ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 831 โจรกระจอกงอกง่อยที่ไม่อาจพาออกงานได้

บทที่ 831 โจรกระจอกงอกง่อยที่ไม่อาจพาออกงานได้

บทที่ 831 โจรกระจอกงอกง่อยที่ไม่อาจพาออกงานได้

ก่อนที่จะไปบริษัท จิ้นเฟิงเฉินได้สั่งบอดี้การ์ดให้เฝ้าที่นี่ให้ดี รับประกันความปลอดภัยของสื้อสื้อ หากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินให้รีบรายงานทันที

เขากังวลว่า มีคนอาจลงมือกับสื้อสื้อตอนชุลมุนวุ่นวาย

เมื่อถึงบริษัท กู้เนี่ยนได้รออยู่ที่ออฟฟิศแล้ว พอเห็นเขาเข้ามา ก็ลุกขึ้นยืนตรงทันที ก้มหน้าเล็กน้อย “ขอโทษครับ คุณชาย ที่จับคนไม่ได้ พวกมันหนีไปได้ ”

จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้าอย่างครุ่นคิด กล่าวเรียบๆว่า “ฝ่ายตรงข้ามมีการเตรียมการก่อนมา ไม่โทษแก ลองเล่ารายละเอียดมาฟังดูซิ”

โชคดี ที่ยังตามเอกสารสำคัญคืนมาได้

“ครับ”

กู้เนี่ยนรับคำ แล้วรายงานสถานการณ์ทันที

เขาได้เล่าสั้นๆเกี่ยวกับสถานการณ์ตอนนั้น จากนั้น กล่าวอย่างครุ่นคิดว่า “ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเปลี่ยนรถในภายหลัง พวกเราก็เห็นทะเบียนรถแล้ว และก็ให้คนไปตรวจสอบแล้ว แต่ว่า ผมสงสัยว่าฝ่ายตรงข้ามจงใจจะทิ้งร่องรอยไว้ เพื่อให้เราไปตรวจสอบหรือเปล่า”

จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยประกายเฉียดคม สิ่งที่กู้เนี่ยนกังวลอยู่ ก็เป็นสิ่งที่เขากำลังเป็นกังวลอยู่เช่นกัน

“ติดตามกันต่อไป หากมีข่าวอะไรรีบรายงานทันที”

จิ้นเฟิงเฉินนั่งลงหน้าโต๊ะทำงาน มีความหงุดหงิดเล็กน้อย รอจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จ คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก เวลาที่จะกลับประเทศก็ต้องเลื่อนออกไปอีกแล้ว

กู้เนี่ยนพยักหน้า จากนั้นจิ้นเฟิงเฉินดูจอคอมพิวเตอร์ไปด้วยและสั่งงานบางอย่างไปด้วย

“ได้ครับ คุณชาย สำหรับโปรแกรมป้องกันไวรัส ผมได้ให้พวกเขาเพิ่มความแข็งแรงแล้ว หากไม่มีเรื่องอื่นแล้ว ผมของออกไปก่อน”

จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า มองดูจอแสดงผลตรงหน้า ตั้งใจจะลองค้นหาร่องรอยมากกว่านี้

แฮกเกอร์ที่เก่งขนาดนี้ ในโลกใบนี้มีไม่เท่าไหร่ โดยเฉพาะในอิตาลี ล็อกเป้าหมายได้ง่ายมาก

ขอเพียงยืนยันได้ว่าคือคนไหน การจะหาคนอยู่เบื้องหลังออกมานั้นง่ายมาก

สายตาจับจ้องอยู่ตรงหน้าจอ ความคิดของจิ้นเฟิงเฉินนั้นชัดเจนผิดปกติ วิเคราะห์ทุกความเป็นไปได้ และใช้เส้นสายจำนวนมากในการตรวจสอบ

ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูออฟฟิศดังขึ้น ตามด้วยเสียงเรียกของกู้เนี่ยน“คุณชาย เบอร์เกนพาคนมาทำร้ายจนคนของเราได้รับบาดเจ็บ กำลังเข้ามาที่นี่ เจาะจงจะพบคุณ คุณจะออกหน้าหรือไม่ ”

“ให้พวกเขาเข้ามา”

จิ้นเฟิงเฉินสั่งการอย่างเรียบๆ ใช้มือดึงเนกไทด้วยมือเดียว แล้วลุกขึ้น ทันใดนั้นดวงตาเย็นชา จนทำให้ความกดอากาศรอบกายลดลงไม่น้อย เขายังไม่ได้ไปคิดบัญชีกับเบอร์เกนเลย แต่เบอร์เกนกลับมาหาตัวเองถึงที่เลย

สีหน้าเบอร์เกนมีความเย้ยหยัน เดินเข้าออฟฟิศอย่างผยอง “ประธานจิ้น สบายดีไหม”

เขาพูดไปพร้อมกับไปยืนตรงหน้าต่างดูพนักงานข้างนอกที่ทำงานกันอย่างขะมักเขม้น พูดประชดว่า “ประธานจิ้น พนักงานของบริษัทคุณช่างทุ่มเทกับงานจริงๆ ได้ยินว่า ระบบของบริษัทพวกคุณถูกแฮกเกอร์แฮกข้อมูล จนข้อมูลหายไปไม่น้อย เกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ พวกคุณยังนั่งนิ่งอยู่ได้ ชื่นชมชื่นชม” ข่าวของเขาช่างรวดเร็วจริงๆ

จิ้นเฟิงเฉินน้ำเสียงเรียบง่าย กระตุกปากเล็กน้อย ในตากลับไม่มีอารมณ์ขำแม้แต่น้อย “ เบอร์เกน คุณมาแล้วก็ลงมือลูกน้องของฉัน ดูจะไม่สมกับฐานะของคุณนะ เมื่อก่อนเคยคิดว่าคุณเป็นสุภาพบุรุษ แต่วันนี้ดูแล้วก็เป็นแค่นักเลงกระจอกเท่านั้นเอง ”

เขานั่งบนเก้าอี้ทำงานด้วยท่าทางสบายๆ พิจารณาเบอร์เกนอย่างไม่กระโตกกระตาก เขามาในเวลานี้ มันจะบังเอิญเกินไปหรือเปล่า

ยิ่งกว่านั้น ข่าวของเขาก็ตรงเวลาเกินไป ความเคลื่อนไหวของเบอร์เกนครั้งนี้ เป็นไปได้ว่าอยากจะปกปิดการกระทำของตัวเอง แต่กลับเปิดเผยเอง

“ประธานจิ้นพูดเช่นนี้ใส่ความผมแล้ว ผมแค่มาเยี่ยมเยียนก็เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเห็นผมเป็นศัตรูเช่นนี้หรอก ”

เบอร์เกนยิ้มแล้วนั่งลงบนโซฟาอย่างหยิ่งผยอง “ทำไม ไม่ชงน้ำชาให้ผมหรือ ผมได้ยินว่าพิธีชงชาของประเทศจีนสุดยอดมาก คิดว่าประธานจิ้นคงจะทำได้ดี ”

จิ้นเฟิงเฉินค่อยๆเอนกายพิงไปที่พนักเก้าอี้ สายตาเย็นชาราวกับกำลังดูตัวตลกเช่นนั้น กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบสุดๆ “คุณมาถึงปุ๊บก็เคลื่อนไหวใหญ่มาก ทำร้ายคนของฉันบาดเจ็บ แล้วก็บุกเข้ามาออฟฟิศผม ควรต้องอธิบายก่อนหรือไม่ ”

เบอร์เกนหัวเราะดุเดือด แขนของเขาพาดอยู่บนโซฟาพร้อมกับเคาะนิ้วไป “ไม่มีอะไรต้องอธิบาย แค่ได้ยินว่าประธานจิ้นมาถึงอิตาลีไม่นาน บริษัทเกิดปัญหาขึ้น จึงมาถามไถ่โดยเฉพาะ”

หยุดไปสักพัก โน้มตัวไปข้างหน้า นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสมน้ำหน้า “ ที่นี่เป็นตลาดต่างประเทศ ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะควบคุมได้ ท่านประธานจิ้น ผมของเตือนคุณทำแค่พอตัวก็พอ ”

จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย ทันใดนั้นสายตาเปลี่ยนเป็นเฉียดคม

เบอร์เกนที่สบตาเข้ากับสายตาเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้รู้สึกกลัวแบบบอกไม่ถูก เอนกายไปข้างหลังเล็กน้อย เมื่อได้สติ ก็รีบยืดอกนั่งตัวตรงทันที ก็เป็นเพียงผู้ที่เคยพ่ายแพ้ต่อตัวเองคนหนึ่งเท่านั้น ตัวเองมีอะไรต้องกลัว

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ใบหน้าเบอร์เกนกลับมาเหมือนคนกำลังเตรียมการ

จิ้นเฟิงเฉินยิ้มเบาๆ พูดอย่างช้าๆได้ใจความว่า “คุณเบอร์เกนช่างมีใจจริงๆ แค่โจรกระจอกที่นำออกมาโชว์บนเวทีไม่ได้ จึงทำได้เพียงเคลื่อนไหวลับๆด้านหลังก็แค่นั้นเอง ไม่ถึงกับต้องกังวลหรอก”

เบอร์เกนถึงกับกัดฟัน ฟังออกว่าจิ้นเฟิงเฉินพูดเสียดสีว่าตัวเองเป็นพวกโจรกระจอก

คนที่หยิ่งผยองเช่นเขา เคยถูกคนว่าเช่นนี้เมื่อไหร่กัน ทันใดนั้นสีหน้าก็ดูไม่ได้สุดๆ

แต่ก็ระงับความโกรธลงอย่างรวดเร็ว แล้วยิ้มเล็กน้อย“ จริงหรือ แต่ว่าคิดไปแล้วก็น่าจะใช่ ฝีมือระดับประธานจิ้น มีไม่กี่คนที่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ที่เหมาะสม ดูไปแล้วผมกังวลไปเอง”

คนทั่วไปล้วนดูออกว่า ประโยคสั้นๆไม่กี่คำ เบอร์เกนตกอยู่ใต้ล่างแล้ว

แม้ว่าวิธีการของเขาจะมากมาย แต่เรื่องออร่า สุดท้ายแล้วไม่อาจเทียบกับจิ้นเฟิงเฉินได้

จิ้นเฟิงเฉินเพียงแค่นั่งอยู่ตรงนั้น หนึ่งสายตา หนึ่งความเคลื่อนไหว ก็สามารถทำให้คนกลัวได้แล้ว

“ ชมเกินไปแล้ว ฉันแค่นักธุรกิจคนหนึ่ง แต่ว่า หากมีคนที่ไม่ลืมตาแล้วชนขึ้นมา ฉันจิ้นเฟิงเฉินก็จะไม่เกรงใจ จะจัดการมันอย่างโหดเหี้ยมดุเดือด ให้มันเสียคนรักและเสียทหารไปด้วย”

พูดประโยคนี้จบ ความอดทนของจิ้นเฟิงเฉินก็หมดลง เปลี่ยนน้ำเสียง ไล่แขกทันที “ฉันยังมีงาน หากคุณเบอร์เกนไม่มีอะไรแล้ว ก็ต้องขออภัยด้วยที่ฉันจะไม่ต้อนรับอีกแล้ว ”

นี่มันเป็นการไล่คนโดยตรง

สีหน้าเบอร์เกนซีดลง ยังไม่เคยมีใครกล้าขับไล่เขาไป จิ้นเฟิงเฉินคือคนแรก

สายตาโหดเหี้ยมของเขากวาดมองไปที่จิ้นเฟิงเฉิน ที่เขามาวันนี้เพื่อจะมาเยาะเย้ยจิ้นเฟิงเฉิน ตอนนี้ไม่บรรลุเป้าหมาย จึงทำให้เขาอึดอัดมาก

ที่สำคัญ หากจากไปเช่นนี้ เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

เบอร์เกนกำลังอ้าปาก ยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จิ้นเฟิงเฉินที่ได้เริ่มเคลียร์เอกสารแล้ว เหลือบตามองมา ทำให้คำพูดของเขาชะงักไป

“ใช่แล้ว คุณเบอร์เกนยังจำได้ ว่าเมื่อกี้นี้คุณเข้ามาทางไหนไหม ”

เบอร์เกนไม่เข้าใจว่าอะไร แต่ตามด้วยพยักหน้า ในตายังมีความได้ใจเล็กน้อย“แน่นอน”

เก่งกาจแล้วอย่างไรล่ะ ก็ยังให้เขาบุกเข้ามาแล้วไม่ใช่หรือ ทำอะไรไม่ได้ด้วย

สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ จิ้นเฟิงเฉินได้วางกับดักไว้แล้ว ก็แค่รอให้เขายอมรับ

รอยยิ้มขี้เล่นปรากฏขึ้นในตาของจิ้นเฟิงเฉิน เบอร์เกนขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล ทันใดนั้นระวังตัวขึ้นมาทันที

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท