จางหยูและซุนเมิ่งเตรียมพร้อมที่จะสู้
ซุนเมิ่งเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จางหยูเคยเจอมา บางทีนางอาจจะขึ้นไปถึงระดับหมื่นเท่าแล้ว จางหยูต้องเอาจริง
เขาไม่ได้กังวลว่าตัวเองจะแพ้เพราะแม้ว่าซุนเมิ่งจะอยู่ระดับหมื่นจริงๆแต่ก็ไม่อาจจะเอาชนะเขาได้
เขาแค่ไม่อยากโดนรังแกเพราะเขาไม่อาจจะเสียหน้าให้กับนางได้
จางหยูไม่อยากเสียหน้าโดยเฉพาะต่อหน้าลูกศิษย์ที่คุ้นเคย
เจ้าพร้อมรึยัง ?” จางหยูมองไปที่ซุนเมิ่งด้วยสีหน้าจริงจัง
ข้าพร้อมแล้ว ซุนเมิ่งพลิกฝามือพร้อมกับมีแส้ปรากฏขึ้นมา แส้นี้เหมือนกับเถาวัลย์ที่เต็มไปด้วยหนาม
ตอนที่จางหยูกำลังจะโจมตี ซุนเมิ่งก็พูดขึ้นมา เดี๋ยวก่อน
จางหยูยั้งมือ มีปัญหาอะไรรึ ?”
ซุนเมิ่งมองไปที่จางหยูแล้วพูดขึ้นมา ศิษย์มีเรื่องที่ยังไม่รู้ อยากขอคำแนะนำจากอาจารย์
เรื่องอะไรกัน ?” การที่ซุนเมิ่งเรียกเขาว่าอาจารย์นั้นจางหยูน่ะชินแล้ว
ข้าได้ยินมาว่าอาจารย์ไม่ได้มาเพียงลำพังแต่มากับสาวงามที่ชื่อหงอี ศิษย์สงสัยว่าท่านกับนางเกี่ยวข้องกันยังไง ?” ซุนเมิ่งเหมือนพูดเล่น อาจารย์พยายามจะหาอาจารย์แม่ให้กับข้ารึ ? แม้ว่าจะยิ้ม แต่ในใจซุนเมิ่งนั้นกังวลอย่างมาก
จางหยูพูดขึ้น ที่เจ้าหยุดเพราะปัญหานี้รึ ?”
ซุนเมิ่งแสดงสีหน้าจริงจัง ไม่ได้หรือ ?”
สำหรับนางแล้วนี่คือเรื่องที่สำคัญที่สุด
ข้าเป็นสหายกับหงอี จางหยูพูดขึ้น ตั้งแต่ที่ขึ้นมาถึงขั้น 9 นางก็ช่วยข้าไว้หลายครั้ง
คำสาปของหงอี อาจารย์ช่วยปลดให้นางรึ ?” ซุนเมิ่งถามขึ้นมา
ใช่ จางหยูพยักหน้า พูดไปแล้ว หงอีก็เป็นคนน่าสงสาร
ด้วยการที่มีซังหนานเทียนคอยดูแล แม้แต่ตวนมู่หลินก็ไม่กล้าจะยุ่งกับหงอีมากนัก สุดท้ายตวนมู่หลินก็เข้าไปในสุสาน เมื่อรู้ว่าตัวเองจะตายก็ใช้คำสาปใส่หงอีเพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความทรมานไม่รู้จบ แม้แต่ซังหนานเทียนก็ไม่อาจจะแก้คำสาปนี้ได้ ดูเหมือนว่าหงอีน่ะจะน่าสงสารจริงๆ
นี่…อาจารย์ชอบนางรึ ?” ซุนเมิ่งคิ้วขมวด หากอาจารย์ชอบนาง งั้นข้าจะช่วยเหลือเรื่องนี้
จางหยูกรอกตาใส่ เพื่อความแข็งแกร่ง เจ้าจะสนใจเรื่องความรักของเด็กน้อยไปทำไมกัน ? ข้าไม่ได้สนใจเรื่องความรักในตอนนี้ ซุนเมิ่งพูดขึ้น อาจารย์ไม่ตอบคำถามของข้า
จางหยูพูดขึ้น หงอีน่ะสวยและสูงส่ง นางทนรับคำสาปไว้เพียงลำพัง ไม่คิดจะทำร้ายใคร ข้าชื่นชมนางแต่ไม่ได้ชอบนาง เมื่อได้พบกับหงอีมาหลายครั้ง มุมมองที่จางหยูมีต่อหงอีก็เปลี่ยนไป แต่การเปลี่ยนแปลงนี้เขาแค่ชื่นชมนางเท่านั้น ชอบกับรักนั้นความหมายต่างกันอย่างมาก ความรับผิดขอบในเรื่องนี้ข้าไม่อาจจะแบกรับได้
ซุนเมิ่งยังคงคิ้วขมวดอยู่
นางรู้สึกว่าหงอีผู้นี้คือคู่ปรับที่อันตรายที่สุด !
ข้าตอบคำถามเจ้าชัดเจนแล้ว จางหยูพูดขึ้น ตอนนี้มาเริ่มได้รึยัง ?”
ซุนเมิ่งรู้ความสัมพันธ์ของจางหยูกับหงอีชัดเจนแล้ว นางก็ไม่ได้สงสัยอีกต่อไป นางพยักหน้าและพูดขึ้น ได้ มาเริ่มกันเลย”
ทั้งสองคนแผ่พลังสร้างอันน่ากลัวออกมาก่อนจะมีพายุก่อตัวขึ้นโดยมีทั้งสองเป็นศูนย์กลาง พายุนี้กระจายตัวออกไปทุกทิศทางพร้อมกับเพิ่มขนาดด้วยความเร็วที่น่าตกใจ ในพริบตาพายุของทั้งสองคนนั้นก็ราวกับกลายเป็นคลื่นยักษ์
ทั้งสองยังไม่เริ่มสู้กันอย่างเป็นทางการแต่พายุของทั้งสองก็ปะทะกันจนทำให้มิติรอบข้างสั่นไหวและบิดเบี้ยวไป
ข้ามั่นใจว่าข้าคิดไม่ผิด จางหยูแสดงสีหน้าจริงจังออกมา เจ้าขึ้นไประดับหมื่นเท่าแล้ว ! ไอลีนโนเวล
ผ่านมากว่าล้านปีตั้งแต่ที่ราชาตะวันออกตายไป สุดท้ายโกลาหลก็มีคนระดับหมื่นเท่ากำเนิดขึ้นมา ราชาแห่งยุค !
ไม่สิ นี่คือราชินีแห่งประวัติศาสตร์ของโกลาหล !
อาจารย์ก็เช่นกันไม่ใช่รึ ?” ซุนเมิ่งไม่ได้ภูมิใจอะไร สำหรับความแข็งแกร่งที่จางหยูแสดงออกมานั้นนางไม่ได้แปลกใจอะไรเลย ดูเหมือนนางจะคิดไว้อยู่แล้วว่าจางหยูมีความแข็งแกร่งที่น่ากลัว ไม่สิ อาจารย์คงยังไม่ได้เอาจริงสินะ ?”
ตูม ตูม ตูม…
พายุของทั้งสองปะทะกันจนเกิดเสียงระเบิดดังก้องอย่างต่อเนื่อง มันราวกับจุดจบของโลก
พื้นที่โดยรอบสั่นไหวอย่างรุนแรง เสียงระเบิดอันน่าทึ่งดังก้องไปทั่ว
นี่คือพลังของราชาแห่งยุค มันทำให้ผู้คนต้องสั่นไหวภายใต้พลังนี้ !
ผู้สร้างหลายคนรับรู้ได้ถึงพลังนี้ พวกเขาพากันตัวสั่นและแห่กันออกมายังโกลาหลภายนอกเพื่อหาต้นตอของพลังนี้ แต่ตอนที่เพิ่งเดินทางออกมานั้นพวกเขาก็โดนคลื่นพลังงานนี้ซัดเข้าจนกลายเป็นเถ้า ร่างกายของพวกเขาถูกทำลายมีแต่จิตของพวกเขาที่หนีกลับไปยังโลกของตัวเองได้ ก่อนจะสร้างร่างใหม่ขึ้นมา ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัว อย่าพูดถึงพวกผู้ควบคุมระดับต่ำเลย แม้แต่ผู้นำขั้น 8 ก็ไม่อาจจะทนรับคลื่นพลังนี้ได้
แม้แต่พวกที่แข็งแกร่งยังโดนทำลายร่างกายทิ้งจนเหลือแต่จิตที่ต้องสร้างร่างขึ้นมาใหม่ หากเป็นพวกอ่อนแอคงโดนทำลายทั้งร่างกายและจิตเพราะพายุนี่
การต่อสู้ระหว่างราชาแห่งยุคนั้นไม่ใช่ทุกคนที่มีสิทธิดูได้ แม้แต่ผู้ควบคุมขั้น 9 ทั่วไปก็ไม่อาจจะมาชมการต่อสู้นี้ได้ หากยังฝืนเข้าไปดูการต่อสู้ งั้นผลลัพธ์เดียวที่รออยู่ก็คือความตาย !
หงอี, เสี่ยวเสีย, เสี่ยวหลิงเอ๋อร์, ฟู่เฉิง, ซุนวูและผู้ควบคุมขั้น 9 คนอื่นๆต่างก็รับรู้ได้ถึงความน่ากลัวของพายุนี่
คลื่นพลังของนายท่าน ! เขากำลังจะสู้กับนาง ! เสี่ยวเสียพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น
แปลก คลื่นพลังอีกอันนั้นกลับดูคุ้น เสี่ยวหลิงเอ๋อร์พูดขึ้นมา ข้ารู้สึกว่าเคยเจอมันที่ไหนนะ…” คลื่นพลังนี้ดูคุ้นเคยแต่เพราะมันแข็งแกร่งเกินไป เสี่ยวหลิงเอ๋อร์จึงนึกไม่ออกว่ามันเป็นของใคร
มาสิ ไปดูกันเถอะ หงอีพูดขึ้น
ในเวลาเดียวกันฟู่เฉิง, ซุนวูและคนอื่นๆต่างก็เดินทางเข้าไปในโกลาหลโดยไม่ลังเล
ไม่นานพวกเขาก็รับรู้ได้ถึงคลื่นพลังจากการต่อสู้ของจางหยูกับซุนเมิ่ง ทั้งสองยังไม่ได้ลงมือกัน แค่การปะทะกันของคลื่นพลังก็ทำให้เกิดพลังอันน่ากลัวแบบนี้ได้ มันเพียงพอแสดงให้เห็นว่าระดับหมื่นเท่าน่ากลัวแค่ไหน
คลื่นพลังของเขาไม่ได้เป็นรองพี่เลย ! ซุนวูตะลึงนิดๆ
นั่นมันพี่ไป่หลิง ! เสี่ยวหลิงเอ๋อร์อุทานออกมา สุดท้ายนางก็เข้าใจว่าทำไมนางถึงรู้สึกคุ้นกับคลื่นพลังนี้
เด็กนั่นแกร่งขนาดนี้เลยรึ ?” เสี่ยวเสียแทบไม่อาจจะทำใจเชื่อได้ ข้าจำได้ว่าตอนที่นางเดินทางออกไปนั้นความแข็งแกร่งของนางพอๆกับเย่ฟาน, อู่โม่และคนอื่นๆ ! พวกเจ้ารู้จักนางรึ ?” หงอีตะลึงกับความแข็งแกร่งของซุนเมิ่ง แต่กังวลเรื่องที่เสี่ยวหลิงเอ๋อร์และเสี่ยวเสียพูดมากกว่า
แต่ทว่าเสี่ยวหลิงเอ๋อร์และเสี่ยวเสียต่างก็พากันตะลึงและสนใจจางหยูกับซุนเมิ่งจนไม่ได้ยินคำพูดของหงอี
ในอีกด้านผู้ควบคุมขั้น 9 ของวิหารโกลาหลต่างก็พากันอึ้ง ชายคนนี้ทัดเทียมกับท่านซุนเมิ่งได้ !
ระดับหมื่นเท่า ! เขาเองก็อยู่ระดับหมื่นเท่าเช่นกัน !
มีแค่ระดับหมื่นเท่าเท่านั้นที่จะทัดเทียมกันได้ !
นี่มัน…น่าเหลือเชื่อจริงๆ ! ทุกคนแทบไม่อาจจะทำใจเชื่อได้
ราชาแห่งยุคคือตัวตนที่น่าทึ่งที่สุดและเป็นตัวตนที่น่ากลัวที่สุด ตั้งแต่โบราณมาแล้วในยุคหนึ่งจะมีราชาแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น ทรัพยากรในโกลาหลไม่เพียงพอที่จะให้กำเนิดราชาแห่งยุคสองคนพร้อมกันได้ มันแทบบอกได้ว่านี่คือกฎเหล็กเลยก็ว่าได้ แต่ตอนนี้กฎเหล็กนั่นกลับพังทลายลงไป
ซุนเมิ่งกับจางหยูต่างก็มีความแข็งแกร่งระดับหมื่นเท่า !
ราชาแห่งยุคสองคนกลับกำเนิดขึ้นมาพร้อมกัน !
ข้าพยายามท้าสู้กับราชาแห่งยุค …” ซุนวูคิดถึงตอนที่เขาพ่ายแพ้ให้กับจางหยูอย่างง่ายดาย เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น