เห็นฟางยู่เชินออกมา เจียงสื้อสื้อถามอย่างสงสัย “ทำไมนานจัง?”
“ไม่มีอะไร” ฟางยู่เชินยิ้ม มองไปที่แม่ซ่างหยิง “แม่ ผมส่งพวกแม่กลับบ้าน”
“ไม่ต้องแล้ว แม่โทรหาคนขับรถแล้ว ว่าให้เขามารับ ลูกส่งพวกน้ามั่นชิงกลับบ้านดีกว่า”
ซ่างหยิงพลักตัวเขาเข้าไปหาเย่เสี่ยวอี้ กิ่งทองใบหยกทำให้เธอดูแล้วยิ้มจนหุบปากไม่ได้
เจียงสื้อสื้อส่งสายตาให้ฟางยู่เชินว่าดูแลตัวเองละกัน คนที่น้าสะใภ้เล็กถูกใจแล้ว จากนี้ไปเขาต้องลำบากแน่
ฟางยู่เชินก็ไม่ได้ปฏิเสธ ยิ้มแล้วพูดกับเสิ่นมั่นชิง “คุณน้ามั่นชิง ไปครับ ผมส่งพวกน้ากลับไป”
เสิ่นมั่นชิงหัวเราะพยักหน้า “ดี ดี”
“มั่นชิง ถ้ามีเวลาก็พาเสี่ยวอี้มาเที่ยวที่บ้านนะ” ซ่านหยิงจับมือเธอ กำชับเรื่องนี้อีกครั้ง
“ได้ ไปแน่นอน”
เพื่อลูกเขยในอนาคตอย่างฟางยู่เชินคนนี้แล้ว ถึงเสิ่นมั่นชิงจะไม่มีเวลายังไงก็ต้องหาเวลาไปตระกูลฟางแน่นอน
มองดูพวกฟางยู่เชินจากไป เจียงสื้อสื้อเดินไปข้างซ่างหยิง “น้าสะใภ้เล็ก น้าชอบเสี่ยวอี้ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ใช่ ทำไมเหรอ?” ซ่างหยิงหันไปมองเธอ
เจียงสื้อสื้อหัวเราะแห้งๆไปสองครั้ง “ไม่มีอะไร หนูว่าน้าเบาๆไว้หน่อยก็ดีนะคะ อย่าคาดหวังเยอะเกินไป ไม่อย่างนั้นจะผิดหวัง”
ซ่างหยิงขมวดคิ้ว “เด็กคนนี้นี่พูดอะไรเนี่ย ทำไมไม่พูดอะไรดีๆหน่อย? ยังมาสาดน้ำเย็นให้น้าอีก”
“น้าสะใภ้เล็ก ไม่ใช่หนูอยากสาดน้ำเย็นใส่นะ หนูรู้สึกว่าพี่ชายไม่มีวันชอบเสี่ยวอี้หรอก”
เท่าที่เธอดูแล้ว ฟางยู่เชินรู้สึกสนใจพนักงานคนนั้นมาก ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ไปถามเขาว่าจำตัวเองได้ไหม
แน่นอนว่าเธอไม่ได้จะเล่าเรื่องนี้ให้ซ่างหยินฟัง เพื่อไม่สร้างปัญหาเพิ่มให้ฟางยู่เชิน
คำพูดนี้ซ่างหยิงไม่ชอบฟังแล้ว “ตอนแรกพี่ชายเธอก็บอกว่าหยวนหยวนไม่ชอบเขา เพราะฉะนั้นน้าก็ไม่ยุ่ง ครั้งนี้น้าไม่ปล่อยไปแบบนี้แน่นอน เรื่องความรักมันปลูกฝังกันได้ น้าเชื่อว่ายู่เชินต้องชอบเสี่ยวอี้แน่นอน”
ซ่างหยิงมั่นใจมาก เพราะว่าเธอรู้สึกว่าเสี่ยวอี้อ่อนโยนขนาดนี้ ฟางยูเชิงต้องชอบแน่นอน
เจียงสื้อสื้อได้แต่พยักหน้า “หวังว่า”
“เธอนี่ ให้ความมั่นใจกับน้าหน่อยได้ไหม?” ซ่างหยิงทำเป็นขึงตาใส่เธอ
“ได้ได้ได้ หนูให้ความมั่นใจก็ได้ ได้หรือยัง?” เจียงสื้อสื้อแกล้งทำเป็นกอดแขนเธอ
ซ่างหยิงหัวเราะ “เด็กคนนี้”
เจียงสื้อสื้อหัวเราะ หันกลับไปมองร้านอาหาร มองทะลุผ่านกระจกเห็นหญิงสาวคนนั้นกำลังคุยกับลูกค้าอยู่
เก็บรอยยิ้มบนใบหน้า และแววตาเธอเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง
“คิดอะไรอยู่?” ซ่างหยิงพบว่าเธอกำลังมองไปในร้านอาหาร จึงมองตามสายตาเธอไป เบิกตากว้างเล็กน้อย “แอ๋ ทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่?”
เธอจำเด็กผู้หญิงคนนั้นได้ ก็คือผู้หญิงคนนั้นที่จะซื้อกระโปรงชุดเดียวกับเธอ
“เธอทำงานที่นี่” เจียงสื้อสื้อพูด
ซ่างหยิงมองไป แล้วก็ขมวดคิ้ว “เป็นแค่พนักงานร้านอาหารเท่านั้น ทำไมถึงคิดอยากซื้อกระโปรงแพงขนาดนั้น? เด็กผู้หญิงสมัยนี้นี่วัตถุนิยมจริงๆ”
ได้ยินซ่างหยินวิจารณ์ผู้หญิงคนนั้น ในใจเจียงสื้อสื้อไม่เห็นด้วย แต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไร
เพราะว่า เธอเองก็ไม่ได้รู้จักผู้หญิงคนนั้น
…….
เจียงสื้อสื้อกลับถึงบ้าน รู้ว่าฟางยู่เชินอยู่ในห้องหนังสือแล้ว จึงเคาะประตูเข้าไป
“พี่ เป็นไงบ้าง พี่ชอบเสี่ยวอี้คนนั้นไหม?” เธอถามตรงๆ
ฟางยู่เชินเงยหน้ามองเธอ “แม่พี่ให้มาถามเหรอ?”
“ไม่ใช่” เจียงสื้อสื้อเปิดหนังสือบนโต๊ะดูไปเรื่อยๆ พูดอย่างใจเย็น “หนูแค่สงสัยเท่านั้น รู้สึกว่าน้าจะชอบเสี่ยวอี้มากจริงๆ และอยากจับคู่พวกพี่สองคน”
“ถ้าอย่างนั้นแม่คงต้องผิดหวังแล้ว”
เจียงสื้อสื้อฟังแล้ว ก็รู้สึกสนใจขึ้นมา เธอยื่นหน้าไป กะพริบตา แล้วถามอย่างทดสอบว่า “ความจริงพี่มีคนที่ชอบแล้วใช่ไหม?”
ฟางยู่เชินอึ้งเล็กน้อย “พี่มีคนที่ชอบตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอหมายถึงหยวนหยวนเหรอ?”
“แกล้งไป พี่แกล้งต่อไป” เจียงสื้อสื้อยิ้มอย่างครุมเครือ ดูเหมือนมองความในใจเขาออก
ฟางยู่เชินหัวเราะ “พี่แกล้งอะไร? นอกจากหยวนหยวนแล้ว พี่ยังเคยชอบใคร?”
“ก็พนักงานคนนั้นไง”
เขาไม่ยอมรับเอง ถ้าอย่างนั้นเธอก็พูดออกมาตามตรง
“พนักงานร้านอาหาร?” ฟางยู่เชินเหมือนได้ยินเรื่องตลก ยิ้มอย่างเอือมระอา “ทำไมเธอถึงคิดว่าพี่ชอบเขา?”
“เพราะว่าพี่ไปถามเขาว่าจำพี่ได้ไหม”
ฟางยู่เชินยิ่งไม่เข้าใจ “เพียงเพราะแค่นี้?”
“พี่เคยสนใจผู้หญิงคนอื่นขนาดนี้เมื่อไหร่กัน? ยกเว้นซ่างกวนหยวน”
ฟางยู่เชินส่ายหน้ายิ้ม “เธอคิดมากไปแล้ว พี่ก็แค่ถามเฉยๆ ไม่ได้ชอบเขา”
“ก็ได้” เจียงสื้อสื้อรู้สึกผิดหวัง “หนูยังคิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแบบที่พี่ชอบสักอีก”
“แบบที่พี่ชอบ?” ฟางยู่เชินสงสัย
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “อืม เพราะว่าเธอมีความคล้ายกับซ่างกวนหยวนนิดหน่อย”
ฟางยู่เชินขมวดคิ้ว “เธอคงไม่ได้คิดว่าพี่จะชอบแบบซ่างกวนหยวนหรอกนะ?”
“ไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่ใช่แน่นอน ขอแค่ถูกชะตาพี่ก็พอ”
เขาเป็นคนถือเรื่องถูกชะตา เพราะฉะนั้นตอนแรกถึงได้ชอบซ่างกวนหยวนง่ายๆแบบนั้นเหมือนรักแรกพบ
“ถ้าอย่างนั้นเธอถูกชะตาพี่ไหม?” เจียงสื้อสื้อถาม
“อืม……” ฟางยู่เชินคิดอย่างตั้งใจ “ก็ใช้ได้”
“แล้วเทียบกับเสี่ยวอี้ละ?”
“ถ้าอย่างนั้นก็ชอบเธอมากกว่า”
เขาไม่สามารถชอบเสี่ยวอี้จริงๆ ลำพังท่าทางเธอที่หยิ่งยโสต่อพนักงานร้านอาหารแบบนั้น ไม่ชอบจริงๆ
“หนูก็เหมือนกัน” เจียงสื้อสื้อยักไหล่ “แต่ว่าคุณน้าเหมือนจะชอบเสี่ยวอี้มาก อีกหน่อยมีเรื่องให้พี่ต้องทนแน่”
“พี่จะพูดกับแม่พี่ให้รู้เรื่องเอง ว่าพี่ยังไม่อยากมีแฟนตอนนี้ ดูแลบริษัทให้ดีก่อน”
หลังจากฟางยู่เชินตัดสินใจปล่อยวางความสัมพันธ์ระหว่างเขากับซ่างกวนหยวนแล้ว ก็คิดเรื่องที่เขาต้องการอย่างจริงจัง
นั่นก็คือก่อนที่คุณปู่จะพื้น บริหารฟางซื่อให้ดี ไม่ทำให้คุณปู่ผิดหวัง
“พี่นี่คือผลข้างเคียงของคนอกหัก?” เจียงสื้อสื้อหัวเราะ
“เธอคิดมากไปแล้ว” ฟางยู่เชินหัวเราะ “พี่แค่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรในตอนนี้มากกว่า”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “ถ้าอย่างนี้ก็ดี หวังว่าพี่จะพูดกับน้าได้นะ ถึงแม้หนูคิดว่าความหวังมันจะน้อยนิด”
“นี่พี่ยังไม่ได้ไปพูดเลยนะ เธอก็มาพูดให้ท้อแล้ว”
เธอยักไหล่ “หนูเป็นคนซื่อตรง พูดเป็นแต่ความจริง”
คำพูดนี้ทำให้ฟางยู่เชินรู้สึกตลก “ถ้าอย่างนั้นคนซื่อตรงอย่างเธอบอกพี่ได้ไหม ว่าพี่ควรจะทำยังไงความหวังถึงจะสูงหน่อย?”
“อันนี้หนูขอคิดดูก่อน” เจียงสื้อสื้อตั้งใจคิดขึ้นมา ผ่านไปครู่หนึ่ง ตาเธอเป็นประกาย “ถ้าอย่างนั้นพี่ก็บอกน้าว่าพี่มีคนที่ชอบแล้ว”
“นอกจากอันนี้ละ?” ฟางยู่เชินถาม
“ไม่มีแล้ว” เจียงสื้อสื้อส่ายหัว
ฟางยู่เชินหัวเราะอย่างเอือมระอา “งั้นก็ช่างเถอะ พี่คิดหาวิธีเอง”