ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 799 คุณยังคงทำให้คนดูถูก

บทที่ 799 คุณยังคงทำให้คนดูถูก

บทที่ 799 คุณยังคงทำให้คนดูถูก

เมื่อจิ้นเฟิงเฉินเห็นเขายังแสร้งเป็นโง่เขลาถึงขั้นนี้ก็ตัดสินใจเดินเข้ามา แล้วจับคอเสื้อของฝู้จิงเหวินไว้ พร้อมดึงเขาออกมา

แล้วออกแรงดันแขนจนฝู้จิงเหวินติดอยู่กับตู้เสื้อผ้า จากนั้นก็กัดฟันพูดเหมือนกับจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆออกมา “ตกลงนายวางยาอะไรให้กับสื้อสื้อ จนทำให้เธอหมดสติไม่ฟื้นขึ้นมาอีก!”

“เธอเป็นอะไรหรอ?ตอนเธอทานข้าวกับฉันเมื่อคืนยังดีๆอยู่เลย!”

เมื่อฝู้จิงเหวินได้ยินแบบนี้ก็ตื่นตระหนกทันที

เมื่อเห็นเขายังไม่ยอมรับ จิ้นเฟิงเฉินก็โมโหจนหัวเราะออกมา “ได้ ยังแสร้งทำเป็นไม่รู้กับฉันอีกใช่ไหม? ตอนนี้เธอนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้ นายคิดเอาเองละกันว่าเมื่อคืนนายทำเรื่องอะไรไว้บ้าง!”

ฝู้จิงเหวินฟังอย่างนิ่งเงียบ ขณะเดียวกันก็เหม่อลอยเล็กน้อย

เมื่อคืน…..เมื่อคืนเขาให้สื้อสื้อกินยาถอนพิษ

“นายหมั่นไส้ที่เธอมีชีวิตยืนนานใช่ไหม ในร่างกายของเธอไม่ปกติตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว และสามารถเกิดเหตุอันตรายต่อชีวิตได้ทุกเวลา นายไม่รู้หรอ?”

ในตอนนี้จิ้นเฟิงเฉินพูดตะคอกจนเสียงแหบแล้ว และเสียงที่เปล่งออกมาจากลำคอก็คำรามเหมือนกับสัตว์ป่าดุร้าย

หลังจากที่เขาซักถามเสร็จ บรรยากาศภายในห้องทำงานก็ตกอยู่ในสภาวะนิ่งเงียบดั่งความตาย

ทันใดนั้นประตูห้องทำงานก็มีคนเคาะดังขึ้น และมีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นด้วย

“ประธานฝู้? คุณโอเคไหม?”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ฝู้จิงเหวินก็กระแอมเล็กน้อย แล้วตอบว่า “ไม่มีอะไรหรอก คุณไม่ต้องเข้ามาหรอก”

ภายในห้องทำงานที่กว้างใหญ่ ผู้ชายสองคนยืนเผชิญหน้ากัน เหมือนกับกำลังคุมเชิงสงครามอย่างไร้เสียง ซึ่งบรรยากาศน่าหวาดเสียวมาก

จิ้นเฟิงเฉินหายใจอย่างแปรปรวน ขณะเดียวกันดวงตาแดงเลือดก็จ้องมองฝู้จิงเหวินอย่างไม่คาดสายตาด้วย

เมื่อสงบนิ่งสักพัก เขาก็ค่อยๆใจเย็นลง “ยาถอนพิษ”

“อะไรหรอ?” ฝู้จิงเหวินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

“ยาถอนพิษไง! อย่าบอกฉันนะว่านายวางยาเธอ แต่ไม่มียาถอนพิษ!”

ขณะที่จิ้นเฟิงเฉินพูดก็ยกกำหมัดขึ้นอีกครั้ง ฝู้จิงเหวินรีบยกแขนขึ้นมาบังทันที “จิ้นเฟิงเฉิน นายใจเย็นก่อน!”

จิ้นเฟิงเฉินจ้องมองเขาสักพัก จากนั้นก็หัวเราะขึ้น แล้วเหลือบมองฝู้จิงเหวินอย่างดูถูกขึ้น

“นายคงไม่คิดว่า หลังจากที่สื้อสื้อถูกนายช่วยเหลือ เธอจะกลายเป็นของนายหรอกใช่ไหม? ฉันขอบอกนายว่าตอนนี้เธอแค่สูญเสียความจริงจำเท่านั้นเอง ไม่มีทางรักนายหรอก! หัวใจของเธออยู่ที่ฉันหมดแล้ว!”

ฝู้จิงเหวินเผยสีหน้ามืดครึ้มทันที จนแทบไม่ต้องพรรณนาอย่างน่าเกลียดแล้ว

แน่นอนว่า ในท่ามกลางสงครามความรักครั้งนี้ ไม่ว่าเขาจะยอมรับหรือเปล่า เขาคงแพ้อย่างราบคาบ

“จิ้นเฟิงเฉิน นายก็อย่าลำพองใจมากเกินไป…..”

ไม่รอเขาพูดจบ จิ้นเฟิงเฉินก็พูดแทรกขึ้นมาว่า “ถ้าหากนายยังมีเมตตาสักนิด ช่วยเอายาถอนพิษให้ฉันด้วย”

ฝู้จิงเหวินมีน้ำเสียงเย็นชา “ฉันบอกแล้วว่า อย่าบีบบังคับให้คนอื่นลำบาก ฉันไม่ได้ทำร้ายเธอ และไม่รู้ยาถอนพิษอะไรด้วย”

แต่ทว่าจิ้นเฟิงเฉินแทบไม่เชื่อในคำพูดของฝู้จิงเหวินเลย แต่คิดว่าเขากำลังหาข้ออ้างให้กับตัวเองอยู่

“ยอมรับในความผิดพลาดของตัวเองยากขนาดนั้นเลยหรอ? ฝู้จิงเหวิน อย่าทำให้ฉันต้องดูถูกนายเลย ถ้าหากสื้อสื้อเป็นอะไรไปเพราะนาย ฉันจะไม่มีวันปล่อยนายเด็ดขาด”

ฝู้จิงเหวินที่ถูกจิ้นเฟินเฉินเหยียดหยามถึงขนาดนี้ก็เผยสีหน้าหม่นหมองขึ้น

“ฉันขอพูดอีกครั้งว่า สื้อสื้อต้องมานอนบนเตียงผู้ป่วย ฉันเองก็รู้สึกเสียใจเหมือนกัน แต่อย่างน้อยนายควรใจเย็นไว้ และหยุดใส่ร้ายป้ายสีอย่างไม่มีเหตุผลได้แล้ว ฉันบอกเลยนะว่านายกำลังใส่ร้ายป้ายสีอยู่!”

จิ้นเฟิงเฉินหัวเราะประชดขึ้น แล้วเดินไปที่ประตู “ฝู้จิงเหวิน นายยังคงทำตัวให้คนดูถูกจริงๆ”

ก่อนจากไป จิ้นเฟิงเฉินเตือนว่า “อย่าให้ฉันเห็นนายเข้าใกล้เธออีก ไม่เช่นนั้นหากเธอเกิดอันตรายอีก ฉันจะฝังศพนาย ฉันพูดจริงทำจริง”

จากนั้นประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออก แล้วถูกเขวี้ยงปิดอย่างแรง

ฝู้จิงเหวินขยับลำคอเล็กน้อย แล้วบ่นด่าประโยคหนึ่ง

จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่องหน้าของตัวเอง แล้วเห็นเป็นรอยเขียวช้ำ ทันใดนั้นก็รู้สึกโมโหเดือดดาลขึ้นมาทันที

แต่เมื่อกลับมาคิดอีกครั้ง นึกถึงสื้อสื้อที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยเป็นตายร้ายดียังไงยังไม่รู้ ฝู้จิงเหวินก็เป็นกังวลที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย

ทุกอย่างนี้เขาเป็นคนก่อ ตอนนี้สิ่งที่เขาสามารถทำได้ยังทำได้ไม่ดีเท่าจิ้นเฟิงเฉินเลย……

หลังจากจัดเตรียมของขวัญ ฝู้จิงเหวินก็เดินออกไปด้วยสีหน้ามืดครึ้มอันน่ากลัว

เมื่อรู้ว่าเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับข่ายสื้อลิน ฝู้จิงเหวินมาที่ทำงานของข่ายสื้อลินโดยตรง ก่อนเดินเข้าไปก็หาหน้ากากมาสวมใส่ไว้

ข่ายสื้อลินกำลังทำงานอยู่ แต่จู่ๆก็มีถูกกำลังแรงหนึ่งดึงไปทางเดินฉุกเฉินอย่างไม่ทันป้องกันตัว

“ใคร….คุณคิดจะทำอะไร?”

เมื่อข่ายสื้อลินรับรู้ได้ว่าเป็นผู้ชายก็เกือบจะกรีดร้องออกมา แต่เมื่อเห็นเป็นฝู้จิงเหวินก็ดึงสติกลับมาชั่วพริบตา

“มีเรื่องอยากคุยกับคุณ คุณไปจัดการเรื่องของคุณให้เสร็จ อีกสิบนาทีเจอกันที่ดาดฟ้า

ฝู้จิงเหวินพูดจบก็เดินจากไปทันที

ข่ายสื้อลินกวาดตามองรอบบริเวณ หลังจากสังเกตไม่มีคนเห็นก็เอาสมุดบันทึกมอบให้กับผู้ช่วย จากนั้นก็หันหลังเดินไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อ

เมื่อมองเห็นร่างเงาที่อยู่บนดาดฟ้า ข่ายสื้อลินก็ยิ้มและพูดว่า “มาหาฉันกะทันหันแบบนี้? หรือว่ามีข่าวดีอะไรหรอ?”

บนดาดฟ้าลมค่อนข้างแรง ฝู้จิงเหวินหันหลัง แล้วถอดหน้ากากใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ

เมื่อข่ายสื้อลินเห็นบาดแผลตรงแก้มของเขาก็อดใจหัวเราะไม่ได้

“หรือว่าที่คุณเรียกฉันมาเพื่อดูลายแมวบนใบหน้าของคุณหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า…..”

ฝู้จิงเหวินเดินเข้ามาด้วยสีหน้ามืดครึ้ม แล้วจ้องมองเธอด้วยสายตาไร้ความอดทน “หัวเราะพอหรือยัง?”

“คงไม่ใช่จิ้นเฟิงเฉินเป็นคนทำใช่ไหม? ฝู้จิงเหวิน นายนี่ไม่ประมาณความสามารถของตัวเองจริงๆ ทุกครั้งที่ยั่วโมโหจิ้นเฟิงเฉิน นายเคยชนะสักครั้งไหม?”

ใบหน้าที่แต่งหน้าอย่างประณีตของข่ายสื้อลินจ้องมองมองฝู้จิงเหวินด้วยสายตาประชดประชันขึ้น

ฝู้จิงเหวินที่เดิมทีมีอารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำพูดประชดประชันของเธอ เขาก็โมโหเดือดดาลขึ้น “หุบปาก ฉันขอถามเธอหน่อย ยาที่เธอให้ฉันครั้งก่อน ตกลงเป็นนาอะไรกันแน่?”

ข่ายสื้อลินเดินไปตากลมด้านข้าง เมื่อได้ยินคำถามของเขาก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก “คุณเป็นคนมีพรสวรรค์ด้านการแพทย์กลับไม่รู้ แต่มาถามพยาบาลที่ต่ำต้อยอย่างฉันหรอ? ตลกหมดแล้ว”

ฝู้จิงเหวินแค่นเสียงหัวเราะประชดออกมา “ฉันไม่เคยวิจัยยาที่ทำอันตรายต่อคนมาก่อน ไม่เหมือนพวกคุณหรอก ที่ผลิตและวิจัยยาที่เป็นอันตรายต่อคน!”

“รักษาโรคช่วยเหลือคนหรอ? ฝู้จิงเหวิน นี่เป็นคำพูดตลกที่ตลกที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้ยินมาเลย นับตั้งแต่รู้จักกันมาจนถึงตอนนี้ คุณทำร้ายสื้อสื้อกี่ครั้งแล้ว?”

ข่ายสื้อลินยังไม่ยังโอเค แต่เมื่อเธอพูดถึงสื้อสื้อ ฝู้จิงเหวินก็เริ่มโกรธเคืองอย่างห้ามไม่หยุดขึ้น

“เธอยังกล้าพูดถึงสื้อสื้ออีกหรอ! เธอรู้ไหมว่าตอนนี้สื้อสื้อเป็นยังไงบ้าง?”

เส้นเลือดเขียวบนหน้าผากของฝู้จิงเหวินจะแตกระเบิดแล้ว “เธอหมดสติตั้งแต่เมื่อคืนถึงตอนนี้! ไม่รู้เรื่องอะไรเลย!”

“ห่ะ? นั่นไม่ใช่ยาถอนพิษหรอ?” ข่ายสื้อลินเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

ฝู้จิงเหวินเผยสีหน้าพิฆาตขึ้น ข่ายสื้อลินรู้ว่าเขากำลังโกรธเคือง เลยเดินถอยหลังสองก้าวรักษาระยะห่างปลอดภัย

“คนที่วางยาให้กับสื้อสื้อเมื่อก่อนคือคุณ ตอนนี้คนที่ทำให้เธอนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยก็คือคุณ แต่เธอกลับบอกกับฉันว่าไม่รู้อย่างนั้นหรอ?”

ฝู้จิงเหวินกัดฟันอย่างแน่นด้วยความโกรธเคือง แล้วพูดว่า “ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่า เป็นสงครามระหว่างฉันกับจิ้นเฟิงเฉิน เธอไม่เกี่ยวข้อง! เอายาถอนพิษออกมา!”

เมื่อเห็นข่ายสื้อลินแสร้งเป็นไม่รู้เรื่อง ฝู้จิงเหวินก็รีบยื่นมือจับหลังคอของข่ายสื้อลินอย่างรวดเร็ว พร้อมกับบีบคอของเธออย่างแน่น

เมื่อเห็นผู้หญิงที่อยู่ในมือหายใจเร็วถี่ เหมือนกับปลาที่ขาดน้ำกำลังตะเกียกตะกาย ฝู้จิงเหวินก็รู้สึกสะใจข้างในใจเล็กน้อย

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท