บทที่ 577 เป็นเธอ
ในห้องพักผ่อน ครอบครัวตระกูลฉินก็มากันหมดเช่นกัน
เสี่ยวเป่าอยู่กับพวกเขาด้านใน ด้วยเพราะเขาอายุยังน้อย อยู่ข้างนอกเกรงว่าจะดูแลไม่ไหว
อีกอย่างคุณท่านฉินชอบเขามาก มีเขาอยู่ข้างๆ มักมีความสุขเสมอ
แม่จิ้นจึงให้เหลนอยู่เป็นเพื่อนบิดาตนเอง
เสี่ยวเป่าช่างทำให้คนเบิกบานใจจริงๆ
เพียงแต่ พวกแขกเหรื่อที่เข้ามาแต่ละคน แด๊ดดี้เขากลับยังไม่ปรากฏตัว
ใบหน้าเล็กๆ ของเสี่ยวเป่าปรากฏแววร้อนใจอย่างห้ามไม่อยู่ เอาแต่จ้องมองออกไปด้านนอก
คุณท่านฉินรักเหลนคนนี้อย่างมาก ด้วยเหตุนี้จึงถามอย่างอ่อนโยนว่า “เสี่ยวเป่า มีอะไรหรือ?”
เสี่ยวเป่าบิดมือเล็กไปมา ทำตัวสดใสตอบคุณท่านฉินว่า “แด๊ดดี้ผมยังไม่มาเลยครับ”
คุณท่านฉินตกใจ มองไปที่เหลนและลูกๆ กล่าวเสียงต่ำว่า “เฟิงเฉินยังไม่กลับมา?”
ลุงใหญ่ข่มความร้อนใจไว้ในใจ กดน้ำเสียงต่ำกล่าวว่า “เห็นบอกว่าจะกลับมาแน่ บางทีอาจจะเกิดความล่าช้าระหว่างทาง”
คุณท่านฉินเห็นเหลนน่าสงสาร จึงจับมือเล็กของเขา กล่าวเสียงนุ่มว่า “เสี่ยวเป่าเด็กดี แด๊กดี้บอกว่ากลับมาก็ต้องกลับมาแน่ หรือว่าหลานไม่เชื่อใจแด๊ดดี้ของหลาน?”
ภายในใจของเสี่ยวเป่า แด๊ดดี้คือยอดมนุษย์ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อใจแด๊ดดี้ แต่เพราะคิดถึงเขามากเท่านั้นเอง
อยากจะเจอเขาเร็วๆ
หลังหม่ามี๊จากไป เขาก็เหลือแค่แด๊ดดี้คนเดียวแล้ว เขาไม่อยากให้แด๊ดดี้หายไปอีก
เห็นท่าทางเข้มแข็งของเสี่ยวเป่า คุณท่านฉินก็สงสารจับใจ โอบเสี่ยวเป่าไว้ในอ้อมแขนแน่นขึ้น กล่าวอย่างปลอบประโลมไม่หยุดว่า “เสี่ยวเป่าของเราเป็นสุภาพบุรุษตัวน้อย ดังนั้นจึงต้องกล้าหาญ”
เสี่ยวเป่าพยักหน้าบนบ่าของคุณท่านฉิน เสียงเล็กๆ เจือแววสะอื้น “ครับ ผมเป็นเด็กดี”
คนตระกูลฉินเห็นต่างก็สงสารจับใจ พากันล้อมวงเข้ามาปลอบ
ที่หน้าประตูโรงแรม
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว อารมณ์ของทุกคนเริ่มเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ
พ่อจิ้นแววตาเครียดเล็กน้อย กล่าวเสียงต่ำว่า “โทรหาเฟิงเฉินสิ ถามเขาว่าถึงไหนแล้ว”
“พ่อ รออีกหน่อยเถอะ พี่อาจจะกำลังมา” จิ้นเฟิงเหรากำโทรศัพท์ กล่าวอย่างยืนกราน
พ่อจิ้นไม่พูดอะไรอีก
เวลานี้ มีรถแท็กซี่คันหนึ่งจอดลงตรงหน้าโรงแรม ประตูรถเปิดออก ชายหนุ่มร่างสูงขายาวคนหนึ่งก้าวลงมา
จิ้นเฟิงเหราดวงตาเป็นประกาย “พี่ใหญ่กลับมาแล้ว”
จิ้นเฟิงเฉินหน้าตาอิดโรย ริมฝีปากบางเม้มแน่น สีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง กลิ่นอายแข็งแกร่ง
นอกจากเขาแล้ว ก็ไม่มีใครที่มีกลิ่นอายสูงศักดิ์หล่อเหลาเช่นนี้อีก
เขาเกินมาหยุดตรงหน้าทุกคน พยักหน้ากล่าวว่า “พ่อ แม่ ผมกลับมาแล้ว”
จากนั้นก็หันไปหาจิ้นเฟิงเหรากับส้งหวั่นชีง “เฟิงเหรา หวั่นชีง ยินดีด้วย โทษที พี่มาสาย”
“ขอบคุณนะคะพี่” ส้งหวั่นชีงยิ้มแย้มแจ่มใส
จิ้นเฟิงเหราก็โอบไหล่จิ้นเฟิงเฉินด้วยความดีใจ กล่าวว่า “พี่ หากพี่ยังไม่มาอีก งานหมั้นนี้ผมก็ไม่จัดแล้ว”
พอได้ยินส้งหวั่นชีงก็หุบยิ้ม เลิกคิ้วขึ้น “หืม?”
เห็นเช่นนี้ จิ้นเฟิงเหราก็กลัวขึ้นมาทันที หัวเราแหะๆ เรียกทุกคนเข้าไป แขกเหรื่อแทบจะมากันหมดแล้ว งานเลี้ยงควรจะเริ่มได้เสียที
มุมปากจิ้นเฟิงเฉินโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม สายตากวาดมองไปรอบๆ ทีหนึ่ง
แม่จิ้นเข้าใจลูกชายดีที่สุด ก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว เพื่อให้อยู่แถวเดียวกับลูกชาย กล่าวเสียงค่อยว่า “เสี่ยวเป่าอยู่ข้างใน อยู่กับคุณตาเขา”
“ขอบคุณครับแม่” จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า
พิธีหมั้นเริ่มขึ้น พ่อจิ้นขึ้นเวทีกล่าวปราศรัย
พ่อจิ้นที่อายุเลยเลขห้ามาแล้ว หลังตั้งตรง ยังคงมีความสง่าอย่างที่วัยนั้นพึงมี
เห็นได้ว่า หลังจากสองพี่น้องจิ้นเฟิงเฉินแก่ตัวไป ก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก
“รู้สึกขอบคุณทุกท่าน ไม่ว่างานยุ่งแค่ไหนก็ยังเจียดเวลามาร่วมพีธีหมั้นของลูกชายคนเล็ก……”
พิธีหมั้นค่อนข้างเรียบง่าย หลังพ่อจิ้นกล่าวปราศรัยจบ เจ้าสาวก็ขึ้นไปเปิดตัว คนทั้งสองแลกเปลี่ยนแหวนหมั้นกัน
จากนั้นก็มีการจุมพิต ที่ด้านล่างเวทีมีสาวๆ ที่หัวใจแหลกสลายอยู่ไม่น้อย
ใครเลยจะรู้ว่า คุณชายรองจิ้นที่ตลอดมาผ่านดงดอกไม้นับหมื่น แต่ไม่เคยให้ใบไม้สัมผัสตัว จะถึงกับถูกพยาบาลสาวคนหนึ่งคว้าตัวไว้ได้
ทำไมคนคนนั้นถึงไม่ใช่ตัวเองกันนะ
นี่คงจะเป็นความคิดในใจของหญิงสาวที่มาร่วมงานมากกว่าครึ่ง หากพวกหล่อนได้มองซึ่งกันและกัน ก็จะพบว่า อีกฝ่ายเหมือนกับตัวเอง ที่บนหน้าเต็มไปด้วยความอิจฉา
แต่ แม้คุณชายรองจิ้นจะมีเจ้าของแล้ว หลายปีมานี้คุณชายใหญ่ยังคงโสดอยู่
แม้เขาจะมีลูกชายคนหนึ่ง แต่ก็ต้านความโดดเด่นของเจ้าตัวไม่ไหว
วันนี้ที่พวกลูกคุณหนูมากันที่นี่ กว่าครึ่งพูดได้เลยว่ามาเพื่อจะเข้าหาจิ้นเฟิงเฉิน
แต่พวกหล่อนตามหาจนทั่ว ก็ไม่อาจหาเงาร่างของจิ้นเฟิงเฉินเจอได้เลย
ส่วนจิ้นเฟิงเฉินที่ให้เหล่าคุณหนูตามหากันให้ควัก กำลังเอนกายพิงอยู่ตรงมุมเงียบสงบแห่งหนึ่งในโถงจัดเลี้ยง
ผู้หญิงพวกนั้นบ้าบิ่นเกินไป คนเดียวเขาก็ไม่อยากคบค้าสมาคมด้วย
“แด๊ดดี้!” น้ำเสียงดีใจเสียงหนึ่งดังเข้ามา
จิ้นเฟิงเฉินเงยหน้า เห็นคุณตาจูงเสี่ยวเป่า มีคนตระกูลฉินกลุ่มหนึ่งตามอยู่ด้านหลัง พากันเดินมาทางเขา
เขายืนตัวตรง เรียกคนอย่างสุภาพ “คุณตา คุณลุง”
จากนั้นก็ก้มตัวลง ลูบหัวเสี่ยวเป่า กล่าวเสียงนุ่มว่า “เสี่ยวเป่าเป็นเด็กดีหรือเปล่า?”
“แด๊ดดี้ ผมเป็นเด็กดีมาก” เสี่ยวเป่าพยักหน้าอย่างหนักแน่น
จิ้นเฟิงเฉินอุ้มเข้ามาไว้ในอ้อมแขน โยกตัวไปมา พลางยิ้มกล่าวว่า “อืม ดีมาก”
คุณท่านฉินเพ่งมองหลานชายคนโตด้วยใบหน้าอ่อนโยน ส่งเสียงกล่าวว่า “หลานไม่กลับมาตั้งหลายปี คืนนี้ดื่มเป็นเพื่อนตาหน่อยก็แล้วกัน”
จิ้นเฟิงเฉินย่อมไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธ “ครับ”
ลุงใหญ่ยิ้มกล่าวว่า “พ่อ เฟิงเฉินอายุยังน้อย ส่วนพ่ออายุเยอะแล้ว ยังคิดจะดื่มกับคนหนุ่มอีก”
“ทำไม แก่แล้วก็ดื่มเหล้าไม่ได้หรือ แก่แล้วแต่ฉันยังตีแกได้อยู่นะ” คุณท่านฉินถลึงตาอย่างดุร้าย พลังไม่ลดลงจากปีนั้นเลย
ลุงใหญ่ลูบจมูกป้อยๆ ยิ้มแห้งๆ ถอยหลังไปอย่างเงียบๆ
คนอายุอ่อนกว่าอยากหัวเราะแต่ไม่กล้า จึงกลั้นไว้อย่างลำบากยิ่ง
จู่ๆ ที่หน้าประตูก็เกิดความวุ่นวายขึ้น เงาคนสามคนเดินเยื้องย่างมาอย่างช้าๆ
ด้วยเพราะมาสาย ทุกคนจึงพุ่งความสนใจไปที่คนกลุ่มนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
ภายใต้การมองเห็น ตอนนี้จึงกระจ่างแจ้ง
ที่เดินมาเป็นผู้ใหญ่สองเด็กหนึ่ง ดูท่าจะเป็นครอบครัวเดียวกัน
เด็กหญิงตัวน้อยดูร่าเริงมาก มือข้างหนึ่งจูงผู้ใหญ่คนหนึ่ง กระโดดโลดเต้นไปมา ดูน่ารักอย่างยิ่ง
ผู้ใหญ่สองคนหน้าตาดีมาก พูดได้ว่า การปรากฏตัวที่โรงแรมระดับสูงเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่คาดฝันเลยสักนิด
“พี่ชาย พี่ชาย……”
เถียนเถียนตาไว เพียงไม่นานก็มองเห็นเสี่ยวเป่า รีบปล่อยมือพ่อกับแม่ วิ่งไปหาเสี่ยวเป่าทันที
เจียงสื้อสื้อรู้สึกเพียงในมือว่างเปล่า เถียนเถียนวิ่งไปไกลแล้ว
เธอรู้สึกร้อนใจเล็กน้อย สถานที่เช่นนี้ เถียนเถียนวิ่งวุ่นวายจะไม่ดีหรือเปล่า
ฝู้จิงเหวินจับไหล่เธอไว้ ยิ้มเล็กน้อย พลางกล่าวเสียงค่อยว่า “ไม่เป็นไร เธอกับลูกบ้านนี้สนิทกันดี ให้เขาไปเองเถอะ”
เจียงสื้อสื้อส่งเสียงอ้อ ยังคงมองไปทางนั้นอย่างไม่วางใจ
เสียงกังวานใสของเด็กหญิงตัวน้อยดังมาทางนี้ เสี่ยวเป่ากับจิ้นเฟิงเฉินก็ถูกดึงสายตาไปที่นั่น
ตอนแรกจิ้นเฟิงเฉินไม่ได้สนใจ กวาดตามองคนสองคนที่เดินเข้ามาอย่างผ่านๆ มองทีแรกเห็นเป็นฝู้จิงเหวินเดินมาทางเขา
มองครั้งที่สอง ก็คือผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างกายเขา
สวมเดรสยาวสีเขียวมิ้นท์ ผมเกล้าขึ้นเป็นทรงสูง ปอยผมละใบหน้าด้านข้างบางส่วน
คอสวยยาวระหง เวลานี้ก็มองมาทางนี้เช่นเดียวกัน แต่สายตาอยู่ที่ตัวเด็กหญิงตัวน้อย
แก้วเหล้าที่อยู่ในมือจิ้นเฟิงเฉิน ตกพื้นเสียงดังสนั่น