“ที่ไหนกัน”
เจียงสื้อสื้อเอาปลอยผมข้างแก้มไปเหน็บไว้ที่ใบหูอันร้อนฉ่า จากนั้นก็หันหน้าไปสบตากับดวงตาที่ดำสนิทของจิ้นเฟิงเฉินพอดี ทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวขึ้นมาทันที
ตอนนั้นเอง เสียงของแม่จิ้นก็ดังขึ้นที่ข้างหู
“สื้อสื้อ ลูกร้องเพลงได้เพราะจริงๆ นะ”
เจียงสื้อสื้อตั้งสติได้ แล้วหันไปมองที่แม่จิ้น เธอถึงได้รู้ว่าทุกคนกำลังจ้องมองเธออยู่ ใบหน้าขาวนวลค่อยๆ แดงขึ้นเรื่อยๆ
“พวกคุณชมฉันเกินไปแล้ว ฉันไม่ได้ร้องดีขนาดนั้นสักหน่อย”
พ่อจิ้นหัวเราะออกมาด้วยความสะใจ “สื้อสื้อ หนูไม่ต้องถ่อมตัวหรอก หนูร้องเพราะจริงๆ นะ พวกเราชอบมากเลย ร้องอีกสักเพลงมั้ยล่ะ?”
“ใช่ค่ะ พี่สะใภ้ ร้องอีกเพลงนะคะ ร้องอีกเพลง” ส้งหวั่นชีงพูดยุอยู่ข้างๆ
แม้แต่เถียนเถียนกับเสี่ยวเป่ายังเอาด้วยเลย “หม่ามี๊ร้องอีกเพลงนะ”
ด้วยความจนใจ เจียงสื้อสื้อจึงต้องร้องอีกเพลง
หลังจากนั้น ทุกคนก็เริ่มอยากสนใจที่จะร้องเพลงและเริ่มผลัดกันร้องเพลงขึ้นมา
จนถึงตอนเที่ยงคืน งานเลี้ยงครอบครัวในครั้งนี้ถึงไปสิ้นสุดลง
เมื่อส่งมาจนถึงหน้าประตู ซ่างหยิงก็จับมือแม่จิ้นแล้วพูดด้วยความจริงใจว่า “ชิงแก ถ้ามีโอกาสต้องมาเที่ยวที่เมืองหลวงนะคะ พอถึงตอนนั้นฉันจะพาพวกคุณไปเที่ยวเอง”
“ค่ะ ฉันต้องไปแน่นอน” แม่จิ้นตบๆ ที่มือของเธอ “ถ้าอย่างนั้นพวกคุณก็ต้องมาอีกนะคะ”
ซ่างหยิงยิ้ม “แน่นอนค่ะ”
“เหล่าฟาง ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสเราต้องมานั่งเล่นหมากรุกกันอย่างจริงจังนะครับ” พ่อจิ้นหัวเราะชอบใจ
“แน่นอนอยู่แล้วครับ”
พ่อจิ้นกับฟางเถิงสบตากันแล้วหัวเราะออกมา
“น้าชายเล็ก น้าสะใภ้เล็ก พวกเราขอตัวกลับก่อนนะครับ/คะ”
จิ้นเฟิงเหรากับส้งหวั่นชีงกล่าวลา จากนั้นก็พาพ่อจิ้นแม่จิ้นกลับไปก่อน
ใช้สายตาส่งพวกเขาจนรถถูกขับออกไป ซ่างหยิงถึงได้หันกลับมามองจิ้นเฟิงเฉินกับเจียงสื้อสื้อ
“นี่ก็ดึกมากแล้ว พวกเธอก็กลับกันเถอะ”
เจียงสื้อสื้อก้มลงไปพูดกับเสี่ยวเป่าที่ยืนอยู่ข้างๆ ว่า “รีบบ๊ายบายให้ยายซ่างหยิงเร็ว”
เสี่ยวเป่าพูด “บ๊ายบาย” อย่างว่าง่าย
ซ่างหยิงลูบหัวของเขาด้วยความเอ็นดู “เด็กดี ต่อไปต้องระวังให้มากๆ นะ อย่าให้ตัวเองต้องเจ็บตัวอีก เข้าใจมั้ย?”
“ครับ”
จากนั้น ซ่างหยิงก็มองไปยังเถียนเถียนที่ถูกจิ้นเฟิงเฉินอุ้มไว้ด้วยสายตาที่อบอุ่น “หาเวลาพาเด็กสองคนนี้ไปพักที่เมืองหลวงระยะนะ
เธอรู้สึกชอบเด็กสองคนนี้จริงๆ
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า “ครับ”
เขาหันไปมองเจียงสื้อสื้อ แล้วพูดออกมาว่า “น้าชายเล็ก น้าสะใภ้เล็ก พวกเรากลับก่อนนะครับ พวกคุณรีบไปพักผ่อนเถอะครับ”
“เดินทางปลอดภัยนะ”
เจียงสื้อสื้อโบกมือให้ทั้งสอง “เดี๋ยวพรุ่งนี้เรามาส่งนะคะ”
“ถ้ายุ่งก็ไม่ต้องมาก็ได้” ซ่างหยิงรีบปฏิเสธ “ฉันกับน้าชายเล็กของเธอรู้ว่าต้องกลับไปยังไง”
“ไม่ยุ่งค่ะ” เจียงสื้อสื้อยิ้มร่า แล้วพูดต่อว่า “เรากลับก่อนนะคะ”
มองดูครอบครัวสี่คนนั้นเดินขึ้นรถ รถถูกสตาร์ท ค่อยๆ ขับออกไป จนลับสายตาไป
“เราขึ้นไปกันเถอะ”
ฟางเถิงหันกลับมาก่อน เขาจับมือของซ่างหยิง แล้วเดินเข้าโรงแรมไป
……
วันต่อมา หลังจากที่จิ้นเฟิงเฉินกับเจียงสื้อสื้อส่งฟางเถิงและภรรยากลับไปแล้ว พวกเขาก็แวะไปที่ศูนย์การค้ารอบหนึ่ง
ถึงกำหนดคลอดของส้งหวั่นชีงจะอีกพักหนึ่ง แต่เจียงสื้อสื้อก็ตัดสินใจที่จะซื้อของขวัญของหลานไว้ล่วงหน้าก่อน เธอกลัวว่าพอถึงตอนนั้นตัวเองจะไม่ได้อยู่ที่เมืองจิ่น
“เฟิงเฉินคะ คุณคิดว่าเราซื้ออะไรให้ดี?” ตอนนี้เจียงสื้อสื้อยังไม่มีไอเดีย
“ซื้อกำไลคู่หนึ่ง” จิ้นเฟิงเฉินเสนอ
“กำไลทองเหรอคะ?” เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว “มันจะไม่ดูเชยไปหน่อยเหรอคะ?”
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มออกมาเล็กน้อย “ไม่ครับ เด็กทารกใส่มันไม่ดูเชยหรอก”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นเราก็ไปซื้อกำไลกัน”
พวกเขานั่งลิฟต์ขึ้นไปชั้นบน จากนั้นก็เข้าไปที่เคาน์เตอร์แบรนด์ชื่อดังร้านหนึ่ง
“สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับค่ะ” พนักงานในร้านเข้ามาต้อนรับอย่างเป็นกระตือรือร้น ใบหน้าที่ถูกแต่งไว้อย่างสวยงามยิ้มแย้มอย่างมีมารยาท
เจียงสื้อสื้อยิ้มกลับ “สวัสดีค่ะ เราอยากได้กำไลสำหรับเด็กทารกค่ะ”
“ได้ค่ะ เชิญรอทางนี้นะคะ”
พนักงานพาทั้งคู่มาที่หน้าเคาน์เตอร์ ชี้ไปยังกำไลทองที่ตั้งโชว์ไว้แล้วพูดขึ้นว่า “ส่วนนี้เป็นกำไลสำหรับทารกหมดเลยค่ะ ถ้าถูกใจอันไหนสามารถเอาออกมาดูได้นะคะ”
ระหว่างที่พูด เธอก็เดินเข้าไปในเคาน์เตอร์ แล้วให้คนเอาน้ำมาเสิร์ฟสองแก้ว
“เชิญดื่มน้ำค่ะ ค่อยๆ เลือกก็ได้นะคะ”
“ขอบคุณค่ะ” เจียงสื้อสื้อกล่าวขอบคุณ แล้วจ้องมองกำไลพวกนั้นอย่างละเอียด
ความจริงพวกมันก็ค่อนข้างเหมือนกัน แทบไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย
คิ้วของเธอค่อยๆ ขมวดขึ้น เธอเงยหน้าขึ้น “สามารถสลักอักษรลงไปได้มั้ยคะ?”
พนักงานพยักหน้า “ได้อยู่แล้วค่ะ คุณลูกค้าชอบแบบไหนเหรอคะ ถึงตอนนั้นคุณลูกค้าแค่บอกข้อความที่ต้องการให้กับเรา เดี๋ยวทางเราก็จะสลักข้อความนั้นไว้ด้านในของกำไลให้ค่ะ”
“ค่ะ”
เจียงสื้อสื้อมองกำไรพวกนั้นอีกรอบ จากนั้นก็เลือกทรงที่ค่อนข้างทันสมัยออกมาคู่หนึ่ง
พนักงานหยิบมันออกมาไว้ในมืออย่างระมัดระวัง “คุณลูกค้านี่ตาถึงจริงๆ เลยนะคะ ทรงนี้เพิ่งเข้าเมื่อวานนี้เองค่ะ”
เจียงสื้อสื้อยิ้มออกมาอย่างสุภาพ แล้วหันไปถามจิ้นเฟิงเฉินว่า “คุณคิดว่ายังไงคะ?”
“สวยดีครับ”
เจียงสื้อสื้อเองก็รู้สึกว่ามันสวยดีเหมือนกัน ว่าแล้วเธอก็หันไปบอกกับพนักงานว่า “เอาคู่นี้ค่ะ”
“ได้ค่ะ ฉันจะไปเปิดบิลเดี๋ยวนี้เลย รอสักครู่นะคะ”
ระหว่างที่รอพนักงานไปเปิดบิลอยู่นั้น เธอก็เดินชมไปรอบๆ ร้าน สุดท้ายเธอก็มาหยุดอยู่ที่เคาน์เตอร์ที่ขายเครื่องหยกพอเห็นเครื่องหยกที่สวยงามเงางามพวกนั้นแล้ว เธอก็เลิกคิ้วขึ้น
หรือว่า เธอจะซื้อกำไลหยกให้แม่สักชิ้นดีนะ
ใครใส่หยก หยกดูแลใคร ซื้อกำไลอันนี้ให้แม่นั้นมันต้องดีอยู่แล้ว
“เฟิงเฉิน ฉันอยากซื้ออันนี้ค่ะ” เธอรู้สึกถูกใจกำไลอันหนึ่งทันที
จิ้นเฟิงเฉินมองไปแวบหนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างรักใคร่ “ขอแค่คุณชอบ อยากซื้อก็ซื้อเลยครับ”
สุดท้าย เจียงสื้อสื้อก็ได้ซื้อกำไลหยกสองอัน และจี้หยกอีกสองอัน แถมเธอยังให้พนักงานใช้ด้ายดำร้อยจี้หยกเอาไว้
เธอหยิบกำไลหยกของอันขึ้นมา แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อันหนึ่งให้แม่คุณ ส่วนอีกอันให้แม่ฉัน ส่วนจี้หยกก็ให้คุณไปแขวนไว้ในรถนะคะ”
จิ้นเฟิงเฉินเห็นเธอยิ้มอย่างมีความสุขจนตาหยี ดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน เธอนั้นเอาใจใส่แบบนี้ตลอดเลย
พอซื้อของขวัญเสร็จ เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกพอใจสักที “ตอนนี้ก็รอให้หลานคลอดค่อยเอาไปให้ก็พอแล้ว”
“ยังอยากไปที่ไหนอีกมั้ยครับ?” จิ้นเฟิงเฉินถาม
“อืม……” เจียงสื้อสื้อนึกอย่างตั้งอกตั้งใจ แล้วส่ายหน้า “ไม่ค่ะ แล้วคุณล่ะคะ?”
“ผมก็ไม่ครับ”
เจียงสื้อสื้อยักไหล่ แล้วพูดแซวตัวเองว่า “ดูเหมือนเราสองคนจะว่างกันมากเลยนะคะ”
จิ้นเฟิงเฉินหุบยิ้ม “เพื่อไม่ให้คุณรู้สึกเบื่อ ผมจะพาคุณไปยังสถานที่แห่งหนึ่งแล้วกันครับ”
“ไปไหนคะ?” เจียงสื้อสื้อถามออกมาด้วยความสงสัย
“ไปถึงคุณก็รู้เองครับ” จิ้นเฟิงเฉินตั้งใจทำให้เธอคาใจ
เจียงสื้อสื้อยิ้มออกมา แต่ก็ไม่ได้ถามต่อ
ผ่านไปยี่สิบนาที รถก็ค่อยๆ จอดลง เจียงสื้อสื้อหันไปมองสิ่งก่อสร้างที่อยู่ด้านนอก มุมปากชักกระตุก “นี่คุณพาฉันมาที่บริษัทเนี่ยนะ?”
จิ้นเฟิงเฉินหันไปมองเธอ “ไม่ชอบเหรอครับ?”
เจียงสื้อสื้อยิ้มแห้งๆ ไม่ใช่ไม่ชอบ แค่นึกไม่ถึงว่าคุณจะพาฉันมาที่นี่เท่านั้น”
“ผมยังมีงานต้องทำนิดหน่อย คุณอยู่เป็นเพื่อนผมนะ”
เขาพูดออกมาด้วยตนเองแล้ว จะให้เจียงสื้อสื้อจะปฏิเสธลงได้ยังไงล่ะ “ค่ะ ตกลง”
จิ้นเฟิงเฉินพาเธอเดินเข้าไปในบริษัท พอพนักงานหน้าเคาน์เตอร์เห็นเธอ ก็เบ่งตาโตทำหน้าไม่อยากจะเชื่อทันที
ท่านประธานพาภรรยามาที่บริษัทเหรอเนี่ย