ในยามเช้า แสงแดดที่สว่างจ้าส่องผ่านหน้าต่างทรงสูงลงบนพื้น จิ้นเฟิงเฉินหยิบเสื้อสูทขึ้นมาจากโซฟาแล้วสวมใส่มันเข้าไป จากนั้นก็เดินออกจากห้องนอนไป
เห้อซูหานที่กำลังรออยู่ในห้องนั่งเล่น พอเห็นเขาออกมาก็รีบเข้าไปทักทายเขาทันที “คุณชายครับ คุณชีซารอคุณอยู่ในร้านอาหารที่อยู่ชั้นล่างแล้วครับ”
“ไปครับ”
จิ้นเฟิงเฉินและเห้อซูหานพากันเดินออกไป
เมื่อไปถึงร้านอาหาร ก็เห็นชีซานั่งอยู่ริมหน้าต่างที่ยาวถึงพื้นทันที เดินไปแล้วนั่งลงตรงข้ามกับเธอ
ชีซากำลังหั่นครัวซองต์อยู่ เธอถามโดยไม่เงยหน้าขึ้น “เรียกฉันมาเช้าขนาดนี้ คงไม่ได้เรียกฉันมาแค่ทานอาหารเช้าไม่ใช่มั้งคะ?”
เธอเอาครัวซองต์ที่หั่นแล้วเข้าปากก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองชายที่อยู่ตรงข้าม
มุมปากของจิ้นเฟิงเฉินแย้มขึ้นอย่างคาดเดาไม่ได้ “ฉันต้องการโจมตีสถาบันวิจัยนั้นโดยตรง”
“แคร็ก!” ชีซาตกใจกับคำพูดของเขาจนถึงกับติดคอ
เธอรีบจิบน้ำผลไม้คำหนึ่ง เมื่อหายใจสะดวกแล้ว เธอก็พูดเบาๆอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า “คุณบ้าไปแล้วเหรอ เจ้ารู้รึเปล่าว่าสถาบันนั้นมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาแค่ไหน?”
“ผมรู้ครับ” จิ้นเฟิงเฉินตอบเบาๆ
“ในเมื่อรู้แล้ว คุณยังจะโจมตีโดยตรงอยู่อีกเหรอคะ?” จู่ๆชีซาก็พบว่าเธอไม่สามารถตามความคิดของเขาได้ทันเลย
“ผมรอไม่ไหวแล้ว”
ห้าคำก็เพียงพอที่จะอธิบายว่าทำไมจิ้นเฟิงเฉินถึงต้องทำแบบนี้
ชีซาวางมีดและส้อมลง เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “จิ้นเฟิงเฉิน คุณเคยคิดไหมว่าถ้าคุณเคลื่อนไหวไปอย่างกะทันหัน ถ้ามันไม่ประสบความสำเร็จแต่กลับล้มเหลวแทนล่ะ? นั่นหมายความว่าคุณถูกเปิดเผยแล้วและมันจะยากขึ้นไปอีก”
จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตาและพูดด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่ว่า “มีต้องทำให้สำเร็จไม่มีคำว่าล้มเหลวเด็ดขาด”
ชีซาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “จิ้นเฟิงเฉิน คุณนี่มันไร้เดียงสาเกินไปแล้ว เบอร์เกนไม่ได้ธรรมดาอย่างที่คุณคิดหรอก”
“ดังนั้น ผมจึงต้องการความช่วยเหลือจากคุณ” จิ้นเฟิงเฉินกล่าว
“ก็ได้ค่ะ! ยังไงคุณก็พูดมาแล้ว” ชีซาเอนหลังไปพิงเก้าอี้ เอามือกอดอกแล้วมองดูเขาด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่า
ทุกครั้งที่เขามาหาเธอ มันก็ไม่เคยมีเรื่องดีเลย
จิ้นเฟิงเฉินเทน้ำผลไม้ให้ตัวเองอย่างใจเย็น จิบน้ำผลไม้แล้วพูดออกมาช้าๆ “ผมต้องการความช่วยเหลือจากคุณ และมีเพียงคุณเท่านั้นที่สามารถช่วยผมได้”
“อย่า!” ชีซายกมือขึ้นมาห้ามเขา “อย่าประเมินฉันสูงเกินไป ความจริงฉันไม่มีประโยชน์อะไรเลย”
เธอไม่อยากเห็นเขาเสี่ยงอันตรายเลยจริง ๆ ถ้าเคลื่อนไหวไป ผลที่ตามมาจากความล้มเหลวนั้นไม่อยากที่จะจินตนาการเลย
“คุณไม่อยากช่วยผมเหรอครับ?” จิ้นเฟิงเฉินถาม
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากช่วย แต่ฉันแค่ไม่อยากเห็นคุณตกอยู่ในอันตราย”
ชีซายกน้ำผลไม้ขึ้นมาจิบไปคำใหญ่ ระงับการรำคาญในหัวใจลงไป แล้วพูดต่อว่า “คุณต้องนึกถึงภรรยาของคุณถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ แล้วใครจะไปช่วยเธอล่ะคะ?”
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว “ชีซา คุณคิดว่าคุณจะล้มเหลวจากก้นบึ้งของหัวใจเลยใช่มั้ยครับ?”
“ฉันแค่จะบอกว่าถ้า ยังไงซะ คู่ต่อสู้ก็คือเบอร์เกน”
“อย่าประเมินเขาสูงเกินไป” จิ้นเฟิงเฉินพูดเบาๆ “นอกจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เขาจัดไว้ในสถาบัน พวกนักวิจัยคนอื่นๆไม่ได้น่ากลัวเลยครับ”
ชีซาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ยืนยัน “คุณต้องทำแบบนี้จริงๆเหรอคะ?”
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า “ตอนนี้เหลือเพียงทางนี้ทางเดียวเท่านั้น”
“ก็ได้ค่ะ” ชีซาสูดหายใจเข้าลึกๆ “ถ้าอย่างนั้นฉันก็ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่แล้วกันค่ะ”
จากคำพูดนั้น เท่ากับเธอได้รับปากว่าจะช่วยเขาแล้ว
จิ้นเฟิงเฉินค่อยๆแย้มมุมปากขึ้น “ขอบคุณครับ”
ชีซาเบะปาก “ชาติที่แล้วฉันต้องติดหนี้คุณไว้แน่ๆ”
เธอกัดครัวซองต์ของเธอเข้าอย่างแรง
……
ก่อนที่ซ่างกวนหยวนจะมาที่อิตาลี เธอขอให้คนตรวจสอบดูแล้วว่าจิ้นเฟิงเฉินพักอยู่โรงแรมไหน จากนั้นเธอก็เข้าพักในโรงแรมเดียวกันด้วย
เดิมทีก็คิดว่าวันหนึ่งอาจจะบังเอิญเจอกัน แต่ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะมาถึงเร็วขนาดนี้
เมื่อเธอเห็นจิ้นเฟิงเฉินเดินเข้าไปในร้านอาหาร ใบหน้าที่ตกแต่งอย่างสวยงามของเธอก็แสดงความดีใจออกมา เธอเปิดปากหวังจะเรียกเขา
แต่เธอเห็นเขาเดินเข้าไปในร้านอาหารโดยเหลียวมองทางอื่นเลย
เธอเห็นเขานั่งลงที่ตรงข้ามกับผู้หญิงคนหนึ่ง
คิ้วบางๆก็ขมวดขึ้นมาอย่างแรง ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?
หลังจากนั้น เธอไม่มีอารมณ์กินอาหารเช้าอีกเลย ความสนใจทั้งหมดของเธอพุ่งไปอยู่ที่จิ้นเฟิงเฉินและผู้หญิงคนนั้น
ไม่รู้ว่าสองคนนั้นคุยกันเรื่องอะไรกัน ผู้หญิงคนนั้นดูตื่นเต้นมาก แต่ไม่นานเธอก็สงบลง
เห็นได้ว่าทั้งสองคนนั้นคุ้นเคยกันมาก แถมยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอีกด้วย
เจียงสื้อสื้อรู้รึเปล่าว่าสามีของเธอมาเจอผู้หญิงคนอื่นที่อิตาลีแถมยังมากินอาหารเช้าด้วยกันอีก?
ความคิดไม่เข้าท่าแวบเข้ามาในหัว ซ่างกวนหยวนหยิบมือถือขึ้นมา เปิดกล้อง
แชะ แชะ
เธอถ่ายรูปติดต่อกันหลายรูป จากนั้นก็ส่งมันให้เจียงสื้อสื้อ
หลังจากส่งไปแล้ว เธอก็รู้สึกว่ามือของเธอกำลังสั่น
เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เธอรู้สึกเหมือนตัวเองมาจับชู้เลย?
ไม่ว่าจิ้นเฟิงเฉินกับผู้หญิงคนนั้นจะเป็นอะไรกันก็ตาม ขอแค่สามารถเพิ่มความหนักใจให้เจียงสื้อสื้อก็พอแล้ว
ในเวลาเดียวกัน เจียงสื้อสื้อที่อยู่เมืองหลวงในประเทศก็ได้รับภาพถ่ายที่ส่งมาแล้ว
ก่อนที่จะเปิดดู เธอเห็นว่าซ่างกวนหยวนส่งรูปมาให้ตัวเองหลายรูป เธอยังคิดอยู่เลยว่ามันเป็นภาพตลกหรืออะไรทำนองนั้น
ใครจะไปคิดว่าพอเปิดออกมาดู คนในภาพกลับกลายเป็นจิ้นเฟิงเฉินกับชีซาซะได้
“เธอ… ถ่ายรูปพวกนี้มาได้ยังไง?” เจียงสื้อสื้อจ้องที่รูปด้วยความสงสัยที่มีเต็มอก
เธอคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงส่งข้อความถึงซ่างกวนหยวนว่า “เธอเป็นคนถ่ายเหรอ?”
จะมีการตอบกลับอย่างรวดเร็ว
สองคำ “ถูกต้อง”
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว แล้วนิ้วของเธอก็พิมพ์ข้อความในมือถืออย่างรวดเร็ว
“เธออยู่ที่อิตาลีเหรอ?”
หลังจากส่งข้อความไป เธอก็กัดนิ้วตัวเองระหว่างที่รอการตอบกลับ
แต่หลังจากรอมาเนิ่นนาน ซ่างกวนหยวนก็ไม่ได้ตอบกลับมา
เจียงสื้อสื้อจึงต้องโทรหาโดยตรง
ทางนั้นรับสายอย่างรวดเร็ว “สื้อสื้อ”
“เธอไปอิตาลีแล้วใช่ไหม?” เจียงสื้อสื้อถามไปตรงๆ
ไม่มาการตอบสนอง
เจียงสื้อสื้อถือว่าเธอยอมรับโดยการเงียบแล้ว และอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “หยวนหยวน เธอไม่คิดว่าการที่เธอทำแบบนี้มากเกินไปเหรอ เฟิงเฉินไปอิตาลี เธอก็ตามไป นี่เธอเห็นฉันเป็นคนโง่ไปแล้วใช่มั้ย?”
“ฉันมาที่นี่เพื่อเดินทางไปทำธุระ และบังเอิญเห็นเขาพอดี”
คำอธิบายของซ่างกวนหยวนนั้น เจียงสื้อสื้อไม่เชื่อมันเลย “อิตาลีมันใหญ่ขนาดนั้น ทำไมมันถึงบังเอิญจนถึงขั้น ‘เห็นเข้าพอดี’ล่ะ?”
เธอจงใจเน้นคำว่า “เห็นเข้าพอดี”
แต่ซ่างกวนหยวนก็ไม่สนใจเลย “ถ้าเธอไม่เชื่อ ฉันก็ช่วยไม่ได้”
“ซ่างกวนหยวน!”
เจียงสื้อสื้อโกรธแล้ว ตั้งแต่ที่รู้จักกันมา นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอเรียกซ่างกวนหยวนด้วยชื่อจริงแบบนี้
“สื้อสื้อ การที่เธอโทรหาฉันเพื่อถามเรื่องพวกนี้ แล้วเธอไม่สนใจเรื่องที่คุณท่านจิ้นมาเจอผู้หญิงคนอื่นเหรอ?”
พอได้ยินแบบนั้น เจียงสื้อสื้อก็เข้าใจแล้ว ที่ซ่างกวนหยวนส่งรูปถ่ายมา ก็เพื่อต้องเพิ่มเรื่องหนักใจให้เธอเท่านั้นเธอ
อย่างไรก็ตาม เธอมีคิดผิดแล้ว
“เขาไม่ได้พบผู้หญิงคนอื่น เขาแค่กำลังพบเพื่อนของเขาเท่านั้น”
ซ่างกวนหยวนเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ ที่แท้เจียงสื้อสื้อรู้จักผู้หญิงคนนั้น!
ในอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เสียงของ เจียงสื้อสื้อยังคงดังอยู่ “หยวนหยวน ทางที่ดีเธอควรล้มเลิกความคิดพวกนั้นซะอย่าทำเรื่องที่มันต้องเกิดความสูญเสียทั้งสองฝ่ายเลย”
ซ่างกวนหยวนหรี่ตาลง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเย็นชา “เรื่องของฉันเธอไม่จำเป็นต้องมาสอน!”
หลังจากพูดจบ เธอวางสายและมองไปยังจิ้นเฟิงเฉินอยู่ไม่ไกล
ตอนแรกเธอยังคงลังเลอยู่ แต่ตอนนี้เธอได้ตัดสินใจแล้ว
จิ้นเฟิงเฉิน เธอต้องเอามาครอบครองให้ได้