ซ่างกวนหยวนทานอาหารเช้าและตรงไปหาพิเอร์สที่โรงแรมทันที
“คุณพิเอร์ส ฉันสนใจไวรัสตัวนั้นมาก”
ทันทีที่พบหน้า เธอก็บอกจุดประสงค์ของตัวเองอย่างตรงไปตรงมาทันที
พิเอร์สเลิกคิ้ว “ถ้าอย่างนั้นนี่คือคุณตกลงที่จะเข้าร่วมทีมวิจัยของSAแล้ว?”
“ไม่ใช่” ซ่างกวนหยวนส่ายหัว “ฉันอยากร่วมมือกับพวกคุณ”
“หมายความว่ายังไง” พิเอร์สไม่เข้าใจความหมายของเธอ
ซ่างกวนหยวนยิ้ม “ซ่างกวนกรุ๊ปก็มีสถาบันวิจัยของตัวเองเช่นกัน ซึ่งฉันเป็นผู้รับผิดชอบ ฉันคิดว่าพวกเราสามารถร่วมมือกันได้”
พิเอร์สส่ายหัว “คุณหนูซ่างกวน ผมคิดว่าผมพูดไปชัดเจนมากแล้ว ทีมวิจัยของSAกรุ๊ปต้องการคุณ แค่คุณเท่านั้น”
เขาเจาะจงเน้นคำว่า ‘เท่านั้น’ หนักเป็นพิเศษ
“คุณพิเอร์ส ร่วมมือชนะไปด้วยกันมันดีกว่าไม่ใช่เหรอคะ?” แน่นอนว่าซ่างกวนหยวนไม่มีทางยอมแพ้
พิเอร์สเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ผมต้องพูดตามตรง เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของSAกรุ๊ป ซึ่งไม่สามารถแบ่งปันกับคนอื่นได้”
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การวิจัยไวรัสสามารถทำได้โดยSAกรุ๊ปเท่านั้น คนอื่นอย่าได้คิด
ซ่างกวนหยวนหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง “คุณพิเอร์ส คุณตรงไปตรงมามากจริงๆ ถ้าอย่างนั้นโอเคค่ะ วันนี้ถือเสียว่าฉันไม่เคยมาที่นี่ก็แล้วกัน”
เธอพูดพลางลุกขึ้นยืน ทำท่าเหมือนกำลังจะออกไป
“เดี๋ยวก่อน” พิเอร์สรีบรั้งเธอไว้อย่างรวดเร็ว “คุณหนูซ่างกวน คุณยังไม่ได้บอกผมเลยว่าคุณยินยอมเข้าร่วมทีมวิจัยของพวกเราหรือเปล่า?”
“ขอโทษด้วย ฉันไม่ยินยอมค่ะ” ซ่างกวนหยวนปฏิเสธอย่างเด็ดขาดมาก
“ทำไม? สถาบันวิจัยของ SAกรุ๊ปถึงไม่สามารถพูดได้ว่าดีที่สุดในโลก แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าสถาบันวิจัยที่คุณอยู่ตอนนี้ ยิ่งไปกว่านั้นคุณมีเงื่อนไขอะไร เสนอมาได้ตามใจเลย ผมจะพยายามตอบสนองทุกเงื่อนไขที่คุณต้องการอย่างเต็มที่”
“ขอบคุณสำหรับความโปรดปรานของพวกคุณนะคะ แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงานให้คนอื่น โดยที่ตนเองไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเลย ฉันแค่ต้องการทำวิจัยที่ฉันอยากจะทำ”
พิเอร์สเป็นคนตรง ซ่างกวนหยวนก็เป็นคนตรงเช่นกัน
เธอมาที่นี่ในวันนี้ เพื่อเจรจาหารือเรื่องความร่วมมือ
ในเมื่อเจรจาความร่วมมือไม่สำเร็จ ถ้าอย่างนั้นก็ช่างมันไปเถอะ ถึงอย่างไรเธอก็ยังมีตัวอย่างไวรัสอยู่ในมือศึกษาวิจัยด้วยตัวเองก็ได้
“เมื่อถึงที่สถาบันวิจัยของ SA คุณสามารถศึกษาวิจัยได้อย่างอิสระเลย” พิเอร์สกล่าว
ซ่างกวนหยวนไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป ได้แต่ยิ้มๆ และพูดว่า “ฉันจะกลับแล้ว ไว้วันหลังฉันจะเชิญคุณไปทานอาหารกันนะคะ”
เมื่อคำพูดนั้นพูดออกไป ไม่ทันรอให้พิเอร์สตอบโต้ เธอก็หันหลังเดินออกไปแล้ว
“บ้าเอ้ย!”
พิเอร์สหยิบแก้วบนโต๊ะขึ้นก่อนจะกระทุ้งลงพื้นอย่างแรง โชคดีที่พื้นปูด้วยพรม แก้วไม่แตกแต่ก็กลิ้งไปสองสามรอบ แล้วก็บังเอิญหยุดอยู่ที่เท้าของซูน่าพอดี
ทันทีที่พวกเขาเจรจากันเสร็จซูน่าก็รีบออกมาทันที และเห็นฉากที่พิเอร์สอารมณ์เสียเข้าพอดิบพอดี
เธอย่อตัวลงไปเก็บแก้ว ถือไว้ในมือครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าไปข้างๆ พิเอร์สอย่างเชื่องช้า
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?” ซูน่าเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
พิเอร์สเอียงศีรษะเหลือบมองเธอเล็กน้อย จากนั้นก็นั่งลง “ซ่างกวนหยวนนั่นไม่ยินยอมเข้าร่วมทีมวิจัยของSA”
“ทำไมคะ เจรจาเงื่อนไขไม่ลงตัวเหรอคะ?” ซูน่านั่งลงข้างๆ เขา
“ไม่ใช่ สิ่งที่หล่อนต้องการคือความร่วมมือ”
ซูน่าขมวดคิ้ว “ความร่วมมือ?”
“อืม หล่อนสนใจไวรัสมากก็จริง แต่สนใจผลประโยชน์เบื้องหลังที่ตัวไวรัสจะนำมาให้มากกว่า”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ พิเอร์สก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมานิดหน่อย เขาหันไปพูดกับซูน่า “ช่วยชงกาแฟให้ฉันแก้ว เข้ม ไม่ต้องใส่น้ำตาล”
“ค่ะ”
ซูน่าลุกขึ้นเดินไปที่บาร์เพื่อชงกาแฟให้เขา
ขณะที่เธอกำลังเทผงกาแฟลงไป ก็หันกลับไปเหลือบมองพิเอร์สซึ่งนั่งอยู่ในห้องรับแขกด้วย แววตาพลันเปล่งประกาย
เธอเบือนสายตากลับมา รอให้กาแฟชงเสร็จอย่างเงียบๆ
“เสร็จหรือยัง?”
สักพักพิเอร์สก็ถามขึ้น
“เสร็จแล้วค่ะๆ”
ขณะที่ซูน่ารับกาแฟ ก็พลางหยิบยาเม็ดขนาดเล็กออกจากกระเป๋าเสื้อโยนใส่ลงไปในแก้วด้วย
จากนั้นก็โคลงเคลงแก้วเบาๆ ก่อนจะส่งให้พิเอร์ส
พิเอร์สกำลังคิดเกี่ยวกับบทสนทนาที่เพิ่งจะคุยกับซ่างกวนหยวนไปเมื่อครู่นี้อยู่ ไม่ทันได้คิดอะไรมาก และรับไปดื่มทันที
เมื่อเห็นเขาดื่มกาแฟลงไปแล้ว มุมปากของซูน่าก็ฉีกยิ้มขึ้นช้าๆ
“ซูน่ากาแฟวันนี้ขมเกินไปนะ” พิเอร์สขมวดคิ้วกล่าว
“ถ้าอย่างนั้นฉันไปเติมน้ำตาลก้อนให้แล้วกันค่ะ”
ซูน่าหันตัวกำลังจะเดินไปที่บาร์ ทันใดนั้นเสียง ‘โครม’ ก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
เธอหันกลับมามอง เห็นเพียงว่าพิเอร์สล้มลงไปกับพื้นแล้ว
สำเร็จแล้ว!
ซูน่าไม่สามารถควบคุมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากได้อีกต่อไป เดินเข้าไปเตะๆ เขี่ยๆ พิเอร์ส ซึ่งไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรกลับมาเลย
ด้วยปริมาณยาที่เธอให้ไปเมื่อครู่นี้ พิเอร์สคงจะหลับไปอีกหลายชั่วโมง
เธอมองขึ้นไปที่ห้องของพิเอร์ส หรี่ตาลงเล็กน้อย ของที่จิ่งหลิวเยว่ต้องการอยู่ข้างในนั้น
…
ตั้งแต่เมื่อเช้าเปลือกตาของจิ่งหลิวเยว่ก็เอาแต่กระตุกอยู่ตลอด กระตุกจนเขาหงุดหงิดจนทนไม่ไหว
“พวกนายว่าเปลือกตาของฉันมันเป็นอะไรไป? กระตุกมาตั้งหลายชั่วโมงแล้ว ยังจะกระตุกอยู่อีก!” จิ่งหลิวเยว่บ่นพึมพำกับจี้ตงถางที่เข้ามาหาเขา
จี้ตงถางพูดอย่างใจเย็น “ตากระตุกขวาร้าย ซ้ายดี”
ทันทีที่จิ่งหลิวเยว่ได้ฟังก็กระโดดลุกขึ้นทันที “แย่แล้ว ฉันตากระตุกขวา แถมยังกระโดดแรงขนาดนี้ คงจะไม่มีเรื่องร้ายภัยพิบัติอะไรเกิดขึ้นกับฉันใช่ไหม?”
“นายคิดมากไปแล้ว” จี้ตงถางเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา “อันที่จริงที่เปลือกตากระตุกเป็นเพราะนายพักผ่อนไม่เพียงพอต่างหาก เมื่อคืนไปเที่ยวเตร่ที่ไหนมาอีกล่ะ?”
“เปล่าเลยนะ ฉันอยู่บ้าน” จิ่งหลิวเยว่นั่งกลับลงไปอีกครั้ง เขายกมือขึ้นนวดเปลือกตา
จี้ตงถางหันกลับมาถามว่า “เรื่องที่พี่เฉินให้นายจัดการเป็นยังไงบ้างแล้ว?”
“วันนี้รู้ผล”
เสียงของจิ่งหลิวเยว่เพิ่งจะเปล่งออกไป จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน
คือซูน่า
เขารีบหยิบขึ้นมารับสาย ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยปาก เสียงหอบของซูน่าก็ดังสะท้อนมาจากปลายสาย “ของวางไว้ที่เดิมนะ”
“ซูน่า เธอเป็นอะไรไป เกิดอะไรขึ้น?” เมื่อจิ่งหลิวเยว่ได้ยินเสียงของเธอผิดปกติไปก็รีบเอ่ยถามอย่างร้อนใจ
“ถูกจับได้แล้ว”
หลังจากซูน่าพูดประโยคนี้จบ โทรศัพท์ก็ตัดสายไปทันที
จิ่งหลิวเยว่รีบโทรกลับในทันใด
“สวัสดี หมายเลขที่คุณเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้…”
เมื่อจี้ตงถางเห็นสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปจนแทบดูไม่ได้ ก็เอ่ยถามด้วยความกังวล “เกิดอะไรขึ้นกับซูน่าเหรอ?”
“เธอถูกจับได้แล้ว” จิ่งหลิวเยว่หันไปมองเขา
“เป็นไปได้ยังไง?” จี้ตงถางประหลาดใจ “คนระแวดระวังอย่างซูน่า จะถูกจับได้ได้ยังไง?”
จิ่งหลิวเยว่คิดแล้วก็รู้สึกแปลกใจมากเช่นกัน เขาพูดขึ้น “ไม่ได้การแล้ว ฉันต้องไปหาเธอ”
ขณะที่พูดเขาก็วิ่งออกไปแล้ว
จี้ตงถางอยากจะห้ามก็ห้ามไม่ทัน ทำได้เพียงแค่ตามเขาออกไป
เดิมทีซูน่าคิดว่าภารกิจจะสำเร็จลุล่วงไปได้อย่างราบรื่น ใครจะรู้ว่าคนของพิเอร์สจะเข้ามา ไม่เพียงแต่พบพิเอร์สที่นอนล้มอยู่บนพื้นเท่านั้น แต่ยังพบเธอกำลังขโมยข้อมูลความลับเฉพาะจากคอมพิวเตอร์ของพิเอร์สด้วย
แต่ที่โชคดีอย่างมากก็คือ วินาทีที่ถูกจับได้นั้น แฟ้มข้อมูลโอนถ่ายข้อมูลเสร็จสิ้นพอดี
เธอดึงแฟลชไดรฟ์ออก หันตัวไปเปิดหน้าต่างแล้วกระโดดออกไปทันที
เรื่องเกิดขึ้นอย่างกะทันหันมาก จนอีกฝ่ายยังไม่ทันได้สติตอบสนองกลับมาเลยด้วยซ้ำ กว่าจะดึงสติกลับมาได้ ซูน่าก็หนีไปแล้ว
“ตาม!”
สิ้นเสียงคำสั่ง ลูกน้องของพิเอร์สก็เริ่มไล่ล่าตามจับซูน่า
เดิมทีคิดว่าตัวเองจะสามารถหนีได้พ้น แต่ใครจะคิดว่าเมื่อลงมาถึงชั้นหนึ่งของโรงแรม ดันไปเจอกับอีกฝ่ายเข้าพอดี ซูน่าทำได้เพียงวิ่งหนีอย่างบ้าคลั่ง พยายามสะบัดคนเหล่านั้นออกให้พ้นทาง
ในช่วงเวลานี้ เธอใช้โอกาสที่อีกฝ่ายไม่ทันได้สังเกต ซ่อนแฟลชไดรฟ์เอาไว้ในสถานที่ที่มีเพียงเธอกับจิ่งหลิวเยว่เท่านั้นที่รู้
แต่ตอนที่กำลังคุยโทรศัพท์ กลับถูกอีกฝ่ายจับได้เสียก่อน