ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1703 : กึ่งขั้น 9

ตอนที่ 1703 : กึ่งขั้น 9

ใน 9,000 ปีมานี้ จางหยูเหมือนจะไม่ได้ทำอะไรให้กับสำนักเลยแต่ตัวตนของเขาน่ะถือว่าส่งผลต่อสำนักอย่างมากแล้ว
หากไม่มีเขา สำนักคงไม่สงบสุขจนถึงตอนี้ได้ นี่ไม่ต้องนับความสำเร็จในตอนนี้เลย
“ เจ้าไม่จำเป็นต้องทำอะไร การมีเจ้าอยู่นั้นสำหรับสำนักคังเฉียงแล้วมันก็ถือว่าเป็นความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว” เจ้าสำนักพูดขึ้น
จางหยูได้มองข้ามคำพูดนี้บางทีเจ้าสำนักอาจจะพูดถูก การพัฒนาของสำนักจนถึงระดับนี้เขาไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ทำอะไร ตราบใดที่เขายังคงมีชื่อเสียง สำนักคังเฉกียง็จะเหมือนกับวิหารศักดิ์สิทธิ์ในใจผู้คนนับไม่ถ้วน
“ มีคนมาหาข้ารึไม่ ? ” จางหยูเปลี่ยนเรื่อง  “ หงซวนมาที่นี่แต่เขาไม่ได้อยู่นานนัก เมื่อเขารู้ว่าเจ้าไม่อยู่ที่นี่เขาก็จากไปทันที ” เจ้าสำนักตอบกลับ
จางหยูพยักหน้าหงซวนมาหาเขาคงเป็นเรื่องสุสานขั้น 9
“ ข้าโล่งอกแล้วที่สำนักพัฒนาได้เป็นอย่างดี ” จางหยูพูดขึ้น “ ต่อไปข้ากับคนอื่นๆจะไปยังสุสานขั้น 9 ด้วยกันกับ หงซวน เพื่อสำรวจที่นั่น เรื่องของสำนักคงต้องฝากให้เจ้าดูแล หากมีอะไรก็บอกข้าได้ทันที”
“ ได้ ! ” เจ้าสำนักตอบกลับ
หลังจากที่อยู่ในโลกป่าแค่ 2-3 วัน จางหยูก็ได้พาคนอื่นๆออกเดินทางอีกครั้ง
ครั้งนี้วอซ่งยังคงใช้เรือมิติของตัวเองในการเดินทางอยู่
โลกป่าและที่ที่สุสานขั้น 9 ปราฏขึ้นมานั้นไม่ได้อยู่ใกล้กันนัก แม้ด้วยความเร็วของวอซ่งแล้ว มันก็ยังต้องใช้เวลากว่า 200 ปี จางหยูไม่รู้ว่าจะทันตอนที่สุสานปรากฏขึ้นมารรึไม่แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น ยังไงซะสุสานขั้น 9 ก็ไม่อาจจะปรากฏขึ้นตามใจเขาต้องการ
จางหยูใช้เวลาทุกวินาทีบนเรือมิติไปกับการทำความเข้าใจการสร้าง
หลินเป่ยชานและเกลดัน ทำความเข้าใจการสร้างในหินแห่งการสร้งาที่ได้มา หินแห่งการสร้างนี้เหมือนจะมีพลังไม่รู้จบ ไม่ว่าพวกเขาจะพัฒนาขึ้นแค่ไหนแต่พวกเขาก็ยังรู้สึกว่าการสร้างในหินนี้แข็งแกร่ง มันทำให้พวกเขาเข้าใจสิ่งใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง
ผ่านไป 100 ปี
ระหว่างนี้พวกเขาได้เข้าไปในโลกขั้น 9 มากมายเพราะการใช้รูหนอนเพื่อย่นระยะเวลาแต่เวลาส่วนมากแล้วพวกเขาจะเดินทางในจักรวาล
ความเข้าใจของจางหยูนั้นก้าวหน้าขึ้นมาไม่ใช่น้อย
อยู่ๆวันหนึ่งจางหยูก็แผ่พลังสร้างที่แปลกประหลาดออกมา พลังสร้างนี้มีแรงกดดันที่น่าหวั่นใจ นี่คือ…พลังของผู้ควบคุมขั้น 9!
วอซ่ง, หลินเป่ยชาน และคนอื่นๆต่างก็มองจางหยูด้วยสีหน้าตะลึง
“ ขั้น… 9 รึ ?” พวกเขาตะลึง เพราะในสายตาพวกเขาแล้วเจ้าสำนัก คือผู้ควบคุมขั้น 9 ส่วน จางหยูนั้นเป็นแค่ร่างแยกแต่ตอนนี้ร่างแยกกลับขึ้นเป็นผู้ควบคุมขั้น 9 แล้ว
ผู้ควบคุมขั้น 9 รึ ?
น่ากลัวจริงๆ !
“ ข้าขอโทษด้วยที่รบกวนพวกเจ้า ” จางหยูลืมตาขึ้นมาพร้อมเผยรอยยิ้มอันอบอุ่น
วอซ่งลังเลและพูดขึ้นมา “ นายท่าน…ท่านทะลวงผ่านได้แล้วรึ ?”
จางหยู ยิ้มและพยักหน้า “ ข้าได้ทำความเข้าใจการสร้างและได้ประโยชน์กลับมา ตอนนี้คงอีกครึ่งก้าวที่จะขึ้นไปถึงขั้น 9 จริงๆ ” เหตุผลว่าทำไมถึงบอกว่าอีกครึ่งก้าวถึงจะขึ้นไปขั้น 9 นั้นเพราะการใช้พลังสร้างของเขาติดอยู่ที่ผู้นำขั้น 8 เขาต้องต่อสู้เพื่อยกระดับการใช้พลังสร้างของตัวเอง
เมื่อเขาใช้พลังสร้างได้ถึงเกินกว่าระดับผู้นำขั้น 8 เขาก็จะขึ้นเป็นผู้ควบคุมขั้น 9 ที่แท้จริงได้ !
เมื่อได้ยินคำพูดของจางหยูทุกคนต่างก็พากันมองหน้ากัน แต่ละคนต่างก็เผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา
พวกเขากลับรู้สึกหงุดหงิดตัวเอง !
เมื่อเห็นจางหยูกำลังจะทะลวงผ่านขั้น 9 ได้แต่พวกเขายังด้อยกว่ามากนัก วอซ่งน่ะยังดีกว่าหน่อย เขายังพอเห็นความหวังแต่หลินเป่ยชานและเกลดัน นั้นแทบไม่เห็นหวังที่จะขึ้นไปขั้น 9 เลย
“ ขั้น 9 น่ะไม่ได้มีค่าอะไร ข้าเชื่อว่าอีกไม่ช้าพวกเจ้าก็จะขึ้นมาขั้น 9 ได้” จางหยูมองไปรอบๆแล้วให้กระตุ้นทุกคน “ ข้าจะดูแลพวกเจ้าเอง ” จางหยูเงียบไปชั่วครู่แล้วพูดต่อ “ พวกเจ้าบ่มเพาะกันต่อ รักษสภาพจิตใจเอาไว้อย่าวอกแวกกับเรื่องอื่น แค่ความพยายามของพวกเจ้าก็เพียงพอจะไปถึงขั้น 9 ได้”   หลินเป่ยชานและเกลดันคึกตาม พวกเขามั่นใจขึ้นกว่าเดิม พวกเขราได้กลับไปฝึกฝนอีกครั้ง บางทีจากคำพูดของจางหยูแล้วพวกเขาอาจจะมีสมาธิกันมากขึ้นและได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม
วอซ่งไม่ชินกับการกระตุ้นของจางหยู ตัวเขาน่ะมั่นใจตัวเองอยู่แล้ว เขาเชื่อว่าในอนาคตจะขึ้นไปถึงขั้น 9 ได้ มันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นแต่คำพูดของ จางหยู ทำให้เขาเรียกสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว เพราะเขารู้ว่าถึงนี่จะเป็นเรื่องเร่งด่วนแต่เมื่อถึงเวลาเขาก็จะทะลวงผ่านได้เอง มันไม่จำเป็นต้องกังวล
แน่นอนหากเขาไม่ใช่ผู้นำในตำนาน บางทีเขาอาจจะคิดต่างจากนี้ ความเข้าใจการสร้างของ จางหยู ขึ้นมาถึงขั้น 9 แล้ว การรับรู้นั้นกว้างกว่าเดิมถึง 10 เท่า เขาถึงกับแผ่การรับรู้ทะลุกำแพงโลกไปได้ โลกที่จำกัดการรับรู้ของเขาก่อนหน้านี้อาจจะทำแบบเดิมไม่ได้อีก
ผู้ควบคุมขั้น 9 และ 8 นั้นแตกต่างกันความต่างนี้ไม่ใช่แค่ความแข็งแกร่งแต่ยังรวมถึงด้านอื่นๆด้วย
แม้ว่าจางหยู จะยังขึ้นไปขั้น 9 ได้ไม่เต็มตัวแต่เขาก็ยังมีพลังบางอย่างของผู้ควบคุมขั้น 9 อยู่ !
เวลาผ่านไปอย่างต่อเนื่อง ทุกอย่างยังคงน่าเบื่อเช่นเคย เวลาเหมือนจะหมดความหมายไป มันยากที่จะรับรู้ถึงเวลาที่ผ่านไปได้ มีแค่การเดินทางไปยังโลกขั้น 9 อื่นๆถึงทำให้พวกเขารู้ได้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน
ในพริบตาก็ผ่านไปอีกหลายสิบปี
สุดท้ายเรือมิติก็มาถึงที่หมาย ที่นี่คือทางแยกระหว่างเขตย่อยดาวเดือนกับเขตตึก
“ ในที่สุดก็ถึง ” วอซ่งเก็บเรือมิติและพูดขึ้นมา “ มันยังไม่สายเกินไป ”
จางหยู แผ่การรับรู้ออกไปก่อนจะพบจักรวาลและเงาของสุสานที่ทับซ้อนกัน มันราวกับโลกโปร่งใสที่ดูแปลกประหลาดอย่างมาก “นี่คือสุสานขั้น 9 รึ ?” เขาเพิ่งเคยเห็นสุสานขั้น 9 แบบนี้เป็นครั้งแรก
“ เพราะพลังสร้างนั้นต้องใช้จำนวนมาก มันจึงยากที่จะรักษาตัวตนเอาไว้ได้ ดังนั้นมันจึงเผยให้เห็นแค่เงาของสุสานขั้น 9”
“ ดูเหมือนว่ามันกำลังจะปรากฏตัว อย่างมากก็คงไม่เกิน 10 ปี” หลินเป่ยชานพูดขึ้น
วอซ่งและคนอื่นๆเคยสำรวจสุสานขั้น 9 กันมาแล้ว พวกเขาจึงรู้ว่าสุสานขั้น 9 จะปรากฏขึ้นตอนไหน
“ ข้าเดาว่าคงอีก 6-7 ปีหากเราโชคดี” วอซ่งบอกเวลาที่แม่นยำกว่าออกมา
เกลดันมองไปรอบๆ “ แล้วหงซวนล่ะ ?”
ตอนนั้นมียอดฝีมือจำนวนมาก เท่าที่เกลดันรับรู้ได้ก็มีหลายร้อยคนแล้ว !
คนพวกนี้ต่างก็เป็นผู้ควบคุมขั้น 8 กันหมด !
“ คนเยอะจริงๆ !” หลินเป่ยชานแปลกใจนิดๆ “ นอกจากเขตตะวันออกตอนบนแล้วก็ยังมีคนจากเขตอื่นมาที่นี่จำนวนมาก !”   วอซ่งพยักหน้า “ อย่าประเมินการดึงดูดของสุสานขั้น 9 ที่มีต่อผู้ควบคุมขั้น 8 เกินไป ”
จางหยูแผ่การรับรู้ออกไป ในการรับรู้ของเขานั้นในจักรวาลโดยรอบนั้นมียอดฝีมือกว่า 8631 คน
ผู้ควบคุมขั้น 8 ได้มารวมตัวกันตรงหน้าโลกเงามากกว่า 8,000 คน !
แต่ไกลออกไปนั้นก็ยังมีผู้ควบคุมต่ำกว่าขั้น 8 อื่นๆอีกจำนวนมาก คนเหล่านี้แค่มารวมตัวกันที่นั่นแต่ไม่คิดจะเข้าไปในสุสานขั้น 9 เพราะไมใช่ทุกคนที่จะรับมือกับสุสานได้ แม้แต่ผู้ควบคุมขั้น 8 ก็ยังต้องระวังตัว ไม่งั้นแล้วพวกเขาอาจจะตกที่นั่งลำบากต

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท