“คุณพิเอร์สพูดตลกแล้ว”
เสียงจิ้นเฟิงเฉินตอบไปเบาๆ วินาทีก็ได้ยินเสียงหัวเราะของพิเอร์ส
“งั้นผมก็พูดเรื่องงานเลยนะครับ ไม่ทราบว่าช่วงนี้คุณสะดวกจัดหายาให้ได้ไหม ดีที่สุดก็คือใบคริสต์มาสกับเมล็ดต้นแสลงใจ ช่วงนี้ผมจะกลับอิตาลี จะนำสินค้ากลับไปชุดหนึ่ง”
เป้าหมายของเขา จิ้นเฟิงเฉินทำไมจะไม่รู้?
แค่อยากมั่นใจความจริงใจของจิ้นเฟิงเฉินก่อนกลับไป
ดวงตาอันคมดำของจิ้นเฟิงเฉินหรี่ลง ใบหน้าเพราะแสงจากพระจันทร์ทำให้เดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่าง เงียบไปสักครู่ “แน่นอน แต่ว่า จัดการยาต้องใช้เวลา……”
จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกลำบากใจ แต่ว่า เขาตั้งใจพูดแบบนี้
ไม่นาน ก็ได้ยินพิเอร์สถามอย่างไม่แน่ใจ “คุณเฟิง ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้?”
จิ้นเฟิงเฉินเงยหน้าพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่แขวนอยู่บนฟ้า ค่อยๆพูดขึ้น “คำขอของคุณพิเอร์ส ผมจะปฏิเสธได้ยังไง?
ยาชุดนี้ รอทางผมเตรียมเสร็จแล้ว ผมส่งไปอิตาลีเอง คุณว่ายังไง?”
คำพูดของเขา พูดอย่างจริงใจมากแล้ว
พิเอร์สได้ยินแล้วก็ยิ้มอย่างพอใจ พูดอย่างดีใจ “คุณเฟิงคิดรอบคอบดีมาก”
ตอนแรกแค่อยากทดสอบ แต่คิดไม่ถึงว่าจิ้นเฟิงเฉินจะดีขนาดนี้?
จิ้นเฟิงเฉินคุยกับเขาไปครู่หนึ่ง ก็วางสาย
จิ้นเฟิงเฉินสีหน้าเคร่งเครียด เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง เปิดค้นหาเบอร์โทรศัพท์
โทรหาฟางอี้หมิงโดยไม่ลังเล ผ่านไปครู่หนึ่ง ฝั่งโน้นก็รับสาย
ในโทรศัพท์ฝั่งโน้นเป็นเสียงของฟางอี้หมิงที่ค่อนข้างแปลกใจ “ฮัลโหล ประธานจิ้น มีอะไรครับ?”
จิ้นเฟิงเฉินพูดเสียงเรียบ “มีเรื่องหนึ่งให้คุณช่วย ตอนนี้ทางด้านพิเอร์ส ต้องการใบคริสต์มาสกับเมล็ดต้นแสลงใจ คุณหาได้ไหม?”
ฟางอี้หมิงรู้สึกแปลกใจ จิ้นเฟิงเฉินมีเรื่องขอร้องเขา?
ในเวลาแบบนี้ ไม่ว่าอะไรเขาก็ต้องช่วย เขาพยักหน้าอย่างไม่ลังเล ตอบว่า “เรื่องนี้หาได้แน่นอน น้องเขยวางใจได้ คุณมีเรื่องอะไรให้ช่วย ผมต้องช่วยอยู่แล้ว”
ฟางอี้หมิงแม้แต่คำเรียกก็เปลี่ยนไปด้วย สองตาสว่าง เขาเหมือนเห็นเงินกำลังกวักมือเรียกเขาอยู่ข้างหน้า
จิ้นเฟิงเฉินกระตุกมุมปาก หันไปมองสื้อสื้อที่อยู่ในห้องรับแขก และเด็กๆที่เล่นอย่างสนุกสนาน ไม่อยากสนใจคำเรียกของฟางอี้หมิง
จากนั้นฟางอี้หมิงก็พูดอีก “แต่ว่า น้องเขย งานระหว่างเรากับทางSAกรุ๊ป ทางคุณ……ตกลงร่วมงานแล้วใช่ไหม?”
ฟางอี้หมิงดีใจจนอยากกระโดด ถ้าการร่วมงานครั้งนี้ตกลงกันได้แล้ว ตัวเลขไม่ใช่น้อยๆ
ความจริงงานนี้อยู่ในมือ ก็ต้องใช้เงินทุนมากมาย
ตอนนี้คนที่สามารถช่วยพวกเขาได้ในระยะเวลาสั้น มีเพียงจิ้นเฟิงเฉิน
ฟางอี้หมิงรอคำตอบของจิ้นเฟิงเฉิน ทั้งคาดหวังและตื่นเต้น
แต่ว่า ในใจก็ยังถือว่าเจียงสื้อสื้อเป็นตัวช่วยคนสุดท้าย
จิ้นเฟิงเฉินเห็นแก่เจียงสื้อสื้อ ก็คงจะไว้หน้าเขาบ้าง?
เป็นไปตามคาด วินาทีต่อมา ฟางอี้หมิงก็ได้ยินจิ้นเฟิงเฉินพูด “ผมเข้าร่วมได้ ให้เงินทุนได้ แต่ว่า……”
ฟางอี้หมิงรู้สึกดีใจ แต่ยังไม่รอจนจิ้นเฟิงเฉินพูดจบ ก็ตัดคำพูดเขาอย่างดีใจ “ขอบคุณมาก เชื่อว่าถ้าน้องสาวผมรู้ว่าคุณดูแลพวกเราดีขนาดนี้ ต้องดีใจแน่”
“แต่ว่า ผมมีข้อแม้หนึ่งข้อ”
จิ้นเฟิงเฉินพูดอย่างใจเย็น ไม่ได้สนใจคำพูดไร้สาระของเขา
ข้อเสนอ?
คำนี้เหมือนโดนสาดน้ำเย็น ทำให้ใจที่เร่าร้อนของฟางอี้หมิงเย็นไปทันที
เขารู้สึกว่า ข้อเสนอที่จิ้นเฟิงเฉินเสนอ ต้องไม่ง่ายแน่นอน
เขาถามอย่างลังเล “อะไร ข้อเสนออะไร?”
“ทางผมจะแก้ไขเนื้อหาสัญญาบางจุด ถ้าพวกคุณไม่ยินยอม ก็ไม่จำเป็นต้องคุยต่อ” จิ้นเฟิงเฉินน้ำเสียงเย็นชา
จิ้นเฟิงเฉินสามารถถอนทุนได้ตลอดเวลา แต่สำหรับฟางอี้หมิงพ่อลูกแล้ว ตอนนี้พวกเขามีเพียงต้นไม้ใหญ่อย่างจิ้นกรุ๊ปที่พึงได้เท่านั้น
ทางด้านจิ้นเฟิงเฉิน พวกเขาไม่มีสิทธิ์ในการเลือก ก็ต้องตกลงอยู่แล้ว
ฟางอี้หมิงกัดฟัน เขาไม่รู้ว่าจิ้นเฟิงเฉินจะมีข้อเสนออะไร
แต่ว่า สัญญาจะล่มในมือเขาไม่ได้ ก็ตอบได้แค่ “ได้ ถ้าอย่างนั้นคุณแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ค่อยส่งให้ผมละกัน”
ในคำพูดฟางอี้หมิง มีเหมือนทำอะไรไม่ถูก
เพราะว่า เขาไม่มีสิทธิ์ในการคุยข้อเสนอกับจิ้นเฟิงเฉิน
จิ้นเฟิงเฉินพอใจ “อืม” ตอบไปคำหนึ่ง ตาประกาย
เมื่อคุยโทรศัพท์กับฟางอี้หมิงเสร็จแล้ว เขาก็โทรหาผู้ช่วยกู้เนี่ยน สั่งงาน “พรุ่งนี้ไปที่บริษัทตอนเช้า แก้ไขสัญญาที่เซ็นกับสองพ่อลูกฟางเฉิง
ข้อหนึ่ง สัญญาฉบับนี้ ฝ่ายเรามีสิทธิ์รับทราบทุกอย่าง
ข้อสอง ฟางซื่อกรุ๊ปทำการตัดสินใจใดๆเกี่ยวกับสัญญา ฝ่ายเรามีสิทธิ์เข้าร่วมและรับทราบทุกอย่าง
ข้อสาม ทำรายงานงบการเงินตลอดเวลา และความคืบหน้าของโครงการ……”
จิ้นเฟิงเฉินพูดข้อเสนออย่างชัดเจน ขัดขวางความเป็นไปได้ที่ฟางอี้หมิงสองพ่อลูกจะสร้างปัญหา
กู้เนี่ยนฟังแล้ว ก็ตอบอย่างเคารพ “ครับ คุณชาย”
จิ้นเฟิงเฉินยกมือขึ้นนวดขมับ ดูเหมือนเหน็ดเหนื่อย
……
วันที่สอง สองพ่อลูกฟางเฉิงกับฟางอี้หมิงนั่งในออฟฟิศ ในมือถือเอกสารที่เพิ่งส่งมา
สีหน้าไม่ดี
ฟางอี้หมิงขมวดคิ้วอ่านข้อเสนอที่จิ้นเฟิงเฉินแก้ไข เขาพูดอย่างไม่อยากเชื่อ “สัญญาโหดไปไหม? มันเกินไปแล้ว เขาจะควบคุมเราใช่ไหม?”
ฟางอี้หมิงเต้นแร้งเต้นกา
เมื่อวานยังดีใจ วันนี้รู้สึกโมโห
จิ้นเฟิงเฉินแกล้งพวกเขาใช่ไหม?
ฟางเฉิงสีหน้าไม่ดีเอามือออกจากสัญญาฉบับนั้น ขมวดคิ้วพูด “อี้หมิง แน่ใจหรือว่าเอกสารนี้จิ้นเฟิงเฉินเป็นคนส่งมา?”
ฟางเฉิงรู้สึกโมโหมาก เขาสงสัย เพราะคำพูดบางอย่างจะพูดเร็วขนาดนี้ไม่ได้
แค่ฟัง ฟางอี้หมิงก็พูดอย่างโมโห “จะไม่จริงได้ไง?”
ฟางเฉิงจับคางถูกไปมา เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง เขาส่ายหัวพูด “ลูก อย่าเพิ่งด่วนตัดสิน……”
ฟางอี้หมิงที่อารมณ์ไม่ดีถูกฟางเฉิงห้ามไว้ชั่วคราว รู้สึกนั่งไม่อยู่กับที่
ผ่านไปสักพัก ถึงได้ยินคำพูดที่มั่นใจของฟางเฉิง “จิ้นเฟิงเฉินทำแบบนี้ ก็ไม่ได้ไม่มีเหตุผล เพราะเป็นโครงการเงินหลายสิบล้าน เขาระวังหน่อยก็เป็นเรื่องปกติ ส่วนลูก เจอเรื่องอะไรนิดหน่อยก็กระวนกระวาย”
ฟางอี้หมิงถูกต่อว่า สีหน้าก็ซีด แต่ตอบอย่างไม่ค่อยพอใจ “สำหรับจิ้นกรุ๊ปแล้ว กี่สิบล้านไม่ใช่ตัวเลขนิดเดียวเหรอ?”