บทที่ 446 ออกเดทกับผู้ชายป่า
วันนี้ขณะที่เจียงสื้อสื้อกำลังยุ่งอยู่ที่บริษัท จู่ ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา
เป็นโทรศัพท์ของลู่เจิง
ขณะที่เจียงสื้อสื้อรับโทรศัพท์ของเขาก็ถามอย่างไม่คาดคิดว่า “รุ่นพี่ทำไมจู่ ๆ ถึงได้โทรหาฉัน มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
“วันนี้เป็นวันเกิดของผม มีงานเลี้ยงตอนกลางคืน คุณมีเวลามาร่วมงานไหม?”เสียงไพเราะของลู่เจิงส่งออกมา
“วันเกิดของรุ่นพี่ฉันต้องไปอย่างแน่นอน ยังต้องเอาของขวัญมาให้คุณอีกด้วย”เจียงสื้อสื้อเหมือนพูดล้อเล่น
สำหรับรุ่นพี่ลู่เจิงแล้ว เขาก็ชื่นชมมาโดยตลอด
ยิ่งไปกว่านั้นลู่เจิงยังเป็นคนที่ช่วยชีวิตของเขาอีก ถ้าไม่มีลู่เจิงงั้นก็คงจะไม่มีเขาในตอนนี้อย่างแน่นอน
ตอนที่เจียงสื้อสื้อพูดคำนี้ก็ไม่ได้ตั้งใจหลบจื่อเฟิง ดังนั้นเนื้อหาในโทรศัพทก็ถูกจื่อเฟิง ได้ยินหมด
จื่อเฟิงที่อยู่ด้านข้างเขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว กระทั่งสายตาที่มองมาทางเจียงสื้อสื้อต่างก็มีความดูถูกเล็กน้อย
แววตามองอย่างตรงไปตรงมา อยากให้คนดูไม่เข้าใจต่างก็ยาก
“เมื่อกี้ที่โทรหาคุณเป็นใคร?หรือว่าคุณไม่รู้ว่าควรหลีกเลี่ยงความสงสัยเหรอ?”จื่อเฟิงเอามือสองข้างกอดอก มองเจียงสื้อสื้อจากที่สูงลงมา เหมือนจะต้องการขยี้เขา
นี่ตัวเองคิดว่าคำพูดนี้จะทำให้เจียงสื้อสื้อโกรธบ้าง น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็นเล็กน้อย “มันเกี่ยวอะไรกับเธอ?ทำหน้าที่ของเธอให้ดีก็พอแล้ว”
“ฮึ”จื่อเฟิงส่งเสียงฮึออกมาอย่างเย็นชา คิดว่าตัวเองจับพิรุธของเจียงสื้อสื้อได้
เขาได้พูดเปลี่ยนไปมากว่าเมื่อกี้ว่า“คุณออกไปพบผู้ชายลับหลังคุณชาย คุณว่าถ้าฉันไปบอกคุณชาย เขาจะเป็นยังไง?จะทิ้งคุณไปเลยหรือเปล่า?ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังรอโอกาสที่เขาไม่อยู่ ออกไปนัดเดทกับผู้ชายป่า!”
จื่อเฟิงทุกครั้งที่พูดก็ใช้คำว่าผู้ชายป่ามาบรรยายลู่เจิง
เจียงสื้อสื้อก็โมโหขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะเอาจื่อเฟิง ไล่ออกไป
“ถึงแม้เฟิงเฉินอยู่ที่นี่ ฉันก็บริสุทธิ์ใจ จะว่าไปอีกรุ่นพี่ลู่เจิงก็ไม่ใช่ผู้ชายป่าที่เธอเอามาบรรยายทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้นผู้ชายของฉันต่างก็ไม่ได้สนใจฉัน แล้วเธอคิดว่าเป็นใคร?เชื่อไหมว่าฉันทำให้เฟิงเฉินไล่เธอออกได้ ?เฟิงเฉินส่งเธอมาอยู่ข้างกายฉัน ไม่ใช่ให้เธอมาวิจารณ์ฉัน”
ได้ยินแล้ว จื่อเฟิงก็ยิ่งฮึอย่างเย็นชา“ฉันก็แค่อยากจะบอกคุณ หวังว่าคุณจะสามารถเรียนรู้ที่จะเคารพตัวเอง ใจดีอยากที่จะเตือนคุณสักหน่อย คิดไม่ถึงว่าคุณจะด่าฉัน!”
เจียงสื้อสื้อยิ้มอย่างเย็นชา“ขอถามเธอหน่อย ตรงไหนที่ฉันไม่เคารพตัวเองล่ะ?เธอพูดออกมา ให้ฉันแก้ไขหน่อย”
เดิมทีปากของจื่อเฟิง ไว แต่จู่ ๆ ก็ชะงัก อยากจะพูดกลับพูดไม่ออก
คำพูดที่ไม่เคารพตัวเองก็คือไม่มี จื่อเฟิง ไม่มีคำพูดตอบกลับไป
รู้ว่าจื่อเฟิงเพียงแค่มองตัวเขาเองแล้วขัดหูขัดตา เจียงสื้อสื้อก็ไม่ต่อปากต่อคำกับจื่อเฟิงต่อไป
กระทั่งกลับไปถึงที่บ้าน
เจียงสื้อสื้อกำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่ในห้องนอนก็มีเสียงหวานแบบเด็ก ๆ ดังขึ้นมา“หม่ามี๊”
เสี่ยวเป่าเดินเข้ามาจากห้องข้างนอก เบิกตากว้างมองเจียงสื้อสื้อที่กำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่ แล้วเอ่ยปากถามว่า“หม่ามี๊จะไปร่วมงานอาแปลกหน้า เหรอ เสี่ยวเป่าก็อยากไปด้วย”
ได้ยินเสี่ยวเป่าพูด“อาแปลกหน้า”สามคำนี้ เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกน่าขำบ้างเล็กน้อย“พุ่ว”หัวเราะออกมา
มองเห็นเจียงสื้อสื้อยังหัวเราะอยู่ เสี่ยวเป่าก็กระโดดเข้าในอ้อมกอดของเจียงสื้อสื้อแล้วดึงมุมกระโปรงของเขา เสียงหวานของเด็กทำให้ใจแทบจะรักให้ตายอยู่แล้ว
“หม่ามี๊ คุณก็รับปากเสี่ยวเป่าสิ”
สำหรับการออดอ้อนของเสี่ยวเป่าที่มีต่อเจียงสื้อสื้อแล้ว คือพลังฆ่าที่มากที่สุด
ตอนแรกเขายังไม่อยากให้เสี่ยวเป่าออกงานชนิดนี้ ยังไงที่นั่นก็เต็มไปด้วยคนที่หลากหลายผลประโยชน์
แต่การออดอ้อนของเสี่ยวเป่า เขาปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ
ไม่ถึงสามรอบ เจียงสื้อสื้อก็ยอมแพ้แล้ว
ยังอุ้มเสี่ยวเป่าที่ยังไม่ถึงเอวของเขาขึ้นมา และหอมหน้าที่อ่อนนุ่มของเขาอย่างแรง
“ใครให้หนูน่ารักอย่างนั้น หม่ามี๊จะปฏิเสธหนูได้ยังไงล่ะ”
“คริ คริ ”เสี่ยวเป่ายิ้มอย่างดีใจ สองมือคล้องคอของเจียงสื้อสื้อ
“ที่ไหนกัน หม่ามี๊สวยมาก ใจดีมากต่างหาก ก็เลยอดใจไม่ได้ที่จะปฏิเสธเสี่ยวเป่า”
หลังผ่านไปสองสามชั่วโมง เจียงสื้อสื้อก็พาเสี่ยวเป่ามาถึงสถานที่งานเลี้ยง
เจียงสื้อสื้อลงจากโรลส์รอยซ์สีดำที่เรียบหรู มือขวาก็จูงเสี่ยวเป่ามา
ชุดราตรีสีดำที่แนบบนตัวก็ได้แสดงเค้าโครงรูปร่างที่สวยงามของที่เหมือนนางฟ้าของเธอออกมา
ผมยาวสีดำของเขาถูกช่างทำผมมัดขึ้น ทำทรงผมที่ดูสง่างามมากขึ้นให้เหมาะสมกับชุดราตรีในวันนี้ของเขา
เสี่ยวเป่าก็เปลี่ยนรูปแบบจากเมื่อก่อน ชุดสูทสีดำใส่อย่างดูดี
แทบจะดูดีกว่าพวกคนหนุ่มเหล่านั้น ในวัยเด็กก็มีบุคลิกที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ
การปรากฏของสองคนก็เหมือนหินก้อนหนึ่งที่ตกลงในพื้นน้ำที่เงียบสงบแล้วก็เกิดคลื่นขึ้นในทันที
การปรากฏตัวของเจียงสื้อสื้อและเสี่ยวเป่าก็ดึงดูดสายตาของคนจำนวนมากในเวลาเดียวกัน
ลู่เจิงที่ได้ข่าวก็วิ่งออกมาจากด้านใน หลังเห็นเครื่องแต่งกายของสองคนที่แต่งตัวแล้ว ยิ้มแล้วพูดล้อเล่นว่า “พวกเธอคงจะไม่ใช่มาร่วมงานแต่มาทำลายงานซะมากกว่า?”
เจียงสื้อสื้อยิ้มกับเขาอย่างไม่ชัดเจน แล้วก้มลงช่วยจัดการเสื้อผ้าของเสี่ยวเป่าให้เรียบร้อย
จูงมือของเขา ชี้ที่ลู่เจิงแล้วพูดว่า“วันนี้ฉันพูดกับหนูก็คือลุงคนนี้ เสี่ยวเป่ารีบสวัสดีลุงลู่”
ถึงแม้จะเป็นรุ่นพี่ของเจียงสื้อสื้อ แต่เขาและเจียงสื้อสื้อก็มีอายุใกล้เคียงกัน
เด็กคนอื่นเห็นเขาแล้วต่างก็เรียกเขาว่าพี่ชาย ตอนนี้ถูกเสี่ยวเป่าเรียกลุง ลู่เจิงอดไม่ได้ที่จะ……
เสี่ยวเป่ากลับให้ความร่วมมือเป็นอย่างมากกับเจียงสื้อสื้อ เปิดเผยฟันขาวแปดซี่ ใช้ภาษาจีนมาตรฐานพูดว่า“คุณลุงสวัสดีครับ สุขสันต์วันเกิดคุณลุง”
ก็ไม่สามารถถือสากับเด็กเล็กคนหนึ่งได้
ลู่เจิงทำให้ตัวเองสบายใจอย่างนี้ เดินไปข้างหน้าลูบหัวของเสี่ยวเป่าอย่างเบา ๆ
ลู่เจิงยิ้มและถามว่า“ทำไมวันนี้เสี่ยวเป่าถึงได้หล่ออย่างนั้น?ทำไมหนูถึงได้มาร่วมงานวันเกิดของลุงได้ล่ะ?”
เสี่ยวเป่า“คริ คริ”ออกมา พูดข้างหูของลู่เจิงว่า“หนูชมว่าหม่ามี๊สวย เขาก็เลยพาผมมา”
ลู่เจิงส่งเสียงโอ๊ยออกมา แล้วบีบจมูกของเสี่ยวเป่าอย่างเบา ๆ “หนูนี่เข้าใจผู้หญิงเก่งมากนะ ลุงยังไม่เก่งเท่ากับหนูที่เป็นเด็กคนหนึ่งเลย”
หยอกเล่นกับเสี่ยวเป่าสักพัก ลู่เจิงก็ให้คนพาเสี่ยวเป่าไปเล่น
เสี่ยวเป่าก็ผสมกลมกลืนในกลุ่มได้อย่างง่ายดาย เล่นอย่างเบิกบานใจมาก ๆ
ลู่เจิงได้หยิบแก้วเหล้าเดินมาทางเจียงสื้อสื้อ ยืนที่ด้านหน้าของเธอ
พบว่าสายตาของเขาจ้องมองไปทางเสี่ยวเป่าตลอดเวลา ยิ้มเบา ๆ “ทำไมวันนี้ถึงพาเสี่ยวเป่ามาออกงานด้วยกันได้ล่ะ?”
“เสี่ยวเป่าอยากจะมาดูสักหน่อย ฉันก็เลยพาเขามา”
เจียงสื้อสื้อพูดพลางก็เทเหล้าที่มีระดับแอลกอฮอล์ต่ำให้กับตัวเอง เม้มปากเล็กแล้วพูดว่า“ พอแล้ว รุ่นพี่ คุณไปต้อนรับแขกเถอะ ฉันที่นี่ไม่ต้องให้คุณมาแล้ว”
เจียงสื้อสื้อพูดพลางก็ผลักลู่เจิงไปด้านข้าง ลู่เจิงเห็นสภาพการณ์แล้วทำได้แค่ยิ้มแล้วเดินจากไป
ที่จริงแล้ว วันนี้เจียงสื้อสื้อพาเสี่ยวเป่ามายังมีอีกความหมายหนึ่ง
ตอนนี้เขายังไงก็มีฐานะที่เป็นภรรยา ถ้าหากมาร่วมงานคนเดียวก็อดไม่ได้ที่จะถูกคนนินทา
พาเสี่ยวเป่ามา คนอื่นก็จะไม่สามารถพูดอะไรได้