บทที่ 331 ให้อภัยง่ายๆไม่ได้
เจ็บ!
เจียงสื้อสื้อหายใจเข้าลึก ๆ ฝ่ามือของเธอเจ็บร้อนอย่างแรงและยังรู้สึกชาๆไปด้วย
ตบนี้ใช้แรงทั้งหมดของเธอไปจริงๆ
มือของเธอเจ็บและอีกฝ่ายก็คงเจ็บไม่เบาเช่นกัน
หญิงอ้วนรู้สึกว่าหูของเธอสั่นไปหมด แก้มของเธอปวดจนไม่มีความรู้สึกอะไร
หลังจากนั้นสักพัก เธอถึงจะรู้สึกตัวแล้วกรีดร้องเสียงดัง พุ่งไปที่เจียงสื้อสื้ออย่างบ้าคลั่ง“ ไอเลว นี่เธอกล้าตบฉันเหรอ อยากตายใช่ไหม?”
เสี่ยวเป่าเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จและเดินออกมา เมื่อเห็นคนกำลังจะตบเจียงสื้อสื้อ เขาก็รีบวิ่งเข้าไป “ห้ามทุบตีหม่ามี๊ของผม!”
หญิงอ้วนโกรธจนตาแดงไปแล้ว เสี่ยวเป่าวิ่งมาเข้าไปเธอก็เตะไปทันที “ไสหัวไป”
เสี่ยวเป่ายังเด็กมาก เขาถูกเตะออกไปไกลแล้วล้มลงกับพื้นอย่างแรง
“ เสี่ยวเป่า!”
ใบหน้าของ เจียงสื้อสื้อซีดลงในทันที เธอกรีดร้องและวิ่งเข้าไปหา
เสี่ยวเป่านอนอยู่กับบนพื้น ไม่ขยับเลย
“ เสี่ยวเป่า… ” เธอไม่กล้าขยับตัวเขาเพราะกลัวว่าเขาจะกระทบไปโดนที่อื่น ขยับตัวเขาไม่ได้
มีคนรีบช่วยเรียกรถพยาบาลมา
ส่วนหญิงอ้วนคนนั้นไม่รู้ตัวเลยว่าเธอทำอะไรผิดไป เธอยังอุทานอย่าได้ใจอีกว่า “สมควรแล้ว! นี่คือผลที่พวกเธอไม่ยอมขอโทษ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจียงสื้อสื้อก็บีบฝ่ามือของเธออย่างแรง ดวงตาที่สวยงามของเธอแดงก่ำด้วยความโกรธ
“ฉันจะเตือนพวกเธอนะ วันหลังถ้าเจอฉันอีกให้เดินอ้อมไปทางอื่น ไม่งั้นฉันเจอหนึ่งครั้งฉันซ้อมพวกเธอหนึ่งครั้ง”
เจียงสื้อสื้อลุกขึ้นยืนช้าๆแล้วหันกลับไปจ้องมองตรงไปที่หญิงอ้วนโดยแววตาที่เยือกเย็น
อุณหภูมิโดยรอบ “ลดลง” ทันที และทุกๆคนรวมทั้งหญิงอ้วนก็รู้สึกถึงลมหายใจเย็น ๆ ที่ออกมาจากตัวเธอ
เย็นจนเข้าไขกระดูก
ทุกคนตัวสั่นไปหมด
หญิงอ้วนรู้สึกกลัวเล็กน้อยเมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้ แต่ก็ยังตะโกนว่า: “อย่าคิดนะว่าเป็นแบบนี้แล้วฉันจะกลัวเธอ!”
เจียงสื้อสื้อ จ้องมองเธอ “ฉันไม่อยากทำ เพราะกลัวว่าจะเป็นเหมือนเธอ ฉันขยะแขยง”
คำพูดนี้ทำให้ผู้หญิงอ้วนโกรธขึ้นมาอีกครั้ง “นังนี่ ฉันจะฉีกแกให้ตัวขาดเลย!”
ไกด์ช้อปปิ้งหลายคนรีบเข้ามาห้ามเธอไว้ และมีคนพูดกล่อมเธอว่า “คุณผู้หญิง ใจเย็น ๆนะ หยุดได้แล้ว”
ลูกชายของหญิงอ้วนกลัวมากและร้องไห้อยู่ข้างๆ แต่เพราะเขาน่ารำคาญมากจึงไม่มีใครไปปลอบเขา
เจียงสื้อสื้อ มองไปที่หญิงอ้วนที่ถูกไกด์ช้อปปิ้งดึงไว้ แล้วก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาและโทรออก
“ฉันจะแจ้งความค่ะ ที่นี่คือห้าง XX … ”
เสี่ยวเป่าถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยรถพยาบาลที่มา ส่วนหญิงอ้วนถูกตำรวจนำตัวไป
ก่อนโดนจับไป เธอยังไม่ลืมที่จะตะโกนว่า: “เธอคิดว่าแจ้งตำรวจมันมีผลเหรอ? ฉันจะใช้การกระทำบอกเธอว่า มันไม่มีประโยชน์!”
เจียงสื้อสื้อทำเป็นไม่ได้ยินและเดินตรงไปที่รถพยาบาล
หลังจากหมอตรวจแล้ว เสี่ยวเป่าไม่ได้มีปัญหาร้ายแรงใด ๆ แต่หญิงอ้วนนั้นเตะแรงมาก ไหล่ของเขาเขียวช้ำไปหมดแล้ว
“ โชคดีที่เป็นแค่รอยช้ำ กระดูกไม่เป็นไร”
เจียงสื้อสื้อ มองไปที่เสี่ยวเป่าที่อยู่บนเตียงคนไข้อย่างเป็นทุกข์และถามว่า “แล้วทำไมเขาถึงเป็นลมล่ะคะ?”
“ นี่ … น่าจะเป็นลมเพราะเจ็บเกินไปนะ”
เป็นแบบนี้นี่เอง
เจียงสื้อสื้อโล่งอกขึ้นเธอกล่าวขอบคุณหมอ
หลังจากคุณหมอออกไปเธอรีบโทรหาจิ้นเฟิงเฉิน
“เฟิงเฉิน คุณยุ่งเสร็จหรือยัง? เกิดเรื่องกับเสี่ยเป่า”
…….
ขณะที่จิ้นเฟิงเฉินรับโทรศัพท์ เขากำลังเลือกของขวัญให้เจียงสื้อสื้ออยู่
เขาอยากเซอร์ไพร์สเธอ จึงอ้างว่ามีธุระแล้วขอตัวกลับก่อน แต่อันที่จริงเขาไปที่แผนกขายเครื่องประดับของห้างสรรพสินค้าเพื่อเลือกของขวัญให้เธอ
“ เสี่ยวเป่าประสบอุบัติเหตุ”
เสียงกังวลของเจียงสื้อสื้อดังขึ้น จิ้นเฟิงเฉินก็ลุกขึ้นยืนทันที “เกิดอะไรขึ้น?”
เจียงสื้อสื้อเล่าเรื่องคร่าวๆให้เขาฟังเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากฟังจบ สีหน้าของเขาก็แย่ขึ้นมาทันที เขาพูดแค่ว่า “ผมจะไปเดี๋ยวนี้ ”แล้วก็วางสายโทรศัพท์ไป
เขาไม่มีเวลาสนใจของขวัญแล้ว หันหลังเดินออกไปทันทีเลย
เมื่อเห็นเช่นนี้ พนักงานก็กระวนกระวายและรีบตะโกนว่า “คุณคะ สร้อยเส้นนี้คุณยังรับอยู่ไหมคะ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ จิ้นเฟิงเฉินก็หยุดชะงัก จากนั้นก็หันกลับไปและเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์ “ห่อเลยครับ ”
เจียงสื้อสื้อนั่งอยู่ข้างเตียง ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าที่ยังเด็กๆของเสี่ยวเป่า แววตาของเธอเต็มไปด้วยความทุกข์และความรู้สึกผิด
เพราะเธอเรื่องถึงได้เป็นเช่นนี้
ถ้าตอนนั้นเธอยอมถอย แล้วขอโทษหญิงอ้วนคนนั้น เสี่ยวเป่าก็คงไม่ต้องเจ็บตัว
แต่โลกนี้ไม่มีคำว่าถ้า
เธอยื่นมือไปลูบหัวของเสี่ยวเป่าและถอนหายใจออกจากริมฝีปากของเธอ
คนเราห้ามเอาแต่ใจแค่ขณะเดียวจริงๆ ไม่เช่นนั้นจะเป็นตัวเองที่เสียเปรียบ
จิ้นเฟิงเฉินไปถึงโรงพยาบาลและเห็นเสี่ยวเป่านอนอยู่บนเตียง คิ้วของเขาขมวดอย่างแรง ดวงตาของเขามืดลง
“เฟิงเฉิน” เจียงสื้อสื้อเรียกด้วยเสียงเบาๆ
จิ้นเฟิงเฉินหันหน้าไปมองเธอ “คุณโอเคไหม?”
“ฉันสบายดี.”
เจียงสื้อสื้อก้มหน้าลง “ฉันขอโทษ ฉันดูแลเสี่ยวเป่าได้ไม่ดีเอง”
เธอเอาความผิดพลาดมาแบกรับไว้คนเดียวอีกแล้ว
จิ้นเฟิงเฉินถอนหายใจเบา ๆ “สื้อสื้อ ไม่ใช่ความผิดของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องโทษตัวเอง”
แม้ว่าเขาจะไม่ตำหนิเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถผ่านความรู้สึกผิดถายในใจของเธอไปได้
เสี่ยวเป่าเกิดเรื่องขณะที่อยู่ภายใต้การดูแลของเธอ เธอก็มีส่วนต้องรับผิดชอบที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
“โอเค อย่าคิดมาก” จิ้นเฟิงเฉินตบไหล่เธอแล้วเดินไปตรวจสอบอาการของเสี่ยวเป่า
เสี่ยวเป่าดูเหมือนจะหลับและเขาก็ไม่ต่างจากปกติที่นอนหลับเลย
“หมอว่าไง?”
“ เป็นแค่รอยช้ำ ไม่โดนกระดูก”
“โดนเตะตรงไหน”
“บนไหล่”
เจียงสื้อสื้อปลดเสื้อผ้าของเสี่ยวเป่าและดึงลง มีรอยช้ำขนาดใหญ่ที่ไหล่ซ้ายของเขา
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้วอย่างแรง ผู้ใหญ่ถ้าช้ำขนาดนี้ยังรู้สึกไม่สบายเลย นับประสาอะไรกับเด็ก
“ ตอนนั้นฉันไม่ควรขัดแย้งกับผู้หญิงคนนั้น เพราะฉันใจร้อนเกินไปเอง”
เจียงสื้อสื้ออยากจะให้คนที่ถูกหญิงอ้วนเตะเป็นเธอ
“ผู้หญิงคนนั้นล่ะ? ” จิ้นเฟิงเฉินถาม ดวงตาของเขามืดมนราวกับความสงบที่มีก่อนจะเกิดพายุ
“เธออยู่ที่สถานีตำรวจ”
จิ้นเฟิงเฉินโทรหากู้เนี่ยนและขอให้เขาเป็นคนรับผิดชอบในการจัดการเรื่องนี้ เขาต้องไม่ปรานีอีกฝ่าย
“ หม่ามี๊!”
จู่ๆเสี่ยวเป่าที่นอนอยู่บนเตียงก็ส่งเสียงดังขึ้นมา ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนตกใจ
“เสี่ยวเป่า” เจียงสื้อสื้อรีบขยับเข้าไปดู เห็นเสี่ยวเป่าร้องไห้แล้วตื่นขึ้นมา เมื่อเห็นเธอเขาก็ตะลึงจากนั้นเขาก็ร้องไห้หนักขึ้น
“หม่ามี๊ ผมกลัวมาก!”
เจียงสื้อสื้อรีบกอดเขาไว้ ดวงตาของเธอก็แดง ปลอบเขาด้วยน้ำเสียงที่ก้ำกึ่ง: “เสี่ยวเป่า ไม่เป็นไรนะคะ หม่ามี๊อยู่ที่นี่ ไม่ต้องกลัว”
เขาอยู่ในอ้อมแขนของเธอ เสียงร้องของเสี่ยวเป่าก็เบาลงเรื่อย ๆ จนหยุดลง
“เสี่ยวเป่าโอ๋ๆ ไม่ร้องไห้แล้วเนอะ ” เจียงสื้อสื้อช่วยเช็ดน้ำตาออกจากแก้มของเขาอย่างอ่อนโยน
เสี่ยวเปาสูดจมูกๆและถามว่า “หม่ามี๊ ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”
“หม่ามี๊ไม่เป็นไร” เจียงสื้อสื้อลูบแก้มน้อย ๆ ของเขาเบา ๆ และกระซิบบอก: “เสี่ยวเป่าของเราช่างกล้าหาญจริงๆ รู้จักปกป้องหม่ามี๊แล้ว”
เสี่ยวเป่าเหลือบมองไปที่ จิ้นเฟิงเฉินที่อยู่ข้างๆเธอแล้วพูดว่า “แดดดี๊บอกแล้วว่า ผมเป็นลูกผู้ชายต้องปกป้องหม่ามี๊ ”