ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 490 คนชั้นต่ำที่ไม่สามารถทำให้เรื่องสำเร็จได้แต่กลับทำให้เรื่องพัง

บทที่ 490 คนชั้นต่ำที่ไม่สามารถทำให้เรื่องสำเร็จได้แต่กลับทำให้เรื่องพัง

บทที่ 490 คนชั้นต่ำที่ไม่สามารถทำให้เรื่องสำเร็จได้แต่กลับทำให้เรื่องพัง

คอจิ้นเฟิงเฉินขยับแล้วขยับอีก มองเห็นคนที่นอนอยู่บนเตียง หัวใจเจ็บมากกว่าอย่างที่คิด

เขารีบก้าวเท้าเข้าไป กอดเจียงสื้อสื้อไว้อยู่ในอ้อมอกอย่างแน่น ดูเหมือนอยากจะกอดเธอเข้าไปในกระดูกของตนเอง

“เป็นผม ผมกลับมาแล้ว”

จูบเส้นผมของเธอไว้ จิ้นเฟิงเฉินเสียงแหบขานรับ

ในเวลานี้ เขาแทบอยากจะลงโทษด้วยวิธีฆ่าหั่นศพเจียงเจิ้นใจจะขาด!

เจียงสื้อสื้อสัมผัสถึงอุณหภูมิในร่างกายของจิ้นเฟิงเฉิน น้ำตาก็ควบคุมไม่อยู่แล้วอีกด้วย ใจที่ล่องลอยกระวนกระวายดวงหนึ่งดูเหมือนหาแหล่งที่พึ่งเจอแล้ว

เธอจับชายเสื้อของเขาไว้ ปล่อยเสียงร้องให้ออกมาแล้ว

น้ำตาทำให้ชายเสื้อของเขาเปียกหมดอย่างรวดเร็ว

ฟังคนที่อยู่ในอ้อมอกร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ จิ้นเฟิงเฉินเจ็บปวดใจก้มหัวจูบน้ำตาของเธอออก ปลอบโยนเสียงอ่อนโยน

“ไม่เป็นไรแล้ว ผมอยู่ล่ะ ร้องไห้ออกมาก็จะดีแล้ว”

“เฟิงเฉิน ขอโทษค่ะ……ฉันไม่รู้ว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้ ……ฉันเกือบทำร้ายลูกน้อยของเราแล้ว …….”

เจียงสื้อสื้อร้องให้จนควบคุมตนเองไม่ได้ พูดอธิบายอย่างเจ็บปวด

“ไม่ต้องขอโทษ โทษคุณไม่ได้ ไม่ใช่ความผิดของคุณ”

จิ้นเฟิงเฉินตบหลังของเธอเบาๆ สีหน้าเจ็บปวด

ผ่านไปสักพัก เจียงสื้อสื้อจึงลุกขึ้นจากในอ้อมอกของจิ้นเฟิงเฉิน

ระบายอารมณ์เสร็จ ความรู้สึกที่แน่นหน้าอกแบบนั้นของเจียงสื้อสื้อกระจายหายไปไม่น้อย

เธอขยี้ตาที่บวมแดง สะอื้นเบาๆ

จิ้นเฟิงเฉินจับมือน้อยที่ขยับมั่วของเธอ ใช้กระดาษเช็ดน้ำตาของเธอออกอย่างอ่อนโยน

“พ่อของฉันเขา…….”

เจียงสื้อสื้อคำพูดติดที่ปากจ้องมองไปยังจิ้นเฟิงเฉิน

เขาเร่งกลับมาเร็วขนาดนี้ คิดว่าน่าจะรู้ต้นสายปลายเหตุแล้วตั้งแต่แรก

จิ้นเฟิงเฉินจ้องมองตาที่หลบหนีเล็กน้อยของเธอ ย่อมรู้ว่าเธอกำลังกังวลอะไรอยู่

นวดหัวของเธอ นวดแล้วนวดอีก จิ้นเฟิงเฉินเสียงเบาๆพูดว่า “เรื่องที่ต่อมาล้วนเอาไว้กับผม คุณก็พักฟื้นร่างกายให้ดีๆอยู่ที่นี่อย่างวางใจ ดีไหม?”

พูดจบ เจียงสื้อสื้อลูบแก้มของเขาอย่างเบาๆ พูดอย่างเป็นเด็กดีว่า “ได้ ฉันล้วนเชื่อฟังคุณหมด”

จ้องมองคิ้วของจิ้นเฟิงเฉิน ปรากฏความเหนื่อยล้าอย่างเข้มข้นอยู่

อยู่บนใบหน้าที่หล่อสะอาดทุกเวลาใบนั้น ใต้คางถึงขนาดมีหนวดขึ้นมา นัยน์ตาก็เต็มไปด้วยเส้นเลือดแดง

เจียงสื้อสื้อมองออก ตอนนี้เขาควรเหนื่อยล้ามากจึงจะถูก แต่ว่าเขายังกังวลใจเธออยู่

ลูบแล้วลูบอีกอยู่ลำคอของเขาอย่างเจ็บปวดใจ เจียงสื้อสื้อไม่พูดอีก

ก็เป็นเช่นนี้ จิ้นเฟิงเฉินกอดเจียงสื้อสื้อไว้นอนหลับแล้วโดยตรง

วันถัดมา จิ้นเฟิงเฉินโทรนัดเจียงเจิ้น

ตอนที่เจียงเจิ้นได้รับโทรศัพท์จิ้นเฟิงเฉิน คือตื่นตะลึงก่อน จากนั้นก็เป็นดีใจอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง

เขาคิดไม่ถึงว่าจะมีผลขนาดนี้ เพิ่งส่งของไปให้กับลูกสาว จิ้นเฟิงเฉินก็ติดต่อเขาแล้ว

ตามขั้นตอนบางอย่างมากล่าวแล้ว เห็นได้ชัดว่าจิ้นเฟิงเฉินเห็นเจียงสื้อสื้อเป็นสำคัญมาก

ในใจเจียงเจิ้นยิ่งมั่นใจขึ้นแล้ว วันหลังจะต้องดีต่อเจียงสื้อสื้อมากหน่อยอย่างแน่นอน

ไม่โทษว่าเจียงเจิ้นจะคิดเช่นนี้ เพราะว่าจิ้นเฟิงเฉินอยู่ในสายก็ไม่ได้พูดให้ชัดเจน เพียงแค่บอกว่ามีเรื่องจะคุยกัน ให้เขาไปบริษัทสักครั้ง

เจียงเจิ้นไม่กล้าโอ้เอ้ เรียกรถมาถึงจิ้นกรุ๊ปทันที

หลังจากถึงอาคารใหญ่แล้ว เจียงเจิ้นจัดแต่งเสื้อผ้าสักหน่อย

ยืดอกเชิดหน้าก้าวเข้าไปประตูใหญ่ของบริษัท ในใจเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในตัวของตัวเอง

นี่นะเป็นบริษัทของลูกเขยเขา ปล่อยสายตามองไปเมืองเป่ยมีเพียงแค่แห่งนี้

เลขานำพาเจียงเจิ้นเข้าไปในออฟฟิศประธาน

จิ้นเฟิงเฉินเงยหน้าขึ้นจากเอกสาร จ้องมองเจียงเจิ้นหนึ่งทีอย่างเย็นชา

เอ่ยเสียงพูดให้นั่ง ไม่ได้เอ่ยปากเรียกคนเลย

เจียงเจิ้นเก็บอารมณ์เล็กน้อย ในใจมีความสงสัยงงงวยเล็กน้อย มักจะรู้สึกว่าสายตาเมื่อกี้ของจิ้นเฟิงเฉินเฉียบแหลมเกินไป

เขาไม่กล้ารีบร้อน นั่งลงอย่างระมัดระวัง ยิ้มพูดว่า “เฟิงเฉิน สื้อสื้ออยู่ในบริษัทไหม? เธอยังดีอยู่ไหม?”

คิดไปคิดมา เขาตัดสินใจลงมือจากลูกสาวปลอดภัยที่สุด

ใครจะคิดได้ว่า จิ้นเฟิงเฉินได้ยินเขาเอ่ยถึงเจียงสื้อสื้อ สีหน้ายิ่งเข้มลงเพิ่มอีกหลายส่วน

เขาหนึ่งคำหนึ่งประโยคพูดว่า “เธอดีมาก เด็กในท้องก็ดีมากเช่นกัน พ่อตา ท่านผิดหวังแล้วสิ?”

เจียงเจิ้นงงงวยเต็มใบหน้าถามว่า “เกิดเรื่องอะไรแล้วหรือ?”

เห็นเขายังแกล้งทำอยู่ จิ้นเฟิงเฉินยิ่งเพิ่มความโมโหโดยไม่สามารถระบายได้ น้ำเสียงยิ่งเย็นชา

“ท่านทำอะไรลงไป ในใจไม่ชัดเจนหรือ? บัดนี้สื้อสื้ออยู่ในโรงพยาบาลเพราะว่าท่าน เด็กเกือบรักษาไว้ไม่ได้ ถึงแม้ว่าท่านทนเห็นสื้อสื้อดีไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาทำร้ายชีวิตของเธอด้วย เสือร้ายก็ยังไม่กินลูก ท่านเจียง รักนวลสงวนตัวหน่อย”

รักนวลสงวนตัวประโยคนี้ พูดอย่างหนักมาก

“อะไรหรือ?! สื้อสื้ออยู่โรงพยาบาล เธอเป็นยังไงแล้วล่ะ?”

ได้ยินคำพูดของจิ้นเฟิงเฉิน เจียงเจิ้นซักถามอย่างวิตกกังวลมาก ลักษณะเหมือนกับพ่อที่มีความเมตตา

จิ้นเฟิงเฉินสายตาเย็นชาจ้องมองอยู่ ได้แค่รู้สึกว่าเจียงเจิ้นแสดงอยู่ต่อหน้าเขา

เพราะว่าทำร้ายเจียงสื้อสื้อ กลัวว่าตระกูลจิ้นจะคิดบัญชีกับเขาเท่านั้น

จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้สนใจเขา ถอยหลังพิงอยู่บนหลังเก้าอี้ พูดอย่างไร้สีหน้าว่า “ท่านเป็นบิดาของสื้อสื้อ กลับทำร้ายเธอทีละครั้ง ผมเห็นแก่หน้าของสื้อสื้อ ไม่เคยคิดเล็กคิดน้อยกับท่าน ในใจกลับปฏิบัติต่อท่านเหมือนดั่งพ่อตา ท่านควรโชคดีว่าคราวนี้สื้อสื้อไม่ได้เป็นอะไร มิฉะนั้นผมมีวิธีทำให้ท่านเสียใจสุดๆ ถ้าหากว่ามีครั้งต่อไป อย่าโทษว่าผมไม่เกรงใจ”

ประธานจิ้นที่เย็นชากวดขันพูดจาน้อย ครั้งแรกที่พูดมากมายขนาดนี้ ทีละคำ ล้วนเป็นการกล่าวเตือน

เจียงเจิ้นอึ้งชะงักนั่งอยู่บนโซฟา เหมือนดั่งน้ำเย็นกะละมังหนึ่งเทลงมาจากฟ้า ความปีติที่ตอนมาเมื่อกี้ล้วนหายไปหมด

บัดนี้เขาจะหวังว่าจิ้นเฟิงเฉินจะดึงเขาสักครั้งได้ที่ไหน เขาไม่ลงมือด้วยตนเองก็ถือว่าดีแล้ว

แต่ว่า เขารู้สึกว่าตนเองได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างมาก

ได้ยินความหมายของจิ้นเฟิงเฉิน สื้อสื้อดูเหมือนเกิดเรื่องแล้ว

แต่ว่า นี่เกี่ยวอะไรกับเขาล่ะ?

เวลานานขนาดนี้มา พวกเขาเพียงแค่เจอหน้ากันครั้งเดียวเท่านั้น

อีกทั้ง เจียงสื้อสื้ออย่างน้อยก็ยังเป็นลูกสาวของเขา เธอเกิดเรื่องแล้ว เขาก็จะกังวลใจด้วยเช่นกันล่ะ

เจียงเจิ้นตั้งสติแล้วตั้งสติอีก ยังไงเขาก็เคยทำมาหาเลี้ยงชีพให้รอดไปวันๆ อยู่ในวงการธุรกิจด้วย จัดการอารมณ์ได้แล้วอย่างรวดเร็ว

ถามอย่างเอาจริงเอาจังว่า “ประธานจิ้น ผมไม่รู้ว่าสื้อสื้อเกิดเรื่องแล้วเลย ตกลงเกิดเรื่องอะไรกันแน่? ก็ยังขอให้คุณพูดให้เข้าใจสักหน่อย

ยิ่งมากกว่านี้สื้อสื้อล้วนอยู่ตระกูลจิ้นโดยตลอด ถึงแม้ว่าเกิดเรื่อง ก็ต้องเป็นพวกคุณตระกูลจิ้นไม่ได้ดูแลเธอให้ดีๆล่ะ”

เห็นเขาไม่เจอโลงศพไม่หลั่งน้ำตา

จิ้นเฟิงเฉินเย็นชาพูดว่า “เธอกินรังนกของท่านที่ส่งมา เกือบจะแท้งลูก”

เจียงเจิ้นสีหน้าซีดขึ้น พูดด้วยจิตใต้สำนึกว่า “เป็นไปได้ยังไงหรือ?”

ถ้าหากว่ารังนกมีปัญหา งั้นเขาพ้นจากการเกี่ยวข้องไม่ได้แล้วจริงๆ ถึงยังไงก็เป็นเขาส่งออกจากมือตนเอง

ตระกูลจิ้นตระกูลใหญ่กิจการใหญ่ ย่อมหวังว่าจะได้ลูกมากมายอยู่แล้ว

เขาเท่ากับเกือบทำร้ายลูกน้อยที่รักที่ยังไม่ได้เกิดของตระกูลจิ้นแล้ว ไม่น่าล่ะจิ้นเฟิงเฉินจะโมโหขนาดนี้

แต่รู้สึกได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างมากจริงๆ

“ประธานจิ้น ในนั้นต้องมีความเข้าใจผิดอย่างแน่นอน……..” เจียงเจิ้นโต้กลับอย่างขาดความแข็งแกร่ง

จิ้นเฟิงเฉินโยนรายงานการตรวจปึกหนึ่งให้เขา รวมกับประวัติคนไข้ของเจียงสื้อสื้อ การตรวจเช็คของรังนก

เจียงเจิ้นเก็บขึ้นมาอ่านไปหนึ่งที พูดอะไรไม่ออกอีก

เขาอึ้งชะงักจ้องมองรายงานการตรวจเช็คหลายใบนั้น อยู่ดีๆนึกขึ้นมาได้ นึกถึงใบหน้าของเสิ่นซูหลัน

ใช่แล้ว วันนั้นเธอเกลี้ยกล่อมเขาไปส่งของขวัญให้สื้อสื้อโดยตลอด ยังใจดีเตรียมของขวัญทั้งหมดให้เรียบร้อย เขาแค่คิดว่าเธอกลับตัวกลับใจแล้วจริงๆ ยังปลื้มอกปลื้มใจด้วย

กลับนึกไม่ถึง สิ่งที่เธอคิดวางแผนไว้เป็นแบบนี้

ผู้หญิงที่เหี้ยมโหดคนนี้ สีหน้าเจียงเจิ้นเปลี่ยนอย่างกะทันหัน ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

ถ้าหากว่าเสิ่นซูหลันอยู่ที่นี่ เขาจะต้องพุ่งขึ้นไปตบเธอหนึ่งฝ่ามืออย่างรุนแรงแน่นอน

คนชั้นต่ำที่ไม่สามารถทำให้เรื่องสำเร็จได้แต่กลับทำให้เรื่องพัง ดึงขาหลังของเขาโดยตลอด

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท