ซังหนานเทียนไม่รู้ความคิดของจางหยู ไม่งั้นแล้วเขาคงรู้สึกผิดที่บอกจางหยูเรื่องตำนานของวิหารอวี๋ฮุ่น
เด็กน้อย เพื่อไว้หน้าหงอีแล้ว ข้าจะเตือนเจ้าอีกครั้งวิหารอวี๋ฮุ่นนั้นยังมีไพ่ลับที่เราไม่รู้อยู่ เจ้าท้าทายผู้หญิงคนนั้นได้ แต่อย่าสร้างปัญหามากเกินไป นี่คือคำแนะนำจากข้า ซังหนานเทียนพูดขึ้น
จางหยูไม่ได้มองข้ามและพูดขึ้น ขอบคุณผู้อาวุโสซังที่เตือน
ยิ่งไพ่ลับของวิหารอวี๋ฮุ่นแข็งแกร่งเท่าไหร่ จางหยูก็ยิ่งพอใจเท่านั้น
ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะฟังข้ารึไม่ ซังหนานเทียนถอนหายใจออกมา หากเจ้าตายมาจริงๆ หงอีคงต้องเศร้า
คำพูดนี้จางหยูไม่รู้จะตอบกลับยังไง เขาเหมือนไม่อยากตอบกลับ เขาเลือกที่จะลบโลกจำลองแทน
ร่างของทั้งสองได้ปรากฏขึ้นในโกลาหลอีกครั้ง
จางหยู ! หงอีเห็นจางหยูยังปลอดภัยก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เจ้าไม่เป็นไร
ซังหนานเทียนพูดขึ้น สาวน้อย เจ้าควรเป็นห่วงข้ามากกว่า ไม่ใช่เจ้าเด็กนี่ !
หงอีหน้าแดงขึ้นมาซึ่งทำให้นางดูน่าหลงใหลกว่าเก่า
เหล่าซัง พูดตลกไปแล้ว ท่านน่ะแข็งแกร่งจะเกิดอะไรกับท่านได้ยังไง? หงอีพูดขึ้น
ดูเหมือนว่าข้าจะเดาถูก เจ้าชอบเขาจริงๆ ซังหนานเทียนอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า เจ้าชอบคนที่แข็งแกร่งและเด็กนี่ก็ยังหนุ่มยังแน่น อีกทั้งความแข็งแกร่งก็เหนือกว่าคนอื่น การที่เจ้าชอบเขานั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ เหล่าซังพูดไร้สาระไปแล้ว จางหยูเป็นสหายของข้า ข้าเป็นห่วงเขาก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่รึ ?
จางหยูกระแอมออกมาและพูดขึ้น ผู้อาวุโสซัง อย่าพูดเช่นนั้นเลย สำนักคังเฉียงนั้นไม่ได้สนใจเรื่องความรัก พรสวรรค์ของหงอีนั้นสูง คนสูงส่งเช่นนี้ข้าไม่คู่ควรหรอก
ไม่ว่าหงอีสนใจเขารึไม่แต่เขาก็ต้องพูดเอาไว้ก่อนเพื่อไม่ให้มีปัญหาในอนาคต
หงอีสวยก็จริงและยากจะหาคนที่สวยกว่านางได้ นางมีบุคลิกที่พิเศษ นางเย็นชาและหยิ่งทะนงราวกับเทพธิดาแต่บางครั้งก็เผยให้เห็นด้านที่อ่อนโยน มันทำให้นางน่าหลงใหลยิ่งกว่าเก่า แต่ถึงอย่างนั้นจางหยูก็ไม่อยากแตะต้องผู้หญิงคนไหน เพราะผู้หญิงมักจะสร้างปัญหาให้กับเขา
เมื่อได้ยินคำพูดของจางหยู หงอีก็ใจสั่น สายตาของนางหม่นลงแต่ก็ยังฝืนยิ้มออกมา จางหยู เจ้าถ่อมตัวเกินไปแล้ว ตราบใดที่เจ้าเต็มใจ ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่เจ้าไม่คู่ควร ข้าต่างหากที่นอกจากหน้าตาที่ดูดีแล้วก็ไม่มีอะไรที่คู่ควรกับเจ้าเลย
อย่าเข้าใจข้าผิด ข้าไม่ได้หมายถึงเช่นนั้น แม้ว่าจางหยูจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับหงอี แต่เขาก็มองหงอีเป็นเพื่อน เป็นธรรมดาที่เขาไม่อยากให้หงอีคิดว่าเขาไม่ชอบนาง
ซังหนานเทียนพูดขึ้นมา เอาล่ะ เรื่องของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง หากไม่มีอะไรแล้วพวกเจ้าก็รีบไปกันได้แล้ว อย่ารบกวนการรักษาตัวของข้า
หงอีเบิกตากว้าง เหล่าซัง ท่านบาดเจ็บรึ
สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความตะลึง มันจริงอย่างที่เสี่ยวเสียและเสี่ยวหลิงเอ๋อร์บอกมารึ ?
ซังหนานเทียนไม่มีทางเลือกอื่น เด็กนี่ชัดแล้วว่ามีความแข็งแกร่งระดับหมื่นเท่าแต่แสร้งทำเป็นอ่อนแอ หากไม่ใช่เพราะข้าแข็งแกร่ง ข้าคงตายไปแล้ว ไม่ขนาดนั้น เมื่อเห็นสายตาที่หงอีมองมา จางหยูก็รีบพูดขึ้น ข้าประเมินไว้แล้ว ด้วยความแข็งแกร่งของผู้อาวุโส มันไม่ได้มีอันตรายอะไร…อาการบาดเจ็บนี้ใช้เวลาไม่นานก็หายดี
ข้าไม่อยากคุยกับเจ้า ไปได้แล้ว ซังหนานเทียนกัดฟันแน่น เขาไม่ชอบให้ใครมารบกวน อีกทั้งเขายังบาดเจ็บด้วย มันไม่แปลกที่เขาจะหงุดหงิด ไอรีนโนเวล
หากไม่ใช่เพราะจางหยูแกร่งกว่า ซังหนานเทียนอาจจะแสดงท่าทีไม่ดีออกมาแล้ว
แต่ท่านบาดเจ็บ มันไม่เป็นไรรึ ? หงอีกังวล
ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ตายหรอก ซังหนานเทียนโบกมือ ตราบใดที่เจ้าพาเจ้าหนูนี่ออกไปและไม่รบกวนข้า ข้าก็จะหายดีเอง
จางหยูได้แต่ยิ้มแห้งๆออกมา หากไม่ใช่เพราะไว้หน้าหงอี เขาก็อยากอัดซังหนานเทียนจริงๆ ซังหนานเทียนมักจะพูดกับคนอื่นแบบนี้รึ? ขอให้ท่านหายไวๆ หงอีทำความเคารพซังหนานเทียน แล้วข้าจะมาเยี่ยมท่านอีก
ไปกันเถอะ
….
ไม่นานหลังจากนั้นหงอีก็เดินทางออกมาพร้อมกับจางหยู ซังหนานเทียนก็ได้กลับไปที่ดาวแดง
หงอี หลังจากที่เดินทางได้สักพัก จางหยูก็หยุดและพูดขึ้น ครั้งนี้ต้องขอบคุณเจ้าที่ช่วยเหลือ ข้าจะไปยังวิหารอวี๋ฮุ่นต่อ ข้าคงไม่รบกวนเจ้าแล้ว เขาเงียบไปชั่วครู่แล้วพูดต่อ หากเจ้ามีปัญหาอะไรก็จงไปที่สำนักคังเฉียง ข้าสามารถช่วยได้
ตอนนี้จางหยูมีสิทธิ์ที่จะพูดแบบนั้น
ท่านจะไปทำอะไรที่วิหารอวี๋ฮุ่น ? หงอีไม่ได้รีบตอบกลับแต่ถามขึ้นมาแทน
ไปหาคนประมือด้วย จางหยูตอบกลับตามจริง ใครกัน ?
ผู้หญิงคนหนึ่ง จางหยูแสดงสีหน้าจริงจังออกมาและพูดขึ้น ผู้หญิงคนนั้นอาจจะแกร่งกว่าผู้อาวุโสซัง
เขาไม่มั่นใจว่านางแกร่งแค่ไหนแต่เขามั่นใจว่านางต้องไม่ได้อ่อนแอกว่าซังหนานเทียน
หงอีรู้สึกถึงอันตราย สัญชาตญาณของนางบอกว่าผู้หญิงที่จางหยูพูดถึงนั้นเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวที่สุดของนาง
เมื่อคิดได้แบบนั้นหงอีก็ถามขึ้นมา ข้าไปด้วยได้รึไม่ ?
หงอีหน้าแดงขึ้นมาและรีบอธิบาย ข้าแค่สงสัย ข้าอยากตามไปดูความแข็งแกร่งของวิหาร….หากท่านไม่เต็มใจ ข้า… นางพูดไปได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น
จางหยูหมดหนทางและพูดขึ้น เมื่อเจ้าสงสัย งั้นก็ไปกับข้า ตราบใดที่เจ้าไม่สร้างปัญหาก็เพียงพอแล้ว ขอบคุณ หงอีถอนหายใจออกมาและพูดขึ้น ท่านไม่ต้องเรียกข้าว่าหงอีก็ได้ ท่านเรียกข้าว่าหงเฉยๆก็ได้ เหล่าซังและเพื่อนข้ามักจะเรียกข้าแบบนั้น
ก็ได้ จางหยูไม่ได้คิดอะไรมาก เขาไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ เขาแค่ควบคุมพาหนะมิติให้เดินทางไปยังเขตใต้ตอนล่างมุ่งหน้าไปที่วิหารอวี๋ฮุ่น
หงอีทำท่าทำความเข้าใจการสร้าง แต่นางยังคงคอยชำเลืองมองจางหยูอยู่ตลอด นางไม่มั่นใจว่านางชอบจางหยูจริงรึไม่ หรือเพราะจางหยูแข็งแกร่งจึงทำให้นางสนใจขึ้นมา จริงๆแล้วหงอีก็รู้สึกดีกับจางหยู แต่ความรู้สึกดีแบบนี้นางกลัวว่าจะมาจากความแข็งแกร่งของจางหยู หากจางหยูเป็นแค่ผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ทั่วไป นางจะชอบเขาแบบนี้อยู่รึไม่ ?
หงอีได้ทบทวนความรู้สึกของตัวเอง นางมั่นใจอย่างมากว่าไม่ได้ชอบที่นิสัยของจางหยู แต่กลับเป็นความแข็งแกร่งของเขา ! แต่ถึงคิดได้แบบนั้นแต่นางก็ยังชอบเขาอยู่ดี !
ผู้ชายมักจะชอบผู้หญิงสวย ผู้หญิงก็ชอบผู้ชายที่แข็งแกร่งเช่นกัน!
ข้าจะให้เขาสนใจข้าได้ยังไง ? หงอีแอบมองไปที่จางหยู นิสัยของจางหยูไม่ใช่แบบที่นางต้องการแต่ความแข็งแกร่งและความมั่นใจที่จางหยูมีนั้นทำให้นางสนใจ แม้ว่าจะต้องตายข้าก็ต้องคว้าเขามาให้ได้ ในใจนางได้ตะโกนออกมา ข้าหงอีจะเป็นผู้หญิงของเขาให้ได้ !
ตอนนั้นเองจางหยูรับรู้ได้ถึงสายตาของหงอี เขาหันกลับไปมองนางแล้วถามขึ้น เจ้าตื่นแล้วรึ ?
หงอีรีบหันหน้าหนีและตอบกลับอย่างลนลาน อ่ะ ใช่ ใช่
นายท่าน นางแอบมองท่านมานานแล้ว เสี่ยวเสียพูดขึ้น ข้าพนันว่านางคงสนใจท่าน นายท่าน ท่านต้องระวังตัวไว้อย่าให้นางทำสำเร็จ เฮ้อ เจ้าไม่ได้โดนอัดมานานสินะ ดูเหมือนว่าเจ้าจะอยากเจ็บตัว จางหยูกำหมัดและมองไปที่เสี่ยวเสีย
เสี่ยวเสียขนลุกทันที มันขดตัวเป็นลูกบอลและตะโกนออกมา อย่า นายท่าน ! ข้าสาบานว่าข้าพูดความจริง ! นางแอบมองท่านจริงๆ มากกว่าหนึ่งครั้งด้วย !