ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 772 จากไปพร้อมผู้หญิงคนหนึ่ง

บทที่ 772 จากไปพร้อมผู้หญิงคนหนึ่ง

บทที่ 772 จากไปพร้อมผู้หญิงคนหนึ่ง

แต่ข่ายสื้อลินไม่ให้โอกาสนี้กับเขาเลย เธอพ่นมันใส่เขาอีกหลายครั้งอย่างไม่เกรงใจ

เธอไม่คาดคิดว่าจิ้นเฟิงเฉินถูกพ่นยานี้ใส่ ปฏิกิริยายังคงรวดเร็วเช่นนี้ ถึงอย่างไรยาตัวนี้มันก็ประสิทธิภาพมากเลยนะ

หลังจากที่ยานี้เข้าสู่จมูกของจิ้นเฟิงเฉิน ก็เริ่มมีภาพซ้อนปรากฏขึ้นในสายตาของเขา ร่างของเขาโยกไปมา และล้มลงทันที…

ข่ายสื้อลินยืนมือออกไปคว้าเขาไว้ กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของจิ้นเฟิงเฉินก็โชยเข้าจมูกของเธอ

เธอหายใจเข้าลึก ๆ อย่างห้ามตัวเองไม่ได้ เธอรู้สึกชื่นใจอย่างมาก

ร่างกายที่เธอคว้าไว้นั้นมันรู้สึกแข็งแรงอย่างมาก และรู้สึกดีเมื่อมือเธอสัมผัสร่างกายนี้

ข่ายสื้อลินแอบดีใจ เดิมทีเธอคิดว่าแค่แก้แค้นเจียงสื้อสื้อก็เท่านั้น แต่เธอไม่คาดคิดว่าจิ้นเฟิงเฉินจะมีหุ่นที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้

จิ้นเฟิงเฉินหน้ามืด แม้ในขณะนี้ เขายังคงต่อต้านการเข้ามาของคนแปลกหน้า

ทันใดนั้นเขาก็พูดเสียงดุว่า “ออกไป! ”

เขาพยายามลืมตาขึ้นมา แต่ว่ายาเริ่มออกฤทธิ์ เขามองเห็นอะไรไม่ชัดเลย แต่ร่างกายและจิตใจของเขาปฏิเสธกลิ่นนี้โดยสัญชาตญาณ

เสียงของชายคนนี้เหมือนกับยาปลุกเซ็กซ์ซึ่งทำให้ข่ายสื้อลินหลงเขาจนไม่สามารถหลุดออกมาได้

เมื่อจิ้นเฟิงเฉินหมดสติไปแล้ว ข่ายสื้อลินก็โอบเอวของเขาไว้อย่างสนิทสนม

เธอพิงอยู่บนร่างกายของจิ้นเฟิงเฉิน ท่าทางนั้นดูสนิทสนมกันอย่างมาก

คนที่ไม่รู้จักพวกเขา คงคิดว่าพวกเขาเป็นคนรักที่สนิทสนมกัน

จากที่ไม่ห่างไกลมากนั้น ฝู้จิงเหวินเฝ้ามองภาพตรงหน้าอย่างเงียบๆ

เขาเขย่าแก้วไวน์ในมือเบาๆ ไวน์สีน้ำตาลแดงนั้นดูสดใสราวกับสีเลือดสด

เขาละสายตาของจากตรงนั้นอย่างเงียบๆ

ภายในห้องน้ำ

สามนาทีต่อมา เจียงสื้อสื้อจัดการกับคราบครีมนั้นเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังมีคราบน้ำเล็กๆ อยู่ที่หน้าอกของเธอ

แต่ก็ทำได้แค่นี้แหละ เธอไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น และเธอก็ไม่ได้เตรียมชุดสำรองมาด้วย

เธอกลัวว่าจิ้นเฟิงเฉินจะรอนาน จึงดึงกระดาษซับน้ำมาหนึ่งแผ่นแล้วเช็ดหยดน้ำที่มือออก จากนั้นก็ออกมาจากห้องน้ำ

แต่หลังจากมองไปรอบ ๆ ก็ไม่พบจิ้นเฟิงเฉิน

เธอเองก็ไม่ได้เอะใจอะไร อาจจะเพราะจิ้นเฟิงเฉินมีเรื่องด่วนจึงไปก่อนแล้ว

เพราะถึงยังไง ในงานเลี้ยงแบบนี้คงจะมีคนจำนวนมากที่ตามหาเขา

หลังจากนั้นเธอก็จัดกระโปรงเรียบร้อยแล้ว เธอก็ไปตามหาเขาในห้องโถงจัดงาน

ในห้องโถงมีผู้คนพลุกพล่าน แขกจับกลุ่มคุยกันกลุ่มละสองสามคน

เจียงสื้อสื้อเห็นสีหน้าที่ลำบากใจของกู้เนี่ยนที่ถูกเถียนเถียนกอดต้นขาไว้ เขาไม่กล้าใจแรง และไม่กล้าที่จะดุว่าเธอ

สภาพเขาดูหมดหวังที่จะร้องขอความช่วยเหลือแล้ว เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

เมื่อเจอกับคนที่สนิทด้วย เถียนเถียนจะดื้อมาก และเธอก็ซนไม่น้อยไปกว่าเด็กผู้ชายเลย

เจียงสื้อสื้อสงสัยว่าเธอเกิดมาผิดเพศรึเปล่า?

เสี่ยวเป่าอายุมากกว่าเธอ เชื่อฟังกว่าเธอนิดหน่อย แต่เสียดายเขาเป็นคนที่ชอบน้องสาวอย่างมาก

ถึงจะรู้ว่าคุณลุงกู้นั้นลำบากใจอย่างมาก แต่เขาก็เอาแต่ยืนยิ้มแล้วมองดุอยู่ข้างๆ

กู้เนี่ยนช่างน่าสงสารจริงๆ

เจียงสื้อสื้อรู้สึกสงสารกู้เนี่ยนอยู่ในใจ

ไม่รู้ว่าต่อไปเขาจะจำฝังใจรึเปล่า ตอนนี้เขายังไม่แต่งงานนะเนี่ย

เจียงสื้อสื้อกำลังจะไปช่วยเขา และถามเขาด้วยว่าจิ้นเฟิงเฉินไปไหนแล้ว

แต่เมื่อเธอเงยหน้า เธอก็เห็นฝู้จิงเหวินเดินตรงมาทางด้านนี้ เจียงสื้อสื้อจึงก็ต้องหยุดลง

สีหน้าตอนที่ฝู้จิงเหวินเดินเข้ามานั้นดูแปลก เจียงสื้อสื้อไม่ได้สนใจ แต่เพียงแค่ถามเขาว่า “คุณเห็นจิ้นเฟิงเฉินไหมคะ? ”

เมื่อเห็นเจียงสื้อสื้อถามหาจิ้นเฟิงเฉินก่อน ฝู้จิงเหวินก็รู้สึกเซ็ง

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันของจิ้นเฟิงเฉินนั้นทำให้เขาหายเซ็งได้ เขาไม่ได้พูดอะไร แต่แค่ขมวดคิ้ว

เจียงสื้อสื้อรู้สึกผิดปกติ ใจในของเธอมีความรู้สึกแปลกๆ บางอย่างเกิดขึ้น “มีอะไรหรือ? ”

ฝู้จิงเหวินถอนหายใจ เขาจ้องไปที่เจียงสื้อสื้อและกระซิบเบา ๆ ” สื้อสื้อ อย่าถามถึงเขาเลย คุณไม่อยากรับรู้หรอก”

ได้ยินเช่นนี้ เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย

ตนคงไม่อยากรับรู้หรอก หมายความว่ายังไง? หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับจิ้นเฟิงเฉิน?

แต่ด้วยความสามารถของจิ้นเฟิงเฉิน คงไม่มีใครทำอะไรเขาได้มั้ง

แต่สายตาของฝู้จิงเหวินนั้นมัน……

ยิ่งเขาแสดงออกเช่นนี้มากเท่าไหร่ ความสงสัยในใจของเจียงสื้อสื้อก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อเห็นว่าเขาเงียบไม่ตอบ เจียงสื้อสื้อก็เดาเองว่า ” เขาไปแล้วเหรอ? ถ้าอย่างนั้นอาจจะเพราะว่าเขามีงานที่บริษัท อันที่จริงวันนี้เขาสามารถมาที่นี่ได้ก็เพราะเขาพยายามหาเวลาว่างนั่นแหละ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”

เมื่อได้ยินเธอพูดเช่นนี้ ฝู้จิงเหวินก็โกรธอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าเขายังไม่ได้พูดอะไรเลย แต่เจียงสื้อสื้อก็หาข้อแก้ตัวให้จิ้นเฟิงเฉินแล้ว

ได้ ถ้าอย่างนั้นอย่าหาว่าเขาใจร้ายแล้วกัน

“สื้อสื้อ ไม่ใช่อย่างนั้น”

ฝู้จิงเหวินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวด ” จิ้นเฟิงเฉินยังอยู่ที่นี่ แต่ว่า แต่แค่ว่า….”

เจียงสื้อสื้อรอให้ฝู้จิงเหวินพูดต่ออย่างใจจดใจจ่อ

ในใจของเธอนั้นกังวลอย่างมาก มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ถึงทำให้ฝู้จิงเหวินยากที่จะเอ่ยปากพูดเช่นนี้

ต้องรู้ไว้ว่า ฝู้จิงเหวินไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน

หากมีอะไรผิดปกติไป แสดงว่าเรื่องนี้มันไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ยิ่งฝู้จิงเหวินไม่อยากพูดมากเท่าไหร่ เจียงสื้อสื้อก็อยากรู้มากเท่านั้น เธอกระตุ้นให้เขาพูดออกมา

เหมือนว่าฝู้จิงเหวินจะโดนเร่งจนใจร้อย เขากัดฟันและพูดว่า ” ผมพูดออกมาแล้ว คุณอย่าเสียใจนะ”

“ฉันจะเสียใจเรื่องอะไร คุณรีบพูดมาสิ” เจียงสื้อสื้อรู้สึกงุนงงเล็กน้อย

ฝู้จิงเหวินถอนหายใจ และในที่สุดก็พูดว่า ” จิ้นเฟิงเฉินและผู้หญิงคนหนึ่งออกจากห้องโถงจัดเลี้ยงไป ตอนที่พวกเขาเดินออกไปพวกเขากอดกันอยู่”

เขาพูดพร้อมแอบมองสีหน้าของเจียงสื้อสื้อ

เจียงสื้อสื้อตกตะลึงและปฏิเสธสิ่งที่เขาพูดอย่างเด็ดขาด “เป็นไปไม่ได้”

แม้ว่าเธอจะความจำเสื่อม แต่หลังจากที่ได้พูดคุยรู้จักกันในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เธอพบแล้วว่าจิ้นเฟิงเฉินไม่ใช่คนแบบนี้

เขาเป็นผู้ชายที่รักนวลสงวนตัวอย่างมาก ที่หาได้ยากมากในแวดวงนี้

หลังจากครุ่นคิดเรื่องนี้ ฝู้จิงเหวินเป็นศัตรูกับจิ้นเฟิงเฉินมาโดยตลอด เจียงสื้อสื้ออดที่จะสงสัยจุดประสงค์ของคำพูดเหล่านี้ของฝู้จิงเหวิน

เธอขมวดคิ้ว และพูดอย่างโกรธเคือง ” ฝู้จิงเหวิน ฉันหวังว่าคุณจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่คุณพูดออกมา และไม่เอาอารมณ์ส่วนตัวมาปะปนกับเรื่องนี้”

สีหน้าของฝู้จิงเหวินบิดเบี้ยวเล็กน้อย ไม่นานเขาก็กลับมาสงบนิ่งได้

เขาจ้องไปที่ เจียงสื้อสื้อด้วยสายตาที่เหลือเชื่อ และพูดด้วยความหงุดหงิด “คุณสงสัยว่าผมกำลังใส่ร้ายเขาหรือ? ”

เจียงสื้อสื้อเม้มริมฝีปากและไม่ได้พูดอะไร

เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้ปฏิเสธ ฝู้จิงเหวินก็แสดงสีหน้าที่เสียใจออกมา

เขาชี้ไปที่ประตูและพูดว่า: “ผมเห็นมากับตา มันจะเป็นเรื่องหลอกลวงได้อย่างไร? ผมและจิ้นเฟิงเฉินไม่ว่าจะด้านเรื่องงานหรือเรื่องอื่นๆ เราสองคนแข่งขันกันอย่างยุติธรรม

ผมจำเป็นต้องใส่ร้ายเขา ทำให้เขาเสียชื่อไหม? สื้อสื้อ คุณยอมที่จะเชื่อใจเขา แต่ยังไงก็ไม่ยอมเชื่อผมงั้นเหรอ?”

เมื่อตระหนักว่าปฏิกิริยาของตนนั้นไม่ค่อยดี เจียงสื้อสื้อมองไปที่ฝู้จิงเหวินด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิด

“ขอโทษนะ ฉันพูดผิดไปเอง”

แม้จะเป็นเช่นนี้ เธอยังไม่เชื่อว่าจิ้นเฟิงเฉินจะไปกับผู้หญิงคนอื่น

หลังจากสงบสติอารมณ์ ฝู้จิงเหวินก็พูดอีกครั้งว่า ” เมื่อสักครู่คุณเองก็เห็นแล้วว่ามีผู้หญิงหลายคนในห้องโถงจัดเลี้ยงนี้มองไปที่เขา จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้สนใจพวกเขา เพียงเพราะมีคุณอยู่ด้วย”

เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกอึดอัดในใจมากขึ้น

แววตาที่ผู้หญิงเหล่านั้นมองไปที่จิ้นเฟิงเฉินก็แวบเข้ามาในดวงตาของเธอ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เธอรู้สึกเจ็บใจเล็กน้อย

เมื่อเห็นว่าสีหน้าของเจียงสื้อสื้อเปลี่ยนไป ฝู้จิงเหวินก็ใส่สีตีไข่ต่อ “จิ้นเฟิงเฉินก็แค่พูดให้ดูดีก็เท่านั้นแหละ เขาเอาแต่พูดว่าเขาชอบคุณ อันที่จริงเมื่อเขาได้เจอผู้หญิงที่เซ็กซี่กว่า เขาก็ตามคนอื่นไปเหมือนกัน”

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท