ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1714 : ผู้ช่วยที่คาดไม่ถึง

ตอนที่ 1714 : ผู้ช่วยที่คาดไม่ถึง

จาเบ็ธอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า “ โง่เง่าสิ้นดี ”
เมื่อพูดจบจาเบ็ธก็ได้ทำการตบเข้าใส่จางหยู
นี่เป็นครั้งแรกที่จางหยูกับผู้ควบคุมขั้น 9 เผชิญหน้ากัน แม้ว่าจะเคยเจอกับอัลเวอร์และหงอีมาก่อน แต่ก็ไม่เคยสู้กัน เพราะตอนนั้นความเข้าใจของเขายังไม่ถึงขั้นที่ 9 เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ออกปากของประมือกับอีกฝ่าย
จาเบ็ธที่อยู่ตรงหน้านี้มีพลังสร้างที่มากมายพร้อมกับแผ่แรงกดดันออกมา
ผู้ควบคุมขั้น 8 โดยรอบพากันเปลี่ยนสีหน้าไป พวกเขาพากันหนีออกไปทันที
จางหยูยังยืนอยู่ที่เดิมมองดูมือพลังสร้างที่พุ่งเข้ามา เขาไม่คิดที่จะหลบ เพราะเขารู้ดีว่าไม่ว่าเขาจะซ่อนตัวที่ไหนแต่มือนี้ก็จะตามเขาไป เขาไม่อาจจะหนีได้
ยิ่งกว่านั้นจางหยูก็รู้สึกว่าเขาไม่จำเป็นต้องหลบ !
พลังของมือนี้แม้ว่าจะดูน่ากลัวและแกร่งกว่าพลังของผู้นำขั้น 8 รวมถึงทำให้เขารู้สึกว่ามันอันตราย แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะฆ่าเขา มันชัดแล้วว่าจาเบ็ธไม่คิดจะฆ่าเขาทันทีรึไม่ก็จาเบ็ธประมาทเขาเกินไป
สรุปคือจาเบ็ธยังไม่ได้เอาจริง !
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นมันก็เพียงพอที่จะจัดการผู้นำขั้น 8 ได้
จางหยูถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกพร้อมกับร่างของเขาที่หายไป
สิ่งนี้ทำให้จาเบ็ธต้องแปลกใจ จางหยูไม่คิดที่จะหนี ในทางกลับกันแล้วจางหยูกลับพุ่งเข้าหามือของเขาแทน
จางหยูกำมือพร้อมจิตผู้สร้างที่ปะทุออกมาเป็นหอก เขาจับหอกนั้นเอาไว้แล้วโยนใส่มือพลังสร้าง หอกนี้ได้แผ่พลังสร้างอันแข็งแกร่งออกมา !
ตูม !
พลังได้กระจายไปโดยรอบ จางหยูกระเด็นออกไปพร้อมบาดแผล จิตผู้สร้างเขาสั่นไหว มือพลังสร้างนี้โดนหอกขัดขวางเอาไว้และไม่อาจจะเดินหน้าต่อได้
“ หือ ” จาเบ็ธมองจางหยูด้วยความแปลกใจ “ หยุดไว้ได้รึ”
แม้ว่าเขาจะไม่ได้เอาจริงแต่ผู้นำก็ไม่อาจจะหยุดการโจมตีนี้ได้ !
ตอนนี้จาเบ็ธรู้สึกเสียหน้า ไม่ใช่แค่มือพลังสร้างที่ถูกจางหยูหยุดเอาไว้ได้ แต่จิตผู้สร้างของจางหยูกลับดูพัฒนาขึ้น การใช้พลังสร้างก็เหมือนพัฒนาไปด้วย ส่วนที่น่าตกใจที่สุดคือคลื่นพลังของจางหยูกลับพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ ขั้น 9 !” สีหน้าของจาเบ็ธเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อรับรู้ได้ถึงคลื่นพลังตรงหน้า เขาก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่านี่คือการทะลวงผ่านขึ้นไปยังขั้น 9
เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าจางหยูจะทะลวงผ่านขั้น 9 ในตอนนี้
“ ต้องฆ่าเขาก่อนที่เขาจะทะลวงผ่านได้สำเร็จ ! ” จาเบ็ธไม่คิดยั้งมืออีกต่อไป พลังของผู้ควบคุมขั้น 9 ปะทุออกมาทั้งหมด มือพลังสร้างเหมือนจะมีพลังน่ากลัวกว่าเดิมและพยายามกดดันจางหยู
จางหยูยังใช้หอกต้านทานมือนั้นเอาไว้ ยิ่งการโจมตีที่ใช้รุนแรงเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งพัฒนาได้เร็วขึ้นเท่านั้น
พลังของมือนั้นเพิ่มขึ้นมาหลายเท่า พลังที่จางหยูใช้รับมือก็มากขึ้นไปด้วยราวกับว่าไม่ว่าการโจมตีของจาเบ็ธจะรุนแรงแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจจะเป็นภัยต่อจางหยูได้เลย
เพราะจางหยูน่ะแกร่งกว่า !
สุดท้ายเมื่อพลังของจางหยูเพิ่มไปถึงขีดสุด เขาก็ได้ระเบิดพลังออกมา มันมีเงาโลกเริ่มก่อตัวขึ้นมาก่อนที่สุดท้ายจะกลายเป็นโลกจริงๆ ในโลกนี้เขาคือพระเจ้า
สร้างโลกจำลอง !
“ นี่แหละ !” จางหยูหัวเราะออกมา ตอนนี้เขารู้ถึงแก่นแท้ของโลกแล้ว
ในเวลาเดียวกันโลกจำลองนั้นก็เริ่มจางหายไปพร้อมกับร่างของจางหยูที่ปรากฏตัวขึ้น เขายังคงถือหอกรับมือกับมือพลังสร้างอยู่
เขาเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกับตบไปที่ด้ามหอกก่อนที่หอกจะแทงทะลุมือและพุ่งเข้าใส่จาเบ็ธต่อ “ ข้าคงไม่ต้องไว้หน้าเจ้า”
สีหน้าของจาเบ็ธหม่นลงทันที ต่อหน้าผู้คนมากมายไม่ใช่แค่เขาไม่อาจจะฆ่าผู้นำได้ แต่ยังทำให้ผู้นำทะลวงผ่านขึ้นมาขั้นที่ 9 ได้อีก นี่มันทำให้เขาเสียหน้า !
ต่อหน้าการโจมตีของจางหยู จาเบ็ธก็ไม่กล้าที่จะประมาท เขาพลิกฝ่ามือก่อนจะมีค้อนปรากฏขึ้นมา ค้อนนี้อาบไปด้วยลำแสงที่ดูน่ากลัวและอันตราย มันทำให้เขาดูโดดเด่นยิ่งกว่าเก่า มันทำให้เขาดูสูงส่งขึ้น เขาได้ใช้ค้อนฟาดใส่หอกที่พุ่งเข้ามา หอกนั้นสั่นไหวเล็กน้อยก่อนที่หอกจะถูกเปลี่ยนเป็นจุดแสงและสลายไปในโกลาหล
“ เสียใจด้วยนะ ดูเหมือนว่าเจ้าไม่มีความสามารถที่จะเอาชีวิตข้าไป ” จางหยูพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
สีหน้าของจาเบ็ธหม่นลง “ เด็กน้อย เจ้าได้ใจเกินไปแล้ว !”
จางหยูเพิ่งจะทะลวงผ่านขั้นที่ 9 มา แต่เขากลับทำอะไรจางหยูไม่ได้เพราะในหมู่ผู้ควบคุมขั้น 9 แล้ว เขาไม่ได้โดดเด่นอะไร
จางหยูยิ้มรับ “ เพราะข้าน่ะแข็งแกร่ง !”
“ เจ้าคิดว่าแค่ทะลวงผ่านมาได้ก็เพียงพอแล้วรึ ?” จาเบ็ธพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ ข้าไม่อาจจะทำอะไรเจ้าได้ก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าข้าจะจัดการเจ้าไม่ได้ ! ข้าจาเบ็ธมีชีวิตมานาน ข้ามีสหายมากมาย วันนี้ข้าจะให้เจ้ามีชีวิตต่อไปแต่ครั้งหน้าไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้าจะต้องตาย !”
คำขู่ !
จางหยูแสดงสายตาไม่พอใจออกมา “ เจ้าขู่ข้ารึ ?”
“ เจ้าจะคิดว่าเป็นคำขู่ก็ได้ ” จาเบ็ธยอมรับตามตรง
ตอนนั้นจางหยูกลับหัวเราะออกมา “ เสียใจด้วย คำขู่ของเจ้าใช้กับข้าไม่ได้ผล ” เขามองไปที่จาเบ็ธแล้วพูดขึ้น “ เจ้าเรียกสหายของเจ้ามาลองดูเลยก็ได้ !”
เขาได้ย้ายโลกป่าไปในโลกตันเถียน หากจาเบ็ธและเพื่อนกล้าตามเข้าไปในโลกตันเถียน งั้นจางหยูก็จะสั่งสอนพวกนี้
ตอนนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา “ พอแล้ว ”
จากนั้นก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ตอนที่ร่างนี้ปรากฏขึ้น เวลาราวกับหยุดเดิน
“ หงอี” จาเบ็ธมองไปที่หงอีด้วยความแปลกใจ เขาไม่คิดว่าหงอีจะมาที่นี่
จาเบ็ธใจเย็นลงและพูดขึ้นมา “ นี่คือเรื่องของข้ากับเด็กนี่ เจ้าเข้ามายุ่งทำไมกัน ? เจ้าคิดจะช่วยเด็กนี่รึ ?”
“ ใช่ ข้าคิดจะช่วยเขา ” หงอีตอบกลับ
“ เจ้า..” จาเบ็ธเริ่มหงุดหงิด “ คนอื่นอาจจะกลัวเจ้า แต่ข้าไม่ ! ความแข็งแกร่งของเจ้าไม่ได้เหนือกว่าเราเลย ! แค่ว่ามีคนคอยปกป้อง !”
หงอีมองไปที่จาเบ็ธด้วยสีหน้าเฉยเมย
เมื่อเห็นแบบนั้นจางหยูก็ครุ่นคิดทันที
แม้ว่าจาเบ็ธจะพูดแบบนั้นออกมาแต่ก็ชัดแล้วว่าจาเบ็ธน่ะกลัวหงอี
มันเห็นได้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังหงอีน่ะแข็งแกร่งจริงๆแม้แต่จาเบ็ธก็ยังไม่กล้ามีเรื่องด้วย
“ ข้าไว้หน้าเจ้าก็ได้ !” สุดท้ายจาเบ็ธก็มองไปที่หงอีกับจางหยู ก่อนที่สุดท้ายจะบอกกับจางหยู “ เด็กน้อย เจ้าถือว่าโชคดี ! สถานการณ์ของนางน่ะซับซ้อน วันนี้นางเหมือนจะช่วยเจ้าแต่เจ้าจะต้องพบกับหายนะที่หนักหนากว่าเก่า !”
หลังจากที่พูดจบจาเบ็ธก็จากไป
จางหยูแสดงสีหน้าแปลกใจออกมา “หายนะที่หนักหนากว่าเก่ารึ ?”
จาเบ็ธหมายถึงอะไรกัน ?
จางหยูเริ่มสังหรณ์ใจแย่ๆขึ้นมา
“ กลัวรึ ?” หงอีถามขึ้นมา
“ กลัวอะไรกัน ? เอาจริงๆแล้วไม่มีอะไรที่ทำให้ข้ากลัวได้ !” จางหยูยิ้มออกมา “ แม้แต่สุสานสวรรค์ข้าก็เข้าไปแล้วไม่ใช่รึไง ? มันมีอะไรที่น่ากลัวกว่านั้นอีกรึ ?” ด้วยการที่มีโลกตันเถียนอยู่ จางหยูก็มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะเผชิญหน้ากับศัตรูหน้าไหนก็ได้
หงอีมองไปที่จางหยูแล้วถามขึ้นมา “ เจ้าให้ตงหยูบอกเรื่องนั้นกับข้า มันจริงรึ ?”
“ แน่นอน ” จางหยูยิ้มรับ “เมื่อเจ้ามาหาข้า งั้นข้าก็จะทำตามที่รับปากเอาไว้แต่เจ้าต้องไปที่หนึ่งกับข้าก่อน”
ตรงหน้าจางหยูมีรูหนอนก่อตัวขึ้นมา มันเชื่อมต่อกับโลกตันเถียน เขาเดินไปตรงหน้ารูหนอนแล้วพูดขึ้น “ หากเจ้าอยากจะลบพลังคำสาปก็จงมากับข้า ”
เมื่อพูดจบจางหยูก็เดินเข้าไปในรูหนอนแล้วหายตัวไป
หงอีเงียบอยู่สักพักก่อนจะยกเท้าขึ้นแล้วก้าวเข้าไปในรูหนอนก่อนจะหายตัวจากโกลาหล
��

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท