บทที่ 714 มาหาหม่ามี๊ตรงนี้
ทั้งสองคนที่โดนเสี่ยวเป่าปล่อยมือที่จูงซ้ายขวาอยู่มองหน้ากัน อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
“นอกจากพี่สะใภ้ ไม่มีใครทำอะไรกับเด็กคนนี้ได้จริงๆ”
หลังจากที่เสี่ยวเป่าเข้าไปในโรงพยาบาล ก็พุ่งตรงไปที่ห้องพักผู้ป่วยของ
เจียงสื้อสื้อ
เปิดประตูเขาไปเห็นเจียงสื้อสื้อที่มีสีหน้าขาวซีด อดไม่ได้ที่ตาจะแดงไปหมด
เขาเดินเข้าไปจับมือของเจียงสื้อสื้อ พูดอย่างเป็นห่วงอย่างมาก “หม่ามี๊ครับ เสี่ยวเป่ามาช้า เสี่ยวเป่าไม่เชื่อฟัง”
พูดไปดวงตาของเขาก็ยิ่งแดงมากขึ้น เหมือนกับว่าจะร้องไห้ออกมาทันที
เจียงสื้อสื้อเห็นดังนั้น จับมือของเสี่ยวเป่ามาไว้ในฝ่ามือ พูดเบาๆว่า “เสี่ยวเป่าอย่าพูดแบบนี้ แค่เพียงหนูมา หม่ามี๊ก็มีความสุขมากแล้ว จะโทษหนูได้ยังไง?”
แต่ว่าเสี่ยวเป่าก็อดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหลลงมา ใบหน้าทุกข์ใจ
ทางนี้ จิ้นเฟิงเฉินเพิ่งจะพาเถียนเถียนออกมาจากโรงพยาบาล ไม่อย่างนั้นคงได้เจอเสี่ยวเป่าพอดี
จิ้นเฟิงเฉินจูงมือเถียนเถียนเดินไปทางที่จอดรถ จู่ๆก็รู้สึกว่าเด็กน้อยที่เดินอยู่ข้างหลังไม่ขยับ
หันไปก็พบว่าดวงตาของเถียนเถียนกำลังจ้องมองไปที่ที่หนึ่ง
มองตามไปทางนั้น จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว ที่ฝรั่งเศสมีขนมสายไหมตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
อุ้มเถียนเถียนขึ้นมา จิ้นเฟิงเฉินถามว่า “เถียนเถียนอยากกินไหม?”
เถียนเถียนส่ายหัว
“เด็กน้อยที่ไม่ซื่อสัตย์ไม่ใช่เด็กดีนะ” ยิ้มเฟิงเฉินพูดอย่างหยอกล้อ
“หม่ามี๊บอกว่า กินอันนั้นฟันจะหลุด เถียนเถียนไม่อยากฟันหลอ”
ฟังจบ ในหัวของจิ้นเฟิงเฉินก็ปรากฏให้เห็น ท่าทางของเจียงสื้อสื้อที่บอกประโยคนี้กับเถียนเถียนอย่างถูกต้อง ส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ
หลังจากนั้นไม่กี่นาที ในมือของเถียนเถียนก็ถือขนมสายไหมสีชมพู ดีใจจนน้ำลายอยู่ที่แก้มตรงหน้าจิ้นเฟิงเฉิน
จิ้นเฟิงเฉินอดไม่ได้ที่จะเผลอยิ้มออกมา กอดก้อนนุ่มๆไว้ในอ้อมกอดแน่น
เด็กหญิงตัวน้อยถือขนมสายไหมไว้ในมือ และส่งเสียงเอะอะว่าหิวแล้ว จิ้นเฟิงเฉินทำได้เพียงพาเธอไปที่ห้องอาหารก่อน
แต่พอทั้งสองคนเพิ่งจะเข้าไปในห้องอาหาร ก็กลายเป็นจุดโฟกัส
ชายหนุ่มที่สง่างามกำลังอุ้มเด็กผู้หญิงที่งดงามเหมือนตุ๊กตา ทำให้คนอดไม่ได้ที่จะจับจ้องไปยังจุดเดียว
สาวสวยคนหนึ่งที่รูปร่างร้อนแรงถือแก้วไวน์แดง ยิ้มและนำมือวางไว้บนบ่าของจิ้นเฟิงเฉิน ชวนคุยว่า “หนุ่มหล่อ สนใจจะแอดวีแชทไว้พูดคุยกันหน่อยไหม?”
แม้แต่มองจิ้นเฟิงเฉินยังไม่มองเธอ เพียงชำเลืองมองมือที่วางไว้บนบ่าของตัวเอง พูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆว่า “เอาออกไป”
สีหน้าของสาวสวยชะงักไปครู่หนึ่ง เก็บมือไปด้วยความโกรธ
แต่ว่า ยังคงไม่ตายใจเปลี่ยนวิธีในการจะเอาช่องทางติดต่อ ทำหน้าตาท่าทางที่เห็นแล้วน่าสงสาร “เรียนรู้กันสักหน่อยไม่ได้เหรอ? หนุ่มหล่อ แค่รู้จักกันสักหน่อย เป็นเพื่อนกัน”
“ไม่จำเป็น”
น้ำเสียงของจิ้นเฟิงเฉินเหมือนกับน้ำแข็ง ถอยหลังเพื่อหลีกเลี่ยง สีหน้าเยือกเย็น ทั้งร่างกายให้บรรยากาศทำให้ตกใจกลัว
หญิงสาวถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างหวาดกลัว ห้องอาหารในตอนนั้นมีคนไม่น้อยที่มองมาทางนี้
เพื่อทำให้เก้อเขินน้อยลง เธอมองไปที่เถียนเถียนที่นั่งอยู่ข้างๆ พูดว่า “น้องสาวหน้าตาสวยจังเลย กี่ขวบแล้วคะ?”
เถียนเถียนไม่ชอบสัมผัสของหญิงสาวคนนี้ ทำปากจู๋อย่างเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “คุณป้าคะ คุณป้าแก่ขนาดนี้เรียกหนูว่าน้องสาวได้ยังไง อีกอย่าง แด๊ดดี๊หนูอารมณ์ไม่ค่อยดี”
หญิงสาวได้ยิน “แด๊ดดี๊” คำเดียวก็มองไปทางจิ้นเฟิงเฉินอย่างประหลาดใจ ชายหนุ่มคนนี้กำลังแผ่กลิ่นอายให้คนแปลกหน้าห่างออกไป
เห็นว่าคงชวนคุยไม่สำเร็จ หญิงสาวทำได้เพียงก้าวเท้าออกไป
เมื่อคิดว่าเจียงสื้อสื้อยังอยู่ที่โรงพยาบาล จิ้นเฟิงเฉินก็ไม่ได้ทานที่ห้องอาหาร หลังจากห่ออาหารเย็นเสร็จแล้ว ก็อุ้มเถียนเถียนกลับโรงพยาบาล
ยังไม่ทันได้ผลักประตูห้องผู้ป่วย เสียงของเสี่ยวเป่าที่คุยกันหนุงหนิงอยู่เป็นเพื่อนเจียงสื้อสื้อดังออกมา
หลังจากเถียนเถียนได้ยินเสียงของเสี่ยวเป่า รีบร้อนจะกระโดดลงจากตัวของจิ้นเฟิงเฉิน ส่งขนมสายไหมในมือให้จิ้นเฟิงเฉิน
ผลักประตูเข้าไปเห็นเสี่ยวเป่าที่อยู่ข้างๆหม่ามี๊ วิ่งเข้าไปกอดเขาอย่างดีใจ
เสี่ยวเป่าถูเธอโถมตัวเข้าหาอย่างไม่ทันระวังจนล้มลงไปที่พื้น
“พี่ชาย เถียนเถียนคิดถึงพี่มากๆเลย”
เถียนเถียนพูดพร้อมกับหันไปทางหน้าของเสี่ยวเป่าและจุ๊บเบาๆ เสี่ยวเป่าเอาหน้าไปข้างๆอย่างไม่สบอารมณ์ หูแดงเล็กน้อย
เจียงสื้อสื้อเห็นแบบนั้นก็หัวเราะขึ้นมา “เถียนเถียนลุกขึ้นมาเร็ว เดี๋ยวจะทับพี่ชายจนเจ็บ”
เถียนเถียนกลัวว่าจะทับเสี่ยวเป่าจนเจ็บจริงๆ รีบปีนขึ้นมาจากตัวเขาทันที ทั้งยังอดไม่ได้ที่จะพูดตัดพ้อ “พี่ชาย หนูคิดถึงพี่มาก แด๊ดดี๊นิสัยไม่ดี ไม่พาหนูไปหาพี่เลย”
จิ้นเฟิงเฉินที่โดนกล่าวโทษคลึงหว่างคิ้วไปมา แต่ว่าลูกสาวของตัวเองพูดอะไรก็ถูกไปหมด
เสี่ยวเป่าเห็นเถียนเถียนดีใจมาก ควักห่อลูกอมที่แอบซ่อนไว้จากที่บ้าน พูดเหมือนกับมอบของล้ำค่าให้ “พี่เอามาจากบ้าน อร่อยมากๆ”
เถียนเถียนเห็นแบบนั้นก็รีบวิ่งไปข้างๆจิ้นเฟิงเฉินทันที หยิบขนมสายไหมมา ส่งให้พี่ชายและพูดว่า “พี่ชาย อันนี้อร่อยมากๆ ของเถียนเถียนเอง ให้พี่กิน”
ส้งหวั่นชีงที่อยู่ข้างๆเห็นดวงตาทั้งสองเต็มไปด้วยความรู้สึกอ่อนโยน จงใจพูดอย่างน้อยใจว่า “เถียนเถียน หนูจะลำเอียงมาเกินไปแล้ว ของอาหล่ะ?”
เถียนเถียนถึงจะรู้ถึงการมีอยู่ของส้งหวั่นชีงและจิ้นเฟิงเหรา รีบพูดทักทายในทันที “คุณอา อาสะใภ้สวัสดีค่ะ”
น้ำเสียงอ่อนนุ่ม ทำให้ใจคนมีความสุข
จากนั้นจิ้นเฟิงเฉินก็น้ำอาหารเย็นจัดวางไว้ที่โต๊ะข้างๆเจียงสื้อสื้อ “กินข้าวเย็นเถอะ คุณน่าจะหิวพอสมควรแล้ว”
น้ำเสียงอบอุ่นแบบที่เขาไม่รู้สึกตัว
ส้งหวั่นชีงเห็นดังนั้นก็ดึงแขนเสื้อของจิ้นเฟิงเหราเบาๆ บอกใบ้ให้เขาเรียนรู้สักหน่อย
เจียงสื้อสื้อมองอาหารเย็นที่เต็มไปด้วยสีสันและความหอม ข้างหูก็มีเสียงของเถียนเถียนและเสี่ยวเป่าดังขึ้นมา
“หม่ามี๊ พี่นิสัยไม่ดี พี่แย่งลูกอมของเถียนเถียน”
“ลูกอมอันนี้เดิมทีหนูเอามาจากบ้าน หงึ”
มีความอบอุ่นทะลักขึ้นมาในใจของเจียงสื้อสื้อ เม้มริมฝีปากและลูบหัวของเถียนเถียน
เถียนเถียนขอความช่วยเหลือจากหม่ามี๊ไม่ได้ผล ดวงตาที่ชุ่มไปด้วยน้ำหมุนไปมาและเริ่มมีเสียงสะอื้นเล็กๆ น้ำตาค่อยๆพรั่งพรูออกมาจากดวงตา เสี่ยวเป่าตระหนกวุ่นวายจนทำอะไรไม่ถูก
นำลูกอมทั้งหมดยัดให้เธอ
“ให้หนู อย่าร้องไห้ พี่แค่ล้อหนูเล่นเอง”
เถียนเถียนถึงหยุดร้องไห้และยิ้มออกมา
เสี่ยวเป่าก็ยิ้มตามออกมา
ส้งหวั่นชีงมองเด็กน้อยทั้งสองคน และก็มองจิ้นเฟิงเหราที่อยู่ข้างๆ เริ่มคิดถึงอนาคตของพวกเขา
ถ้าหากว่ามีลูกสองคนเหมือนกับเถียนเถียนและเสี่ยวเป่า ล้อเล่นตีกันอยู่ที่บ้านก็คงไม่เลว
เจียงสื้อสื้อมองเด็กน้อยทั้งสองคนดีอกดีใจ ยืดมือออกไปและพูดว่า “เสี่ยวเป่า เถียนเถียน พวกหนูมานี่”
“หม่ามี๊”
ทั้งสองคนได้ยินดังนั้นก็วิ่งไปข้างๆเจียงสื้อสื้อ
เจียงสื้อสื้อจิ้มไปที่ปลายจมูกของเถียนเถียน แกล้งทำเป็นดุ “เถียนเถียนไม่อนุญาตให้รังแกพี่ชายเข้าใจไหม?”
ได้ยินอย่างนั้น เถียนเถียนก็เอาหัวซุกเข้าไปในอ้อมกอดของเจียงสื้อสื้ออย่างน้อยใจ
“หม่ามี๊ เถียนเถียนไม่ได้รังแกพี่ชาย พี่ชายรังแกเถียนเถียน”
เสี่ยวเป่ากำลังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองถูกคนพูดถึง
จากนั้นก็เห็นใบหน้าของแด๊ดดี๊ตัวเอง ความคิดที่พยายามอยากจะออดอ้อนอยู่ในอ้อมกอดของหม่ามี๊หายไปในชั่วพริบตา
เถียนเถียนแอบยื่นหัวออกมาจากอ้อมกอดของเจียงสื้อสื้อ และแลบลิ้นให้เขา
จิ้นเฟิงเฉินมองไปที่ฉากตรงหน้าเขา ป้องกันสายตาที่เต็มไปด้วยการตำหนิของเสี่ยวเป่าโดยอัตโนมัติ
เสี่ยวเป่านั่งลงที่พื้นอย่างไม่ร่าเริง
“ฮือ……”
เจียงสื้อสื้อเห็นท่าทีของเสี่ยวเป่าที่นั่งอยู่ที่พื้น ทันใดนั้นในใจก็รู้สึกเจ็บปวด รีบลุกขึ้นในทันทีโดยไปโดนแผลอย่างไม่ระวัง
จิ้นเฟิงเฉินเห็นอย่างนั้นสีหน้าก็รีบร้อนในทันที “เจ็บแผลใช่ไหม?”
เจียงสื้อสื้อเห็นดวงตาของจิ้นเฟิงเฉินเต็มไปด้วยความเป็นห่วง ก็ส่ายหัว
“ไม่เป็นไร”
หลังจากนั้น ก็กวักมือเรียกเสี่ยวเป่า “เสี่ยวเป่า มาหาหม่ามี๊ตรงนี้”
เสี่ยวเป่าที่กำลังไม่พอใจได้ยินเสียงของเจียงสื้อสื้อ ก็ถือโอกาสปีนขึ้นไป
เจียงสื้อสื้อกอดเขาไว้และถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เสี่ยวเป่าทำไมไม่ร่าเริงแล้ว?”
ในตอนที่เถียนเถียน ได้ยินว่าพี่ชายไม่ร่าเริง ก็รีบร้อนออกมาจากอ้อมกอดของหม่ามี๊เพื่อมองไปทางเสี่ยวเป่า “พี่ชายเป็นอะไร?”