บทที่ 726 กล้าดียังไงฉีดยาให้เธอ
จื่อเฟิง……
สีหน้าของฝู้จิงเหวินเปลี่ยนไปเป็นมืดมนทันที เขาไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว กลับหันหลังและเดินเข้าไปใน
ลิฟต์ ตัวเขาในตอนนี้ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับจื่อเฟิงอีกแล้ว เนื่องจากผู้หญิงคนนั้นอันตรายเกินไป ขณะที่ประตูลิฟต์กำลังจะปิดลงก็มีมือข้างหนึ่งเข้ามาขวางประตูเอาไว้
ไคทลินนาก้าวเข้ามาด้านใน
เดิมทีฝู้จิงเหวินต้องการจะออกไป แต่ ไคทลินนาเมื่อเข้ามากก็กดลิฟต์ทันที เขาจึงไม่อาจทำอะไรได้
ระหว่างที่ลิฟต์กำลังเคลื่อนตัวลงไปนั้น ฝู้จิงเหวินตั้งใจเว้นระยะห่างกับเธออย่างเห็นได้ชัด
อุณหภูมิที่ออกมาจากผู้หญิงคนนี้ทำให้เขารู้สึกไม่สบายเอาเสียเลย
เมื่อพบว่าเขาระมัดระวังตัวเพียงนี้ ไคทลินนาจึงได้หัวเราะแล้วพูดว่า “คุณฝู้เชิญวางใจได้เลยค่ะ พวกเรามีความสัมพันธ์กันแค่ความร่วมมือเท่านั้น จะไม่มีการก้าวข้ามกฎซึ่งกันและกัน และจากความร่วมมือนี้พวกเราชนะทั้ง 2 ทาง”
ฝู้จิงเหวินไม่ได้สนใจเธอ แม้กระทั่งสายตายังไม่แลเหลียว
ไคทลินนาพูดต่อไปว่า “จุดประสงค์ของฉันก็คือการทำลายจิ้นเฟิงเฉิน ส่วนจุดประสงค์ของคุณก็คือการได้เจียงสื้อสื้อไป ดังนั้นจิ้นเฟิงเฉินจึงเป็นศัตรูของพวกเราที่มีร่วมกัน ทำไมพวกเราไม่ร่วมมือกันล่ะคะ และสุดท้ายเราจะได้ในสิ่งที่เราอยากได้?”
เธอเงยหน้ามองดูฝู้จิงเหวิน ชายหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่าในใจของเขานั้นค่อนข้างสับสนและกำลังคิดว่าจะตกลงดีหรือไม่
ไคทลินนายิ้มขึ้นมาเบาๆ ท่าทางของเธอมั่นใจว่าเธอจะชนะ และพูดเป่าหูอยู่ด้านข้างว่า “คุณฝู้คะ คุณจะยังมัวลังเลอะไรอยู่กัน? สิ่งที่คุณกังวลมากที่สุดนั้นก็คือความปลอดภัยของคุณเจียงไม่ใช่หรือ?
เพียงแค่คุณยอมร่วมมือกับพวกเรา ฉันสัญญาว่าจะไม่ให้เธอได้รับบาดเจ็บแม้แต่ปลายเล็บ ส่วนคุณก็จะหมดคู่ต่อสู้อันแข็งแกร่ง เพียงเท่านี้คุณเจียงก็จะหันมามองคนที่ดีกับเธออย่างคุณ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอประโยคนี้ ฝู้จิงเหวินก็กำหมัดแน่น
ตั้งแต่ต้นจนปัจจุบัน เจียงสื้อสื้อไม่เคยเห็นค่าความรู้สึกที่ตนมีต่อเธอเลย นั่นเป็นเพราะว่าในใจเธอมีใครบางคนอยู่
และคนคนนั้นเขาไม่อาจจะแทนที่ได้
เขาเคยคิดว่าจะจัดการกับจิ้นเฟิงเฉิน แต่นั่นเป็นเพราะว่ากำลังของเขาอ่อนแอเกินไปจึงทำให้เขายังไม่เคยลงมือจริงๆสักที
ตอนนี้มีโอกาสดีมายื่นให้ถึงตรงหน้า แน่นอนว่าเขาจะต้องหวั่นไหว
แต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่ และจะไม่ไปเป็นเกราะกำบังของใครแน่
เขากลืนน้ำลายลงคอและกำลังชั่งใจระหว่างผลดีกับผลเสีย
ผ่านไปสักพักเขาก็หลับตาลงและพูดขึ้นว่า “ทำไมคุณถึงรู้สึกว่าถ้าผมร่วมมือกับคุณแล้วจะสามารถเอาชนะจิ้นเฟิงเฉินได้?”
“เพราะว่าพวกเราล้วนมีความคิดอยากจะฆ่าเขา”
ตอนที่ไคทลินนาพูดประโยคนี้ออกมา น้ำเสียงเธอดูอ่อนโยนแต่ใบหน้าของเธอนั้นช่างดุร้าย ดวงตาของเธอนั้นแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น
ฝู้จิงเหวินขมวดคิ้วขึ้นด้วยความงุนงงก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายว่า “คุณเป็นอะไรกับจื่อเฟิง?”
ผู้หญิงคนที่อยู่ตรงหน้าเขานี้ มองไปแล้วช่างอ่อนโยนดุจสายน้ำ แต่ที่จริงในใจและความคิดของเธอช่างร้อนแรงและโหดร้าย
แม้นิสัยจะแตกต่างไปจากจื่อเฟิง แต่วิธีการจัดการของเธอนั้นไม่เป็นรองแน่นอน
ไคทลินนายิ้มแล้วตอบกลับไปว่า “จื่อเฟิงเป็นพี่สาวในนามของฉัน และเป็นเพราะจิ้นเฟิงเฉินจึงทำให้เธอต้องสูญเสียขาไปข้างหนึ่ง ฉันจะต้องแก้แค้นให้กับเธอ คุณฝู้คะ ฉันพูดมาขนาดนี้แล้วฉันเพียงแค่หวังว่าคุณจะยอมทำความร่วมมือกับฉันและเราจะได้สิ่งที่เราอยากได้ ฉันหวังว่าคุณจะนำไปพิจารณา”
ตอนที่เธอกำลังพูดอยู่นั้นมือของเธอก็กำแน่น เล็บของเธอจิกเข้าไปในเนื้อ ดวงตาช่างเศร้าหมอง
ฝู้จิงเหวินได้ยินคำพูดของไคทลินนาเช่นนั้น ก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เขาไม่อาจตัดสินใจได้ว่าคำพูดของผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้เป็นจริงหรือไม่
ดังนั้นตอนนี้เขาไม่อาจจะตอบตกลงไปสุ่มสี่สุ่มห้า ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะขึ้นเรือลำเดียวกับโจรและช่วยยังขายชีวิตตัวเองให้คนอื่นด้วย
ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังสนทนากัน ในที่สุดลิฟต์ก็มาถึงชั้นหนึ่ง
ฝู้จิงเหวินไม่ได้มีปฏิกิริยาใดกับคำพูดของไคทลินนา เขาย่างขาออกไปอย่างรวดเร็ว
เธอรีบวิ่งตามฝู้จิงเหวินออกไปและยืนหยุดอยู่ด้านหน้าเขา พูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนว่า “คุณฝู้คะ ดิฉันหวังว่าคุณจะไม่ปฏิเสธฉัน ถ้าหากพวกเราร่วมมือกันฉันเชื่อว่าคุณจะสามารถมีความเป็นไปได้ที่จะอยู่กับคุณเจียง”
ตัวหมากที่เหมาะสมเช่นนี้แน่นอนว่าไคทลินนาจะไม่ปล่อยไปง่ายๆแน่
หากว่าดึงฝู้จิงเหวินเข้ามาเป็นพรรคพวกได้แล้วละก็ แผนการของพวกเขาจะต้องสำเร็จในเร็ววันแน่นอน
เนื่องจากฝู้จิงเหวินนั้นอยู่ในตระกูลค่อนข้างแข็งแกร่ง อีกทั้งยังมีสมองอันชาญฉลาดและมีความใกล้ชิดกับเจียงสื้อสื้อ
ข้อดีในตัวของเขานั้น เป็นคุณสมบัติที่ค่อนข้างมีพลังในการที่จะช่วยให้เธอกำจัดจิ้นเฟิงเฉินได้
เพียงแต่ว่าฝู้จิงเหวินตั้งใจจะปฏิเสธเธอ แม้ว่าเขาจะชอบเจียงสื้อสื้อมากก็จริงแต่เขาก็ไม่อยากใช้วิธีการตุกติกแบบนี้
“คุณไคท คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกแล้ว ผมจะไม่ทำความร่วมมือกับคุณ”
น้ำเสียงของฝู้จิงเหวินพูดออกมาด้วยความเยือกเย็นและขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างหมดความอดทน
เขาเกลียดที่จะให้คนอื่นมาบังคับทำในสิ่งที่ไม่ชอบ
ตอนนั้นที่เขาทำความร่วมมือกับจื่อเฟิงเพราะเขาคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนั้นจะทำร้ายเจียงสื้อสื้อเสียจนหนัก
เมื่อคิดได้ดังนั้นสีหน้าของฝู้จิงเหวินก็มืดมนลงทันที แววตาที่เขามองดูไคทลินนานั้นก็มืดมนลงเช่นกัน
เมื่อเห็นว่าเธอยังยืนบังอยู่ จึงพูดออกมาอย่างหมดความอดทนว่า “ถอยไป”
แต่ไคทลินนาทำท่าทางคล้ายกับไม่ได้ยิน เธอใช้ดวงตาอันกลมโตคู่นั้นจ้องไปยังฝู้จิงเหวินคล้ายกับกำลังเดาว่าในใจเขาคิดอะไรอยู่
ดังนั้นเธอจึงอธิบายขึ้นว่า “คุณฝู้คะ เชิญคุณวางใจได้ ความร่วมมือของพวกเรานั้นจะไม่ไปทำร้ายคุณเจียงแน่นอน เนื่องจากจุดประสงค์ของพวกเรานั้นคือจิ้นเฟิงเฉิน
และฉันจะไม่ผิดสัญญาเหมือนกับจื่อเฟิง ที่หันกลับมาทำร้ายคุณเจียง เนื่องจากเธอนั้นถูกความรักบังตา แต่ฉันทำเพื่อต้องการแก้แค้น”
“ถอยไป ”
ฝู้จิงเหวินพูดออกมาอีกครั้งราวกับไม่ได้ยินคำพูดของไคทลินนาเมื่อสักครู่
เขาไม่ได้มีความอดทนพอที่จะเสียเวลากับเธอต่อไป น้ำเสียงนั้นจึงได้เพิ่มความเยือกเย็นเข้าไปอีก
ไคทลินนายังคงยืนบังอยู่ข้างหน้าของฝู้จิงเหวินอย่างดื้อรั้น แต่เธอไม่คิดว่าฝู้จิงเหวินจะทิ้งโอกาสนี้ไป
ฝู้จิงเหวินเอามือขึ้นลูบขมับของตัวเองแล้วเดินผ่านเธอออกไป
ในตอนบ่ายวันนี้เขายังมีรายงานสำคัญต้องจัดการ หากไม่ใช่เพราะเถียนเถียนร้องอยากจะมาหาเจียงสื้อสื้อที่โรงพยาบาล เขาคงจะไม่มาที่นี่
แต่ไคทลินนาจะปล่อยโอกาสนี้ไปได้อย่างไรกัน เธอเดินตามเขาออกมา จนกระทั่งหยุดที่ลานจอดรถ สายตาจ้องไปยังฝู้จิงเหวินที่กำลังเปิดประตู
“คุณฝู้ พูดดีๆไม่ได้คุณอยากจะให้เราใช้ไม้แข็งหรือยังไง คุณเป็นห่วงคุณเจียงไม่ใช่เหรอ?”
หลังจากที่เธอพูดประโยคนี้จบ ฝู้จิงเหวินก็หยุดการกระทำของเขาลงชั่วขณะ ใบหน้านั้นไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกใด ได้แต่มองไปทางไคทลินนาด้วยแววตาอันลึกซึ้งแล้วพูดว่า
“ผมขอเตือนคุณนะว่าอย่าคิดจะทำอะไรสื้อสื้อเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นต่อให้ผมสู้จนสุดชีวิตก็จะต้องทำให้คุณตายโดยไม่มีที่จะฝัง ” น้ำเสียงของเขานั้นแสดงถึงความดุดัน ทำให้ใครบางคนต้องหนาว
เมื่อเห็นดังนั้นไคทลินนาก็กลืนน้ำลายลงคอแล้วยิ้มออกมา
เธอใช้สายตาจ้องไปยังดวงตาที่ดุร้ายของฝู้จิงเหวินอย่างไม่เกรงกลัว และพูดออกมาอย่างสบายๆว่า “เพียงแต่ว่า ถ้าตอนนี้คุณปฏิเสธฉันคงจะสายไปแล้ว เนื่องจากวันนี้ฉันฉีดยาฆ่าเชื้อให้กับเจียงสื้อสื้อ ข้างในได้ผสมยาอื่นเข้าไปด้วย……”
เธอยังไม่ทันพูดจบ ฝู้จิงเหวินก็พุ่งตัวเข้ามาและคว้าคอเสื้อของไคทลินนาไว้ เส้นเลือดบนศีรษะแข็งปูดโปน เนื่องมาจากความวิตกกังวล น้ำเสียงของเขาดังขึ้นเล็กน้อยโดยไม่ได้ตั้งใจอีกทั้งยังสั่นคลอน
“คุณใส่อะไรให้เธอ?! ไคทลินนา ผมจะบอกกับคุณเอาไว้นะว่าผมก็เป็นหมอ การที่คุณใส่ยาอย่างอื่นเข้าไปให้เธอ ผมต้องหายาแก้ได้แน่นอน แต่ว่า…… ใครกันนะที่ทำให้คุณกล้าได้ขนาดนี้ ใครอนุญาตให้คุณฉีดยาให้เธอกัน?!”
หน้าอกของเขากระเพื่อมขึ้นลงด้วยความโมโห ดวงตานั้นมีความดุเดือดมากขึ้นราวกับว่าจะกลืนกินไคทลินนาที่อยู่ตรงหน้าของเขาตอนนี้ลงไปทั้งตัว