้นยังกล้ามาหาเรื่องสื้อสื้ออีกหรือ ที่สั่งสอนเขาไปยังไม่พอให้เขาจำเหรอ?
พ่อบ้านก็เล่าเรื่องที่เจียงสื้อสื้อหลับไปในห้องอ่านหนังสือให้เขาฟังด้วย ในที่สุดยังพูดเสริมว่า”คุณหญิงน่าจะมีเรื่องในใจ ถึงจะหลับอย่างสนิทขนาดนี้”
“ตอนนี้เธอกำลังวาดภาพกับคุณชายน้อยอยู่บนตึกครับ”
จิ้นเฟิงเฉินเดินไปทางบันได และจู่ๆก็หยุดปลายเท้าลง หันมามองไปที่พ่อค้า”ทีหลังที่นี่ไม่ต้องรับคนในตระกูลเจียงทุกคน ไม่ว่าใครมาล้วนไล่ออกไปเลย”
พ่อบ้านพยักหน้า”ผมจะสั่งลงไปครับ”
จากนั้นจิ้นเฟิงเฉินถึงเดินขึ้นไปบนตึกด้วยเท้าก้าวใหญ่ เมื่อเดินมาถึงประตูห้องเด็ก ก็ได้ยินเสียงที่อ่อนโยนของเจียงสื้อสื้อส่งออกมา
“เสี่ยวเป่า ที่นี่ต้องวาดแบบนี้”