ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1698 : สุสานสวรค์

ตอนที่ 1698 : สุสานสวรค์

“ ข้ามั่นใจว่าจะไปที่นั่นอีกแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ” จางหยูพูดขึ้นอย่างใจเย็น “ หากไม่รู้ความลับเบื้องหลังที่นั่นคงยากจะสงบจิตใจได้ ”
หงซี ส่ายหน้า “ เจ้าดื้อด้านยิ่งกว่า อัลเวอร์ เสียอีก”
จางหยู พูดขึ้น “นี่ไม่ใข่ความดื้อด้านแต่…มันคือสิ่งที่ต้องทำ บ้านเกิดของข้ากำลังพัฒนาได้เป็นอย่างดีแต่คนที่มีโลกที่พัฒนาไปแล้วแบบเจ้าคงไม่อาจจะเขาใจ เจ้าอาจจะไม่เขาใจ อัลเวอร์ รึคนที่ไปสำรวจสุสานแต่อย่าดูหมิ่นพวกเขาเลย บางทีทกคนอาจจะชอบความสงบ บางคนอาจจะยอมสละชีวิตตัวเอง ”
“ เจ้าฟังดูตลกเมื่อพูดเรื่องนี้แต่ข้าแนะนำว่าเจ้าอย่าไปที่สุสานแห่งนั้นเลย”
“ จะเข้าไปรึไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับข้า” จางหยูมองไปที่หงซี “ ข้าหวังแค่ว่าเจ้าจะบอกข้อมูลทั้งหมดที่เจ้ารู้เกี่ยวกับสุสานสวรรค์ นี่คือการตอบแทนอย่างหนึ่ง”
วอซ่ง พูดขึ้นมา “ รบกวน ท่านหงซี บอกกล่าวแก่เราด้วย ! “
หลินเป่ายชานและเกลดันมองหงซีด้วยสีหน้ากังวล
“ สุสานสวรรค์น่ากลัว ตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้มันได้ฝังยอดฝีมือไปแล้วมากาย เจ้าน่ะใจกล้าไม่คิดจะมองข้ามที่นั่น เจ้ากลับมองข้ามอดีต” หงซีส่ายหน้า “ แต่เมื่อเจ้าอยากรู้ งั้นข้าก็จะบอก ข้าหวังว่าเมื่อเจ้าได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้วเจ้าจะรักษาความกล้าไว้ดังเดิมได้”
เมื่อได้ยินแบบนั้นจางหยูก็แสดงสีหน้าจริงจังออกมา
“ แต่ก่อนที่จะทำเช่นนั้นเรามีเรื่องเล็กน้อยต้องไปจัดการ” หงซีมองไปด้านหลังจางหยูในที่ที่มีแต่ความว่างเปล่า “ ข้าไม่คิดเลยว่าในโลกของข้าจะมีจิตแปลกปลอมอยู่ด้วย จิตทมิฬของโลกขั้น 9 ข้ากลัวว่าไม่ได้มีแค่ตัวเดียวสินะ ? แต่กล้าดียังไงถึงได้เข้ามาในโลกที่ข้าสร้างขึ้นมา เจ้ากล้าดีไม่ใช่น้อย ”
“ นายท่านช่วยข้าด้วย ! “ เสี่ยวซีตะโกนออกมาด้วยความกลัว
จางหยูกระแอมออกมา “ หงซีเจ้าเข้าใจผิดไป จิตนี่เป็นสัตว์เลี้ยงของข้ามันชื่อเสี่ยวซีมันไม่ได้คิดปองร้ายเจ้า”
หงซีแปลกใจ “ สัตว์เลี้ยงรึ ?”
มันเป็นครั้งแรกที่นางได้ยินว่ามีคนรับจิตทมิฬมาเป็นสัตว์เลี้ยง
“ มันจริงที่ว่ามันคือจิตทมิฬแต่มันไม่ได้มีความชั่วร้ายกับตัว มันบ่มเพาะด้วยทักษะของข้าและชำระความชั่วร้ายออกไปมานแล้ว สุดท้ายมันถึงได้พัฒนามาถึงระดับนี้ได้” จางหยูพูดขึ้น “ มันคือสัตว์เลี้ยงของข้าจริงๆ”
“ งั้นเจ้าก็ต้องระวังตัวเอาไว้” หงซี พึมพำออกมา “ จิตทมิฬนั้นเจ้าเล่ห์ มันเต็มไปด้วยความต้องการทำลายล้าง เจ้าอาจจะสยบมันได้สักพักแต่ก็ยากที่จะจำกัดมันไปชั่วชีวิตบางทีหากเจ้าประมาท มันอาจจะทำลายโลกขั้น 9 ที่เจ้าได้สร้างขึ้นมา !”
“ ฮ่าฮ่า ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น” จางหยูหัวเราะออกมา “ เสี่ยวซี ได้มอบจิตมันให้กับข้าแล้ว ชีวิตของมันขึ้นอยู่กับข้า แม้ว่าจะหนีไปที่อื่นแต่ข้าก็สามารถกำจัดมันได้”
เสี่ยวซี ได้ยินแบบนั้นก็ตัวสั่น
“ ข้าเชื่อแล้วว่าเจ้าเป็นผู้ควบคุมขั้น 9 จริงๆ” หงซีมองไปที่จางหยู “ นอกจากผู้ควบคุมขั้น 9 แล้ว ไม่มีใครเป็นภัยต่อจิตทมิฬได้ แม้แต่ผู้ควบคุมขั้น 9 ก็ไม่อาจจะทำให้จิตทมิฬเป็นสัตว์เลี้ยงแบบเจ้าได้..เจ้านี่แกร่งดีจริงๆ”
จางหยูได้แต่ยิ้มรับ
หงซีมอไงปที่เสี่ยวซีและพูดขึ้น “ เมื่อมันคือสหายของเจ้า ข้าก็จะไม่กดดันเจ้านัก”
“ ขอบคุณ นายท่าน “ เสี่ยวซีที่เพิ่งพ้นจากความตายมาตัวสั่นด้วยความกลัว
จางหยูพูดขึ้นมา “ ตอนนี้เจ้าพูดถึงสุสานสวรรค์ได้รึยัง ?”
หงซีพยักหน้าและพูดขึ้น “บางทีอาจจะต้องย้อนกลับไปในอดีตที่เก่าแก่ จักรวาลคงอยู่มาไม่รู้นานเท่าไหร่ แม้แต่ผู้ควบคุมขั้น 9 ที่แก่ที่สุดก็ยังไม่รู้แน่ชัด ไม่มีใครรู้ว่าจักรวาลกำเนิดมาจากอะไร ไม่มีใครรู้ว่ามันอยู่มานานแค่ไหน ตั้งแต่เกิดมาก็พบว่ามีจักรวาลอยู่ตั้งแต่แรก…สุสานสวรรค์ก็เหมือนกับจักรวาล มันเหมือนมีตัวตนอยู่ตั้งแต่แรก มันปรากฏขึ้นรมาพร้อมกับจักรวาล มันอยู่มานานพอๆกัน ชื่อเดิมของมันไม่ใช่สุสานสวรรค์ มันมีชื่อเรียกพิเศษแต่ไม่มีใครรู้ว่าชื่อนั้นคืออะไร ข้ารู้แค่ว่ามันมีหลายชื่อ ชื่อสุดท้ายของมันคือดินแดนแห่งการร่วงหล่น จากนั้นรมามันก็เปลี่ยนชื่อมาเป็นสุสานสวรรค์ที่ทุกคนคุ้นเคย “
“ ตำนานบอกว่าตำแหน่งที่แท้จิรงไม่ได้อยู่ที่นั่นแต่อยู่ส่วนใจกลางสุดของจักรวาล มันอยู่ในเขตหวงห้าม ! กุญแจที่ทุกคนได้ไปไม่ได้ใช้เพื่อเปิดสุสานแต่เพื่อเปิดรูหนอนส่งคนเข้าไปในสุสานนั้น !” ทุกอย่างที่หงซีบอกมาอยู่เหนือการคาดการณ์ของจางหยู
กลับกันแล้วสุสานสวรรค์กลับมีต้นกำเนิดที่น่าทึ่ง !
“ ตำนานบอกว่ามันมีจิตอันน่ากลัวในสุสาน มันเหนือกว่าจิตผู้ควบคุมขั้น 9 จิตนั้นควบคุมทั้งสุสาน ตั้งแต่โบราณมานั้นสุสานสวรรค์ได้ฆ่าคนไปนับไม่ถ้วน แม้แต่ผู้ควบคุมขั้น 9 ก็ด้วย เท่าที่ข้ารู้มาแล้วมีไม่น้อยกว่า 3 คนที่ตายไป นี่นับรวม อัลเวอร์ ที่ติดอยู่ในสุสานแล้วซึ่งไม่รู้เลยว่าตายไปแล้วรึไม่”
พวกต่ำกว่าขั้น 9 นั้นบางทีอาจจะมีโอกาหนีออกมาได้ พวกผู้ควบคุมขั้น 9 หากเข้าไปในสุสานแล้วภายใต้จิตอันน่ากลัวนั้นจะ” ไม่มีใครออกมาจากสุสานได้ อัลเวอร์ เองก็เช่นกัน ก่อนหน้านี้ข้าได้พูดคุยกับผู้ควบคุมขั้น 9 เก่าแก่ ข้าได้ยินเขาพูดถึงสุสานขั้น 9 เขาบอกว่าทุกๆหมื่นปีจะมีผู้ควบคุมขั้น 9 สักคนที่หายตัวไป ประวัติศาสตร์ของสุสานแห่งนี้มีมานานแค่ไหนไม่มีใครู้ได้แต่มันต้องมากกว่าล้านปี ผู้ควบคุมขั้น 9 ที่โดนขังไว้ในสุสานแห่งนั้นต้องมีไม่น้อยกว่าร้อยคนแน่ๆ…”
ผู้ควบคุมขั้น 9 กว่าร้อยคน แค่คิดก็ขนลุกแล้ว
อัลเวอร์น่ะเป็นแค่หนึ่งในนั้นเท่านั้น
“ เจ้าคงได้เห็นวิหารด้านในแล้วใช่รึไม่ ?” หงซีมองไปที่จางหยู “ ตำนานบอกว่าวิหารเช่นนั้นมีหลายร้อยแห่งรึอาจจะมากกว่านั้น แต่ละแห่งนั้นต่างก็มีผู้ควบคุมขั้น 9 อยู่ พวกนั้นยอมสละตัวเองเพื่อของบางอย่าง”

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท