ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1760 : ก้าวข้ามระดับหมื่นเท่า

ตอนที่ 1760 : ก้าวข้ามระดับหมื่นเท่า

  ตูม !

  มิติรอบตัวจางหยูบิดเบี้ยวไป พลังสร้างอันน่ากลัวได้ปล่อยออกมาเต็มกำลังจนทำให้มิตินั้นเกือบจะพังลง

  คลื่นพลังอันน่ากลัวนี้แผ่ออกไปรอบด้านโดยมีจางหยูเป็นศูนย์กลาง มันแผ่ออกมาจากทางใต้ก่อนจะครอบคลุมไปทั่วทั้งโกลาหล

  แม้แต่ในเขตหวงห้ามก็ยังรับรู้ได้ถึงคลื่นพลังนี้ได้

  ภายใต้การกดดันของคลื่นพลังอันน่ากลัว ซุนเมิ่งก็ยากที่จะประคองตัวเองได้ นางค่อยๆถูกผลักออกไปราวกับว่าไม่อาจจะต้านทานได้เลย

  ความแข็งแกร่งของจางหยูนั้นได้เกินขอบเขตของโกลาหลนี้แล้ว นี่คือพลังที่โกลาหลไม่อาจจะมีได้

  ทุกคนต่างก็มองฉากนี้ด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ พวกเขาไม่รู้ว่าพลังของจางหยูเป็นพลังระดับไหนเพราะมันเกินการรับรู้ของพวกเขาไปแล้ว

  ไม่นานจางหยูก็ค่อยๆปรับตัวเข้ากับพลังใหม่ คลื่นพลังของเขาถูกปกปิดเอาไว้อย่างรวดเร็ว

  ตอนนั้นเองเขาก็เห็นซุนเมิ่งโดนผลักออกไปเพราะคลื่นพลังของเขา เขาได้ถามออกมาด้วยความเป็นห่วง   เจ้าไม่เป็นไรนะ ? 

  ซุนเมิ่งไม่ได้แปลกใจกับการที่จางหยูมีความแข็งแกร่งถึงเพียงนี้   ในที่สุดอาจารย์ก็แสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงออกมา ! 

  แค่คลื่นพลังก็ทำให้นางที่เป็นราชาแห่งยุคถึงกับใจสั่นได้ นางรับรู้ได้ถึงอันตราย

    ไอ้หนู นี่คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเจ้ารึ  ตอนนั้นเองซังหนานเทียนก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมา เขามองไปที่จางหยูแล้วพูดขึ้น   แค่คลื่นพลังเพียงอย่างเดียวก็มากกว่าราชาแห่งยุคแล้ว มันน่ากลัวอย่างมาก !    ซื่อซิน, ฟู่เฉิง, ซุนวู, หงอีและคนอื่นๆต่างก็มองจางหยูด้วยสีหน้าตกตะลึง

  พวกระดับสิบเท่าและร้อยเท่าได้ยินที่ซังหนานเทียนพูดมาก็พากันอึ้ง

    ผู้อาวุโสซัง  จางหยูมองไปที่ซังหนานเทียนด้วยความแปลกใจ   ท่านมาได้ยังไงกัน ? 

  ซังหนานเทียนพูดขึ้น   เจ้ากับเด็กน้อยคนนี้สู้กันวุ่นวายเสียเพียงนี้ เดาว่าทั้งโกลาหลคงแตกตื่น ข้าคงนั่งอยู่เฉยได้หรอก 

    เจ้าสำนัก  จ้านเทียนเกอ, หงซวน, เกลดันและคนอื่นๆต่างก็พากันบินมาหาจางหยู นอกจากนี้ยังมีศิษย์ของเขามาที่นี่ด้วย พวกนี้ต่างก็ขึ้นเป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 9 กันแล้ว

  ตอนนั้นมีคนกว่า 20-30 คนมารวมตัวรอบๆจางหยู ทุกคนพากันเรียกจางหยูว่าเจ้าสำนักไม่ก็อาจารย์

  ตอนที่ผู้ควบคุมขั้น 9 คนอื่นๆเห็นว่าเย่ฟานและพวกเรียกจางหยูว่าอาจารย์ ทุกคนต่างก็อึ้ง นี่มันราวกับความฝัน

    พวกเจ้ามากันหมด  จางหยูแปลกใจ

    เรารับรู้ได้ถึงคลื่นพลังของอาจารย์และกังวลว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น ดังนั้นเราจึงรีบมาที่นี่เพื่อหวังว่าจะช่วยอะไรอาจารย์ได้บ้าง  หยวนเทียนจีพูดขึ้นมา   ตอนนี้ดูเหมือนว่าเราจะคิดมากไปเอง 

  จ้านเทียนเกอพยักหน้า   ข้าไม่คิดเลยว่าความแข็งแกร่งของเจ้าสำนักจะข้ามไปถึงขั้นนั้นแล้ว ข้าเกรงว่าท่านคงเข้าไปถึงระดับหมื่นเท่าแล้วสินะ 

    พวกเจ้ามองตื้นเขินเกินไป  ซังหนานเทียนพูดขึ้น   ราชาแห่งยุคนั้นใช่ว่าข้าจะไม่เคยพบ แม้ว่าความแข็งแกร่งของข้าจะอยู่ระดับทั่วไปแต่ก็เคยประมือกับราชาแห่งยุคมาก่อน พลังของราชานั้นไม่มีใครรู้ดีไปกว่าข้าได้ 

  เขามองไปรอบๆก่อนที่สุดท้ายจะมองไปที่จางหยูและซุนเมิ่ง   สาวน้อยผู้นี้มีความแข็งแกร่งทัดเทียมกับราชาตะวันออก นางต้องขึ้นไประดับหมื่นเท่าแล้ว 

  ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นผู้ควบคุมขั้น 9 มากมายรวมถึงคนจากสำนักคังเฉียงต่างก็พากันแปลกใจ

    ผู้อาวุโสลั้วตี้ ท่าน…  หยวนเทียนจีพูดขึ้นมา

    ลั้วตี้เป็นแค่ร่างแยกของข้า ไม่ใช่ตัวข้า   ซุนเมิ่งมองไปยังคนของสำนักคังเฉียงและพูดขึ้น   พวกเจ้าเรียกข้าว่า ซุนเมิ่งหรือไป่หลิงก็ได้…  นางจงใจพูดชื่อไป่หลิง

  ดูเหมือนว่าชื่อของไป่หลิงจะมีความหมายต่อนางมากกว่าลั้วตี้

  เย่ฟานยิ้มออกมาอย่างขมขื่น   ข้าไม่คิดเลยว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงของผู้อาวุโสซุนเมิ่งจะสูงถึงเพียงนี้ ตัวตนของท่านก็ยังโดดเด่นอีกต่างหาก… 

  ในตอนที่ดูการต่อสู้ตะกี้เขาได้ยินจากปากคนอื่นถึงตัวตนของซุนเมิ่ง นางคือยอดฝีมือของวิหาร แม้ว่าจะไม่ได้มีตำแหน่งพิเศษอะไร แต่แค่ความแข็งแกร่งที่นางแสดงออกมาก็เพียงพอจะพิสูจน์ตำแหน่งของนางได้

    จริงๆแล้วข้าแปลกใจยิ่งกว่าเจ้าเสียอีก  ซุนเมิ่งมองไปที่หยวนเทียนจี, เย่ฟานและคนอื่นๆ ก่อนจะพูดขึ้น   นี่แค่ไม่กี่หมื่นปีพวกเจ้าก็ขึ้นมาถึงขั้นที่ 9 กันแล้ว ! ข้าคงไม่เชื่อหากไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง… 

  อู่โม่พูดขึ้นมาด้วยท่าทีเขินอาย   มันก็เพราะเราโชคดี 

  ซุนเมิ่งพยักหน้า   พวกเจ้าโชคดีกันจริงๆที่เข้าร่วมสำนักคังเฉียงและได้เป็นศิษย์ของอาจารย์ หากไม่มีอาจารย์พวกเจ้าคงไม่มีโอกาสได้เป็นกุยหยวน นี่ไม่ต้องพูดถึงผู้สร้างเลย 

  ผู้ควบคุมขั้น 9 โดยรอบพากันมองเย่ฟานและคนอื่นๆด้วยสีหน้าทึ่ง

  ชื่อเสียงของสำนักคังเฉียงนั้นทำให้พวกเขารู้จักเย่ฟานและอัจฉริยะเหล่านี้ บางคนเคยไปที่โลกป่ามาแล้ว บางคนเคยแต่ได้ยินชื่อของเย่ฟานและคนอื่นๆ แต่ไม่เคยเห็นเย่ฟานและคนอื่นๆกับตาตัวเอง

  ตอนนี้เย่ฟานและคนอื่นๆกลับปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนเป็นครั้งแรก มันทำให้ผู้คนมากมายหันมาสนใจ พวกเขาได้กลายเป็นเป้าสายตา พวกเขาเป็นรองแค่เพียงจางหยูเท่านั้น

  คนที่โด่งดังที่สุดของสำนักคังเฉียงเป็นธรรมดาที่จะเป็นจางหยู การโจมตีเพียงครั้งเดียวก็ฆ่าโจวทงลงได้ และยังได้สู้กับซุนเมิ่ง เขาได้ทำให้ยอดฝีมือนับไม่ถ้วนแตกตื่น รองลงมาคือเย่ฟาน, หยวนเทียนจีและศิษย์คนอื่นๆ ตัวตนของพวกเขาได้พลิกผันความเข้าใจในการบ่มเพาะของทุกคน พวกเขาขึ้นมาถึงขั้นที่ 9 ได้อย่างง่ายดาย

  หากการกระทำของจางหยูถือว่าเป็นตำนาน งั้นคนในสำนักคังเฉียงก็ถือว่าเป็นศิษย์อัจฉริยะที่ใกล้เคียงกับตำนานอย่างมาก

    สิบเท่า  จางหยูมองไปที่เย่ฟานและคนอื่นๆด้วยความชื่นชม  ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะไม่ได้เกียจคร้าน    การที่ลูกศิษย์ของเขาสามารถทะลวงขั้นที่ 9 ได้ มันทำให้อาจารย์อย่างเขารู้สึกภูมิใจ

  ยังไงซะการมีศิษย์เป็นผู้ควบคุมขั้น 9 ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่พิเศษ

  เย่ฟานและคนอื่นๆยืดอก พวกเขากลัวว่าจะทำให้จางหยูเสียหน้าจึงได้แต่ยืดอกยอมรับ คำชมของจางหยูทำให้พวกเขาตื่นเต้น ความพยายามของพวกเขาในที่สุดก็ได้รับการยอมรับ

    เหล่าซัง ท่านบอกว่านางเป็นราชาแห่งยุค แล้วจางหยูล่ะ ?  หงอีถามขึ้นมา   ข้าไม่รู้ว่าจางหยูแข็งแกร่งแค่ไหน แต่การที่เอาชนะราชาแห่งยุคได้ ก็น่าจะเป็นสุดยอดราชาแห่งยุคหรือเปล่า  หงอีไม่เข้าใจระดับที่แบ่งแยก ราชาแห่งยุคอาจจะมีขั้นแบ่งแยกอีก จางหยูน่าจะแกร่งกว่าราชาแห่งยุคทั่วไป

  เมื่อได้ยินคำพูดของหงอี คนอื่นๆรวมถึงซื่อซิน, จ้านเทียนเกอและคนอื่นๆต่างก็พากันมองไปที่ซังหนานเทียน

    ความแข็งแกร่งของจางหยู …  ซังหนานเทียนพึมพำออกมา   ความแข็งแกร่งของเขาเหนือกว่าระดับหมื่นไปแล้ว 

    ท่านหมายความว่ายังไง ?  ทุกคนต่างก็สับสน

    ระดับหมื่นนั้นต่างจากระดับพัน, ร้อยและสิบ มันคือขีดจำกัดของโกลาหล มันแทนที่จุดจบของการสร้าง  ซังหนานเทียนสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดขึ้น   มันคือเพดานของโกลาหล มันไม่มีช่องว่างให้ขึ้นไปต่อ ดังนั้นตั้งแต่โบราณมาแล้วราชาแห่งยุคทุกคนจึงไม่มีการแบ่งแยกความแข็งแกร่ง อย่างมากเพราะการใช้ที่แตกต่างกันจึงทำให้พลังที่แสดงออกมาแตกต่างกัน 

  เมื่อพูดถึงจุดนั้นเขาก็มองไปที่จางหยู  จางหยูผู้นี้มีความแข็งแกร่งเกินระดับหมื่นเท่าไปแล้ว โดยเฉพาะกับคลื่นพลังที่เขาระเบิดออกมาเมื่อตะกี้ที่แกร่งกว่าราชาแห่งยุคอย่างมาก ! 

    บางทีมันอาจจะเป็นขอบเขตที่เหนือกว่าราชาแห่งยุค !      มีแค่การทะลวงผ่านขีดจำกัดของโกลาหลได้ถึงจะมีความแข็งแกร่งเช่นนั้นได้ ถึงจะเอาชนะราชาแห่งยุคอีกคนได้! 

  ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นทุกคนก็พากันฮือฮาออกมา

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท