บทที่ 612 หม่ามี๊ช่วยหนูด้วย
มือและมุมปากของเถียนเถียนเปื้อนเต็มไปด้วยเศษเค้ก มองเสี่ยวเป่าแล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า “สุขสันต์วันเกิดพี่ชาย เค้กวันเกิดของพี่อร่อยที่สุดเลย! ฮิฮิ!”
ในขณะที่พูด ก็ยังแลบลิ้นออกมาเลียครีมที่มุมปาก
ส้งหวั่นชีงเมื่อเห็นสิ่งนี้ ก็ยิ้มออกมา ลุกขึ้นไปกำชับกับเสี่ยวเป่าว่า “ฉันไปหยิบกระดาษทิชชู่ เสี่ยวเป่าดูน้องดีๆนะ”
“ผมทำได้ คุณป้าไม่ต้องเป็นห่วง”
เสี่ยวเป่าก้มหัวเพื่อเตรียมจะแบ่งเค้กในมือของตัวเองให้กับเด็กหญิงตัวน้อย
เมื่อเห็นดังนั้น ก็พยักหน้า
เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส้งหวั่นชีงก็เดินจากไปอย่างสบายใจ
แต่ว่าเพิ่งจะก้าวไปได้ไม่กี่ก้าว เสียงตะโกนของเสี่ยวเป่าก็ดังมาจากด้านหลัง
“เถียนเถียน อย่าไปตรงนั้น!”
ที่จริงแล้วในตอนที่เด็กหญิงตัวน้อยกำลังรอเสี่ยวเป่าแบ่งเค้กให้นั้น มีผีเสื้อตัวหนึ่งบินผ่านมา เถียนเถียนมองเห็นก็รู้สึกแปลกใหม่ จึงตามไป
ผีเสื้อบินอยู่เหนือสระน้ำ เถียนเถียนก็กำลังตามไปที่ริมสระน้ำ
พอได้ยินเสียงของเสี่ยวเป่า เด็กหญิงตัวน้อยก็งงเตรียมจะหยุด
แต่ว่าริมสระน้ำลื่นมาก ในขณะที่เธอกำลังหันไป เนื่องจากร่างกายไม่คงที่ เด็กหญิงตัวน้อยเซไปเซมาอยู่ข้างสระน้ำ
วินาทีต่อมา ก็ได้ตกลงไปในสระน้ำ น้ำกระจายเต็มไปหมด
อุบัติเหตุเกิดขึ้นเร็วมาก ส้งหวั่นชีงวิ่งกลับไปก็ไม่ทันเสียแล้ว
เมื่อเห็นเด็กหญิงตัวน้อยตกลงไปในน้ำ เธอแล้วเสี่ยวเป่าก็ร้องเสียงดังออกมาในเวลาเดียวกัน
ดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที
จิ้นเฟิงเฉินและฝู่จิงเหวินก็หันกลับมา เมื่อเห็นเด็กหญิงตัวน้อยตกลงไปอยู่ในสระน้ำ สีหน้าของทั้งสองคนก็เปลี่ยนไปอย่างทันที
เถียนเถียนตีน้ำ สำลักน้ำเข้าไปหลายอึก
เมื่อเห็นว่ากำลังจะจมลงไปด้านล่าง ก็ร้องขอความช่วยเหลือด้วยความกลัว
“หม่า หม่ามี๊…”
จิ้นเฟิงเฉินกลับมามีปฏิกิริยาตอบโต้ก่อน วิ่งออกไปด้วยความเร็ว แล้วพุ่งลงไปน้ำ
ในตอนที่เขากระโดดลงไปในสระน้ำนั้น ก็มีเงาดำๆผ่านแสงไป
คล้ายกับสิ่งต่างๆหายวับไปกับตา มีเสียงดังขึ้นมากมายหลายครั้ง
เจียงสื้อสื้อพอเห็นเถียนเถียนตกลงไปในน้ำ เธอก็กระโดดลงไปตามสัญชาตญาณ
ฝู่จิงเหวินห่างออกไปค่อนข้างจะใกล้ ลงน้ำไปก่อนจิ้นเฟิงเหวิน ทั้งสองคนกำลังทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อพุ่งไปหาเถียนเถียน
พอว่ายไปใกล้แล้ว ฝู่จิงเหวินได้กอดเถียนเถียนที่กำลังดิ้นรนต่อสู้ แล้วอุ้มเธอขึ้น
“เถียนเถียนไม่ต้องกลัว แดดดี๊อยู่นี่แล้ว!”
เด็กผู้หญิงตัวน้อยตกใจมาก ความสิ้นหวังพัวพันอยู่รอบฝู้จิงเหวิน ใบหน้าซีด
โผล่ขึ้นมาจากน้ำ เห็นฝู่จิงเหวินอุ้มเถียนเถียนไว้อยู่ จิ้นเฟิงเหวินก็ถอนหายใจออกมา
เขาหมุนตัวกลับ เตรียมจะว่ายขึ้นฝั่ง
โดยไม่ได้คาดคิดเขามองเห็นเจียงสื้อสื้อก็อยู่ในสระน้ำด้วย
ก็ทำให้ได้รู้ว่า หลังจากที่เขากระโดดน้ำลงไปแล้ว ได้ยินเสียงที่สามผ่านน้ำเข้ามาเขาไม่ได้จินตนาการไปเอง
เขารีบว่ายมุ่งไปทางเจียงสื้อสื้อ พอว่ายเข้าไปใกล้ๆก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เจียงสื้อสื้อว่ายน้ำได้ แต่ในขณะนี้กลับลอยขึ้นลงอยู่ในน้ำ
ตีแขนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่กลับไม่มีท่าทีแปลกไปไม่เหมือนกับกำลงัว่ายไปข้างหน้า
ส้งหวั่นชีงที่อยู่บนฝั่งเห็นว่าเจียงสื้อสื้อขึ้นมาช้า คิดว่าเธอไม่รู้ว่าเถียนเถียนถูกฝู่จิงเหวินอุ้มขึ้นมาแล้ว เลยตะโกนไปทางเธอว่า “พี่สื้อสื้อ รีบขึ้นมาเร็ว เถียนเถียนปลอดภัยแล้ว”
เจียงสื้อสื้อที่จมอยู่ในน้ำได้ยินเสียงของส้งหวั่นชีงอย่างไม่ค่อยชัด
หลังจากได้ยินว่าเถียนเถียนปลอดภัยแล้ว เธอแสดงรอยยิ้มที่ซีดเผือดออกมา ความรู้สึกตกใจค่อยๆคลายลง
แต่ตอนนี้เธออยากจะบอกส้งหวั่นชีงว่าตัวเธอเองขึ้นไปไม่ได้ เมื่อกี้ลงมาเร็วมาก หลังจากว่ายไปสักพักก็พบว่าเท้าเป็นตะคริว
ดูเหมือนว่าร่างกายจะถูกดึงด้วยแรงมหาศาล ดึงเธอลงไปที่ก้นสระอย่างต่อเนื่อง
ความหนาวเย็นของน้ำกระตุ้นประสาทของเธอ เธอพยายามขึ้นสู่บนผิวน้ำ เพื่อให้ตัวเองได้หายใจ
ในตอนที่เธอกำลังจะขอความช่วยเหลือนั้น จู่ๆก็มีภาพลางแทรกเข้ามาในหัวของเธอ
เธอเห็นภาพสองสามภาพวิ่งผ่านไปมาอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงดังขึ้น ดังผ่านทะลุแก้วหูของเธอ
“ไปตายซะ เจียงสื้อสื้อเธอไปตายซะ!”
ตวาดใส่เธออย่างรุนแรงด้วยเสียงแห่งความโศกเศร้าอย่างที่สุด เสียงแหลมๆของผู้หญิงยังคงดังอยู่ในสมองของฉันตลอด ก่อตัวเป็นเสียงสะท้อน แทงลึกลงไปที่ก้นบึ้งของหัวใจ
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกกลัวมากมายถูกโอบล้อมอยู่ในใจของเจียงสื้อสื้อ
ร่างกายรู้สึกถึงความหนาวเย็นและความสิ้นหวังซึมลึกเข้าไปถึงในไขกระดูก
เจียงสื้อสื้อลืมร้องขอความช่วยเหลือไปชั่วขณะ เธอช่างรู้สึกคุ้นเคยกับเสียงที่ได้ยิน
ราวกับว่าในอดีตอันแสนไกล เคยมีคนสาปแช่งเธออย่างนี้มาก่อน
เป็นใครกันแน่นะ?
เธอพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะคว้าใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น
แต่ในวินาทีต่อมา หัวของเธอก็ปวดราวกับว่ามันจะระเบิดออกมา ภาพที่เห็นก่อนหน้านี้ก็หายไปในทันที
ความแข็งแกร่งของร่างกายก็ค่อยๆหมดไป นิ้วเท้าที่เป็นตะคริวก็ขดตัวลง
จนเปลี่ยนรูปร่างไปหมด
แขนที่มีความเจ็บปวดเป็นสองเท่าค่อยๆหมดความต้านทานและกระแทกลงบนน้ำ
น้ำค่อยๆเข้าไปในโพรงจมูก ปาก และหูของเธอ ทำให้เธอสำลักจนหายใจไม่ได้
เจียงสื้อสื้อหลับตาลงอย่างเจ็บปวดทรมาน
เพราะไม่สามารถใช้พละกำลังได้ เจียงสื้อสื้อเหมือนกับฟองน้ำกำลังดูดน้ำ จมลึกลงไป ความรู้สึกหนาวเย็นโจมตีเข้ามาทีละน้อย ความรู้สึกของออกซิเจนที่ค่อยๆหายไปทำให้เธอรู้สึกสับสน
“สื้อสื้อ!”
ในขณะที่กำลังหลับตา เธอได้ยินเสียงคนกำลังเรียกเธอ เรียกด้วยเสียงที่แหลมคม
เมื่อได้ยินเสียงร้องราวกับจะขาดใจของคนๆนั้น ราวกับว่ากลัวว่าเธอจะตายไป
จับไปที่เปลือกตา เธอลืมตาให้มีช่องว่างเล็กน้อย
ในน้ำ เธอมองเห็นชายคนหนึ่งกำลังทุ่มเทในการว่ายน้ำมาหาเธอ
แสงและเงาตกกระทบลงบนร่างกายของเขาคนนั้น ร่างกายที่เลือนรางของเขาก็ค่อยๆชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ท่าทีที่ไม่ลังเลนั้น ทำให้เธอชะงักไปเล็กน้อย
การค้นหาหัวใจดวงนั้น ทำให้หัวใจสงบลงอย่างลึกลับ
เธอรู้ว่ามีใครบางคนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเธอ เธอใช้แรงเฮือกสุดท้ายยื่นมือออกไปหาชายคนนั้น
นิ้วมือที่ขาวหมดจดกางออกอย่างอ่อนแรง ร่างกายจมลงไปเล็กน้อย
แรงดันน้ำดึงออกซิเจนออกไปทั้งหมด ดวงตาของเจียงสื้อสื้อมืดมน จนในที่สุดก็ได้หมดสติไป
นอกจากนี้ยังทำให้คนบนฝั่งตระหนักได้ว่าเจียงสื้อสื้อกลัวการจมน้ำ เหตุการณ์วุ่นวายขึ้นมาในทันที
ร่างของจิ้นเฟิงเฉินและเจียงสื้อสื้อหายไปจากผิวน้ำ จิ้นเฟิงเหรากระโดดอย่างกระวนกระวาย
“ทำไมยังไม่ขึ้นมาล่ะ?”
เสี่ยวเป่าที่อยู่ข้างๆตกใจจนสั่นไปหมด น้ำตาไหล ดิ้นรนที่จะวิ่งไปทางสระน้ำ
“หม่ามี๊ ช่วยหม่ามี๊ของผมด้วย”
“เสี่ยวเป่า หนูใจเย็นๆก่อน พวกเรารอก่อน”
ส้งหวั่นชีงรีบคว้าเสี่ยวเป่าเอาไว้เพื่อไม่ให้วิ่งลงไป ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความกังวลเช่นกัน
รอกันอีกสักพัก ในสระน้ำก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหว ส้งหวั่นชีงก็รอไม่ไหวแล้ว ได้พูดกับจิ้นเฟิงเหราว่า “เฟิงเหรา ไม่เช่นนั้นคุณลงไปดูสักหน่อยเถอะ”
ฝู้จิงเหวินที่อุ้มเถียนเถียนมาถึงฝั่ง พูดว่า “ผมไปเอง พวกคุณดูแลเถียนเถียนให้ดี”
ส้งหวั่นชีงได้ยินดังนั้นก็รีบจับเถียนเถียนไว้ และดูสถานการณ์
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ เพิ่งดื่มน้ำและไอไปเล็กน้อย โชคดีที่ไม่มีอะไรร้ายแรง
ฝู้จิงเหวินหันหลังกลับไป ดวงตาของเขาหม่นลงเล็กน้อย ที่จะต้องลงไปหาคน
ในตอนนี้เองน้ำที่เงียบสงบจู่ๆก็กระเซ็นขึ้นมา
จิ้นเฟิงเฉินกำลังอุ้มเจียงสื้อสื้อขึ้นมาจากผิวน้ำ กำลังเดินมาทางนี้
ผมสีดำสนิทยังคงมีน้ำหยดลงมาอย่างไม่หยุด ตกลงไปในน้ำและก่อตัวเป็นระลอก
ใบหน้าของจิ้นเฟิงเฉินตึงเครียด แต่ดวงตาของเขายังคงจ้องมองไปยังคนที่เขาอุ้มไว้ ดูตึงเครียด