บทที่ 657 เสี่ยวเป่าเสียเลือดเป็นจำนวนมาก
เนื่องจากเจียงสื้อสื้อตัวสั่น ทำให้ถ้วยที่ถืออยู่ในมือหล่นลงพื้น
เด็กน้อยที่เดิมทีกำลังส่องกระจกอยู่ เมื่อได้ยินเสียงดังก็รีบวิ่งลงมา
เมื่อเห็นว่ามือข้างหนึ่งของเจียงสื้อสื้อวางอยู่ที่ตำแหน่งของหัวใจ และสีหน้าแสดงถึงความเจ็บปวด
เถียนเถียนจึงรีบพูดขึ้นอย่างร้อนใจว่า“หม่ามี๊เป็นอะไรไปคะ?”
“ไม่เป็นอะไรหรอก……หม่ามี๊ นั่งสักแป๊บก็จะดีขึ้นเอง……”
เถียนเถียนพยุงเจียงสื้อสื้อมานอนอยู่ที่โซฟา
เถียนเถียนช่วยเจียงสื้อสื้อนวดอย่างรู้ประสา
ในเวลานี้เอง ประตูด้านนอกก็ถูกเปิดออก ฝู้จิงเหวินเดินเข้ามา
เขาเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล เมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดขาวของเจียงสื้อสื้อ ก็ตกใจจนรีบวางของที่อยู่ในมือลง แล้วเดินมาที่ด้านหน้าของเจียงสื้อสื้อ
เขาอยู่ใกล้จนเห็นเหงื่อของที่ปกคลุมอยู่ที่บริเวณหน้าผากของเธอ เขาถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงว่า“สื้อสื้อ คุณไม่สบายตรงไหนครับ?ให้ผมไปตามหมอมาไหม?”
เจียงสื้อสื้อโบกมือพลางพูดขึ้นอย่างอ่อนเพลียว่า“ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ……ไม่ต้องตกอกตกใจไป คุณรินน้ำให้ฉันแก้วหนึ่งก็พอแล้วค่ะ”
ฝู้จิงเหวินรีบยื่นน้ำให้กับเจียงสื้อสื้อ
ป้อนน้ำให้เธอดื่มจนหมดแก้ว
หลังจากได้ดื่มน้ำอุ่นๆเข้าไป เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
เธอลุกขึ้นนั่งบนโซฟา ในใจยังคงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่
เธอรู้สึกได้ว่าเหมือนจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีลางสังหรณ์ใดๆ
ผ่านไปไม่นาน ฝู้จิงเหวินก็ถามขึ้นอีกว่า“สื้อสื้อ คุณไม่เป็นอะไรจริงๆเหรอครับ?ผมว่าสีหน้าของคุณยังไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่เลย”
“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ฉันดีขึ้นมากแล้ว พวกเราเอาข้าวไปให้แม่ของคุณที่โรงพยาบาลกันเถอะ”
เมื่อพูดจบ เจียงสื้อสื้อก็ลุกขึ้น
ฝู้จิงเหวินก็ไม่พูดอะไรต่อ ขับรถพาพวกเขาไปโรงพยาบาล
เมื่อเข้าไปที่ห้องผู้ป่วย แม่ฝู้เห็นเถียนเถียนมาด้วย ก็รีบกวักมือเรียกด้วยความดีอกดีใจ
“เถียนเถียน รีบมาหาย่าสิ”
เถียนเถียนก้าวเท้ามาด้านหน้าเตียงของแม่ฝู้
เมื่อเห็นแขนของแม่ฝู้มีถุงน้ำเกลือแขวนอยู่ จึงถามขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า“คุณย่า นี่คืออะไรคะ ทำไมน้ำถึงได้หยดได้ล่ะคะ?”
เมื่อเห็นท่าทางที่น่ารักของหล่อน แม่ฝู้ยิ้ม พลางพูดขึ้นว่า“ก็เพราะว่าย่าป่วยไง เวลาป่วยก็ต้องฉีดยา มีแค่วิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้ย่ากลับบ้านได้เร็วขึ้น จะได้เล่นกับเถียนเถียนไงล่ะ”
“อ่อ เป็นแบบนี้นี่เอง ย่าฉีดยาเยอะหน่อย จะได้กลับบ้านเร็วๆ”
คำพูดของเด็กช่างไร้เดียงสา แม่ฝู้อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ
เจียงสื้อสื้อเหลือบมองขวดน้ำที่อยู่ข้างๆเตียง พลางเอ่ยปากขึ้นว่า“แม่ค่ะ เดี๋ยวหนูออกไปเติมน้ำร้อนก่อนนะคะ”
เมื่อฝู้จิงเหวินได้ยินก็เข้าไปห้าม แต่เจียงสื้อสื้อปฏิเสธ
เขาทำได้เพียงปล่อยเธอไป
หลังจากที่ออกจากห้องพักผู้ป่วย เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกว่าอาการเจ็บบริเวณหน้าอกไม่ค่อยรุนแรงแล้ว
เมื่อเดินออกมาได้สองสามก้าว เธอก็เห็นหมอและพยาบาลที่บริเวณระเบียงเดินกรูกันไปอย่างรีบร้อน
สีหน้าร้อนรนราวกับคนสำคัญกำลังเกิดเรื่องขึ้น
คำพูดของพวกเขาเธอได้ยินคร่าวๆ
“รีบไปกันเถอะ วันนี้มีอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น มีเด็กคนหนึ่งถูกรถชน เลือดออกเป็นจำนวนมาก”
“ดูเหมือนจะเป็นเด็กที่มาจากครอบครัวมีฐานะ น่าสงสารจริงๆ”
“ขาดแคลนกรุ๊ปเลือด AB ซึ่งโรงพยาบาลของพวกเราขาดกรุ๊ปเลือดนี้พอดี ไม่รู้เหมือนกันว่าเด็กคนนี้จะทนไหวไหม”
“ใช่แล้ว หากนำมาจากโรงพยาบาลอื่นก็อาจจะต้องใช้เวลา ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทันเวลาไหม”
“……”
……
เมื่อหมอที่ใส่เสื้อกราวน์สีขาวเดินผ่านมาข้างๆพยาบาลทั้งสอง ก็อดไม่ได้ที่จะพูดอย่างเคร่งเครียดว่า“ยังมัวทำอะไรกันอยู่ ไม่รู้เหรอว่าชีวิตคนสำคัญ?ยังคุยกันอยู่อีก!”
เมื่อพยาบาลทั้งสองเห็นชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก็รีบวิ่งไปข้างหน้าทันที
ข่าวคราวที่เจียงสื้อสื้อได้รับรู้ก็ยุติลง
แต่ว่า ตนก็กรุ๊ปเลือดABไม่ใช่เหรอ?
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เจียงสื้อสื้อวางกระติกน้ำที่อยู่ในมือไว้ข้างๆ และเดินตามเข้าไปอย่างอัตโนมัติ
เมื่อมาถึงด้านหน้าเตียงผู้ป่วย ก็พบว่ามีคนอยู่จำนวนมาก แม้แต่จิ้นเฟิงเฉินก็อยู่ในนั้นด้วย
เมื่อเห็นสีหน้าที่เคร่งเครียดของจิ้นเฟิงเฉิน สีหน้าของเจียงสื้อสื้อก็ตะลึงงัน
ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยเลือด ขณะนี้รออยู่หน้าห้องผู้ป่วย นอกเสียจากว่า……
ในใจของเจียงสื้อสื้อก็ผุดความคิดที่ไม่ดีขึ้นมา หรือว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับเสี่ยวเป่า?
เธอเดินขาสั่นเข้าไป ลูบที่ไหล่ของ จิ้นเฟิงเฉินอย่างระมัดระวัง
“……ใครเป็นอะไรไปเหรอ?”
เมื่อได้ยินเสียงของเจียงสื้อสื้อ จิ้นเฟิงเฉินก็เงยหน้าขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เมื่อเห็นว่าเบื้องหน้าของตนคือเจียงสื้อสื้อ จิ้นเฟิงเฉินก็โผกอดเธออย่างแรง
“สื้อสื้อ……เสี่ยวเป่า……เป็นเสี่ยวเป่า……”
เมื่อสมองของเจียงสื้อสื้อได้ยินดังนั้นก็ตกอยู่ในสภาวะงุนงง
เสี่ยวเป่า?ทำไมถึงเป็นเสี่ยวเป่าได้ล่ะ?
“เกิดอะไรขึ้น?เสี่ยว……เสี่ยวเป่าทำไมถึงได้……”
ขณะที่ถามคำถามนี้ เจียงสื้อสื้อก็ยืนแทบจะไม่อยู่
มองดูห้องผ่าตัดที่แสงไฟสว่างไสว ราวกับกำลังบอกกล่าวสถานการณ์ของเสี่ยวเป่า
เสี่ยวเป่า……
เป็นเสี่ยวเป่าจริงๆ……
เด็กน้อยที่พวกเขาพูดถึงว่ากำลังตกอยู่ในอันตรายก็คือเสี่ยวเป่าของเธอ……
หลังจากที่ลนลานอยู่ครู่หนึ่ง เจียงสื้อสื้อก็นึกถึงสิ่งที่พวกเขาพูด เสี่ยวเป่ากรุ๊ปเลือดAB ดวงตาของเธอแดงก่ำคว้านางพยาบาลไว้แน่น
พูดขึ้นอย่างรีบร้อนว่า“ฉันกรุ๊ปเลือดAB รีบเจาะเลือดฉันเถอะ!”
เมื่อพยาบาลได้ยินว่าเธอกรุ๊ปเลือดABก็ไม่ลังเล รีบพาเจียงสื้อสื้อไปห้องตรวจเลือด
หากเลือดเข้ากับเสี่ยวเป่าได้ เสี่ยวเป่าก็จะมีทางรอดแล้ว !
การรอคอยมักยาวนาน แม้จะผ่านไปเพียงห้านาที แต่เจียงสื้อสื้อกลับรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเกือบครึ่งศตวรรษ
เจียงสื้อสื้อถามขึ้นระหว่างที่รอผล“ทำไมเสี่ยวเป่าถึงได้รถชนได้ล่ะ?”
ขณะประสานตากับเจียงสื้อสื้อ จิ้นเฟิงเฉินค่อยๆเอ่ยขึ้น
ที่แท้เมื่อเช้านี้ เสี่ยวเป่าตื่นนอนค่อนข้างสาย จึงรีบออกจากบ้าน หลังจากที่นั่งลงบนรถเขาก็เร่งคนขับให้ขับรถเร็วขึ้น
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจู่ๆก็มีรถคันหนึ่งโผล่มากลางถนน คนขับรถหักหลบตามสัญชาตญาณ
หากไม่ได้เป็นเพราะความเชี่ยวชาญของคนขับ เกรงว่าเสี่ยวเป่าก็คงจะเสียชีวิตคาที่แล้ว
แต่ว่าเสี่ยวเป่าก็ได้รับบาดเจ็บเสียเลือดเป็นจำนวนมากกระทั่งหมดสติ
แม้แต่คนขับรถก็แทบจะเอาตัวเองไม่รอด
คนที่เห็นเหตุการณ์ ก็ใจดีเรียกรถพยาบาลให้กับ เสี่ยวเป่า และได้เบอร์โทรศัพท์จิ้นเฟิงเฉินจากกระเป๋าหนังสือของเสี่ยวเป่า
เขาจึงทราบว่าเสี่ยวเป่าประสบอุบัติเหตุ
เมื่อจิ้นเฟิงเฉินมาถึง เสี่ยวเป่าก็อยู่ในห้องผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว
ส่วนเลือดที่อยู่บนร่างกายของเขาเกิดจากการที่เขาใช้มือทุบผนัง
เขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ว่าทำไมตนจึงไม่ไปส่งเสี่ยวเป่าด้วยตนเอง
หากเป็นเช่นนี้ เสี่ยวเป่าก็คงจะไม่ได้รับบาดเจ็บ
เมื่อเห็นตาของเขาแดงก่ำ เจียงสื้อสื้อก็รู้ว่าในใจของเขารู้สึกทุกข์ทรมาน
ยื่นมือออกไปกุมมือของเขา หวังว่าจะสามารถปลอบโยนเขาได้