รู้ว่าเจียงสื้อสื้อกลัว จิ้นเฟิงเฉินเอาม้าของตัวเองให้กับพนักงาน
จากนั้น ก็จับมือของเจียงสื้อสื้อ เดินไปข้างหน้าของม้า “มา สื้อสื้อ ลองจับดู”
จากการสอนของจิ้นเฟิงเฉิน เจียงสื้อสื้อก็ลองยื่นมือไปจับขนม้า มันนุ่มและลื่นมือกว่าที่เธอคิดไว้
จากการลูบคลำของเธอ ม้าก็ยื่นหัวมาให้เธอ
รู้สึกถึงความใกล้ชิดกับม้า เจียงสื้อสื้อก็พูดอย่างตื่นเต้น “เฟิงเฉิน มันตอบสนองฉันใช่ไหม?”
“ใช่ ตอนนี้คุณลองใกล้ชิดมันดู ตบหลังมันเบาๆ” จิ้นเฟิงเฉินพูดเสียงอ่อนโยน
เจียงสื้อสื้อทำตาม ม้าไม่ได้แสดงอาการต่อต้านอะไร นี่ทำให้ความกล้าของเจียงสื้อสื้อเพิ่มขึ้นบ้าง
การสัมผัสหลังของม้าแล้วทำให้เธอรู้สึกอยากขึ้นไปสัมผัสความรู้สึกตอนขี่หลัง แต่ในใจเจียงสื้อสื้อยังคงกลัวอยู่
ยังหันไปมองม้าน้อยของเสี่ยวเป่าและเถียนเถียนอย่างอิจฉา
ม้าตัวเล็กหน่อยดีจังเลย……
ทางนี้จิ้นเฟิงเฉินค่อยๆสอน เสี่ยวเป่าที่อยู่ข้างๆ ขี่ขึ้นหลังของม้าที่เลือกเองแล้ว และเริ่มเล่นอย่างสนุกแล้ว
ตอนเสี่ยวเป่าอยู่ฝรั่งเศส ก็ฝึกขี่ม้าเป็นแล้ว ตอนนี้ก็เลยขี่ยังสบาย
เถียนเถียนเห็นเสี่ยวเป่าขี่อยู่บนหลังม้าอยู่ดีใจ ในตาก็มีความรู้สึกอิจฉา
เธอมองส้งหวั่นชีงที่อยู่นอกรั้วสนามม้า ก็พูดด้วยเสียงเด็กอย่างน่ารัก “ป้า หนูจะไปเล่นแล้วนะ ป้ารอตรงนั้นคนเดียวอย่างเชื่อฟังนะ”
คำพูดของเธอเหมือนกล่อมเด็กน้อย ส้งหวั่นชีงฟังแล้วก็อยากหัวเราะ “จ้า ป้าเชื่อฟังคำพูดเถียนเถียนแน่นอน แต่ว่า เถียนเถียนต้องระวังนะ ม้าน้อยบางทีไม่เชื่อฟัง ระวังบาดเจ็บนะ”
“ป้าวางใจค่ะ ม้าน้อยไม่ทำให้หนูบาดเจ็บหรอก มันชอบหนูจะตาย”
เถียนเถียนพูดไป ก็กระโดดเข้าไปใกล้ม้า
จิ้นเฟิงเหราเห็นแล้ว ก็รีบอุ้มเถียนเถียนขึ้น
“เถียนเถียน อาบอกหนูนะ ม้าต้องฝึกให้เชื่องก่อน ม้าบางตัวหยิ่งมาก จะเชื่อฟังแค่เจ้าของที่มันยอมรับเท่านั้น อย่างที่เถียนเถียนวิ่งมาแบบเมื่อกี้ ไม่ระวังจะบาดเจ็บได้นะ”
เถียนเถียนแลบลิ้น กอดคอของจิ้นเฟิงเหรา พูดอ้อน “หนูรู้แล้ว คุณอาพูดมากจัง มิน่าทะเลาะกับแด๊ดดี้ไม่เคยชนะเลย”
ถูกแม่หนูน้อยดูถูก จิ้นเฟิงเหราอดเอือมระอาไม่ได้ “นั่นคืออายอมให้พ่อหนูต่างหาก ไม่อย่างนั้นหนูคิดว่าปากอย่างอา จะชนะพ่อหนูไม่ได้เหรอ?”
เถียนเถียนกลับไม่ยอม เข้าข้างจิ้นเฟิงเฉินเต็มที่ “คุณอาสู้แด๊ดดี้ไม่ได้หรอก แด๊ดดี้หนูเป็นคนที่เก่งที่สุดในโลก”
เห็นหนูน้อยขมวดคิ้วหนักแน่น จิ้นเฟิงเหราก็อดคาดหวังไม่ได้ ลูกของตัวเองอีกหน่อยจะปกป้องตัวเองแบบนี้ไหม
“ก็ได้ อาไม่เถียงกับหนูแล้ว อาสอนหนูขี่ม้าดีกว่า”
ได้ยินจิ้นเฟิงเหราจะสอนตัวเองขี่ม้า เถียนเถียนก็ไม่ยอม
“แต่ว่า…..หนูอยากให้แด๊ดดี้สอนหนู”
จิ้นเฟิงเหราชี้ไปทางจิ้นเฟิงเฉิน “นั่น แด๊ดดี้หนูกำลังตั้งใจสอนหม่ามี๊อยู่”
เถียนเถียนมองไปตามมือของจิ้นเฟิงเหรา เป็นอย่างที่พูด แด๊ดดี้ไม่ละสายตาออกจากหม่ามี๊แม้แต่วินาทีเดียว
เธอจึงต้องยอม “ก็ได้ ให้คุณอาสอนหนูก็ได้”
เห็นสายตาอันผิดหวังของเถียนเถียน จิ้นเฟิงเหรายื่นมือจับจมูกของสาวน้อย “ได้ แม่สาวน้อย คุณอาของหนูก็เก่งเหมือนกัน”
จากการดูแลของจิ้นเฟิงเหรา เถียนเถียนก็ได้ขี่ขึ้นหลังของม้าตามที่คาดหวัง
แต่ว่า จิ้นเฟิงเหราไม่กล้าให้เธอขี่คนเดียว ดังนั้น เถียนเถียนจึงขี่ม้าของจิ้นเฟิงเหรา
เหลือเพียงเจียงสื้อสื้อยังอยู่ที่เดิม
จิ้นเฟิงเฉินค่อยๆพูดปลอบ “วางใจได้สื้อสื้อ ไม่เป็นไร ผมอยู่ข้างหลังคุณ ไม่ตกหรอก คุณขึ้นม้าก่อน ผมจะขึ้นทีหลัง”
หลังจากคิดไปสักพัก เจียงสื้อสื้อก็ทำใจได้ ลูบ คลำขนม้า พูดอย่างอ่อนโยน “ม้าน้อย ต้องเชื่อฟังนะ ฉันจะขึ้นอย่างเบาที่สุด”
พูดจบ ม้าก็ตอบสนอง เจียงสื้อสื้อถึงได้วางใจ
“สื้อสื้อ ขึ้นม้าต้องเร็ว ขาขวายกสูงไม่อย่างนั้นจะโดนหัวม้า จะทำให้มันตกใจ”
จากคำแนะนำของจิ้นเฟิงเฉิน เจียงสื้อสื้อก็ขึ้นไปอย่างราบรื่น
ตอนที่เธอขึ้นไป ม้าก็สั่นไปทีหนึ่ง เจียงสื้อสื้อร้องอย่างตกใจ
จิ้นเฟิงเฉินเห็น ก็รีบจับเชือกไว้ จากนั้นก็ขึ้นตาม มือข้างหนึ่งกอดเอวสื้อสื้อไว้
รอม้าเริ่มนิ่งแล้ว เขาก็ยื่นเชือกในมือให้เจียงสื้อสื้อ “สื้อสื้อ คุณลองจับเชือกดู จำไว้ว่าอย่าให้เชือกพันมือ”
“ปล่อยเข่าตามสบาย อย่าหนีบท้องม้าไว้แน่นเกินไป หัวและคอรักษาแนวตรง วางขาสองข้างอย่างมั่นคง
……
เสียงของจิ้นเฟิงเฉินวนเวียนอยู่ข้างหู ความกลัวของเจียงสื้อสื้อก็ลดไปมากทีเดียว
ค่อยๆเริ่มกล้าขึ้นทีละนิด ม้าถูกเธอควบคุม ค่อยๆเดินไปข้างหน้า
เจียงสื้อสื้อพูดอย่างตื่นเต้น “เฟิงเฉิน คุณดูมันเดินแล้ว”
ดูเธอยิ้มหน้าบานเหมือนดอกไม้ รอยยิ้มบนใบหน้าของจิ้นเฟิงเฉินก็ยิ่งอ่อนโยน “ใช่ แบบนี้เลย รักษาต่อไป ความจริงม้ามันเชื่อฟัง มันรู้ว่าคุณไม่ทำร้ายมัน ก็จะฟังคำสั่งของคุณ”
ม้าค่อยๆเร็วขึ้น เจียงสื้อสื้อก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นยิ่งขึ้น
พูดความรู้สึกของตัวเองให้จิ้นเฟิงเฉินฟังไม่หยุด เจิ้นเฟิงเฉินฟังอย่างตั้งใจ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาฟังเจียงสื้อสื้อมีความสนใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
ตอนนี้ เสี่ยวเป่าควบคุมม้า เข้าใกล้ม้าของจิ้นเฟิงเหรา
เถียนเถียนพูดอย่างตื่นเต้น “แด๊ดดี้ หม่ามี๊ รีบดูเร็ว เถียนเถียนขี่ม้าเป็นด้วย”
สองผัวเมียพูดพร้อมกัน “เถียนเถียนเก่งที่สุดเลย”
เสี่ยวเป่าได้ยิน ก็ทำสีหน้าขอคำชม “หม่ามี๊ เสี่ยวเป่าขี่เองนะครับ”
เจียงสื้อสื้อยื่นเชือกให้จิ้นเฟิงเฉิน ชูนิ้วโป้ง “เสี่ยวเป่าของเราเก่งที่สุดเลย เสี่ยวเป่าเก่งกว่าหม่ามี๊อีก เป็นลูกผู้ชายเลย”
ได้รับคำชมของเจียงสื้อสื้อแล้ว เสี่ยวเป่าก็เงยหน้าขึ้นสูง มองจิ้นเฟิงเหรา “คุณอา พวกเรามาแข่งกันไหม?”
เผชิญหน้ากับคำท้า จิ้นเฟิงเหราไม่เคยปฏิเสธ ยักคิ้วพูด “ยินดี เราแข่งกันหนึ่งรอบ ดูว่าใครใช้เวลาน้อยที่สุด”
เด็กหนึ่งผู้ใหญ่หนึ่งตัดสินใจแข่งขัน ส่งเถียนเถียนให้ส้งหวั่นชีงที่อยู่ข้างนอก
จากนั้น ทั้งสองก็เริ่มแข่งขัน
เห็นม้าของพวกเขาวิ่งอย่างเร็ว เจียงสื้อสื้อรู้สึกตัวเองขี่ได้ช้ามาก หันไปมองจิ้นเฟิงเฉิน “เฟิงเฉิน พวกเราเร็วหน่อยไหม ไล่ตามพวกเขาหน่อย”
“ได้” จิ้นเฟิงเฉินตอบเสียงอ่อนโยน
ตามมาด้วยม้าสามตัววิ่งด้วยความเร็วในสนามม้า แรงสะเทือนบนหลังม้าทำให้เจียงสื้อสื้อรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก แววตาก็มีแววสดใสขึ้นมาก
จากการแข่งขันแล้ว แน่นอนคนที่ชนะคือจิ้นเฟิงเหรา ถึงแม้เทคนิคเสี่ยวเป่าก็ใช้ได้ แต่เขายังเป็นเด็ก และขี่ม้าเล็กด้วย
แต่ว่า ก็เล่นอย่างสนุก
ช่วงเช้าวันนี้สำหรับเจียงสื้อสื้อแล้ว เล่นอย่างมีความสุขมาก นานแล้วที่เธอไม่ได้รู้สึกสดชื่นและมีความสุขแบบนี้
เสี่ยวเป่าลงจากม้า คุยกระจุกกระจิกกับเถียนเถียนไม่หยุด
ทุกคนเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เถียนเถียนบ่นว่าหิว ทั้งครอบครัวก็ไปกินข้าวเที่ยวด้วยกัน
บนโต๊ะอาหาร เถียนเถียนยังพูดไม่หยุด “แด๊ดดี้ อีกหน่อยพวกเรามาเล่นทุกอาทิตย์ได้ไหม? เถียนเถียนชอบมากเลย”
สำหรับคำขอของสาวน้อย จิ้นเฟิงเฉินไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว
“ได้แน่นอน ขอแค่เถียนเถียนอยากเล่น พวกเราอยากมาเมื่อไหร่ก็มาได้”
ได้รับคำตอบรับแล้ว เถียนเถียนก็ตบมือดีใจ