ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 808 จะพยายามช่วยคุณหาคนให้เจอโดยเร็วสุด

บทที่ 808 จะพยายามช่วยคุณหาคนให้เจอโดยเร็วสุด

บทที่ 808 จะพยายามช่วยคุณหาคนให้เจอโดยเร็วสุด

มองดูภายในบ้านที่ไม่มีทางหนีไปได้ ในใจเจียงสื้อสื้อก็กระวนกระวายขึ้นมาทันที

เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่า ฝู้จิงเหวินจะทำเรื่องแบบนี้กับเธอได้

กักขัง……………

เขาช่างกล้าทำทุกเรื่องจริงๆ

เจียงสื้อสื้อนั่งอยู่บนพรมปูพื้น กอดเข่าไว้แน่นๆ เพื่อจะได้ให้ตัวเองรู้สึกอบอุ่นบ้างเล็กน้อย

ภาพของจิ้นเฟิงเฉิน วิ่งเข้ามาในหัวสมองเธอทันที เธออดไม่ได้ที่จะหวังว่าจิ้นเฟิงเฉินจะหาตัวเองเจอในเร็วๆนี้

เจียงสื้อสื้อในสภาพสะลึมสะลือพิงข้างเตียงหลับไป

ด้านจิ้นเฟิงเฉิน กำลังจ้องมองจุดสีแดงกะพริบบนจอแสดงผลตรงหน้าเขาอย่างขะมักเขม้น

จุดสีแดงนี้ก็คือตำแหน่งที่ฝู้จิงเหวินเคยอยู่มาก่อน

ลูกน้องของจิ้นเฟิงเฉิน ติดตามได้เบาะแสของฝู้จิงเหวินหลังจากถึงอิตาลีมาแล้ว แต่สิ่งที่น่าผิดหวังก็คือ ลูกน้องติดตามได้แค่ครึ่งทาง ก็หาเบาะแสของฝู้จิงเหวินไม่เจออีกเลย

เห็นได้ชัดว่า เมื่อฝู้จิงเหวินเข้ามาในอิตาลีแล้ว มีคนคอยช่วยเหลือเช็กคราบให้เขา

มองดูหน้าจอที่ดำมืด จิ้นเฟิงเฉินก็สะบกด่าพึมพำ

กว่าจะได้เบาะแสมาไม่ใช่เรื่องง่ายให้มันขาดหายไปแบบนี้

หากอยากหาตำแหน่งเจียงสื้อสื้อให้เจออีก เกรงว่าจะต้องใช้เวลาอย่างมาก

เขาไม่มีเวลามากมายขนาดนั้นมาสูญเสียแล้ว ทันทีที่คิดว่าสื้อสื้อไม่รู้อยู่ที่ไหน ฝู้จิงเหวินจะทำร้ายเธออีกหรือไม่

หัวใจจิ้นเฟิงเฉินก็เจ็บเหมือนถูกมือไร้เงาบีบจับไว้แน่นๆ เจ็บปวดสุดจะพรรณนา

เขายื่นมือนวดขมับที่ปวดตุ๊บตุ๊บ แล้วสั่งกู้เนี่ยนว่า “ขยายขอบเขตให้กว้างขึ้น เวลาอันสั้นเช่นนี้ ฝู้จิงเหวินไม่มีทางจะพาสื้อสื้อหนีไปได้ไกลมาก”

“ครับ คุณชาย”

เมื่อกู้เนี่ยนรับคำสั่งแล้วก็เดินออกไป

หลังจากกู้เนี่ยนไปแล้ว เสียงเคาะประตูห้องจิ้นเฟิงเฉินดังขึ้น “ลูกพี่ มีคนมาหา”

“ใครหรือ” จิ้นเฟิงเฉินถามอย่างหงุดหงิด

เมื่อลูกน้องได้ยินเช่นนั้นก็ผลักประตูเข้ามา ยื่นสิ่งของสิ่งหนึ่งให้กับจิ้นเฟิงเฉิน

เมื่อเห็นตัวหนังสือ ฆ่า บนสิ่งนั้น จิ้นเฟิงก็รู้แล้วว่าเป็นใคร ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เชิญเธอเข้ามา”

ผู้หญิงต่างชาติที่แต่งตัวดูมีเสน่ห์คนหนึ่ง เดินเข้ามาด้วยท่าทางพลิ้วไหว

ชุดกระโปรงเอี๊ยมสีแดงเผยให้เห็นสัดส่วนสมส่วนของหญิงสาว บนใบหน้าก็แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอย่างสวยงาม

ทันทีที่เห็นจิ้นเฟิงเฉิน สายตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที

“จิ้น ไม่คิดว่าจะเป็นคุณจริงๆ”

หญิงสาวพูดไปพร้อมกับตรงเข้ามาหาจิ้นเฟิงเฉิน อยากจะโอบกอดจิ้นเฟิงเฉิน เมื่อจิ้นเฟิงเฉินเห็นท่าทีของเธอ จึงหันหลังหลบไป

เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ“คุณมาทำอะไร อย่ามาทำมือเท้ารุ่มร่าม ”

หญิงสาวกล่าวอย่างไม่พอใจเล็กน้อย “จิ้น คุณยังคงไม่เข้าใจขนมธรรมเนียมประเพณีเหมือนเดิม”

อย่างไรก็ตาม หญิงสาวก็ไม่ใช่คนเจ้าขี้อ้อน เก็บอาการอย่างรวดเร็วทันที แล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า “ฉันมาเยี่ยมเพื่อนเก่าทางนี้ ได้ยินว่าคุณมาแล้ว ก็เลยแวะมาดู ทำไมหรือ ไม่คิดจะเชิญฉันกินข้าวสักมื้อหรือ

ได้ยินเช่นนั้น จิ้นเฟิงเฉินนั่งลงบนเก้าอี้ทำงาน กล่าวอย่างไม่เงยหน้าว่า “ตอนนี้ผมไม่มีเวลามาเทคแคร์คุณ หากไม่มีธุระอะไรก็เชิญออกไป ”

ชินกับอารมณ์ของจิ้นเฟิงเฉินแล้ว หญิงสาวไม่โกรธกลับยิ้ม

“ เพิ่งจะมา อย่าเพิ่งชวนทำสงครามดิ เมื่อตะกี้ฉันเห็นกู้เนี่ยนออกประตูไปอย่างเร่งรีบ พบเจอปัญหาอะไรที่ยุ่งยากหรือเปล่า”

หญิงสาวพูดไปพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้จิ้นเฟิงเฉิน สองมือยันโต๊ะทำงานไว้ มองจิ้นเฟิงเฉินอย่างสนใจแล้วพูด “ต้องการความช่วยเหลือไหม ที่อิตาลีนี่ ยังไม่มีเรื่องอะไรที่ฉัน ชีซาทำไม่ได้”

น้ำเสียงชีซาเย่อหยิ่ง แต่เธอก็มีทุนเพียงพอที่จะเย่อหยิ่งได้

อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงคนหนึ่งสามารถควบคุมสำนัก สำนักอู๋ซางทั้งหมดได้ สิ่งที่ต้องมีไม่เพียงแค่ความงามเท่านั้น

สิ้นเสียงชีซา จิ้นเฟิงเฉินก็ตกอยู่ในภวังค์ครุ่นคิด

ในทีแรกเขาอยากจะปฏิเสธชีซาไป แต่พอคิดไปคิดมา ที่อิตาลี อำนาจของตัวเองไม่เท่าเธอจริงๆ

บวกกับสำนักอู๋ซางในมือเธอ เป็นองค์กรรวบรวมข่าวกรองระดับโลก หากสามารถได้รับความช่วยเหลือจากเธอ มันจะเป็นประโยชน์ต่อการค้นหาเบาะแสของสื้อสื้ออย่างแน่นอน

แต่ว่า ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นตัวปัญหาอยู่แล้ว ……….

เห็นเขาไม่พูด ชีซาก็ไม่รีบถามต่อ เดินไปยืนอยู่ตรงหน้าต่าง มองดูทิวทัศน์ข้างนอก

ฮัมเพลงเบาๆอย่างคนอารมณ์ดี

ร้องเพลงไป พร้อมกับเต้นไปช้าๆราวกับว่าอยู่ในโลกของตัวเอง

ผ่านไปเนิ่นนาน จิ้นเฟิงเฉินจึงกล่าว“ ผมต้องการให้คุณช่วยผมตามหาคนคนหนึ่ง”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ท่าทางชีซาหยุดชะงัก ถามอย่างไม่เชื่อว่า “ไม่คิดว่าบนโลกใบนี้ยังมีคนที่จิ้นเฟิงเฉินหาไม่เจอ ลองพูดมาซิ คือใคร ”

จิ้นเฟิงเฉินมองดูรูปถ่ายบนจอโทรศัพท์ กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ภรรยาของผม เธอถูกคนจับมาที่อิตาลี”

หลังจากได้ยินคำพูดของเขาแล้ว เห็นได้ชัดว่าชีซาตะลึงงันไป กล่าวอย่างแปลกใจ “คุณแต่งงานแล้วจริงๆหรือ ฉันยังคิดว่าข่าวลือพวกนั้นเป็นเท็จ เมื่อถึงเวลา ฉันต้องเห็นผู้หญิงที่ทำให้ท่านประธานจิ้นของเราจะเป็นจะตายให้ได้ ”

จิ้นเฟิงเฉินขี้เกียจพูดพร่ำกับเธอ กล่าวอย่างเข้มขรึมว่า “คุณจะช่วยหรือไม่ช่วย”

“ช่วยซิ ต้องช่วยซิ แต่ว่า เมื่อถึงเวลานั้นคุณต้องเลี้ยงข้าวฉันสักมื้อนะ ” ชีซากล่าวด้วยรอยยิ้ม

ทันใดนั้น จิ้นเฟิงเฉินก็พับคอมพิวเตอร์ตรงหน้าลง สีหน้าจริงจัง

“ตอนนี้ผมไม่มีกะจิตกะใจจะมาพูดเล่นกับคุณ ภรรยาผมอาจจะถูกคนสำนักหมิงหยานจับไป เวลาคอขาดบาดตายเช่นนี้ หากสามารถหาคนได้เจอ เมื่อถึงเวลาจะขอบคุณอย่างงาม”

ขณะกำลังพูดประโยคนี้ นัยน์ตาจิ้นเฟิงเฉินเต็มไปด้วยความอาฆาตและกระหายเลือด

เมื่อชีซาเห็นเช่นนั้น ย่อมรู้ดีว่าผู้หญิงคนนั้นสำคัญกับเขามากแค่ไหน

เก็บอาการเล่นสนุกขึ้นมาทันที แล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า “สำนักหมิงหยานหรือ นี่ไม่ใช่องค์กรที่จะจัดการได้ง่ายๆนะ ภรรยาคุณเป็นใครกันแน่ ยังไปหาเรื่องคนของสำนักหมิงหยานได้ แล้วยังทำให้พวกเขาออกมาร่วมสนุกด้วยเช่นนี้”

จิ้นเฟิงเฉินไม่ตอบคำถามของชีซา แต่ตัดบทกล่าวว่า “ ภรรยาผมเจียงสื้อสื้อถึงอิตาลีเมื่อคืนนี้ ข้างกายยังมีชายคนหนึ่งชือฝู้จิงเหวิน”

เมื่อชีซาจดชื่อไว้แล้ว กล่าวรับรองว่า “ให้เป็นหน้าที่ฉันเถอะ ฉันจะพยายามช่วยคุณหาคนให้เจออย่างเร็วที่สุด”

เมื่อเธอรับคำแล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็กล่าวประโยคที่ไม่ค่อยกล่าวออกมาว่า“ ขอบคุณคุณมาก ชีซา”

ชีซามองไปที่จิ้นเฟิงเฉินอย่างประหลาดใจ และพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่คิดว่าวันหนึ่งฉันยังได้ยินคำขอบคุณจากปากของเจ้าสำนักชูร่า ช่างเป็นเรื่องสดใหม่ ความช่วยเหลือครั้งนี้ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว”

พูดไป เธอก็จากไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ

จิ้นเฟิงเฉินก็จ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ใหม่ นิ้วมือจิ้มไปบนคีย์บอร์ดอย่างไม่หยุดยั้ง

ขณะเดียวกัน มือถือจิ้นเฟิงเฉินดังขึ้น ข้างบนโชว์เบอร์จิ้นเฟิงเหรา

พอรับสายขึ้นมา เสียงห่วงใยของจิ้นเฟิงเหราก็ส่งมา “พี่ หาซ้อเจอหรือยัง ”

“ยัง”

น้ำเสียงจิ้นเฟิงเฉินหม่นหมองมาก จิ้นเฟิงเหรารับรู้ได้ว่าสิ่งต่างๆดำเนินไปไม่ราบรื่นอย่างแน่นอน

“ โครงการทางฝรั่งเศสผมได้ถ่ายโอนไปทางจีนแล้ว วิธีนี้จะช่วยลดปัญหาลงได้ พี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ”

“ อืม วางแล้วนะ”

พูดจบ จิ้นเฟิงเฉินก็โยนมือถือไปข้างๆ แกะเม็ดกระดุมเสื้อออกอย่างหงุดหงิดรำคาญ

เดินไปยืนตรงหน้าต่าง จุดบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งมวน

มองดูเมืองที่กว้างใหญ่ เขากลับไม่รู้ว่าจะไปหาสื้อสื้อของเขาได้ที่ไหน

และคิดว่าเธออาจจะถูกคนรังแก หัวใจจิ้นเฟิงเฉินก็ยิ่งเจ็บลึกจนทนไม่ได้

ราวกับถูกเข็มทิ่มแทง ในที่สุด แม้กระทั่งหายใจก็รู้สึกเจ็บปวด

สื้อสื้อ คุณอยู่ที่ไหนกันแน่……….

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท