ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1725 : ซุนวู

ตอนที่ 1725 : ซุนวู

“ มันไม่ใช่เรื่องที่เราจะควบคุมได้ ไม่ว่าสวรรค์จะเป็นจ้าวโกลาหลรึไม่หรือว่าเขาจะพื้นคืนชีพขึ้นมาได้รึเปล่า “ จางหยูพูดขึ้น “ สิ่งที่ข้าสนใจคือสวรรค์…เขาตายได้ยังไง ?”
เขาเงยหน้าแล้วพึมพำออกมา “ พลังอะไรที่ทำให้เขาต้องตาย ?”
พลังนั้นมาจากบางอย่างที่น่ากลัวหรือจากบางคนกัน ?
ไม่ว่าความจริงจะเป็นยังไงแต่แน่นอนว่าต้องมีสิ่งที่น่ากลัวในโกลาหลแห่งนี้ มันเป็นภัยต่อจ้าวโกลาหลได้ ก็เหมือนกับจิตปฐมบทโกลาหลของโลกขั้นที่ 9 แต่เป็นภัยต่อผู้สร้างได้ บางทีสิ่งมีชีวิตพิเศษแบบนั้นอาจจะเป็นภัยต่อจ้าวโกลาหล แน่นอนว่านั่นคือหนึ่งในความเป็นไปได้ มันอาจจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น ยังไงซะก็ไม่มีใครมั่นใจได้ในโกลาหลแห่งนี้
เมื่อเขาสามารถสร้างบรรพกาลขึ้นมาได้ คนอื่นๆก็อาจจะสร้างของที่คล้ายกันขึ้นมาได้เช่นกัน
“ เจ้าหมายความว่ามีตัวตนที่น่ากลัวกว่าจ้าวโกลาหลอีกรึ ?” จ้าววิหารพูดออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง
“ น่าจะเป็นไปได้ แน่นอนว่ามันตัดความเป็นไปได้ที่ว่าจ้าวโกลาหลฆ่าตัวตายทิ้งไม่ได้” จางหยูพูดขึ้น “ บางทีเขาอาจจะเหนื่อยกับการมีชีวิตอยู่ต่อ เขาไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไป” หลังจากนั้นสักพักจางหยูก็พูดขึ้นต่อ “ นอกจากนี้ข้อมูลที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ก็อาจจะไม่จริง คำตอบนั้นยังคลุมเครือจนกว่าทุกอย่างจะเปิดเผย”
บอกว่าสวรรค์พังทลายก็พังทลายจริงๆรึ ?
ไม่แน่ว่าสวรรค์ก็อาจจะอยู่ดีก็ได้?
“ เมื่อเจ้าดูมันแล้วจะส่งมันคืนให้ข้าได้รึยัง ?” จางหยูพูดขึ้น
จ้าววิหารส่งคัมภีร์คืนจางหยู ก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง “ คัมภีร์นี้เจ้าต้องดูแลไว้ให้ดี หากเนื้อหาด้านในแพร่งพรายออกไปแล้ว มันจะส่งผลเกินกว่าจะคาดถึง ถ้าข่าวเรื่องการตายของโกลาหลรั่วไหลออกไป ทั้งโกลาหลก็จะตกอยู่ในความวุ่นวาย มันอาจจะส่งผลกระทบต่อทุกสิ่ง”
จางหยูยิ้มออกมา “ไม่ต้องกังวล นอกจากซะว่าข้าต้องการ มันก็ไม่มีใครชิงมันไปจากข้าได้”
จ้าววิหารคิ้วขมวด เขารู้สึกว่าจางหยูน่ะบ้าเกินไปแต่เขาไม่คิดจะเถียงกับจางหยูต่อ “อย่างนั้นเจ้าก็ดูแลมันให้ดีก็แล้วกัน”
“ เจ้ามีอะไรอีกรึไม่ ?” จางหยูถามขึ้นมา
“ ไม่มีแล้ว หากเจ้าคิดจะไป เจ้าไปตอนไหนก็ได้” จ้าววิหารพูดขึ้น
เขามองไปที่จ้าวแห่งโลกพันเขต ในใจเขารู้สึกเสียดาย ยอดฝีมือระดับสูงเช่นนี้กลับต้องเป็นคนรับใช้คนอื่น เพราะตราราชาตะวันออก สำหรับคนที่ขึ้นมาถึงขั้นที่ 9 แล้วมันน่าเสียดายจริงๆ
หากจ้าวแห่งโลกพันเขตเชื่อฟังวิหารอวี๋ฮุ่น งั้นมันต้องเพิ่มอำนาจให้กับวิหารอวี๋ฮุ่นอย่างมากแน่ๆ !
“ งั้นข้าขอตัวก่อน” จางหยูไม่สนจะเสียเวลาที่นี่อีกต่อไป
จ้าววิหารโบกมือตอบรับ
ตอนที่จางหยูหันหลังเดินไปที่บันได จ้าววิหารก็พูดขึ้นมา “ จริงสิ มีคนฝากคำพูดบางอย่างมาบอกเจ้า หากเจ้ารวมร่างกับร่างแยกแล้ว มันจะต้องเกิดเรื่องที่คาดไม่ถึงขึ้น” เมื่อพูดจบจ้าววิหารก็กลับไปยังที่นั่งของตัวเอง
จางหยูยักคิ้ว “ ใครฝากบอกมากัน ?”
แต่จ้าววิหารกลับหัวเราะออกมา “ เจ้าลองเดาเองสิ ข้อมูลของเจ้านางก็เป็นคนบอกเรา นางยังเป็นคนบอกให้เราเชิญเจ้าเข้าร่วมด้วย…”
“ น่าเบื่อ ” จางหยูส่ายหน้าก่อนจะเดินจากไป
เขาขี้เกียจเดา ยังไงซะมันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ อีกฝ่ายไม่ใช่คนสำคัญแล้วจะเดาตัวตนอีกฝ่ายไปทำไม ?
เมื่อออกจากวิหารอวี๋ฮุ่นแล้ว จางหยูก็สลัดเรื่องนี้ออกจากหัว
จ้าวแห่งโลกพันเขตเตรียมที่จะฝ่ากำแพงโลกออกไปแต่อยู่ๆเขาก็ต้องคิ้วขมวด
จางหยูเองก็รู้สึกได้ถึงการรับรู้ที่แผ่มาเช่นกัน “ การรับรู้แข็งแกร่งจริงๆ…ข้าเกรงว่าคงเป็นผู้นำที่แท้จริงของวิหารสินะ ?”
“ เป็นเขานี่แหละ” จ้าวแห่งโลกพันเขตพยักหน้าและพูดขึ้น “ จ้าววิหารอวี๋ฮุ่นที่เจ้าเพิ่งพบไปมีนามว่าฟู่เฉิง เขาอยู่ระดับ 100 เท่า ส่วนการรับรู้เมื่อตะกี้ชัดแล้วว่าอยู่ระดับ 1,000 เท่า เท่าที่ข้ารู้มาในวิหารอวี๋ฮุ่นมีคนแบบนี้แค่คนเดียว นั่นก็คือ ซุนวู”
“ ซุนวู ?” จางหยูยักคิ้ว ชื่อนี้ไม่ธรรมดา มันมีอยู่ในประวัติศาสตร์ของจีน คนคนนั้นเป็นทหารที่มีชื่อเสียง
“ อย่าดูถูกซุนวูไป” จ้าวแห่งโลกพันเขตพูดขึ้น “ ชายคนนี้มีพรสวรรค์ เขาคอยช่วยเหลือวิหารอวี๋ฮุ่นจากเบื้องหลัง ความเร็วในการก้าวหน้าของเขาน่าทึ่ง การรับรู้นี้ชัดแล้วว่าเหนือกว่าการรับรู้ของข้า ข้ากลัวว่าเขน่ะแข็งแกร่งก่วาข้าไปแล้ว”
จ้าวแห่งโลกพันเขตแสดงท่าทีชื่นชมออกมา
ครั้งที่แล้วที่เขาเจอกับซุนวู ซุนวูน่ะด้อยกว่าเขาเล็กน้อยแต่ผ่านมาไม่นานซุนวูก็ทัดเทียมกับเขาได้ !
แม้ว่าเมื่อเทียบกับราชาตะวันออกจะยังด้อยกว่ามากแต่ก็ไม่ได้ด้อยกว่าจนน่าตกใจ การเติบโตเช่นนี้ทำให้จ้าวแห่งโลกพันเขตรู้สึกตะลึง
“ ข้าอยู่มากว่า 1.3 ล้านปีและได้เห็นผู้คนมามากมาย ซุนวูผู้นี้ถือว่าเป็นอันดับสอง!” สายตาของเขาแสดงความหวั่นเกรงออกมา “ นอกจากราชาตะวันออกแล้ว ข้าไม่เคยเห็นใครโดดเด่นกว่าเขา !” ชัดแล้วว่าเขาไม่ได้นับรวมจางหยูไปด้วย หรือไม่รู้จักจางหยูดีนัก ไม่งั้นแล้วเขาคงไม่ประเมินแบบนี้ออกมา หากเทียบกับจางหยูแล้ว ซุนวูน่ะยังด้อยกว่า แม้แต่ตอนที่ซุนวูยังเด็กก็ยังไม่มีความสามารถเท่ากับจางหยู
“ พรสวรรค์ อำนาจและความแข็งแกร่ง” จางหยูหัวเราะออกมา “ ดูเหมือนว่านี่คือผู้นำวิหารที่แท้จริง”
เขาเริ่มชื่นชมซุนวู ยังไงซะนี่ก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะ
สำหรับเขาแล้วเขาไม่คิดว่าตัวเองเป็นเหมือนคนทั่วไป เขาไม่คิดเอาตัวเองไปเทียบกับผู้ควบคุมขั้นที่ 9 คนอื่นๆเพราะเขาคือจ้าวบรรพกาล เขามีชะตาที่จะทัดเทียมกับจ้าวโกลาหล คนอย่างผู้ควบคุมขั้นที่ 9 จะมาเทียบกับเขาได้ยังไง ?
หากต้องเทียบกันจริงๆก็ต้องเอาจ้าวโกลาหลมาเทียบไม่ใช่ผู้ควบคุมขั้นที่ 9
“ ไปกันเถอะ ” จางหยูไม่ได้สนใจซุนวู เขาอยู่ที่นั่นสักพักก่อนจะจากไปพร้อมกับจ้าวแห่งโลกพันเขต
” เราจะไปไหนกันต่อ ?” จ้าวแห่งโลกพันเขตถามขึ้นมา
“ ข้ารู้สึกคันไม้คันมือ หากเจ้าไม่รังเกียจ ข้าอยากหาที่ในการประมือกับเจ้า “ จางหยูมองไปที่จ้าวแห่งโลกพันเขต หากไม่ได้สู้กับคนแบบนี้คงน่าเสียดาย แม้ว่าความเข้าใจการสร้างของเขาจะขึ้นไประดับหมื่นเท่าแล้วแต่การใช้งานของมันนั้นแทบไม่ต่างจากระดับ 10 เท่าเลย ดังนั้นนี่คือภารกิจเร่งด่วนในการยกระดับตัวเอง
จ้าวแห่งโลกพันเขตพูดขึ้น “ ประมือรึ ? เจ้ามั่นใจนะ?”
เขามองจางหยูด้วยความสงสัย เขาคิดว่าจางหยูเป็นพวกชอบเจ็บตัว
คนที่เพิ่งขึ้นมาเป็นผู้ควบคุมขั้น 9 กลับกล้ามาท้าทายคนที่อยู่ระดับพันเท่าอย่างเขารึ?
อย่าพูดถึง 10 เท่าเลย แม้แต่ 100 เท่าก็ยังไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขา
“เราจะเข้าใจความต่างด้านฝีมือกันยังไงหากไม่ได้สู้กัน ?” จางหยูพูดขึ้นมา “ รึว่าเจ้าไม่อยากสู้ ?”
“ เมื่อเจ้าเอ่ยปากขอ ข้าก็ตกลง” จ้าวแห่งโลกพันเขตยิ้มออกมาเล็กน้อย
ปกติแล้วเขาไม่คิดที่จะรังแกใครแต่เมื่อมีคนเอ่ยปากขอเอง เขาจะปฏิเสธได้ยังไง ?
“ สู้กันที่นี่รึ ?” จางหยูถามขึ้นมา
“ ไปที่อื่นกันดีกว่า” จ้าวแห่งโลกพันเขตพูดขึ้น “ มันจะดีกว่าที่จะไปใกล้ๆเขตหวงห้ามของโกลาหล”
เขาคิดแทนจางหยู เพราะเมื่อผู้ควบคุมขั้น 9 ปะทะกันนั้นไม่ต้องเดาเลยว่าต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นมา มันจะทำให้คนนับไม่ถ้วนหันมาสนใจ หากจางหยูพ่ายแพ้ต่อหน้าผู้คนมากมาย เขาจะมีหน้าไปสู้คนอื่นๆได้ยังไง ?
จางหยูมองไปที่จ้าวแห่งโลกพันเขตแล้วพูดขึ้น “ ก็ดี งั้นเราไปที่เขตหวงห้ามกันเถอะ”
ตั้งแต่ผู้ควบคุมขั้น 9 จนถึงคนทั่วไป ทุกคนต่างก็ไม่อยากมาที่เขตหวงห้ามของโกลาหล
พื้นที่โดยรอบคือที่ที่เงียบที่สุดในโกลาหล มันยากที่จะมีผู้คนมาที่นี่ การสู้กันที่นี่ไม่ต้องกังวลว่าคนนอกจะเห็น ตราบใดที่ไม่เข้าไปในเขตหวงห้ามก็ไม่มีอันตรายใดๆ

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท