บทที่ 332 ฉันว่าคุณมีชีวิตอยู่จนเบื่อแล้ว !
ต้องยอมรับว่า จิ้นเฟิงเฉินสอนเสี่ยวเป่าได้ดีมาก
สุภาพ อ่อนน้อม ถ่อมตน
ไม่เคยรังแกคนอื่นเพียงเพราะเขาคือคนของตระกูลจิ้น
แต่วันนี้ลูกชายของหญิงอ้วน เป็นเด็กเกเรที่แท้จริง ทางครอบครัวไม่เพียงแค่ไม่สอนเขาดีๆ แต่ยังเข้าข้างการกระทำที่ไม่ถูกต้องของเขาด้วย
เด็กแบบนี้โตไปก็เป็นปัญหาของสังคม
เจียงสื้อสื้อมองเขาอย่างอ่อนโยน “ใช่ เสี่ยวเป่าเป็นลูกผู้ชาย ถ้าอย่างงั้นต่อไปต้องปกป้องหม่ามี๊ดีๆนะคะ”
“ครับ” เสี่ยวเป่าพยักหน้าอย่างแรง
เจียงสื้อสื้อยิ้มกว้างขึ้น เธอสัมผัสใบหน้าของเขา จากนั้นก็หันไปหาจิ้นเฟิงเฉินและพูดว่า “ให้คนในบ้านมาดูแลเสี่ยวเป่าหน่อย เราไปที่สถานีตำรวจกันเถอะ”
วันนี้ต้องจัดการเรื่องนี้ให้มันจบ
โดยเฉพาะหญิงอ้วนคนนั้น ต้องให้เธอชดใช้กับสิ่งที่เธอทำในวันนี้
แม่จิ้นได้ข่าวว่าเกิดเรื่องกับเสี่ยวเป่า เธอแทบจะเป็นลมไป โชคดีที่มีคนรับใช้พยุงเธอไว้
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมช่วงนี้ตระกูลจิ้นเกิดแต่เรื่อง ปัญหามันอยู่ตรงไหน?”
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องไปไหว้พระเพื่อกำจัดความซวยหน่อยแล้ว
แม่จิ้นไปดูแลเสี่ยวเป่าที่โรงพยาบาลด้วยตัวของเธอเอง ส่วนจิ้นเฟิงเฉินพาเจียงสื้อสื้อไปที่สถานีตำรวจ
……..
เมื่อมาถึงสถานีตำรวจ เจียงสื้อสื้อก็ถามถึงหญิงอ้วน ตำรวจที่มารับเธอไปเผยรอยยิ้มแปลก ๆออกมา เหมือนรอยยิ้มที่ขมขื่น แต่ก็เหมือนฝืนยิ้มออกมา
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว “มีอะไรรึเปล่า?”
เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า“ คุณไปดูเองแล้วคุณจะรู้”
ตำรวจพาพวกเขาไปที่ห้องสอบสวน พวกเขายังเดินไม่ถึงประตู ก็ได้ยินเสียงแหลมๆของผู้หญิงดังมาจากข้างใน
“ ฉันจะบอกให้นะ รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นสามีของฉันจะไม่ปล่อยพวกนายไปแน่ๆ”
“นายรู้ไหมว่าสามีของฉันคือใคร? เขาเป็นราชากระดาษเช็ดมือที่มีชื่อเสียง ไม่แน่กระดาษเช็ดมือที่นายใช้อยู่ตระกูลฉันเป็นคนผลิตเอง”
“ เขาสนิทกับหัวหน้าของนายนะ ถ้าพวกนายไม่อยากถูกไล่ออกก็ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้!”
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!” เธอกรีดร้องอย่างกะทันหันขึ้นมา
เจียงสื้อสื้อตกใจจนตัวสั่น และมองไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความลำบากใจ มันเป็นเช่นนี้นี่เอง ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขายิ้มแปลกๆ
หญิงอ้วนที่อยู่ข้างในยังคงพูดไม่รู้จบ ตำรวจก็เปิดประตูให้เจียงสื้อสื้อและจิ้นเฟิงเฉินเข้าไป
เมื่อเธอเห็น เจียงสื้อสื้อ หญิงอ้วนก็ตกตะลึง แต่ในวินาทีต่อมาเธอก็อารมณ์ร้อนขึ้นมา เธออยากจะยกมือตบเธอ แต่มือของเธอถูกใส่กุญแจมือไว้กับเก้าอี้
“นังเลว อย่าคิดว่าจะทำอะไรฉันได้ เมื่อสามีของฉันมาถึงฉันไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆแน่ๆ” หญิงอ้วนไม่สามารถซ่อนความหยิ่งยโสของเธอได้
เจียงสื้อสื้อไม่สนใจที่เธอขู่ เธอพูดกับตำรวจที่ดูแลคดีนี้โดยตรงว่า: “เธอนั้นแหละที่เตะเด็กค่ะ เตะแรงมาก เด็กหมดสติไปเลยและไหล่ซ้ายช้ำเป็นสีเชียวทั้งหมด”
แสดงให้เห็นว่าตอนนั้นเธอใช้แรงมากแค่ไหน
หญิงอ้วนตะโกนอย่างไม่เต็มใจว่า“ เธอเป็นคนผลักลูกชายฉันก่อน แล้วยังจะรังแกลูกชายฉันต่อ ฉันทนไม่ไหวก็เลยรีบวิ่งไป”
“แบบนี้ถือว่าเป็นการขัดแย้งกันระหว่างบุคคล ต้องการเจรจาเป็นการส่วนตัวหรือไม่?”
“ต้องการ!”
“ ไม่!”
หญิงอ้วนตกลงที่จะจัดการกันเอง แต่เจียงสื้อสื้อไม่เห็นด้วย “ในเมื่อเธอกล้าที่จะลงมือ ก็ให้กฎหมายมาจัดการดีกว่า”
ผู้ใหญ่ก็ควรเผชิญหน้ากับความผิดพลาดที่ตัวเองทำลงไป
จิ้นเฟิงเฉินเดินเข้าไป และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มๆ: “เราปฏิเสธทุกการปรองดองใด ๆ สิ่งที่เราต้องการคือความยุติธรรมทางกฎหมาย”
ทันใดนั้น ชายร่างอ้วนวิ่งเข้ามา เขาอึ้งเมื่อเห็นคนจำนวนมากในห้อง แต่ก็ไหวตัวกลับมาอย่างรวดเร็วและถามว่า “นี่มันเรื่องอะไรกันเหรอ?”
เขาเดินเข้าใกล้ จิ้นเฟิงเฉินหันหน้าไปพอดี ทั้งสองก็สบตากัน
ชายคนนั้นอุทานออกมาว่า: “ท่านประธานจิ้นครับ”
เขารีบเดินไปหา จิ้นเฟิงเฉินและถามด้วยความเคารพ: “ท่านมาที่นี่ได้อย่างไรครับ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สายตาของจิ้นเฟิงเฉินก็มองไปที่หญิงอ้วน
ดวงตาของชายคนนั้นค่อยๆกว้างขึ้น เขามองไปที่หญิงอ้วนแล้วก็มองไปที่จิ้นเฟิงเฉิน เรื่องมันจะไม่เป็นอย่างที่เขาคิดหรอกใช่ไหม?
ขอให้มันไม่ใช่เถอะ ไม่งั้นแย่แน่เลย
“สามี ผู้หญิงคนนี้แหละที่ผลักเบบี๋ของเรา” หญิงอ้วนชี้ไปที่ เจียงสื้อสื้อและพูดว่า “เธอตบฉันไปหนึ่งทีด้วยซ้ำ คุณดูสิหน้าของฉันบวมไปหมดแล้ว”
เธอหันข้าง เผยหน้าที่ได้รับบาดเจ็บให้เขาดู
ชายคนนั้นเหลือบมองและสูดลมหายใจเข้า หน้าบวมขนาดนี้เลย ไม่รู้ว่าเธอลงมือหนักแค่ไหน
“เธอ……… ” เขาอยากจะถามเจียงสื้อสื้อ แต่เมื่อเขานึกถึงความสัมพันธ์ของเธอกับจิ้นเฟิงเฉิน เขาก็ใจเสาะขึ้นมาทันที
“ ภรรยาของผมไม่เห็นด้วย” จิ้นเฟิงเฉินพูดอย่างเย็นชา
ภรรยา?
ชายคนนั้นรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย แต่ตอนนี้เขาไม่ควรสนใจสิ่งนี้ เขารีบมองไปที่เจียงสื้อสื้อ พูดพร้อมรอยยิ้มว่า “คุณนายจิ้นครับ เรามาจบเรื่องนี้ดีๆดีไหมครับ?”
“ไม่!” เจียงสื้อสื้อปฏิเสธเขา
ชายคนนั้นขมวดคิ้ว“ ทำไม?”
“ ลูกชายของฉันยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลอยู่เลย เป็นเพราะภรรยาของคุณ”
ลูกชายของเธอ?
ชายคนนั้นถามอย่างขอความแน่ใจ: “คุณหมายถึงลูกชายของท่านประธานจิ้นใช่ไหมครับ?”
“มันต่างกันหรือ?” เจียงสื้อสื้อถามกลับ
แน่นอนว่ามีความแตกต่าง
ถ้าเป็นแค่ลูกชายของเธอ เขาถอนหายใจโล่งอกได้ แต่ถ้าเป็นลูกชายของจิ้นเฟิงเฉินล่ะก็ เขาจบแล้วจริงๆ
“สามี คุณพูดเรื่องไร้สาระอีกทำไม รีบแก้แค้นให้ฉันสิ” คงเป็นเพราะสามีของเธอหนุนหลังไว้ หญิงอ้วนก็ร้องเสียงดังมากขึ้น
“ ฉันจะขอให้โรงพยาบาลออกรายงานการตรวจ ถ้าพวกคุณมีอะไรอยากจะพูดก็คุยกับพวกเขาเลย”
จิ้นเฟิงเฉินบอกเตือนตำรวจที่อยู่ข้างๆ
ชายคนนั้นเริ่มกังวลแล้ว เขาพูดอย่างขอร้อง: “ท่านประธานจิ้นครับ ผมขอร้องคุณนะครับ เรามาเจรจากันเองเถอะครับ ได้ไหมครับ?”
“ภรรยาของผมพูดไปแล้วว่าไม่ได้ อย่าบังคับให้ผมต้องพูดอีกครั้ง” น้ำเสียงของจิ้นเฟิงเฉินฟังดูเยือกเย็น ราวกับหิมะเดือนธันวา
“ท่านประธานจิ้นครับ … ” ชายคนนั้นอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จิ้นเฟิงเฉินไม่ให้โอกาสเขา เขาจับมือเจียงสื้อสื้อและเดินออกไป
เมื่อเห็นเช่นนี้ หญิงอ้วนก็กระวนกระวาย “สามี คุณกำลังทำอะไร? ทำไมถึงปล่อยพวกเขาไปเช่นนี้?”
“พอสักที” ทันใดนั้นชายคนนั้นก็ตะโกนขึ้นมาและผู้หญิงอ้วนก็ตกใจ
“รู้หรือไม่ว่าพวกเขาเป็นใคร?”
“ใคร?”
“ จิ้นเฟิงเฉินและภรรยาของเขา”
เมื่อได้ยินคำว่า “จิ้นเฟิงเฉิน”สามคำนี้ สีหน้าของหญิงอ้วนก็เปลี่ยนไปทันที “คุณหมายถึงจิ้นเฟิงเฉิน?”
“คุณดูไม่ออกหรือไง? คุณกล้าเตะลูกชายของเขา ฉันว่าคุณเบื่อชีวิตแล้วอยากตายใช่ไหม! จงใจหาเรื่องให้ผมชัดๆ!” ชายคนนั้นดุด่าเธออย่างโกรธเกรี้ยว
หญิงอ้วนไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป
ทุกคนรู้ดีว่าจิ้นเฟิงเฉินนั้นโหดเหี้ยมและไร้ความปรานีเพียงใด
หญิงอ้วนรู้สึกกลัว ความได้ใจและความหยิ่งผยองในตอนนั้นหายไปอย่างสิ้นเชิง
“ ตอนนี้จะทำยังไงดี?” หญิงอ้วนถาม
“จะทำอะไรได้อีก ขอโทษเขาดีๆสิ พยายามให้พวกเขาถอนคำฟ้อง”
เมื่อเดินออกจากสถานีตำรวจ เจียงสื้อสื้อมองกลับเข้าไปและถามว่า: “เธอจะถูกตัดสินโทษหรือไม่?”
“ถ้ามีหลักฐานเพียงพอ ก็ใช่”
นี่เขาพูดอะไรไร้สาระ?
เมื่อรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ จิ้นเฟิงเฉินจึงกล่าวว่า “คุณวางใจได้ เธอจะต้องชดใช้ในสิ่งที่เธอทำลงไปอย่างแน่นอน”
เจียงสื้อสื้อถอนหายใจ “รู้แล้ว ถ้าอย่างงั้นฉันจะไม่ถามแล้ว”
จิ้นเฟิงเฉินพาเธอกลับไปส่งที่โรงพยาบาล จากนั้นก็กลับไปที่ บริษัท