ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 619 ไม่รู้จริงๆว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่

บทที่ 619 ไม่รู้จริงๆว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่

บทที่ 619 ไม่รู้จริงๆว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่

ในตอนที่เจียงสื้อสื้อกำลังเก็บชามนั้น เมื่อมองไปที่ท้องฟ้าด้านนอก สีของท้องฟ้าก็เป็นสีเข้มซะแล้ว

จู่ๆเธอก็นึกขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง หันกลับไปมองเสี่ยวเป่า ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เสี่ยวเป่า แล้วแดดดี๊ของหนูล่ะ เขารู้เรื่องที่หนูต้องอยู่โรงพยาบาลไหม?”

“รู้แล้วครับ คุณครูติดต่อแดดดี๊ได้แล้ว แดดดี๊เพิ่งประชุมเสร็จ บอกว่าจะรีบกลับมาทันที”

เสี่ยวเป่าตอบด้วยเสียงอบอุ่น

ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และมักจะมองโลกในแง่ดีเสมอ สำหรับเรื่องที่จิ้นเฟิงเฉินงานยุ่งเขาเข้าใจดีเสมอ

ไม่ร้องไห้โวยวาย

“แต่ยังไงก็ไม่น่าสามารถกลับมาได้เร็วขนาดนั้น”

เจียงสื้อสื้อหรี่ตาลงเล็กน้อย ดวงตาของเขามีความวิตกกังวลอยู่มาก

คืนนี้ แม้ว่าจะมีคนดูแล แต่การทิ้งให้เสี่ยวเป่าอยู่ที่นี่โดยลำพัง เธอก็ยังไม่วางใจอยู่ดี

เสี่ยวเป่ามีการสังเกตที่ เขาพูดกับเจียงสื้อสื้อว่า “ไม่เป็นไรครับ หม่ามี๊ ผมอยู่คนเดียวได้”

จริงๆแล้วเขารู้อยู่ดีแก่ใจ ว่ายังไงเจียงสื้อสื้อก็ไม่มีทางปล่อยให้เขาอยู่เดียวแน่นอน แต่เพียงแค่ต้องการจะเล่นอะไรสักหน่อย

หลังจากคิดอยู่สักพัก เจียงสื้อสื้อก็ตัดสินใจ

“หม่ามี๊จะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนหนู รอจนกว่าแดดดี๊จะกลับมา”

“จริงเหรอครับ?”

เสี่ยวเป่าดีใจมาก

เจียงสื้อสื้อเดินเข้ามาลูบหัวของเสี่ยวเป่า พูดอย่างอ่อนโยนว่า “อืม ยังไม่กลับไปชั่วคราว ไม่วางใจที่หนูอยู่ที่นี่คนเดียว”

เสี่ยวเป่าตาแดง

จริงๆแล้วต่อให้เขาเข้าใจรู้เรื่องมากแค่ไหน แต่การที่ต้องอยู่โรงพยาบาลคนเดียวเขาก็กลัวอยู่ดี

โดยเฉพาะในตอนที่กำลังป่วย ความรู้สึกเหล่านี้จะถูกดึงออกมาได้ง่าย

การแสร้งเป็นเข้มแข็งต่อหน้าเจียงสื้อสื้อหายไปหมดสิ้น

กุมมือของเจียงสื้อสื้อขึ้นมา เสี่ยวเป่าวางไว้บนหน้าของตัวเองและถูไปมา

พูดอย่างออดอ้อน “ขอบคุณนะครับหม่ามี๊ หม่ามี๊ดีที่สุดเลย”

แววตาของเจียงสื้อสื้ออ่อนโยนลง

นั่งอยู่ที่มุมหนึ่งของเตียง ลูบผมสีดำของเสี่ยวเป่าอย่างอ่อนโยน อย่างปลอบโยนเขา

สายลมยามค่ำคืน แสงจันทร์พาดผ่านเงาต้นไม้เข้ามา

สองแม่ลูกที่กำลังคลอเคลียกัน ช่างเป็นภาพที่ดูอบอุ่น

ความเจ็บปวดก็ค่อยๆกลับเป็นปกติแล้ว

“หม่ามี๊ เล่านิทานให้ผมฟังหน่อย เมื่อก่อนหม่ามี๊เล่าใผ้ผมฟัง”

เสี่ยวเป่าเงยหน้ามองทางเจียงสื้อสื้อ

เจียงสื้อสื้อเล่านิทานก่อนนอนให้เถียนเถียนฟังอยู่บ่อยๆ สำหรับคำขอร้องของเสี่ยวเป่าแล้ว เธอตอบรับอย่างง่ายดาย

“โอเค หม่ามี๊คิดก่อน จะเล่าเรื่องอะไรให้หนูฟังดีนะ”

เสียงอ่อนโยนของเขาไหลผ่านในยามค่ำคืน พลิ้วไหวไปกับสายลม ช่างไพเราะเหลือเกิน

จากนั้นไม่นาน เจียงสื้อสื้อก็ยิ้มที่มุมปาก เขาค่อยๆเล่าเรื่องราวที่เคยอ่านในหนังสือ

“งั้นเล่าเรื่องเจ้าชายน้อยแล้วกัน ในอดีต มีเจ้าชายน้อยอยู่คนหนึ่งอาศัยอยู่ที่โลกที่เล็กมากๆ ที่นั่นมีภูเขาไฟสองลูก และดอกกุหลาบที่เขารักอยู่อีกหนึ่งดอก

ต่อมา เขาทะเลาะกับดอกกุหลาบ เจ้าชายน้อยโกรธก็เลยออกจากโลกของตัวเองไป……”

เสียงของเธออ่อนนุ่มมาก เหมือนกับบทเพลงที่ไพเราะไหลวนอยู่ในหัวใจ

เสี่ยวเป่าฟังอย่างตั้งใจ

เรื่องราวนิทานสองหมื่นตัวถูกขัดเกลาออกมาโดยเจียงสื้อสื้อ เล่ามาก็นานแล้ว

โดยไม่รู้ตัว เวลาก็ผ่านไปนานแล้ว

เมื่อกลับมาได้สติ ก็พบว่าแสงไฟยามค่ำคืนที่สว่างไสวได้ค่อยๆกลับมาสงบแล้ว

เงาของต้นไม้ เสียงของแมลงก็หายไปแล้ว

“เอาล่ะ เล่านิทานจบแล้ว ควรจะนอนได้แล้ว”

เจียงสื้อสื้อดึงผ้าห่มขึ้นมา ห่มให้เสี่ยวเป่าอย่างระมัดระวัง

เสี่ยวเป่ายังคงจมอยู่กับตอนจบของเจ้าชายน้อย มันเศร้ามาก

เขามองไปที่เจียงสื้อสื้ออย่างเจ็บปวด ถามด้วยสายตาที่มีความหวัง

“หม่ามี๊ เจ้าชายน้อยตายไปแล้วจริงๆหรอ เขาจะสามารถกลับบ้านได้ไหม? ดอกกุหลาบยังคงรอเขาอยู่นะ”

เห็นท่าทีจริงจังของเขา หัวใจของเจียงสื้อสื้อก็สั่นด้วยความรุนแรง

เขาทนไม่ได้ที่จะบอกเสี่ยวเป่าว่า เจ้าชายน้อยอาจจะตายไปแล้วจริงๆ

ในที่สุดดอกกุหลาบของเขาก็ไม่ได้รอเขากลับบ้าน และยังเหี่ยวเฉาไปแล้ว……

สุดท้ายแล้วการรอคอยทั้งหมดอาจจะไม่เกิดผลก็ได้

แต่สำหรับเด็กแล้ว ก็มองทุกอย่างสวยงามไปซะหมด

เจียงสื้อสื้อกับบอกเสี่ยวเป่าถึงตอนจบแบบที่เขาหวัง

“วางใจเถอะ เจ้าชายน้อยจะต้องกลับไปอย่างแน่นอน เขาจะต้องกลับไปที่โลกของเขา เขาจะใช้ชีวิตอยู่กับดอกไม้ของเขาอย่างมีความสุข”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีมากเลย”

พอได้ยินอย่างนั้นเสี่ยวเป่าก็ยิ้มออกมา ไม่สงสัยในคำพูดของเจียงสื้อสื้อแม้แต่น้อย

สุดท้ายก็มองไปที่เจียงสื้อสื้อ และพึมพำออกมาอย่างพอใจว่า “เหมือนหม่ามี๊เลย”

เจ้าชายน้อยกลับไปที่โลกของเขา เหมือนกับที่หม่ามี๊ของเขากลับมาอยู่ข้างๆเขาและพ่อของเขา

เสี่ยวเป่าคิดอย่างนี้

ได้ยินที่เสี่ยวเป่าพูดไม่ชัด เจียงสื้อสื้อถามอย่างงงงวย “หนูพูดอะไรนะ?”

“ไม่มีอะไรครับ ผมจะนอนแล้ว หม่ามี๊ ฝันดีครับ”

เสี่ยวเป่าส่งยิ้มหวานไปให้เธอ และมุดเข้าไปในผ้าห่มอย่างรวดเร็ว

เจียงสื้อสื้อตบหลังของเสี่ยวเป่าเบาๆ เพื่อกล่อมให้เขานอน

เสียงหายใจเข้าออกสม่ำเสมอดังมา เจียงสื้อสื้อมองไปที่เสี่ยวเป่าด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรัก

แต่ในด้านของบ้านตระกูลจิ้น สถานการณ์ไม่ค่อยจะกลมกลืนด้วยกันนัก

ฝู้จิงเหวินกลับมาถึงบ้านและไม่เห็นเจียงสื้อสื้อ

หลังจากถามแม่ฝู้ ก็ได้ทราบว่าเจียงสื้อสื้อบอกว่าคืนนี้อาจจะไม่กลับมานอนบ้าน เขาก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ

หลังจากลังเลอยู่สักพัก เขาก็โทรไปหาเจียงสื้อสื้อ

กลัวว่าจะทำให้เสี่ยวเป่าตื่น เจียงสื้อสื้อถือโทรศัพท์และเดินย่องเบาๆออกไปตรงทางเดินนอกห้อง จากนั้นถึงจะรับโทรศัพท์

“มีธุระอะไรหรือเปล่า?”

เพราะบรรยากาศที่อึดอัดระหว่างสองคน เจียงสื้อสื้อลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เอามือไปลูบที่คอของตัวเองอย่างไม่ตั้งใจ

เขย่งนิ้วเท้าขึ้นเล็กน้อย ดันขึ้นจากพื้นครั้งแล้วครั้งเล่า

ฝู้จิงเหวินถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจ “คุณอยู่ที่บริษัทหรอ? ทำไมถึงไม่กลับบ้าน?”

เจียงสื้อสื้อชะงักไปเล็กน้อย มองไปทางเสี่ยวเป่าที่อยู่ในห้องผู้ป่วย กำลังนอนหลับสนิท

เธอหันกลับมาและตอบออกไปตรงๆว่า “เปล่า ฉันอยู่ที่โรงพยาบาล”

“โรงพยาบาล? เกิดอะไรขึ้นกับคุณ? รุนแรงไหม? อยู่โรงพยาบาลไหน? ผมจะไปหา”

ฝู้จิงเหวินพอได้ยินว่าเธออยู่โรงพยาบาล จิตใจก็เครียดไปหมด อดไม่ได้ที่จะถามออกไปอย่างกังวล

รีบเดินไปหยิบเสื้อคลุมของตัวเองเพื่อพร้อมจะออกไปข้างนอกทันที

ได้ยินเสียงกรอบแกรบที่ดังมาจากฝั่งนั้น เธอก็รีบอธิบายทันที “ไม่ใช่ฉัน เป็นเสี่ยวเป่า เขาตกบันไดลงมา พ่อของเขาไม่อยู่ ดังนั้นฉันเลยมาดูแลเขาคืนหนึ่ง”

พูดจบ

อากาศเย็นลงเล็กน้อย ทั้งสองฝ่ายเงียบลง

จังหวะการก้าวเท้าของฝู้จิงเหวินหยุดลงทันที ใบหน้าของเขาซีดลงในชั่วพริบตา

ใบหน้าของเขาอึมครึม อดไม่ได้ที่จะกำมือแน่น

เขาอยากจะกดความร้อนใจในใจเอาไว้ แต่พอคิดถึงว่าเจียงสื้อสื้อกำลังดูแลลูกของคนอื่น ก็ทนไม่ได้อีกต่อไป

พูดประชดอย่างเย็นชา “พ่อลูกคู่นั้นอีกแล้ว สื้อสื้อ ความจริงแล้วเธอไม่ใช้แม่แท้ๆของเขาสักหน่อย ทำไมถึงต้องไปดูแลเขาตลอด? เพื่อที่จะดูแลเด็กคนนั้น คุณทิ้งเถียนเถียนไว้ที่บ้าน เธอยังเด็กขนาดนี้ คุณที่เป็นแม่ ไม่เป็นห่วงสักนิดเลยหรอ? ไม่รู้จริงๆว่าคุณคิดยังไงของคุณ ไม่ดูแลไม่สนใจลูกของตัวเอง แต่พอมีเวลากลับไปยุ่งเรื่องของคนอื่น”

จริงๆแล้วคำพูดเหล่านี้อยู่ในสุมอยู่ในใจของฝู้จิงเหวินมานานแล้ว

พอมีสถานการณ์อย่างวันนี้ ทำให้เขาระบายออกมาทั้งหมด

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท