ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 792 คุณเป็นของผม

บทที่ 792 คุณเป็นของผม

บทที่ 792 คุณเป็นของผม

ในตอนนี้ไม่รู้ว่ามีเสียงเบาๆจากใครจากที่ไหนลอยผ่านสายลมขึ้น เสียงยิ่งเข้าใกล้ขึ้นเรื่อย จนฟังทุกประโยคได้ชัดเจน

“ครั้งนี้จิ้นเฟิงเฉินพาลูกและภรรยากลับมา โธ่ ไม่มีโอกาสแล้ว”

“เขามีลูกกันแล้ว”

“เรื่องเมื่อสามปีก่อน นึกว่าสามารถครอบครองตำแหน่งอย่างไม่ง่ายดายแล้ว คิดไม่ถึงที่แท้เป็นเพราะเรื่องนั้น”

“ทำไมเขาต้องไปต่างประเทศด้วยหรอ เป็นเพราะในตอนนั้นคนคนนี้เจออีกแล้วหรอ?”

……

เสียงยิ่งใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เจียงสื้อสื้อกำลังยืนอยู่ข้างหลังพุ่มดอกกุหลาบเป็นรูปทรงครึ่งวงกลม

หากคนข้างนอกไม่มองอย่างละเอียดก็จะมองไม่เห็น เธอก้มลงมองเหตุการณ์ข้างในจากซอกพุ่มดอกกุหลาบ

ไม่กี่คนเดินผ่านมา ขณะเดียวกันเสียงของส้นสูงก็ดังชัดเจนด้วย

ถ้าหากออกไปตอนนี้คงต้องเผชิญหน้ากันแน่ แต่ประเด็นที่คนข้างนอกพูดคุยกันเป็นเธอ ซึ่งทำให้คนรู้สึกตกอยู่ในสถานการณ์ตระหนก

และทำอะไรไม่ถูกไม่รู้ว่าควรออกไปหรือควรรอให้พวกเธอจากไปดี

สุดท้ายเธอก็หลบซ่อนตัวข้างหลังมุมพุ่มดอกกุหลาบ

ทันใดนั้นเสียงของผู้หญิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ได้ยินมาว่าดูเหมือนว่าเธอจะสูญเสียความทรงจำนะ?”

คนที่เอ่ยปากคือหญิงสาวที่สวมชุดเดรสคัพเค้กสีขาวคนเมื่อกี้ ซึ่งเจียงสื้อสื้อจำเธอได้

หญิงสาวที่สวมชุดค่อนข้างสวยอีกคนพูดต่อว่า “พวกเธอคงไม่รู้ใช่ไหม ฉันได้ยินมาว่าในตอนนั้นเจียงสื้อสื้อหายตัวไป”

จิ้นเฟิงเฉินตามหาในทะเลท่ามกลางคนตายมากมายหนึ่งเดือนกว่า ทั้งที่ทางตำรวจก็ส่งคนจำนวนมากออกตามหา คิดดูแล้วผู้ชายคนนี้คงหลงรักมาก”

“ใช่แล้ว ในตอนนั้นฉันยังติดตามข่าวบนอินเทอร์เน็ตด้วย ทุกคนต่างเกลี้ยกล่อมให้เขาล้มเลิก ได้ยินจากคนในเหตุการณ์เล่าว่าคุณชายจิ้นมีสีหน้า….มืดครึ้ม และหากใครเกลี้ยกล่อมให้เขาล้มเลิกอีก ครอบครัวของคุณคงถูกโยนทิ้งในทะเลให้ปลากัดกินแน่”

“คุณชายใหญ่ตระกูลจิ้นเป็นคนรักเดียวใจเดียว ส่วนคุณชายรองตระกูลจิ้นเจ้าชู้ น่าเสียดาย ตอนนี้ทั้งสองคนมีเจ้าของแล้ว”

“มีผู้หญิงมากขนาดไหนเพ้อฝันต้องการแต่งงานเข้ามาอยู่ในตระกูลจิ้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนเป็นแค่เรื่องไร้สาระ”

สิ้นสุดเสียง คนหนึ่งในจำนวนนั้นก็ยกมือชี้ไปที่บนปลายจมูกของเธอ และพูดหยอกเล่นว่า “เธอกล้าบอกว่าตัวเองไม่เคยคิดหรอ?”

เจียงสื้อสื้อฟังคนเหล่านั้นพูดคุย จนตัวเองลืมหายใจผ่อนคลาย

ในตอนนี้เธอเพิ่งจะเชื่อว่าตัวเองคือเจียงสื้อสื้อของเขาจริงๆ ไม่มีอะไรผิดพลาด

จินตนาการยากมากว่าผู้ชายที่มีความสามารถแบบนั้นทนรับความเจ็บปวดแบบนี้ได้อย่างไร

ถึงแม้ตอนนี้เธอรู้สึกขอบคุณฝู้จิงเหวินมากที่ช่วยเธอในตอนนั้นไว้ แต่สำหรับฝู้จิงเหวิน เธอเป็นวิธีการตอบบุญคุณของเขาเท่านั้น

ถ้าหากไม่ใช่เพราะจิ้นเฟิงเฉิน เธอคงสูญเสียตัวตนของตัวเองตั้งนานแล้ว

คงไม่มีช่วงเวลามีความสุขแบบนี้ และคงไม่มี….ลูกที่น่ารักแบบนี้ และครอบครัวที่มีความสุขแบบนี้ด้วย

ที่แท้การแสดงความอบอุ่นออกมาของเขาเป็นความรู้สึกภายในใจ

สิ่งที่เธอไม่รู้นั้นคือเขาได้ทุ่มเทเพื่อตัวมากขนาดนี้……

ขณะที่เจียงสื้อสื้อกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น บทสนทนาของคนข้างนอกไม่กี่คนก็ไม่ได้ยินแล้ว ในหัวสมองของเธอตอนนี้มีเพียงร่างเงาของเขา

รอยยิ้มของเขา ความอ่อนโยนของเขา

ทะเลสาบในใจของเธอเหมือนกับถูกทะเลปลุกใจ จนทำให้ผิวน้ำเกิดระลอกคลื่นเป็นวงกว้างกระจายออกไป

ทุกมุมภายในหัวใจเหมือนกันถูกสัมผัสหมด จนในตอนนี้ใจอ่อนแล้ว

“สื้อสื้อ? สื้อสื้อ?”

ตอนที่เธอกำลังลังเลอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงร้องตามหาของจิ้นเฟิงเฉินขึ้น เธอยื่นมือจัดความเรียบร้อยของชุด แล้วเดินออกไปจากอีกสถานที่หนึ่ง

เมื่อเดินมาด้านข้างของจิ้นเฟิงเฉิน เธอก็ตบลงบนแขนของเขา และพูดว่า “เมื่อกี้ฉันรู้สึกง่วงนอนนิดหน่อย จนเกือบไม่ได้ยินเสียงของคุณแล้ว”

เมื่อเห็นสายตาเหนื่อยล้าจากดวงตาของเจียงสื้อสื้อ จิ้นเฟิงเฉินก็รู้สึกเอ็นดูขึ้น

เขายื่นมือลูบหัวของสื้อสื้อ และพูดอย่างใส่ใจว่า “งานเลี้ยงใกล้เสร็จแล้ว ไม่นานคงสามารถพักผ่อนได้แล้ว คุณรอผมไปส่งแขกเป็นเพื่อนพ่อกับแม่ก่อนนะ เดี๋ยวผมมาอยู่เป็นเพื่อนคุณ”

“เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อนคุณดีกว่า”

ขณะที่พูด เจียงสื้อสื้อก็ยกมือโอบแขนของจิ้นเฟิงเฉินไว้

วินาทีที่สัมผัส ทำให้จิ้นเฟิงเฉินร่างกายแข็งทื่อทันที และจ้องมองเจียงสื้อสื้ออย่างไม่อยากจะเชื่อ

เจียงสื้อสื้อสัมผัสถึงคำถามในสายตาของเขาได้ เลยยิ้มหวานใส่เขา และรีบพูดว่า “รีบไปกันเถอะ อย่าให้แขกรอนานสิ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ จิ้นเฟิงเฉินก็จับมืออ่อนนุ่มของเธอ แล้วเดินไปหน้าประตูด้วยสีหน้าอิ่มเอิบ

เมื่อคนของตระกูลจิ้นที่อยู่ข้างนอกเห็นภาพนี้ก็จ้องมองจิ้นเฟิงเฉินด้วยสีหน้าทั้งตกใจและสงสัย

จิ้นเฟิงเฉินส่งสายตาบอกเป็นนัยต่อพวกเขา พร้อมกับเดินพาสื้อสื้อไปข้างหน้าส่งแขก

ครึ่งชั่วโมงต่อมาก็ส่งแขกคนสุดท้ายเสร็จ ในที่สุดก็จบงานเลี้ยงในวันนี้สักที

เสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนง่วงนอนไม่ไหวตั้งนานแล้ว ตอนนี้กำลังนอนหลับสนิทบนบ่าของแม่จิ้นและพ่อจิ้น

จิ้นเฟิงเหราอุ้มส้งหวั่นชีงกลับห้องอย่างระมัดระวัง

ห้องโถงขนาดใหญ่ ชั่วพริบตาเหลือเพียงเจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉินเพียงสองคน

บรรยากาศตกอยู่ในสภาวะเงียบสงบ มือที่ทั้งสองคนจูงกันเริ่มออกเหงื่อเล็กน้อยแล้ว แต่จิ้นเฟิงเฉินยังคงกุมมือเธออย่างแน่นไม่ปล่อยมือ

ไม่นานจิ้นเฟิงเฉินก็เอ่ยปากพูดว่า “วันนี้เหนื่อยไหม?”

เมื่อได้ยินแบบนี้เจียงสื้อสื้อก็ส่ายหน้าเล็กน้อย “ไม่เหนื่อยค่ะ สนุกดีค่ะ และยังได้ยินเรื่องมากมายด้วย”

เมื่อนึกถึงเนื้อหาที่ได้ยินทั้งหมดของวันนี้ เจียงสื้อสื้อก็ดึงมือกลับมา และจ้องมองผู้ชายเบื้องหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง

“รอคอยคนที่ไม่สามารถกลับมาได้ ไม่เหนื่อยหรอก?”

เมื่อเห็นสายตาจริงจังของเธอ จิ้นเฟิงเฉินก็นิ่งอึ้งทันที

แต่ไม่นานก็ดึงสติกลับมาและรู้ว่าเธอหมายถึงอะไร จากนั้นก็ยิ้มจางๆขึ้น

“เหนื่อย แต่ก็คุ้มค่า ไม่ใช่ว่าคุณกลับมาแล้วหรอ? ขอเพียงสามารถตามหาคุณเจอ ต่อให้ต้องแลกกับชีวิตของผม ผมก็ไม่เสียดายหรอก”

ผู้ชายพูดด้วยเสียงดังกังวานและมั่นใจ จากนั้นวิสัยทัศน์เบื้องหน้าของเจียงสื้อสื้อก็มีน้ำปรากฏขึ้น ขณะเดียวกันน้ำตาร้อนอุ่นก็ไหลออกมา

จิ้นเฟิงเฉินยื่นมือเช็ดน้ำตาให้กับเธอด้วยความเอ็นดู แล้วจูบบนหน้าผากของเธอ จากนั้นก็จ้องมองเจียงสื้อสื้ออย่างลึกซึ้ง “ต่อไปผมจะไม่ทำให้คุณร้องไห้อีกแล้ว ผมจะปกป้องคุณตลอดชีวิต เพราะคุณเป็นของผม ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น คุณก็เป็นของผม”

“สื้อสื้อ ผมรักคุณ”

สิ้นสุดเสียง ผู้ชายก็จูบลงบนริมฝีปากของเจียงสื้อสื้อ

ดวงตาของเธอเหมือนกับกวางน้อยที่ตกใจ ขณะเดียวก็กะพริบตาอย่างไม่หยุด

จิ้นเฟิงเฉินสังเกตเห็นว่าขนปุยบนแก้มของเธอ

เขาอดทนเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ชื่นชมริมฝีปากของเธอ เหมือนกับเป็นงานศิลปะที่สมบูรณ์แบบชั้นหนึ่ง

ครั้งนี้เจียงสื้อสื้อไม่ได้ปฏิเสธ แต่ยกมือโอบคอของจิ้นเฟิงเฉิน

ขณะที่เขากำลังจูบนั้น เธอก็พบที่พักพิง และพบความรู้สึกสบายใจที่ตามหามาเนิ่นนาน

เมื่อรู้สึกได้ถึงปฏิกิริยาตอบสนองของเธอ จิ้นเฟิงเฉินก็จับหลังหัวของเจียงสื้อสื้ออย่างแน่น พร้อมกับจูบอย่างดื่มด่ำมากขึ้น

ทันใดนั้น ในหัวสมองของเจียงสื้อสื้อก็ปรากฏภาพหนึ่งขึ้นมา

ครั้งนี้ไม่ใช่ภาพเลือนรางแล้ว เธอเห็นจิ้นเฟิงเฉินเคยกอดเธอ และจูบเธออย่างอ่อนโยนแบบนี้

ผู้ชายที่อยู่ในความทรงจำของเธอนั้นกับคนที่อยู่เบื้องหน้าเหมือนกัน ทำให้เจียงสื้อสื้อรู้สึกมึนงงชั่วพริบตา

ดูเหมือนว่าเธอแยกแยะความจริงกับความทรงจำไม่ออกแล้วว่าตกลงอันไหนคือเขากันแน่?

เมื่อเห็นสายตามึนงงในดวงตาและขนตาที่กะพริบของเธอ จิ้นเฟิงเฉินก็โอบเอวของเธออย่างแน่น ทำให้ทั้งสองคนอยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท